เข้าสู่ระบบผ่าน

กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1090

หม่าเหยียนยืนอยู่ “ในบ่อ” สองมือกระชากรั้งผ้าแพรขาวผืนนั้น เอาไว้แน่น มีเพียงศีรษะของเขาเท่านั้นที่โผล่ออกมาจากนอกบ่อ สอง เท้าเขย่งอยู่หลุม

หญิงชราถามเสียงเบา “เซียนกระบี่เฉิน ให้ข้าผู้อาวุโสขุดลงไป อีกสองสามฉื่อหรือไม่?”

เฉินผิงอันสอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ เอนพิงประตูใหญ่ของ ห้องอยู่เงียบๆ เงยหน้ามองสภาพการตายของสตรี เอ่ยอย่างเฉยเมย ว่า “ไม่ต้อง ค่อยๆ รอไปก็พอ ได้ยินมาว่าตอนที่หม่าเหยียนเป็ นหนุ่ม ก็เคยเผาเครื่องกระเบื้องเหมือนกัน ดูสิว่าแรงแขนของเขาจะเป็ น อย่างไร จะยืนหยัดอยู่ได้นานแค่ไหน”

หญิงชราเงียบงันไร ้คำพูด ในใจมีความรู ้สึกนับร ้อยประดังประเด เข้าใส่ ชาติก่อนตนต้องก่อกรรมทำเข็ญไว้มากแค่ไหน ชาตินี้ถึงได้ เข้ามาอยู่ในจวนหม่าแล้วต้องมาเจอคนเช่นนี้มาแก้แค้นสกุลหม่า

เฉินผิงอันถาม “การลงทัณฑ์ที่โหดเหี้ยมที่สุดที่ผู้เซียนซือพ บเจอมาในชีวิตนี้คืออะไร?”

หญิงชราตอบเสียงเบา “คือการถลกดึงจิตวิญญาณออกมา ขมวดเป็ นเชือก เอามาทาเป็ นไส้ตะเกียง จุดเป็ นตะเกียงน้ามันดวง หนึ่ง สามารถทาให้ผู้ฝึกตนต้องขอร ้องให้ตัวเองตายไวๆ”

เฉินผิงอันพยักหน้า “ในหุบเขาผีร ้ายของอุตรกุรุทวีปก็เคยเห็น กับตาตัวเองมาก่อน จุดตะเกียงในน้า น่าขนลุกขนพอง สยดสยองจน แทบไม่อาจทนมองได้”

หญิงชรากล่าว “และยังมีคุกน้าบนภูเขาที่ฝืนเปิดช่องโพรงหนึ่ง ถึงสองแห่งให้เป็ นเส้นทาง แล้วกรอกเทปราณวิญญาณจำนวนมาก ลงไปข้างใน ก่อให้เกิดสถานการณ์น้าขึ้นพลิกกลับอยู่ในฟ้ำดินเล็ก ร่างกายมนุษย์ โครงกระดูกค่อยๆ ขยายบวม ดันจิตวิญญาณให้ปริ แตกออกจากกัน ระหว่างนี้เลือดลมจะขยับพลุ่งพล่าน เส้นชีพจรจะ แตกไปทีละขุ่น เส้นเอ็นและกระดูกปริแตก ได้ยินมาว่าผู้ฝึกตนอิสระ ชอบใช ้วิธีนี้มาเล่นงานผู้ฝึกยุทธเต็มตัวที่มีเรือนกายแข็งแกร่ง”

เฉินผิงอันกล่าว “การตายประเภทนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกับเครื่อง กระเบื้องแตกลายของที่บ้านเกิด ผู้อาวุโสมีความรู ้กว้างขวาง รบกวน ช่วยพูดถึงการตายประเภทอื่นให้ฟังหน่อย”

หญิงชราหรือจะกล้าเก็บงำ จึงเอ่ยถึงวิธีการบนภูเขาให้อีกฝ่ำย ฟังเพิ่มอีกเจ็ดแปดชนิด

เฉินผิงอันรับฟังอย่างตั้งใจ รอกระทั่งหญิงชราหมดคาจะบรรยาย แล้ว เขาถึงได้ยิ้มถามว่า “ล้วนเป็ นเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมา? หรือว่าเคย ทดลองกับมือตัวเองมาก่อน?”

หญิงชราพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “ได้ยินมา แค่เคยได้ยิน ได้ฟังมา”

“มีใจคนแต่ไร ้สันดานมนุษย์ คนและผีถึงได้แยกออกจากกันได้ ยาก มีขอบเขตแต่ไร ้ตบะ แล้วจะมีความต่างระหว่างมนุษย์ธรรมดากับ เซียนได้อย่างไร”

เฉินผิงอันกล่าว “หูฟังไม่เท่าตาเห็น ตาเห็นไม่เท่าสัมผัสกับ ตัวเอง อีกเดี๋ยวเจ้าก็ลองลิ้มรสชาติของวิธีการพวกนี้ดูแล้วกัน”

ผูหลิ่วเหมือนถูกกระบองฟาดใส่หนักๆ อีกทั้งยังเป็ นกระบองที่ ฟาดมาแสกหน้าด้วย ก่อนหน้านี้ต้องทนทรมานกับการถูกทัณฑ์ เปลวเพลิงเคี่ยวกราร่างกายและจิตวิญญาณอยู่ในห้องก็ทำให้หญิง ชราหวาดกลัวลึกถึงกระดูกแล้ว แล้วนางจะยังทนรับทัณฑ์โหดเหี้ยม อีกเจ็ดแปดชนิดนี้ได้อย่างไรไหว?

เฉินผิงอันกระตุกมุมปาก “ผู้อาวุโสมีอายุอยู่มาก็ตั้งปูนนี้แล้ว ทำไมถึงไม่รู ้จักการล้อเล่นเอาเสียเลย”

หญิงชราพูดด้วยสีหน้าอมทุกข์ “เซียนกระบี่เฉิน ข้าผู้อาวุโสอายุ ไม่น้อยแล้ว แต่กลับขึ้ขลาดนัก ถนอมชีวิตที่สุดแล้ว”

เฉินผิงอันกล่าว “ไป เอาก้อนอิฐหลายๆ ก้อนไปผูกไว้ที่ข้อเท้า ฉินฮูหยิน”

หญิงชรารีบเอาก้อนอิฐไปผูกรั้งไว้ที่เท้าของสตรีออกเรือนแล้วที่ ถูกผูกคอตาย เมื่อเป็ นเช่นนี้ก็ดูเหมือนว่าน้าหนักของสตรีที่แขวนคอ ตายจะมากกว่าหม่าเหยียนแล้ว

เฉินผิงอันถาม “หากเจ้าสามารถมีชีวิตรอดออกไปจากจวนหม่า

ได้ คิดว่าจะทำอะไร หญิงชราตอบอย่างระมัดระวัง “หาสถานที่เงียบๆ สักแห่ง ปิดบัง

ชื่อแซ่ ตั้งใจฝึกตนไป” เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นต่างจากอยู่ในจวนหม่าตรงไหน?

หรือว่าอยู่ที่นี่เจ้าไม่ได้ตั้งใจฝึกตน?”

หญิงชราถามหยั่งเชิง “ขอเซียนกระบี่เฉินอย่าได้ขี้เหนียวความรู ้ ข้าผู้อาวุโสจะต้องทาตามไม่มีคลาดเคลื่อน ต่อให้เซียนกระบี่เฉิน แนะนำให้ข้าผู้อาวุโสไปโกนผมบวชชีอยู่ในอาราม ข้าก็ยินดี”

“ให้เจ้าไปเป็ นแม่เล้าที่หอโคมเขียวล่ะ?”

“นี่จะมีอะไรยาก การฝึกประสบการณ์ในโลกโลกีย์ก็คือการฝึก ตนอย่างหนึ่ง”

“แล้วถ้าพวกลูกค้าต้องการให้เจ้าปรนนิบัติล่ะ?”

“ก็จะยอมเขา” เฉินผิงอันส่ายหน้า หญิงชรากลัดกลุ้มยิ่งนัก

เฉินผิงอันถาม “รู ้สึกว่าถามทางจากคนตาบอดไม่มีประโยชน์ อะไรหรือ?”

หญิงชราปฏิเสธเสียงแผ่วเบา

ขณะที่ทั้งสองฝ่ำยพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย หญิงชราเอ่ยเสียงสั่น ว่า “เซียนกระบี่เซียนกระบี่เฉินพวกเขาสองคนต่างก็ตายแล้ว”

เฉินผิงอันกล่าว “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็กักดวงวิญญาณของพวกเขา เอาไว้”

หญิงชราเอ่ยเตือนเสียงเบา “เซียนกระบี่เฉิน คนตายอยู่ในห้อง แล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานทางศาลเทพอภิบาลเมืองก็จะสัมผัสได้ถึงความ เคลื่อนไหวของที่นี่ กุ่ยชาต้องมาเยือน หากเห็นเข้าจะทำอย่างไร?”

แล้วนับประสาอะไรที่ตอนนี้เป็ นเวลากลางวันแสกๆ ตามหลักแล้ว ศาลเทพอภิบาลเมืองจะต้องมีเทพท่องทิวาองค์หนึ่งคอยลาดตระเวน พื้นที่ในการปกครอง

นครเฟิ งตูแห่งปรโลกทำงานโดยยึดหลักความถูกต้อง ไม่เคย เห็นแก่ความสัมพันธ ์ใดๆ

เฉินผิงอันกล่าว “ต่อให้พวกเขารู ้ก็เข้ามาไม่ได้”

ผูหลิ่วไม่กล้าพูดมากอีกแม้แต่ครึ่งคา ร่ายวิธีของเซียนดินกัก วิญญาณหม่าเหยียนและฉินเจิงเอาไว้ ผีที่เรือนกายล่องลอยสองตน ยืนอยู่ในห้อง หม่าเหยียนก้มหน้าลงอย่างขลาดกลัว ไม่กล้ามองสตรี ออกเรือนแล้ว

ฉินเจิงจ้องเขม็งไปยังเจ้าคนชั้นต่าที่จิตใจโหดเหี้ยมอามหิตผู้นั้น

เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “คนก็ตายไปแล้ว ผลกลับกลายเป็ นว่าไม่อาจ ไปที่ศาลเทพอภิบาลเมืองของเมืองหลวง มิอาจเป็ นขุนนางในโลกมืด ที่ได้รับการบันทึกชื่อของนครเฟิงตู รู ้สึกอัดอั้นเหมือนตัวเองต้องตาย เปล่าหรือไม่?”

ผูหลิ่วถามเสียงเบา “เซียนกระบี่เฉิน ข้าผู้อาวุโสต้องจุดตะเกียง

ของพวกเขาหรือต้องขังพวกเขาไว้ในคุกน้า?”

ในเมื่อลงเรือโจรแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปให้สุดทาง

เฉินผิงอันกล่าว “ฆ่าคนไม่เห็นเลือดก็เหมือนกินบะหมี่ไม่ใส่ กระเทียม ถึงอย่างไรก็ขาดความหมายบางอย่างไป”

หญิงชราอึ้งตะลึง

เฉินผิงอันออกจากห้องไปหามีดเล่มหนึ่งมาจากห้องผ่าฝืน ใน มือกำตะปูเหล็กมาด้วยกาหนึ่ง พอย้อนกลับมาที่ห้องอีกครั้งก็ผ่าโต๊ะ และม้านั่งออกด้วยท่าทางคล่องแคล่วชานาญเอามาทำเป็ นโลงสองใบ

หญิงชรายิ่งมองก็ยิ่งมึนงง

เฉินผิงอันบอกให้หญิงชรากระชากผ้าขาวให้ขาด “ศพ” สองร่าง ที่หนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ หนึ่งอยู่บนพื้น ร่างหนึ่งกระแทกลงพื้น ร่าง หนึ่งทรุดลงไปกองในหลุม

จากนั้นให้ผูหลิ่วเอาศพทั้งสองใส่ไว้ในโลงศพ แล้วเฉินผิงอันถึง ได้เอ่ยว่า “ในเมื่อพวกเจ้ารักตัวกลัวตายขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ให้ พวกเจ้าสมใจปรารถนา คืนจิตวิญญาณกลับมายังโลกสว่างอีกครั้ง”

โบกชายแขนเสื้อครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณของผีทั้งสองก็กลับคืน เข้าร่างในชั่วพริบตา เฉินผิงอันปิดฝาโลง ระหว่างนั้นหม่าเหยียนดิ้น รนจะลุกขึ้นนั่ง แต่กลับถูกเฉินผิงอันใช ้ด้ามมีดผ่าฟินตีกลับให้นอน ลงไป จากนั้นก็เริ่มใช ้หลังมีดเคาะตอกตะปู ฉินเจิงเริ่มก่นด่าด้วย น้าเสียงแหบพร่า แต่พอรู ้ว่าไร ้ประโยชน์นางก็เริ่มกรีดร ้องคร่าครวญ ทว่ากลับได้แต่เบิกตามองตัวเองจมสู่ความมืดมิด นอนอยู่ในโลงที่ยื่น มือออกไปไม่เห็นนิ้วทั้งห้า

เฉินผิงอันกล่าว “แบบที่สอง”

ผูหลิ่วเงียบงันอีกครั้ง

บทที่ 1090.5 มดรังนั้นล้วนแซ่เดียวกัน 1

บทที่ 1090.5 มดรังนั้นล้วนแซ่เดียวกัน 2

สิ” หญิงชราเดินมาที่หน้าประตู นางยังสองจิตสองใจ
เฉินผิงอันนั่งลงตรงหน้าประตู “ข้าเดาว่าเขาคือคนเชื่อดาบ ขอบเขตโอสถทอง ส่วนฉงฉ่างจะใช่ผู้ฝึกกระบี่หรือไม่ก็ต้องให้เจ้ามา หาคำตอบด้วยตัวเองแล้ว”

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!