กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 175

สรุปบท บทที่ 175.1: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 175.1 – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 175.1 ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

กระบี่จงมา – บทที่ 175.1 คำสั่ง
บทที่ 175.1 คำสั่ง
โดย
ProjectZyphon
เฉินผิงอันรับหิมะขาวโพลนมาไว้ในสองมือ ถูมือเข้าด้วยกันเบาๆ แล้วเดินยิ้มกลับเข้าไปในถ้ำเล็ก พอยื่นมือไปอังไฟแล้วถึงได้หยิบตำราเล่มหนึ่งออกมาจากในตะกร้าไม้ไผ่ อาศัยแสงไฟเริ่มอ่านหนังสือ เป็นตำราลัทธิขงจื๊อเล่มหนึ่งที่อาจารย์ผู้เฒ่าเหวินเซิ่งมอบให้ ความจำของเฉินผิงอันดีมาก ตลอดทางมานี้ก็คอยหยิบมาเปิดอ่านตลอดเวลาจึงจำเนื้อหาด้านในได้ขึ้นใจนานแล้ว เพียงแต่ว่าเฉินผิงอันยังชอบพลิกเปิดหนังสือแล้วอ่านออกเสียงเบาๆ เหมือนในเวลานี้

หลี่เป่าผิงเคยบอกว่า อ่านหนังสือหนึ่งร้อยรอบย่อมเข้าใจกระจ่างแจ้ง

เฉินผิงอันรู้สึกว่าประโยคนี้กล่าวได้ดียิ่งนัก

ดังนั้นทุกครั้งหลังจากฝึกยืนนิ่งและเดินนิ่งตามบันทึกในตำราเขย่าภูเขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะหยิบประโยคนี้มาใช้งานจริงโดยการบอกตัวเองในใจว่า ขนาดเรียนหนังสือยังเป็นเช่นนี้ คิดดูแล้วการฝึกวิชาหมัดก็น่าจะไม่ต่างกันมากนัก ไม่แน่ว่าเมื่อฝึกหมัดครบหนึ่งล้านครั้งก็น่าจะเข้าใจปณิธานแห่งหมัดได้เอง เพราะอย่างไรซะเมื่อเขามานะฝึกวิชาหมัดทั้งวันคืนไม่หยุดพักโดยใช้เวลาเจ็ดแปดชั่วยามในแต่ละวันก็ได้ช่วยซ่อมแซมร่างกายและจิตวิญญาณที่เดิมทีเหมือนบ้านผุพังหลังหนึ่ง ผลลัพธ์มีให้เห็นเด่นชัด โดยเฉพาะเมื่อใช้วิธีการหายใจที่หยางเหล่าโถวถ่ายทอดให้ควบคู่กับวิธีโคจรลมปราณสิบแปดหยุด เฉินผิงอันสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายและจิตวิญญาณเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้น ดังนั้นการมีชีวิตอยู่ต่อจึงไม่ใช่เป้าหมายเดียวอีกต่อไป

เฉินผิงอันต้องการมากกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่นหากมีโอกาสได้พบเจอกันอีกครั้ง เขาอยากจะแสดงการเดินนิ่งให้แม่นางบางคนได้ดู นางจะได้ไม่ทำหน้าอึ้งตะลึงราวกับต้องการบอกว่าเหตุใดใต้หล้าถึงมีคนโง่แบบนี้อยู่ได้เหมือนตอนอยู่ในบ้านบรรพบุรุษตรอกหนีผิง แล้วเปลี่ยนมาเป็นยกนิ้วโป้งให้เขา พูดสองคำนั้นกับเขาอีกครั้งว่า “เท่ห์มาก!”

หนังสือในมือของเฉินผิงอันถูกพลิกเปิดไปทีละหน้าอย่างเชื่องช้า เขาอ่านอย่างตั้งใจยิ่ง เปลวไฟที่ส่ายไหวสาดสะท้อนลงบนใบหน้าดำเกรียมของเด็กหนุ่ม หากคนอื่นจ้องมองนานเข้า ภาพนั้นจะให้ความรู้สึกที่แปลกตาอย่างยิ่ง

แม้ว่าเด็กหญิงชุดกระโปรงชมพูจะมีร่างจริงเป็นงูหลามไฟ แต่กลับมีนิสัยเหมือนเด็กน้อย ยามที่อยู่ในหอหนังสือของสกุลเฉาจือหลัน นางมักจะเก็บตัวสันโดษ ไม่กล้าเผยตัวง่ายๆ ด้วยกลัวว่าจะประสบกับหายนะไม่คาดฝัน ครั้งนี้ติดตามเฉินผิงอันกลับบ้านเกิด ยิ่งนานวันนิสัยร่าเริงไร้เดียงสาก็ยิ่งกลับคืนมา เวลานี้นางกำลังง่วนปั้นตุ๊กตาหิมะอยู่ตรงสะพานไม้ ได้แต่เสียดายที่สวรรค์ไม่ประทานเกล็ดหิมะใหญ่เท่าขนห่านมาให้มากสักหน่อย

ส่วนเด็กชายชุดเขียวที่แม้จะเป็นงูน้ำ เกิดมาก็มีความใกล้ชิดกับน้ำ แต่กลับไม่รู้สึกสนใจหิมะใหญ่ที่ตกในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติมากแม้แต่น้อย เขาจึงห่อตัวอยู่ข้างกองไฟอย่างเบื่อหน่าย เสียใจอยู่กับตัวเองที่ต้องมาพบเจอคนไม่ถูกจริต แถมชะตาชีวิตยังไม่ราบรื่น

เด็กหญิงชุดกระโปรงชมพูปั้นตุ๊กตาหิมะเป็นนายท่านของตัวเอง รูปปั้นมีชีวิตชีวาเหมือนจริง ขณะที่กำลังจะมาขอความดีความชอบจากเฉินผิงอันพลันหน้าเปลี่ยนสี วิ่งพรวดกลับเข้าไปในถ้ำ พูดด้วยสีหน้าตระหนกลน “นายท่านๆ บนสะพานมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินมา ผู้ชายมองไม่ออกว่าเป็นอะไร แต่ผู้หญิงกลับมีปราณปีศาจเข้มข้นมาก พวกเราจะทำยังไงกันดี?”

เด็กชายชุดเขียวสูดลมหายใจแรงๆ สีหน้าสดชื่นทันควัน “โอ๊ะโอ เป็นปีศาจใหญ่จริงๆ ด้วย ทั่วร่างมีแต่กลิ่นสาบจิ้งจอก นายท่าน ข้าจะบอกท่านให้นะ ปีศาจจิ้งจอกในโลกหน้าตางดงามมากเลยล่ะ เดี๋ยวคอยดูนะ ข้าจะหาสาวใช้ห้องข้างมาไว้อุ่นผ้าห่มให้ท่าน รับรองว่าเยี่ยมกว่าเด็กโง่ที่ผอมแห้งราวกิ่งไผ่มากนัก!”

เฉินผิงอันปิดหนังสือ เอ่ยว่า “หากพวกเขาแค่ผ่านทางมา พวกเราก็หลีกทางให้ แต่หากคิดจะทำร้ายกัน พวกเราค่อยลงมือก็ยังไม่สาย”

เด็กชายชุดเขียวที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นถอนหายใจหนึ่งที นั่งกลับลงไปที่เดิม กล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดาย “นายท่าน ท่านน่าจะมอบโอกาสให้ข้าได้สร้างคุณความชอบบ้างสิ”

เฉินผิงอันพูดหน้ายิ้ม “กลับไปถึงบ้านเกิดอย่างราบรื่นปลอดภัยก็คือคุณความชอบครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง”

เด็กชายชุดเขียวออกอาการน้อยใจ “นี่ก็เข้ามาในเขตของแคว้นต้าหลีแล้ว แถมยังราบรื่นมั่นคงมาโดยตลอด แล้วเมื่อไหร่สองก้อนของข้าถึงจะเปลี่ยนเป็นสามก้อนได้บ้างล่ะ?”

บนทางเลียบหน้าผาเก่าแก่ที่ถูกสร้างไว้ตรงผนังหน้าผา หนึ่งชายหนึ่งหญิงเดินตามกันมาท่ามกลางสายลมและหิมะ ผู้หญิงสวมชุดชาววังตัดจากผ้าแพร รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น สวมหมวกผ้าคลุมบดบังใบหน้า ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาสง่างาม ร่างสูงเพรียว ห่มผ้าคลุมหนังเตียวสีขาวหิมะ ตรงเอวห้อยน้ำเต้าบรรจุเหล้าสีชาดหนึ่งลูก ร่างทั้งร่างคล้ายหลอมรวมเข้ากับค่ำคืนที่มีแต่หิมะขาวโพลน

ตอนที่คนทั้งสองเดินผ่านถ้ำ สตรีผู้นั้นหันมามองคนทั้งสามในถ้ำแวบหนึ่ง แล้วก็ไม่มองอีก

ทำไมเขาถึงพูดเช่นนี้ เหตุผลนั้นง่ายดายมาก การที่ปีศาจจิ้งจอกในโลกมีชื่อเสียง นอกจากจะเชี่ยวชาญการล่อลวงใจคนแล้ว เหตุผลที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งก็คือปีศาจจิ้งจอกอำพรางปราณปีศาจได้ยากกว่าภูตผีปีศาจชนิดอื่นๆ ดังนั้นคำกล่าวที่ว่ากำจัดปีศาจปราบมารที่พวกนักพรตพูดกันอย่างแพร่หลายจึงมักจะมีเป้าหมายเป็นปีศาจจิ้งจอกที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการฝึกบำเพ็ญตนเสมอ

ตามหลักแล้ว ยิ่งปีศาจจิ้งจอกที่อยู่นอกถ้ำขยับเดินเข้ามาใกล้ ปราณจิ้งจอกก็ควรจะยิ่งเข้มข้น แต่ตอนที่นางเดินผ่านปากถ้ำกลับแผ่กลิ่นอายของมนุษย์ ความรู้สึกที่มอบให้แก่เด็กชายชุดเขียวคือ นางมีร่างกายมนุษย์ที่สามัญธรรมดายิ่งกว่าชาวบ้านทั่วไปเสียอีก ราวกับว่าเพียงแค่นิ้วเดียวของเขาก็สามารถหักเอวคอดของนางออกเป็นสองท่อนได้ เดิมทีเด็กชายชุดเขียวก็คือหนึ่งในปีศาจของโลกใบนี้ การจำแลงร่างอยู่ในร่างของมนุษย์เป็นแค่ก้าวแรกในการฝึกตนของปีศาจ ห่างจากการกลายเป็นมนุษย์ที่แท้จริงอีกยาวไกลเหมือนระยะห่างระหว่างต้าสุยไปต้าหลี

สามารถทำให้งูเจ้าถิ่นของแม่น้ำอวี้เจียงที่มีตบะขอบเขตหก พลังการต่อสู้เทียบเคียงกับขอบเขตเจ็ดอย่างเขาสัมผัสไม่ได้ถึงความผิดปกติใดๆ เด็กชายชุดเขียวลองใคร่ครวญดูก็คิดว่าตนแสร้งทำตัวเป็นหลานน่าจะเหมาะสมที่สุด หากมังกรข้ามแม่น้ำต่างถิ่นที่ภายนอกเหมือนจะเป็นมิตรผู้นี้รู้สึกว่าเป็นหลานยังไม่พอ จะให้เขาเป็นเหลนก็ยังได้

เด็กชายชุดเขียววิเคราะห์ว่าอย่างน้อยที่สุดสตรีแต่งงานแล้วที่สวมชุดชาววังผู้นั้นต้องมีขอบเขตเก้า หรืออาจถึงขั้นเป็นพี่ใหญ่ขอบเขตสิบผู้มีความสามารถค้ำฟ้าเลยทีเดียว แต่ยังดีที่ความเป็นไปได้นี้มีไม่มากนัก

ปีศาจที่อยู่ในใต้หล้าไพศาลจะเลื่อนสู่ขอบเขตสิบได้หรือไม่นั้น อยู่ที่ว่าจะข้ามผ่านยอดเขาฮวงจุ้ยขนาดใหญ่ยักษ์ไปได้หรือไม่ ซึ่งไม่ง่ายไปกว่าการฝ่าทะลุคอขวดสู่ระดับสิบของนักพรตเผ่ามนุษย์เลย เพราะนี่หมายความว่าได้รับการยอมรับจากมหามรรคาของใต้หล้าแห่งนี้แล้ว แล้วจะไม่ยากเย็นแสนเข็ญได้หรือ? จำเป็นต้องมีโชควาสนาและการขัดเกลาฝีมือมากเท่าไหร่ แค่คิดก็พอจะทราบได้

ดังนั้นเจียวเฒ่าที่ปิดบังตัวตน บิดาของเทพวารีแม่น้ำหันสือที่มีตบะขอบเขตสิบจึงมีคุณสมบัติมากพอจะได้รับการยกย่องว่ามีศักยภาพเท่าเทียมกับนักพรตขอบเขตสิบเอ็ดแล้ว

—–

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!