กู้ช่านกลั้นขาไม่อยู่ “ผู้อาวุโสเป็ นคนตรงไปตรงมาปากไวคน หนึ่งเลยนะ”
หวงเลี่ยถามอย่างสงสัย “หรือว่าไม่ใช่เรื่องนี้?”
กู้ช่านกล่าว “ข้าไม่ใช่คนโง่สักหน่อย ด้วยขอบเขตของข้าใน เวลานี้อยู่ไกลเกินกว่าจะไปงัดข้อกับกฎระเบียบของศาลบุ๋นได้ เรื่องที่ ข้าจะปรึกษากับท่านก็คือรู้สึกว่า….พวกเราสองคนพูดคุยกันได้ไม่เลว แค่เจอกันก็ถูกชะตากันทันที แทนที่ราชครูหวงเลี่ยจะรับเงินเดือนอัน น้อยนิดจากสกุลเซวียแคว้นอวี้เซวียนทุกปีก็ไม่สู้รื้อกรงเก่าเปลี่ยนนก ตัวใหม่ เปลี่ยนภูเขาลูกใหม่ มีสถานะใหม่เอี่ยม หาเงินเทพเซียน พร ้อมกับฝึกตนฝ่าทะลุขอบเขตโดยไม่ถ่วงรั้งกันทั้งสองทาง”
หวงเลี่ยขมวดคิ้ว “ภูเขาอะไร สถานะอะไร?”
คงจะไม่ได้ให้ข้าที่เป็ นผู้ฝึกตนทาเนียบชาติกาเนิดขาวสะอาดวิ่ง ไปขอข้าวกินอยู่ที่นครจักรพรรดิขาวหรอกนะ? จะให้เปลี่ยนสานัก และทาเนียบ หวงเลี่ยก็คิดว่าตัวเองยังไม่ได้หน้าหนาถึงขนาดนั้น
อีกอย่างโลกภายนอกต่างก็พูดว่านครจักรพรรดิขาวมีคนยอด เยี่ยมมหัศจรรย์มากมายราวกับขนวัว เขาที่เป็ นผู้ฝึกตนโอสถทองคน หนึ่งเข้าไปอยู่ในนครจักรพรรดิขาว ต่อให้มีกู้ช่านนาทางและปูพื้นให้ จะได้กินดื่มอิ่มอร่อย ได้นอนเสวยสุขจริงๆ น่ะหรือ? ในเมืองหลวง
แคว้นอวี้เซวียนแห่งนี้ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แต่อย่างน้อยที่สุดเขา หวงเลี่ยก็สามารถนอนหลับได้สนิททุกวัน
กู้ช่านลุกขึ้นยืนช ้าๆ “จะเชิญให้เจ้าไปอยู่สานักแห่งใหม่ที่ไม่มี พิธีการยิบย่อยวุ่นวายรับหน้าที่เป็ นผู้ถวายงานที่ได้รับการบันทึกชื่อ วางใจเถอะ คือตาแหน่งผู้ถวายงานที่กุมอานาจอย่างแท้จริงซึ่งมีเก้าอี้ อยู่ในศาลบรรพจารย์ สามารถรับรองกับเจ้าได้ว่า หากเจ้าไม่อยาก ท าก็สามารถอยู่ว่างๆ ได้เลย แต่หากอยากท าก็จะต้องยุ่งมาก อยู่แค่ ว่าเจ้าหวงเลี่ยเองเต็มใจหรือไม่ นอกจากนี้ในฐานะของขวัญพบหน้า ของเจ้าส านัก เจ้าจะได้รับต าราลับของลัทธิเต๋าสองสามเล่มที่มีหวังจะ ให้เจ้ากลายเป็ นผู้ฝึกตนก่อกาเนิดได้ ถึงขั้นที่ว่าสุดท้ายจะฝ่ าทะลุ ขอบเขตได้หรือไม่ หรือจะพัฒนารุดหน้าไปอีกขั้นได้หรือไม่ ถึง อย่างไรการฝึกตนก็เป็ นเรื่องของตัวเอง แล้วก็ไม่ใช่การละเล่นของ เด็กๆ ไม่มีใครกล้ารับรองว่าเจ้าจะต้องก้าวข้ามบันไดสองขั้นใหญ่ไป ได้อย่างแน่นอน”
หวงเลี่ยลุกขึ้นยืนตามจิตใต้สานึก “ต้องถามสักหน่อยว่า สหายมี ความจริงใจขนาดนี้เพราะเห็นดีอะไรในตัวข้า?”
กู้ช่านยิ้มเอ่ย “ด้านหนึ่งเพราะพูดคุยกันถูกคอ ถูกชะตากับเจ้า อีกด้านหนึ่งเพราะรู ้สึกว่าเจ้าคือคอขวดโอสถทอง ใช่ว่าจะแน่นหนา จนมิอาจฝ่ าทะลุไปได้ ขาดก็แค่โชควาสนาและทรัพยากรเท่านั้น ผู้ ฝึ กตนขอบเขตก่อกาเนิดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ค่อนข้างจะมี มูลค่ายกตัวอย่างเช่นอาจารย์คนแรกของข้า หลิวจื้อเม่าสกัดคงคา
เจินจวิน เขาเองก็เป็ นเซียนดินขอบเขตก่อก าเนิดมานานหลายปี ไม่ใช่หรือ ปีนั้นอยู่ในทะเลสาบซูเจี่ยนก็เป็ นบุคคลที่อยากเรียกลมก็ ได้ลม อยากเรียกฝนก็ได้ฝน คือบุคคลยิ่งใหญ่ที่เหมือนกับฮ่องเต้ใน ท้องถิ่นแล้ว”
หวงเลี่ยถามอย่างระมัดระวัง “สหายเตรียมจะเปิดสานักตั้งพรรค
หรือ?”
กู้ช่านพยักหน้า ใช ้เสียงในใจเอ่ยว่า “ข้ากับศิษย์พี่ฟูจิ้นต่างก็ เปิดส านักกันคนละแห่งพาคนส่วนหนึ่งไปจากนครจักรพรรดิขาว อีก ไม่นานนครจักรพรรดิขาวก็จะกลายเป็ นนครร้าง พวกเราจะต้องสร้าง สานักเบื้องล่างแห่งหนึ่งขึ้นมาสาหรับปฐมสานัก”
หวงเลี่ยกล่าว “หากว่าข้าปฏิเสธคาเชื้อเชิญของสหายล่ะ?”
กู้ช่านตอบ “วางใจเถอะ ไม่มีผลลัพธ ์อะไร แตงที่ฝืนเด็ดออกจาก ขั้วย่อมไม่หวาน เอ่ยความจริงที่ไม่น่าฟังสักคา ทุกวันนี้ให้ข้ามางัด ข้อกับโอสถทองก็เท่ากับการลดเกียรติตัวเองวันนี้เจ้าและข้าแยกย้าย กันก็หนีไม่พ้นว่าต่างคนต่างเดินไปบนเส้นทางของตัวเอง เพียงแต่ว่า วันใดรอให้สานักมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้วเจ้าอยากจะเข้าไปอยู่ก็ยากแล้ว แน่นอนว่าหวงเลี่ยสามารถใช ้ชีวิตรอความตายไปวันๆ อยู่ที่นี่ได้ จะ ฝ่ าทะลุขอบเขตได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับชะตาฟ้ าลิขิตเท่านั้น แต่ก็ สามารถใช ้ชีวิตมั่นคงสุขสบายได้ ถือว่าเป็ นเศรษฐีเฒ่าที่หาสถานที่ เหมาะๆ ใช ้ชีวิตช่วงบั้นปลาย แน่นอนว่าก็สามารถลงเดิมพันที่โต๊ะ เดิมพัน แสวงหาความร่ารวยท่ามกลางความเสี่ยง ฉวยโอกาสที่
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!