ผู้ฝึกยุทธ์เต็มตัวที่สง่างามมากที่สุดบนโลกใบนี้มักจะเป็นผู้ฝึกกระบี่เสมอ ยอดฝีมือด้านวรยุทธ์สองคนที่สถานะ พลังอำนาจ หน้าตาและมาดทัดเทียมกัน คนหนึ่งใช้หมัด คนหนึ่งใช้กระบี่ยาว มักเป็นฝ่ายหลังที่ได้รับความนิยมมากกว่าเสมอ
หากใช้หมัด ก็ต้องหมัดต่อหมัดปะทะถึงเนื้อ สู้กันจนเนื้อหนังปริแตก หรืออาจถึงขั้นหนึ่งหมัดต่อยให้ศีรษะคนอื่นระเบิดแตก มันสมองกระจาย มีหรือจะสู้ใช้กระบี่ได้?
‘นับแต่เยาว์เขามีความกล้าของคนนับหมื่น ยามนี้เสียบดาบวิเศษไว้ที่เอวยิ่งเปี่ยมพลานุภาพ แย้มยิ้มกระดกเหล้าหมดหนึ่งจอก หาญกล้าฆ่าคนกลางตลาดพลุกพล่าน’
‘เวทกระบี่เป็นอาวุธเหมาะมือ เจอเจียวหลงพิฆาตเจียวหลง’
‘สง่างามหรือไม่? องอาจหรือไม่? แน่นอน!’
ตอนที่ได้ยินชุยตงซานท่องกลอนบทนี้ตรงหน้าผาใหญ่ติดริมน้ำ แม้แต่คนที่คร่ำครึน่าเบื่อหน่ายอย่างเฉินผิงอันก็ยังอดเกิดความฮึกเหิมตามไปด้วยไม่ได้
ก่อนหน้านี้ตอนที่เฉินผิงอันฝึกหมัด จะดีชั่วก็ยังมีตำราเขย่าภูเขาอยู่เล่มหนึ่ง ต่อให้แม่นางหนิงจะไม่เห็นดีด้วย แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยชี้นำแนวทางในการฝึกวรยุทธ์ให้แก่เฉินผิงอัน
ถ้าเช่นนั้นหากคิดจะฝึกกระบี่ก็ควรต้องมีวัตถุอย่างคัมภีร์กระบี่ หาไม่แล้วเฉินผิงอันก็รู้สึกว่าด้วยพรสวรรค์และเชาวน์ปัญญาอันน้อยนิดของตน คาดว่ารอจนตราบสิ้นฟ้าดินก็คงไม่อาจฝึกอะไรได้เป็นรูปเป็นร่าง
นี่ทำให้เฉินผิงอันกลัดกลุ้มไม่น้อย
นอกเรือนไม้ไผ่ มีคนเดินมาแต่ไกล ในมือของเขาถือไม้เท้าที่ทำจากไม้ไผ่ ตรงเอวห้อยยันต์ไม้ท้อ เขาตะโกนเรียกเสียงดัง “เฉินผิงอัน”
เฉินผิงอันที่กำลังยืนกลุ้มอยู่ชั้นสองหันหน้าไปมอง ตะโกนตอบเสียงดังเช่นกัน “พี่ใหญ่หลี่ ท่านมาได้อย่างไร?”
เฉินผิงอันวิ่งห้อลงมาจากหอเรือนตลอดทาง
หลี่ซีเซิ่งตั้งใจพาชุยชื่อเด็กหนุ่มที่พอจะถือว่าเป็นลูกศิษย์ของเขาครึ่งตัวมาเยี่ยมเยือนเฉินผิงอันที่เป็นเจ้าของภูเขาลั่วพั่ว
หลี่ซีเซิ่งปลดยันต์ไม้ท้อตรงเอวออกแล้วพูดเข้าประเด็นทันที “ข้าอาจจะต้องออกไปจากเมืองเล็ก จึงรีบรุดมาที่นี่เผื่อมอบของสิ่งหนึ่งให้เจ้าก่อน ถึงเวลาจะได้ไม่เร่งร้อนฉุกละหุกจนถึงขั้นไม่ทันได้พูดจากันให้ชัดเจน”
เฉินผิงอันไม่ได้ยื่นมือออกไปรบ ไม่ได้กังวลว่าบุรุษที่อยู่ตรงหน้าจะมีใจคิดร้าย แต่เคยชินกับการไม่รับค่าตอบแทนหากไม่มีผลงาน หน้าไม่หนาพอที่จะรับเอาของของคนอื่นมาเปล่าๆ
หลี่ซีเซิ่งเอ่ยว่า “หลี่เป่าเจินน้องชายข้า เจ้าคงรู้จักใช่ไหม?”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับ
หลี่ซีเซิ่งกล่าวต่อ “เรื่องที่จูลู่ลอบฆ่าเจ้าที่จุดพักม้าเจิ่นโถว เขาเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง แน่นอนว่าเขาทำผิด ตอนที่ข้ารู้เรื่องก็ห้ามไม่ทันแล้ว หลี่เป่าเจินเป็นคนที่ไม่ยอมรับความผิดมาตั้งแต่เด็กแล้ว และก็ช่วยไม่ได้ที่เขาเป็นพี่รองของเป่าผิง ส่วนข้าก็เป็นพี่ใหญ่ของเขา คนในครอบครัวเดียวกันก็คือคนในครอบครัวเดียวกัน ในเมื่อเขาทำผิด อีกทั้งยังไม่ยอมสำนึก ข้าก็ได้แต่ช่วยชดใช้แทนเขา”
หลี่ซีเซิ่งมองเด็กหนุ่มหน้าดำเกรียมที่ยังคงเงียบงันแล้วคลี่ยิ้ม “เจ้าวางใจเถอะ ว่ากันไปตามสถานการณ์ ยันต์ไม้ท้อชิ้นนี้เกี่ยวกับเรื่องลอบฆ่าเรื่องเดียวเท่านั้น หลังจากนี้เมื่อข้าออกไปจากเมืองเล็ก ตัวเจ้าเองต้องระวังหลี่เป่าเจินเอาไว้ หากเจ้าเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ เฉินผิงอัน ข้าขอร้องเจ้าว่าโปรดมอบโอกาสรอดชีวิตให้แก่เขาสักครั้ง ให้โอกาสเขาได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
“แน่นอนว่าหากมีกำลังสูสี หรือตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่เจ้าไม่ตายข้าก็ม้วย เจ้าก็ไม่ต้องออมมือ รักษาตัวรอดเอาไว้ก่อน”
เฉินผิงอันใคร่ครวญอย่างละเอียดกว่าจะตอบ “ตกลง!”
หลี่ซีเซิ่งส่งยันต์ไม้ท้อมาให้ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็จงรับไปอย่างสบายใจ แค่ของเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีค่าให้พูดถึง”
“พี่ใหญ่หลี่ ท่านไม่จำเป็นต้องมอบของให้ข้า อีกอย่างท่านก็วางใจได้ เรื่องที่ข้ารับปากท่านไปแล้ว ข้าจะต้องทำให้ได้แน่นอน”
เฉินผิงอันโบกมือกล่าวยิ้มๆ “สามารถทำให้พี่ใหญ่หลี่เร่งรุดเดินทางมาตั้งไกลเพื่อมอบของชิ้นนี้ให้ แสดงว่าต้องมีค่ามาก อีกอย่าง…”
กล่าวมาถึงตรงนี้เฉินผิงอันก็ไม่พูดอะไรอีก
อันที่จริงอาเหลียงเคยพูดถึงครั้งหนึ่งว่า โชควาสนายิ่งใหญ่ที่แท้จริงของถ้ำสวรรค์หลีจูยังอยู่ที่ถนนฝูลวี่และตรอกเถาเย่
ลางสังหรณ์บอกกับเฉินผิงอันว่า มันอาจจะเกี่ยวข้องกับยันต์ไม้ท้อชิ้นนี้ของหลี่ซีเซิ่ง
หลี่ซีเซิ่งเห็นว่าเด็กหนุ่มยืนกรานดื้อดึงผิดปกติก็ให้ลังเลไปชั่วขณะ “ขอคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่?”
……
หลังจากที่หลงเฉวียนเลื่อนจากอำเภอเป็นเขตการปกครอง อำเภอหลงเฉวียนเดิมซึ่งมีชื่ออำเภอที่พิเศษเพราะได้รับใบบุญจากปราณมังกรนี้ก็เปลี่ยนชื่อใหม่ให้ฟังดูธรรมดาเป็นอำเภอไหวหวง ที่ว่าการเขตการปกครองตั้งอยู่ในภูเขาใหญ่แถบทิศเหนือ ที่ว่าการอำเภอยังคงตั้งอยู่ในเมืองเล็ก นายอำเภอคือขุนนางหนุ่มแซ่หยวนคนหนึ่ง ไม่เหมือนกับอู๋ยวนอดีตนายอำเภอที่มักจะลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง น้อยครั้งนักที่นายอำเภอหยวนจะเผยโฉมหน้า แต่ที่น่าแปลกก็คือภาระงานมากมายที่หยุดชะงักค้างคาก่อนหน้าที่เจ้าเมืองอู๋ อู๋ยวนจะได้เลื่อนตำแหน่ง ยกตัวอย่างเช่นการสร้างศาลเจ้าบุ๋นและบู๊ในที่ตั้งของภูเขาเครื่องปั้นและสุสานเทพเซียนกลับดำเนินงานไปได้อย่างเป็นระบบระเบียบ ดังนั้นหลายคนจึงรู้สึกว่าการที่อู๋ยวนผู้เป็นดั่งหมอนปักลายดอกไม้ได้เลื่อนขั้นแบบพรวดพราดเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!