กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 149

กระบี่จงมา – ตอนที่ 149.1 นัดต่อสู้
บทที่ 149.1 นัดต่อสู้
โดย
ProjectZyphon
เฉินผิงอันเบิกตากว้าง เห็นเพียงว่าหลังจากตราประทับ “สงบใจสมปรารถนา” กระแทกลงบนหน้าผากของเด็กหนุ่มชุดขาวแล้วมันก็เด้งตวกลับมา จากนั้นจึงหยุดนิ่งค้างอยู่กลางอากาศ สุดท้ายคล้ายถูกใครกระตุกเชือกดึงกลับไป เพียงแต่ว่าเรี่ยวแรงของคนดึงเชือกนั้นน้อยไปสักหน่อย ตราประทับอักษรตัวจิ้งจึงส่ายโอนเอนอยู่กลางอากาศ เดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ ความเร็วไม่มากนัก

เฉินผิงอันไล่ตามทิศทางการโคจรของมันไป เห็นว่าระหว่างตนและหลี่เป่าผิงมีกระบี่ไม้ไหวเล่มนั้นหยุดนิ่งอยู่ มีเด็กหญิงชุดสีทองส่วนสูงพอๆ กับนิ้วก้อยคนหนึ่งกำลังกางแขนกางขาหลบอยู่ใต้กระบี่บิน ทั้งมือทั้งเท้ารัดพันด้ามกระบี่ไม้เอาไว้แน่น เวลานี้กว่าจะปีนขึ้นไปได้ไม่ใช่เรื่องง่าย พอยืนได้แล้ว เด็กหญิงชุดทองร่างกระจิ๋วหลิวน่ารักก็ไปยืนอยู่บนตัวกระบี่ ร่างของนางหมุนติ้วๆ เท้าเล็กๆ ส่ายสะเปะสะปะเหมือนคนเมา ดูท่าประสบการณ์การขี่กระบี่ครั้งนี้คงไม่ได้สวยงามเท่าไหร่นัก

ตราประทับตัวอักษรจิ้งชิ้นนั้นหล่นลงบนกระบี่ไม้ ตราประทับค่อนข้างหนักจึงกดให้หางกระบี่ตวัดขึ้นสูง เด็กหญิงชุดทองลื่นไถลเข้าหาตราประทับ มือเท้าป่ายไปกลางอากาศเป็นพัลวัน

ก่อนหน้านี้หลี่เป่าผิงก็ไม่ทันสังเกตเห็นการดำรงอยู่ของเด็กหญิงชุดทองเช่นกัน เวลานี้พอได้เห็นก็รู้สึกแค่ว่าน่าสนใจ จึงดิ่งเข้าหาอย่างร่าเริง นางย่อเข่าลงเล็กน้อย มือสองข้างประคองปลายสองด้านของกระบี่ไม้ไหว จ้องมองเจ้าตัวน้อยที่พยายามหลบเลี่ยงในระยะประชิด เด็กหญิงชุดสีทองอึ้งตะลึง ราวกับว่าเกิดมาก็ขี้อายอย่างมาก หลังจากยกสองมือปิดหน้าแล้วจึงหุบข้าเข้าชิดกัน กระโดดดิ่งลงไปเบื้องล่างในแนวตรง พอร่วงลงพื้นแล้วร่างกลับหายไปโดยที่ไม่ได้หายเข้าไปในกระบี่ไม้ไหว

เฉินผิงอันไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่คิดจะพูดคุยเรื่องนี้ให้ยืดเยื้อจึงเอ่ยเตือนเสียงแหบพร่า “เป่าผิง โยนกระบี่ไม้มาให้ข้า เจ้าเก็บตราประทับเอาไว้ก่อน”

หลี่เป่าผิงเก็บความอยากรู้อยากเห็นลงไปทันใด เรื่องเร่งด่วนในเวลานี้คือจัดการกับเจ้าคนแซ่ชุยนั่งให้ได้เสียก่อน ดังนั้นพอคว้าตราประทับมาแล้ว นางก็ร้องตะโกนเบาๆ แล้วเหวี่ยงกระบี่ไม้ไหวมาให้อาจารย์อาน้อยเต็มแรง

เพียงแต่ว่าแม่นางน้อยยังกะแรงไม่ค่อยถูกนัก กระบี่ไม้ไหวจึงเบี่ยงไปจากตำแหน่งที่เฉินผิงอันยืนอยู่

“หมุนตัวไป!”

เฉินผิงอันสั่งหลี่เป่าผิงหนึ่งประโยคก็แตะปลายเท้าเล็กน้อย ก้าวไปทางฝั่งซ้ายของบ่อโบราณแล้วเหยียบบนปากบ่อ หลังจากคว้าจับกระบี่ไม้ไว้ได้แล้วจึงเดินก้าวไปข้างหน้าก้าวใหญ่ พอเหยียบลงบนพื้นก็หันปลายกระบี่แทงเข้าที่หัวใจของเด็กหนุ่มชุดขาว

และเวลานี้เองเด็กหญิงชุดทองก็ผุดร่างท่อนบนออกมาจากกระบี่ไม้ไหว น้ำตาคลอหน่วย สีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจและละอาย โบกมือส่ายหัวแรงๆ ให้เฉินผิงอันราวกับว่าต้องการหยุดยั้งไม่ให้เฉินผิงอันฆ่าคน

ทว่านับตั้งแต่รับกระบี่ถึงออกกระบี่ การเคลื่อนไหวของเฉินผิงอันรวดเร็วเฉียบขาดอย่างยิ่ง รวดเดียวจบ รอจนเด็กหญิงชุดทองเผยกาย ปลายกระบี่ไม้ก็แทงไปตรงหัวใจของเด็กหนุ่มชุดขาวแล้ว เนื่องจากเฉินผิงอันขึ้นรูปเครื่องปั้นและเผาเครื่องปั้นเป็นประจำตลอดปี การควบคุมแรงมือจึงแม่นยำและเชี่ยวชาญอย่างมาก ทว่าต่อให้เขามีใจอยากจะดึงมือกลับมา แต่การโคจรลมปราณในร่าง การยืดหดของกล้ามเนื้อแขน ไปจนถึงแรงเฉื่อยจากการพุ่งไปข้างหน้าของกระบี่ไม้ล้วนไม่เปิดโอกาสให้เฉินผิงอันได้เปลี่ยนแปลงจุดจบ

ผู้เฒ่าที่สะพายห่อสัมภาระผ้าฝ้ายไว้บนหลังพลันเผยกายกลางอากาศ “ยังดีๆ เกือบจะถูกคนเล่นงานจริงๆ ซะแล้ว”

เมื่อซิ่วไฉเฒ่าเผยตัวในช่วงเวลาคับขัน เด็กหนุ่มชุยฉานก็เหมือนถูกคนคว้าลำคอแล้วดึงไปด้านหลัง ยืนมั่นคงในทันที แม้ว่าจะยังคงหมดสติ แต่เอวกลับยืดตรงประหนึ่งต้นสนที่ยืนตระหง่าน หลบพ้นจุดจบที่จะถูกเฉินผิงอันแทงทะลุหัวใจมาได้

ผู้เฒ่ามองเด็กหนุ่มรองเท้าแตะที่ถอยกรูดไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว มือหนึ่งตวัดกระบี่ขวางไว้ตรงหน้า อีกมือหนึ่งดันหลี่เป่าผิงไปปกป้องไว้ด้านหลัง วิธีการจับกระบี่ของเด็กหนุ่มทั้งไม่คุ้นเคยและแปลกประหลาด น่าจะเหมือนนายพรานที่จับด้ามพู่กันกระมัง ไม่ว่ามองอย่างไรก็ดูผิดปกติ

ผู้เฒ่าทอดถอนใจ “เจ้าเองหรือ”

เฉินผิงอันเหมือนเผชิญกับกับศัตรูตัวฉกาจ ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย เอ่ยเบาๆ ว่า “เป่าผิง เดี๋ยวถ้ามีโอกาสเจ้าหนีไปเลย ไม่ต้องสนใจข้า”

เฉินผิงอันค้นพบว่าหลี่เป่าผิงกระตุกชายแขนเสื้อของตนอยู่หลายครั้งหลายครา รู้สึกประหลาดใจจึงเบี่ยงตัวก้มหน้าลงมอง “มีอะไรหรือ?”

สีหน้าของแม่นางน้อยแข็งทื่อ นางยกมือชี้ไปยังด้านหลังของเฉินผิงอัน เผยอปากอ้า รูปปากนั้นคล้ายกำลังพูดสองคำว่า “มีผี”

ต้องเผชิญศัตรูทั้งหน้าและหลังเลยหรือ?

หัวใจของเฉินผิงอันหดเกร็ง รอจนเขามองไป สีหน้าก็พลันอึ้งค้าง เด็กหนุ่มกะพริบตาปริบๆ แล้วก็กะพริบตาอีกครั้ง หลังจากแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้มองผิดก็หันหลังให้กับซิ่วไฉเฒ่าและเด็กหนุ่มชุดขาว ทั้งไม่กล้าพูดอะไรออกมาอย่างชัดเจน หลีกเลี่ยงไม่ให้มีคนแอบได้ยินแล้วจะกลับกลายเป็นการทำร้ายพี่สาวเทพเซียนท่านนี้ แต่เขาก็ร้อนใจอย่างยิ่ง เด็กหนุ่มทำท่าจะพูดแต่ก็หยุดชะงัก ท่าทางร้อนรนอยู่ไม่สุขเหมือนมดบนกระทะร้อน

หลี่เป่าผิงแอบจับชายแขนเสื้อของอาจารย์อาน้อยเอาไว้ มองผู้เฒ่าที่มีสีหน้าปิติยินดีแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองผีสาวที่ปรากฎตัวอย่างลึกลับผู้นั้น

เมื่อเทียบกับผีสาวที่สวมชุดเจ้าสาวครั้งก่อนแล้ว ท่านผู้นี้ที่มาในคืนนี้สวมชุดขาว รองเท้าขาว ในมือถือ…ใบบัวสีหิมะ? หลี่เป่าผิงพึมพำกับตัวเองว่า ผีสาวนอกโลกต่างก็สดใสโดดเด่นแบบนี้เหมือนกันหมดเลยหรือ? นึกถึงในปีนั้นที่พี่ชายใหญ่เคยถูกตนบีบบังคับจนต้องเล่าเรื่องผีที่เต็มไปด้วยเลือดโชก ภูตผีปีศาจอย่างโครงกระดูกสีแดง ผีพราย ฯลฯ ล้วนควักตับไตไส้พุงกินเลือดเนื้อมนุษย์ รูปร่างหน้าตาและพฤติกรรมของพวกเขาต่างก็น่าพรั่นพรึงอย่างถึงที่สุด

ไหนเลยจะเหมือนคนตรงหน้านี้ที่เมื่อเทียบกับผีสาวสวมชุดแต่งงานแล้วยังงดงามน่าหลงใหลยิ่งกว่าเสียอีก

นางเรือนกายสูงใหญ่ แต่กลับยังคงทำให้คนมองรู้สึกว่านางหุ่นดีมีความงดงามตามธรรมชาติ เส้นผมสีดำเป็นประกายคล้ายกับม่านน้ำตกถูกมัดเป็นปมด้วยผ้าไหมสีทองแล้วตวัดจากด้านหลังมายังหน้าอก แสดงให้เห็นถึงความสุภาพเยือกเย็น

หลี่เป่าผิงรู้สึกเพียงว่าสตรีสูงใหญ่ตรงหน้าผู้นี้ยิ่งสูงก็ยิ่งน่ามอง สร้างความอิจฉาให้นางอย่างยิ่ง แม่นางน้อยแอบเขย่งปลายเท้า แต่ไม่นานก็ทิ้งเท้าเหยียบลงบนพื้นดังเดิมด้วยความหดหู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!