กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 144

บทที่ 144.1 คนหนึ่งนั่งบ่อ คนหนึ่งมองฟ้า
โดย
ProjectZyphon
โรงเตี๊ยมชิวหลู บ่อน้ำโบราณที่ห่างจากศาลาลมไปไม่ไกล

มีเด็กหนุ่มสวมรองเท้าแตะคนหนึ่งนั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้นคล้ายกำลังรอใครอยู่

ในห้องของเขา เด็กชายหลี่ไหวนอนหลับสนิทส่งเสียงกรนดังสนั่น ตะเกียงบนโต๊ะดับลงนานแล้ว

ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มเก็บแผนที่หลายแผ่นลงไป มีทั้งแผ่นที่ของเมืองทางทิศใต้ต้าหลี แล้วก็มีแผนที่ของต้าสุย ล้วนเป็นของที่หร่วนซิ่วมอบให้เขา

หลังจากที่เขาเก็บแผนที่เหล่านี้ลงไปในตะกร้าไม้ไผ่ เขาก็นั่งอยู่ข้างโต๊ะแล้วเริ่มใคร่ครวญปัญหาข้อเดียวกัน

ไม่ต้องสงสัยแม่นางหร่วนเลย

แต่เด็กหนุ่มที่มีไฝแดงกลางหว่างคิ้ว นายอำเภออู๋ยวน ต่างก็เคยปรากฎตัวที่ร้านตีเหล็กพร้อมกัน

พวกของตนเดินทางลงใต้ ได้มาพบกับอีกฝ่ายที่นอกด่านเหย่ฟู คนสองกลุ่มจึงรวมตัวกันเดินทางเข้ามาในแคว้นหวงถิง สิ่งที่ได้พบได้เจอล้วนแปลกประหลาด

สุดท้ายเฉินผิงอันจึงเดินไปทางศาลาลมอีกครั้ง แล้วนั่งอยู่ตรงปากบ่อน้ำรอคน

……

จวนมหาวารี เลือดสดไหลนองเต็มพื้นห้องโถงใหญ่ บรรยากาศอึมครึมกดดัน

ห้องโถงใหญ่ที่เดิมทีเต็มไปด้วยเสียงเพลงบรรเลงเสียงพูดคุยอย่างสำราญ ตอนนี้กลับเหลือคนที่มีชีวิตรอดแค่ไม่กี่คน

เด็กหนุ่มชุดขาวยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ยกขาวในตำแหน่งสูง จิตใจล่องลอยไปไกลหมื่นลี้

ชายชุดดำยืนอยู่ในห้องโถง กำลังใช้อาคมวารีขับไล่คราบเลือดและกลิ่นคาวที่ติดอยู่เต็มร่าง สาวใช้รุ่นเยาว์ของจวนมหาวารี ไม่ว่าจะเป็นผีที่ตกน้ำแม่น้ำหันสือหรือคนเป็นๆ ก็ล้วนถูกชายชุดดำจัดการจนเกลี้ยง กษัตริย์ตรัสไม่ระวัง ขุนนางเสียความเชื่อมั่น ขุนนางกระทำการไม่ระวังย่อมนำภัยมาสู่ตัว หลักการเล็กๆ น้อยๆ ข้อนี้ ชายชุดดำที่วางอำนาจสยบแม่น้ำสิบแปดสายทางทิศเหนือของแคว้นหวงถิง ควบคุมแผ่นดินผืนน้อยนี้ให้แข็งแกร่งแน่นหนาดุจถังเหล็ก แน่นอนว่าย่อมต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ในบรรดาคนรู้ใจสองคน ปัญญาชนสวมชุดขงจื๊อผู้เป็นกุนซือของจวนมหาวารีกำลังนั่งอย่างสำรวม ทั้งไม่ดื่มเหล้าและไม่กินอาหาร คล้ายพระโพธิสัตว์ไร้ชีวิตองค์หนึ่ง ส่วนคางคกขวางนทีที่เรือนกายฉุบวมนั่งอย่างว่าง่ายอยู่ที่เดิม สีหน้าอ่อนระโหยโรยแรงคล้ายตกใจกับโศกนาฎกรรมในครั้งนี้

ถังเจียงหน่วยกล้าตายของศาลาไผ่เขียวต้าหลีนั่งอยู่ตำแหน่งเดิม มือข้างหนึ่งจับตะเกียบ อีกมือหนึ่งจับแก้ว กำลังกินอาหารรสเลิศที่เริ่มเย็นชืดอย่างเอร็ดอร่อย

กี่ปีแล้วที่ไม่เคยสาแก่ใจเช่นนี้?

ร่างกายที่หยัดตรงนี้ของเขา หากต้องค้อมตัวไปอีกสักสองสามปี เกรงว่าคงเคยชินที่จะทำตัวเป็นลูกหลาน เป็นสุนัขรับใช้คนอื่นแล้วจริงๆ และคาดว่าเมื่อถึงเวลานั้นต่อให้กองทัพม้าเหล็กของต้าหลีบดขยี้แผ่นดินของหวงถิงแล้ว เขาก็คงไม่รู้ว่าควรจะเป็นคนที่สง่าผ่าเผยอย่างไรแล้วกระมัง?

แม้ว่านักพรตที่ทรยศต่อพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นจะไม่ตาย แต่ก็เหงื่อแตกท่วมร่างราวกับตากฝน

นอกจากนี้ยังมีผู้โชคดีอีกสองคนที่รอดชีวิต

ซึ่งก็คือผู้ฝึกกระบี่หนุ่มที่มีชาติกำเนิดไม่ธรรมดาสองคนนั้น ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มชุดขาวมอบโอกาสรอดชีวิตให้กับพวกเขา ในห้องโถงใหญ่ยังมีสัตว์เดรัจฉานอีกสองตัวที่นักพรตพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไว้ ผู้ฝึกกระบี่ที่ยังไม่เลื่อนสู่ห้าขอบเขตกลาง หากสามารถใช้แค่กระบี่บินแห่งชะตาชีวิตโดยไม่ต้องใช้กระบี่ที่พกจริงๆ สังหารสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งได้ด้วยตัวเอง ก็จะได้กลายเป็นแขกผู้ทรงเกียรติที่แท้จริงของจวนมหาวารี

เด็กหนุ่มชุดขาวยังถึงขั้นรับปากว่าพวกเขาสามารถเรียกพี่เรียกร้องกับเทพวารีแม่น้ำหันสือได้ ความมีเกียรติเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะช่วยให้คนทั้งสองเป็นดั่งปลาหลีกระโดดข้ามประตูมังกร เพียงกระโดดทีเดียวก็กลายมาเป็นบุคคลทรงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของทางเหนือแคว้นหวงถิง โดยเฉพาะผู้ฝึกลมปราณที่มาจากศาลมังกรซุ่มที่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในศิษย์รักของเจินเหรินเจ้าประมุขเท่านั้น แต่นับจากวันนี้ไปมีความเป็นได้ว่าจะถูกเลือกให้เป็นเจ้าประมุขคนต่อไป ไม่มีใครกล้าแก่งแย่งชิงดีด้วยอีก

ผู้ฝึกกระบี่ทั้งสองต่างก็เป็นขอบเขตสามขั้นสูงสุด พลานุภาพของกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตยังอ่อนแออยู่มาก เข่นฆ่ากับสัตว์เดรัจฉานสองตัวจึงเสี่ยงอันตรายรอดมาได้อย่างหวุดหวิดอยู่เป็นระยะ สุดท้ายได้แค่ถือว่าชนะอย่างกระท่อนกระแท่น บาดเจ็บหนักไม่น้อย ยังดีที่กระบี่บินแห่งชะตาชีวิตไม่เสียหายมากนัก

เด็กหนุ่มชุดขาวกำลังเหม่อลอย ไม่มีใครกล้ารบกวนเขา

แต่จะปล่อยให้บรรยากาศดำเนินไปอย่างเงียบงันเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง ชายชุดดำจึงได้แต่ถามเบาๆ ว่า “ท่านเซียน?”

ชุยฉานคืนสติ กวาดตามองไปรอบด้านแล้วกล่าวกับผู้ฝึกกระบี่สองคนว่า “ในเมื่อชนะแล้วก็หมายความว่าพวกเจ้ามีคุณสมบัติที่จะเดินไปบนมหามรรคาต่อ ไปรักษาตัวเสียก่อน จวนมหาวารีจะมอบโอสถที่ดีที่สุด รวมไปถึงวัตถุทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการหลอมกระบี่ให้แก่พวกเจ้า ผู้ฝึกกระบี่อิสระ หลังจากนี้เจ้าคอยเป็นผู้ปรนนิบัติรับใช้จวนมหาวารีระดับล่างแล้วกัน ส่วนผู้ฝึกกระบี่ของศาลมังกรซุ่ม เมื่อกลับไปแล้วเจ้าจงไปบอกกับอาจารย์ผู้โลภมากบ้าตัณหาของเจ้าว่า เรื่องการเลื่อนขั้นเป็นตำหนักของศาลมังกรซุ่ม ตั้งแต่ขุนนางสองระดับของเขตการปกครองไปจนถึงจวนแม่น้ำหันสือ รวมถึงเก๋อเหล่าในราชสำนักอีกหลายคนจะคอยให้ความช่วยเหลือ แค่รอฟังข่าวดีอยู่ที่บ้านก็พอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!