กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 161

กระบี่จงมา – ตอนที่ 161.1 แม่น้ำและภูเขาย่อมมีวันต้องจากลา
บทที่ 161.1 แม่น้ำและภูเขาย่อมมีวันต้องจากลา
โดย
ProjectZyphon
รถม้าที่เกาเซวียนมอบให้คันนั้นยังไม่มาถึงเสียที สีสนธยาเข้มข้นมากแล้วเพิ่งจะตามมาทันเฉินผิงอัน สารถีคือผู้เฒ่าหน้าขาวไร้หนวดเคราคนนั้นซึ่งเคยติดตามองค์ชายต้าสุยเดินทางไปเยือนถ้ำสวรรค์หลีจู เคยได้พบกับเฉินผิงอันมาแล้วสองครั้ง เพียงแต่เมื่อเทียบกับความกระตือรือร้นของเกาเซวียนแล้ว ผู้เฒ่ากลับมีสีหน้าเย็นชา พอส่งมอบรถม้าเสร็จก็เดินเท้ากลับเมืองหลวงทันที ขันทีเฒ่าหันหน้ากลับมามองชุยฉานอยู่หลายครั้ง ชุยฉานมัวง่วนอยู่กับการมองประเมินความอุดมสมบูรณ์ของม้าตัวนั้นพลางจุ๊ปากชื่นชมไม่หยุด สัมผัสไม่ได้ถึงสายตาตรวจสอบของผู้เฒ่าเลยแม้แต่น้อย

ชุยฉานกระโดดขึ้นรถม้า เป็นฝ่ายรับผิดชอบหน้าที่สารถีเสียเอง หันไปกวักมือเรียกเฉินผิงอัน “อาจารย์ ไม่มีใครเล่นตุกติกกับรถม้ามาก่อน พวกเราใช้มันเดินทางขึ้นถนนได้อย่างสบายใจ”

ชุยฉานตบบ้องหูตัวเอง “เดินทางขึ้นถนนอะไรกัน (上路คำนี้สามารถแปลได้ว่าเดินทางทั่วไป และยังหมายถึงการเดินทางบนถนนที่นำไปสู่ปรโลกของคนตายได้ด้วย) อัปมงคลเกินไปแล้ว รีบเดินทางๆ”

เฉินผิงอันกวาดตามองรอบด้าน สีท้องฟ้ามืดมากแล้ว เนื่องจากในเมืองหลวงห้ามเข้าออกยามวิกาล ทางหลวงที่ตอนกลางวันมีผู้คนสัญจรขวักไขว่ไม่ขาดสายจึงว่างเปล่าเงียบสงัดอย่างเห็นได้ชัด

เฉินผิงอันส่ายหน้า “ข้าจะฝึกเดินนิ่ง เจ้าขับรถไปเถอะ แค่อย่าเร็วเกินก็พอ ข้าจะได้ตามทัน”

ชุยฉานรู้สนิสัยดึงดันของเฉินผิงอัน จึงไม่เปลืองน้ำลายอีก ค่อยๆ ขับเคลื่อนรถม้าไปเบื้องหน้า เขาดื่มเหล้าแล้วตะโกนขึ้นมาเสียงดัง “ร้อยเรื่องยุ่งพันเรื่องกลุ้ม สุดท้ายแล้วหมื่นเรื่องล้วนหยุดนิ่ง อากาศเย็นแล้ว เป็นฤดูใบไม้ร่วงที่ดี ฤดูใบไม้ร่วงที่ดี!”

เฉินผิงอันเดินตามมาด้านหลังรถม้าเงียบๆ ฝึกท่าเดินนิ่งหกเก้าของตำราหมัดเขย่าขุนเขาซ้ำไปซ้ำมา เดินนิ่งและยืนนิ่งสองอย่างนี้ เขาฝึกคล่องจนขึ้นใจมานานแล้ว

พอถึงกลางดึกชุยฉานก็พูดจ้อเลื่อนเปื้อนไม่หยุด คัมภีร์ลัทธิขงจื๊อก็อ่าน กาพย์กลอนก็ท่อง ปนกันมั่วซั่วหลากหลาย ปากก็ไม่เคยได้หยุดเฉย

สุดท้ายแม้แต่ประโยคว่า “ข้ามีลาแก่ตัวหนึ่งที่ไม่เคยขี่” ก็ยังท่องออกมา ฟังมาถึงตรงนี้ เฉินผิงอันที่ยืนหยัดมาได้เกือบหนึ่งชั่วยามพ่นลมหายใจขุ่นมัวออกมาหนึ่งครั้ง หยุดการเดินนิ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ข้าจะขึ้นไปพักบนรถสักครู่”

ขึ้นรถมา วางตะกร้าไม้ไผ่ไว้ในห้องโดยสาร เฉินผิงอันถึงได้ค้นพบว่าตรงมุมหนึ่งวางขวดและไหกองกันเป็นภูเขาลูกย่อม เพียงแต่ว่ารอบด้านมืดมิดจึงมองเห็นไม่ชัดว่าเป็นวัตถุชนิดใด ชุยฉานที่ขับรถม้าเอ่ยยิ้มๆ ว่า “มีสุราดีอยู่หลายไห มีโอสถที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บของผู้ฝึกลมปราณลัทธิเต๋า แม้แต่ผงประทินโฉมก็มี เกาเซวียนผู้นี้ก็น่าสนใจไม่น้อย บอกตามตรงว่าหากไม่นับว่าเป็นศัตรูอยู่คนละฝ่ายกัน เมื่อเทียบกับน้องชายแท้ๆ ของซ่งจี๋ซินสหายเจ้า หรือก็คือลูกศิษย์ของข้าในอดีต เกาเซวียนผู้นี้ถือว่า…นับถือกับนักปราชณ์ราชบัณฑิตมากกว่า?”

เฉินผิงอันที่นั่งเบี่ยงตัวห้อยขาสองข้างออกนอกรถอยู่ด้านหลังชุยฉานส่ายหน้า “ซ่งจี๋ซินไม่เคยเป็นเพื่อนของข้า”

ชุยฉานขัดคอ “ถ้าอย่างนั้นซ่งจี๋ซินที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นซ่งมู่คงต้องเสียใจแย่ ก่อนหน้าที่เขาจะออกมาจากตรอกหนีผิง ฉีจิ้งชุนมอบตราประทับ ‘ใต้หล้ารับวสันต์’ ให้กับจ้าวเหยา มอบหนังสือให้ซ่งจี๋ซินหกเล่ม หนังสือเบ็ดเตล็ดสามเล่มได้แก่ วิชาคำนวณ ‘จิงเวย’ ศาสตร์หมากล้อม ‘เถาหลี่’ รวมบทความ ‘ซานไห่เช่อ’ หนังสือชั้นประถมวัยสามเล่มที่ฉีจิ้งชุนเลือกมาด้วยตัวเองอย่าง ‘เสี่ยวเซวี๋ย’ ‘หลี่เยว่’ และ ‘กวานจื่อ’ ซ่งจี๋ซินนั้นมีความรู้สึกที่ซับซ้อนต่ออาจารย์อย่างท่านอย่างมาก แล้วก็น่าจะเพราะอยากทำให้ตัวเองสบายใจ ตอนที่จากมาถึงได้ทิ้งหนังสือสามเล่มหลังไว้บนโต๊ะในห้อง เจตนาเดิมก็เพื่อมอบให้เจ้าเฉินผิงอัน แต่ความซับซ้อนในหัวใจคนก็อยู่ที่ อันที่จริงซ่งจี๋ซินก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า ต่อให้ท่านอาจารย์ได้กุญแจบ้านที่เขาทิ้งไว้ในลานบ้านของท่านไป ท่านก็ไม่มีทางเข้าไปหยิบตำราเหล่านั้นมาโดยพลการเด็ดขาด ทว่ากลับทำให้เขามโนธรรมในใจของเขาซ่งจี๋ซินข้ามผ่านอุปสรรคเล็กๆ ไปได้ อาจารย์ เจ้าหมอนี่ฉลาดมากเลยใช่ไหมล่ะ”

ชุยฉานเล่าความลับที่ไม่มีใครรู้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขาไม่ได้เอ่ยออกมา

เรื่องหนังสือที่เขาเดาได้นั้น แท้จริงแล้วฉีจิ้งชุนคาดการณ์มาได้ตั้งนานแล้วว่าซ่งจี๋ซินจะไม่เห็นค่าของหนังสือประถมวัยสามเล่มนั้น และจะเลือกทิ้งมันไว้ให้กับเฉินผิงอัน

หมากล้อม การวางแผน การคาดเดาใจคน เมื่อก่อนชุยฉานนึกว่าตัวเองเก่งกาจเหนือกว่าฉีจิ้งชุน ตอนนี้ลองมาย้อนนึกดู แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ผิดมหันต์

เฉินผิงอันเอ่ยเบาๆ “ซ่งจี๋ซินฉลาดมากมาโดยตลอด”

ชุยฉานถามด้วยความสงสัย “ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับเขาแข็งค้างขนาดนั้น เป็นเพราะเขาหลอกให้อาจารย์ต้องผิดคำสาบานรึ?”

เฉินผิงอันไม่พูดอะไร

ชุยฉานเอ่ยยิ้มๆ “อย่าโทษว่าข้าปากมาก แล้วก็ไม่ใช่ว่าจงใจพูดแก้ตัวให้กับซ่งจี๋ซิน ข้าแค่จะบอกความจริงให้ท่านรู้ ไม่ว่าถูกหรือผิด แต่อันที่จริงแล้วซ่งจี๋ซินทำเช่นนั้นก็เพราะมีเหตุผล และเหตุผลนั้นก็ง่ายมาก ซ่งจี๋ซินอยู่ดีกินดี ไม่ว่าเรื่องไหนก็ล้วนเหนือกว่าท่านอาจารย์ ภายหลังมีสาวใช้อยู่ร่วมบ้านคอยให้การปรนนิบัติ ไม่ว่าจะด้านการเรียน หมากล้อมหรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเชี่ยวชาญ แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ปมในใจบางปมของเขากลับยิ่งขยายใหญ่มากขึ้น”

ในที่สุดเฉินผิงอันก็ยอมเปิดปาก “ตอนนั้นเขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นบุตรนอกสมรสของขุนนางงานตรวจเตาเผา จึงถูกเพื่อนบ้านนินทาลับหลังมาตั้งแต่เด็ก คำพูดคำด่าเหล่านั้นหยาบคายระหายหูอย่างมาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!