เข้าสู่ระบบผ่าน

กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1090

ฉงฉ่างกล่าว “หากจาไม่ผิด ทางฝั่งบ้านเกิดของพวกเจ้าเคยมีผู้ เฒ่าคนหนึ่งมักจะใช ้คากล่าวหนึ่งมาข่มขู่เด็กๆ เป็ นประจา บอกว่า เตาเผาสมัยก่อน หากเจอกับสถานการณ์ที่ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่ราบรื่น จะต้องเอาเด็กชายหญิงคู่หนึ่งไป “เช่นไหว้เตาเผา” อาศัยสิ่งนี้ เครื่อง กระเบื้องทุกชิ้นที่ถูกเผาออกมาจากในเตาก็จะยิ่งสวยสดงดงาม”

เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ไม่เสียแรงที่เป็ นผู้ฝึ กกระบี่ที่เคยไปเยือน กาแพงเมืองปราณกระบี่”

ฉงฉ่างทาสีหน้าเลื่อนลอย “น่าเสียดายที่ไม่เคยได้พูดคุยกับ เซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโสแม้แต่ค าเดียว”

นาทีถัดมาฉงฉ่างก็ออกมาจากเมืองเล็ก แต่ไม่ได้กลับไปยังจวน หม่าตรอกอูซา แต่อยู่ในตรอกเก่าโทรมแห่งหนึ่งใกล้กับที่ว่าการ อ าเภอหย่งเจีย

ส่วนทางฝั่งของตรอกซิ่งฮวานี้ หม่าเหยียนและฉินเจิงที่ตายแล้ว ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งก็ถูกเฉินผิงอันบีบคอลากไปถึงเตาจินเอ๋อที่ อยู่นอกเมืองเล็ก แล้วโยนร่างพวกเขาไปไว้ในเตาที่กาลังติดไฟ

ก็เหมือนความลับสวรรค์ที่เซียวสิงแพร่งพรายให้กับอวี๋ชิ่ง เฉินผิง อันสร ้างฟ้ าดินดินแดนมายาที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันขึ้นมาอย่างตั้งใจ จริงๆ

แบ่งคร่าวๆ เป็ นเล่มหลักและเล่มรอง

ยกตัวอย่างเช่นเฉินผิงอันสร ้างกาแพงเมืองปราณกระบี่ขึ้นมาอีก แห่งหนึ่ง

นี่คือสถานที่ที่เฉินผิงอันท่องเที่ยวเพียงลาพังกลับไปกลับมา นอกจากตัวนครแล้ว เรือนส่วนตัวของเซียนกระบี่นอกเมืองก็ยังคงอยู่

ดังเดิม

ทว่าสถานที่นี้กลับมีแต่จวนและตรอกซอกซอย ไม่มีผู้คน

อาเภอไหวหวงกลับขาดสถานที่สามแห่งไป นั่นคือตรอกหนีผิง โรงเรียนเก่าและร ้านยาตระกูลหยาง

ป๋ ายอวี้จิงจาลองหลังหนึ่ง อาณาเขตของหุบเขาผีร ้ายแห่งอุตรกุรุทวีป

และยังมีซากปรักจวนเซียนแห่งหนึ่งของอุตรกุรุทวีปที่ขาดเพียง อารามบนยอดเขาสถานที่แห่งนี้ถูกเฉินผิงอันตั้งชื่อให้ว่าศาลาแห่งที่ หก

เมืองหลวงแคว้นอวี้เซวียน การสร ้างสถานที่แห่งนี้แน่นอนว่าต้อง ยกคุณความชอบกับนักพรตที่ตั้งแผงดูดวงอย่างอู๋ตี

สถานที่เหล่านี้ล้วนอยู่ในเล่มหลักทั้งหมด ฟ้ าดินของเล่มหลักมีทั้งสิ้นสามสิบหกแห่ง

ก่อนหน้านี้พาเสี่ยวโม่ไปเที่ยวเยือนหอสยบปีศาจของใบถงทวีป ด้วยกัน ระหว่างนั้นได้เห็นฟ้ าดินมายาสิบสองแห่งที่ถูกบรรจุอยู่ใน ใบถงสิบสองใบ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็ นฟ้ าดินของเล่มรอง

มีทั้งสิ้นเจ็ดสิบสองแห่ง

ฟ้ าดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือป๋ ายอวี้จิงจาลองที่มีห้านครสิบสอง หอเรือน เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังเป็ นเพียงเค้าโครงอย่างหยาบๆ หากอิง ตามคากล่าวของคนที่ทาอาชีพด้านของโบราณก็คือแค่มองก็รู ้ว่า เป็ นของปลอม

สิ่งปลูกสร ้างที่มีอาณาเขตเล็กสุดคือศาลหลวี่กงที่เฉินผิงอันกับลู่ เฉินประลองฝีมือด้านการแสดงกัน เนื่องจากพื้นที่เล็ก ดังนั้นจึงยิ่งดู โอ่อ่าโดดเด่น เหมือนจริงยิ่งกว่าของจริง

ตลาดปลาริมคลองแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในอาเภอชายแดนของแคว้น หงซิ่ง ในค่าคืนเข้าหอ หม่าปี้เลิกผ้าคลุมหน้าสีแดงของคนงามที่ สวมมงกฎหงสวมผ้าคลุมไหล่ อันที่จริงเขารู ้ว่าหม่าชวนผู้เป็ นพี่ชายก็ ชอบนางเหมือนกัน แต่นางชอบตน เรื่องแบบนี้ยอมให้กันไม่ได้สองพี่ น้องร่วมกันเปิดศูนย์ฝึกยุทธขึ้นมาแห่งหนึ่ง นอกจากเปิดศูนย์ฝึกรับ ลูกศิษย์หาเงินมาส่วนหนึ่งแล้ว ม้าที่ไม่มีหญ้าตอนกลางคืนให้กิน ย่อมไม่อ้วนพี พวกเขาจึงผลัดกันไปเป็ นผู้คุมกัน ผ่านการเก็บหอม รอมริบมาสิบกว่าปี แต่ละคนต่างก็สะสมทรัพย์สมบัติได้พอสมควร

แล้ว อันที่จริงหลายปีมานี้ฮ่องเต้เลอะเลือน ปล่อยให้ญาติฝั่งภรรยา กุมอ านาจ ขายต าแหน่งขุนนางขายบรรดาศักดิ์ล้วนมีราคาระบุไว้ ชัดเจน ชาวบ้านไม่อาจท ามาหากิน ท่องยุทธภพอยู่ข้างนอกก็ไม่ใช่ เรื่องง่าย พวกคนร่วมอาชีพมักจะมีจุดจบอันน่าอนาถที่ตายอยู่ ตรงไหนก็ฝังตรงนั้น ไม่มีใครมาเหลียวแล พูดถึงแค่คราวก่อนที่หม่า ชวนไปเป็ นผู้คุมกัน เดินทางไปได้ครึ่งทางก็ต้องย้อนกลับ ลูกศิษย์ ศูนย์ฝึ กยุทธที่รับหน้าที่เป็ นผู้คุมกันเช่นเดียวกันก็เหมือนทา วิญญาณหล่นหายไป ที่แท้ตอนที่พวกเขาเดินทางผ่านหมู่บ้านใน ชนบทสองแห่งก็เห็นแต่โครงกระดูกกลาดเกลื่อนอยู่บนพื้น อีกทั้งยัง เห็นได้ชัดว่าตายเพราะถูกอาวุธมีคมสังหารอย่าว่าแต่หม่าชวนผู้เป็ น พี่ชายที่ตกใจขวัญกระเจิงเลย หม่าปี้แค่ได้ยินเรื่องพวกนี้ก็รู ้สึกชาไป ทั้งหนังหัวแล้ว ประเด็นสาคัญคือหากอิงตามคาบอกเล่าของพี่ชาย ดู จากศพที่ไม่มีคนเก็บกวาดพวกนั้นแล้ว วิเคราะห์ได้ว่าโจรกลุ่มนี้ลงมี อย่างมีระเบียบเหมือนคนที่ได้รับการฝึ กฝนมาก่อน โจรทั่วไปไม่ อาจจะทัดเทียมได้อย่างแน่นอน สองพี่น้องปรึกษากันเป็ นการส่วนตัว แล้วก็รู ้สึกว่าจ าเป็ นต้องรีบย้ายบ้านไปอยู่ในตัวเมืองโดยเร็ว เพราะถึง อย่างไรบ้านเกิดของพวกเขาก็มีสุภาษิตประโยคหนึ่งกล่าวไว้นาน แล้วว่า เจอความวุ่นวายเล็กน้อยย้ายเมือง เจอความวุ่นวายใหญ่ย้าย ถิ่นฐาน ต่อให้วิถีทางโลกแห่งนี้จะวุ่นวายแค่ไหนก็คงไม่ถึงขั้นมีควัน ดินปืนผุดขึ้นจากสี่ทิศ ทหารระส่าม้าวิ่งพล่าน บ้านเมืองวุ่นวายหรอก กระมัง?

วันนี้รถม้าขบวนหนึ่งมุ่งหน้าไปที่ตัวเมือง แน่นอนว่าต้องใช ้ถนน ทางหลวง ลูกศิษย์ศูนย์ฝึ กยุทธที่อยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ ติดตามคอยให้การคุ้มกัน หัวหน้าผู้คุมกันคือผู้เฒ่าคนหนึ่งของศูนย์ ฝึกยุทธที่มีชื่อว่าเสิ่นเค่อ

ธนูดอกหนึ่งพุ่งแหวกอากาศมาถึง พริบตาเดียวก็แทงทะลุศีรษะ ของเสิ่นเค่อ ผู้เฒ่าที่เวลาปกติชายฉกรรจ์แข็งแรงหลายสิบคนมิอาจ เข้าประชิดตัวเขาได้กลับตายคาที่ ร่างพลัดตกจากหลังม้า

ห่างไปไกลบนถนนทางหลวงมีทหารม้าสวมเสื้อเกราะชั้นดีกลุ่ม หนึ่งขวางทางอยู่ มีคนนั่งอยู่บนหลังม้าสูง หยิบธนูอีกดอกออกมา จากห่อใส่ลูกธนู เหนี่ยวสายธนูจนโค้งเป็ นจันทร ์เต็มดวง เล็งไกลๆ มายังหม่าปี้

ดูเหมือนว่าม้าอีกตัวที่อยู่ข้างๆ จะพูดอะไรบางอย่าง ครั้งนี้ทหาร ม้ามือดีจึงไม่ได้เล็งธนูไปที่หัวหรือหน้าอกอีก ลูกธนูส่วนใหญ่ปักไป ตรงหน้าท้องหรือไม่ก็ขาของคนในกลุ่มหม่าปี้

จากนั้นทหารม้าฝีมือดีกลุ่มนั้นก็ควบม้ามาถึง บ้างก็ชักดาบออก จากฝักแล้วแทงซ้าอีกที บ้างก็ถือหอกยาวไว้ในมือ แทงไปที่ไหล่ ฝ่ า มือ กระนั้นก็ยังจงใจไม่แทงจุดที่อันตรายถึงชีวิต

หม่านี้ถูกดาบฟันปาดลงไปบนไหล่ แขนทั้งข้างหลุดร่วง เลือด สดพุ่งทะลักทันใด ร่างของเขาโซเซ พอดีกับที่เห็นว่าหม่าชวนผู้เป็ น พี่ชายถูกหอกแทงไปตรงเป้ ากางเกง ทหารม้าที่ถือหอกผู้นั้นอาศัย

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!