หร่วนฉงเริ่มสับสนขึ้นมาบ้างแล้ว แม้จะรู้สึกร้อนตัวอยู่บ้าง แต่ก็ยังแสร้งทำท่าผ่อนคลาย พูดปากแข็งว่า “เจ้าจะชอบเจ้าเด็กนั่นได้ยังไง นี่ไม่เกี่ยวข้องกับชาติกำเนิด เพราะพ่อเองก็เป็นเด็กยากจนที่มาจากตระกูลคนจนเหมือนกัน ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก แต่หน้าตา พรสวรรค์และนิสัยแบบเฉินผิงอันนั่น พ่อไม่ชอบจริงๆ ไหนเลยจะคู่ควรกับซิ่วซิ่วของข้า”
หร่วนซิ่วร้องอ้อหนึ่งที ยืดแขนสองข้างเหยียดตรง สิบนิ้วประสานกัน มองไปยังทิศไกล “ที่แท้ท่านพ่อไม่ชอบนี่เอง”
อริยะสำนักการทหารผู้ยิ่งใหญ่เกือบจะโมโหตายเพราะประโยคนี้ของบุตรสาวตัวเอง
หร่วนฉงแข็งใจถามต่อว่า “แล้วเจ้าล่ะ ซิ่วซิ่ว?”
คำตอบของหร่วนซิ่วเห็นได้ชัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับคำถาม อีกทั้งยังบ่ายเบี่ยงเต็มที “เฉินผิงอันชอบผู้หญิงแค่คนเดียวเท่านั้น ข้ารู้ดียิ่งกว่าใคร”
ตอนที่กล่าวมาถึงตรงนี้ เด็กสาวก็ยิ้มอย่างมีความสุข
นี่ทำให้หร่วนฉงมึนงง ไม่เข้าใจว่าซิ่วซิ่วคิดอย่างไร เพราะอย่างไรซะเขาก็ไม่ใช่มารดาของหร่วนซิ่ว เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แบบนี้ เขาที่เป็นผู้ชายหยาบกระด้างคนหนึ่งไม่สะดวกจะซักไซ้ให้ถึงที่สุดจริงๆ
หร่วนซิ่วหรี่ดวงตาชุ่มชื้นด้วยประกายน้ำคู่นั้นลงพลางหัวเราะคิกคัก “ขนมกุ้ยฮวาอร่อยจริงๆ”
หร่วนฉงลุกพรวดขึ้นยืน กล่าวอย่างอัดอั้นว่า “พ่อจะไปซื้อจากเมืองเล็กมาให้เจ้า”
หร่วนซิ่วตอบอ่อนหว่าน “ดีเลยเจ้าค่ะ”
หร่วนฉงเดินไปก็โมโหไปด้วย เจ้าลูกหมาเฉินผิงอัน ทำให้ซิ่วซิ่วของข้าได้แต่จดจ้อง ไม่กล้ากินขนมมาตั้งเกินครึ่งปี!
ลูกสาวข้าผอมหมดแล้ว!
……
เรื่องที่หร่วนฉงเปิดเตาหลอมกระบี่ได้แจ้งให้พวกปีศาจและผู้ฝึกตนอิสระที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่เขตการปกครองหลงเฉวียนทราบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ พวกเขาก็ล้วนมุ่งหน้าไปที่ภูเขาทางทิศตะวันตก ส่วนเรื่องที่ว่าจะสามารถจ่ายเงินฟาดเคราะห์ เข้าไปในภูเขาสำเร็จ อาศัยโชคชะตาแห่งภูเขาและแม่น้ำต้านทานปณิธานแห่งกระบี่ที่แผ่ออกมาหลังเปิดเตาหลอมกระบี่ได้หรือไม่ ยังต้องดูว่ากองกำลังบนภูเขาเต็มใจหรือไม่ถึงจะได้ ดังนั้นภูตผีปีศาจส่วนใหญ่ที่มาตั้งรกรากอยู่ที่นี่จึงมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ปีศาจบางตนไม่เห็นสำคัญกับเรื่องนี้ ด้วยคิดว่าตบะของตนสูงล้ำมากพอ มีหรือจะตกใจไปกับการหลอมกระบี่ที่อยู่ไกลถึงริมลำคลองหลงซวี ด้วยเหตุนี้จึงดึงดันที่จะอยู่ต่อในบ้านที่ซื้อใหม่ไว้ในเมืองเล็ก เหล่าขุนนางท้องถิ่นที่มาจากที่ว่าการเขตการปกครองและที่ว่าการอำเภอต่างก็ไม่บังคับฝืนใจ เพียงแค่มอบรายชื่อของคนเหล่านั้นให้กับสายลับต้าหลีที่อยู่ในพื้นที่เท่านั้น
ความมหัศจรรย์แห่งมหามรรคานั้นอยู่ที่ว่าการหลอมกระบี่ครั้งนี้ของหร่วนฉงค่อนข้างจะแปลกประหลาด เขาป่าวประกาศว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อพวกภูตผีปีศาจเท่านั้น ผู้ฝึกลมปราณเผ่ามนุษย์กลับไม่เป็นปัญหาอะไร ต่อให้เป็นชาวบ้านร้านตลาดธรรมดาที่ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอก็ไม่มีทางได้รับคลื่นที่เหลือจากการหลอมกระบี่ของหร่วนฉง
มิน่าเล่าถึงมีคำพูดโบร่ำโบราณซึ่งกล่าวขานกันใน ‘ตีนเขา’ ของตระกูลเซียนว่า ‘ไม่ขึ้นภูเขาลูกนี้ก็ไม่ได้เสวยสุข’ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถลดปัญหายุ่งยากได้มาก ยกตัวอย่างเช่นเรื่องที่ก่อนหน้านี้ถ้ำสวรรค์หลีจูห้ามใช้คาถาอาคมทุกชนิด นับตั้งแต่อริยะฉีจิ้งชุนไปจนถึงหลี่ไหว และจากบุรพาจารย์ตระกูลหลี่ไปจนถึงผู้ฝึกลมปราณธรรมดาทุกคน อันที่จริงพวกเขาต่างก็กำลังรับโทษทัณฑ์ แต่เมื่อหันกลับมามองชาวบ้านทั่วไป พวกเขากลับไม่เป็นอะไรสักนิด
จากนั้นผู้ฝึกตนอิสระที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่ชาวบ้านของเมืองเล็กเกือบร้อยคนก็เกิดการปะทะกันหลายครั้งระหว่างที่เดินทางขึ้นเขา เพียงพูดไม่เข้าหู พวกเขาก็ลงไม้ลงมือกันถึงตาย ราชสำนักต้าหลีไม่ยื่นมือเข้าแทรกเรื่องนี้ ขอแค่สองฝ่ายเข่นฆ่ากันโดยที่ไม่ทำลายฮวงจุ้ยของภูเขา พวกเขาก็เลือกหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่ง แต่พอเป็นปีศาจขอบเขตหกตนหนึ่งที่ไม่ยอมย้ายออกจากเมืองเล็กไปทะเลาะกับขุนนางตอนเอาข่าวไปแจ้งที่ว่าการอำเภอ ระเบิดความดุร้าย หมัดเดียวก็ต่อยให้ขุนนางท่านนั้นกระอักเลือดไม่หยุด แถมยังทำร้ายเลขาฝ่ายบู๊ที่ติดตามขุนนางคนนั้นไปพร้อมกันด้วย ผลกลับกลายเป็นว่าไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็มีกระบี่บินส่งข่าวไปยังที่ว่าการแห่งใหม่ซึ่งสร้างไว้ทางทิศเหนือของภูเขาใหญ่ เจ้าเมืองอู๋ยวนจึงออกคำสั่งให้สังหารปีศาจตนนั้นทันที
ตั้งแต่ต้นจนจบ ที่ว่าการเขตการปกครองไม่ได้เรียกใช้นักพรตซึ่งเป็นบุรพาจารย์ของตระกูลใหญ่ในเมืองเล็ก ยิ่งไม่ได้เรียกใช้ปีศาจตนอื่นๆ ที่พึ่งพาอาศัยอยู่ใต้ชายคา คอยดูดซับปราณวิญญาณ แต่แค่ส่งเลขาฝ่ายบู๊สามท่านที่ขอบเขตค่อนข้างสูง บวกกับยอดทหารที่มีฝีมืออีกสองร้อยนายของต้าหลี ภายใต้การนำของขุนพลฝ่ายบู๊ท่านหนึ่ง ไปโอบล้อมบ้านที่ปีศาจตนนั้นพักอาศัยอย่างแน่นหนาจนแม้แต่น้ำก็ซึมออกไปไม่ได้ บนหลังคายังมีพลธนูที่ยิงแม่นอีกกลุ่มหนึ่งคอยง้างคันธนูคอยท่า และลูกธนูทุกดอกก็ยิ่งถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษจากที่ว่าการลับของกรมโยธาธิการ และสุดท้ายก็เปิดฉากสังหารปีศาจตนนั้นจนตายคาที่
สวี่รั่วจอมยุทธ์สำนักโม่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในทวีปแผ่นดินกลาง และหลิวอวี้ผู้ใต้บังคับบัญชาคนสนิทยืนเคียงไหล่กันอยู่บนหลังคาแห่งหนึ่งที่ห่างไปไม่ไกล พวกเขาแค่ยืนมองเฉยๆ ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย
ตอนนั้นคนที่มองการต่อสู้อยู่ไกลๆ ยังมีกองกำลังจากภายนอกที่ซื้อภูเขาไว้อีกหลายกองกำลัง
หากต้าหลีส่งนักพรตที่แข็งแกร่งคนหนึ่งออกมาบดขยี้ปีศาจที่ไม่เคารพกฎตนนั้น การโจมตีที่มีต่อพวกคนที่มาชมศึกคงน้อยกว่าภาพที่พวกเขาได้เห็นอยู่มาก ภาพที่ว่าคือภาพที่เลขาธิการฝ่ายบู๊ของต้าหลีซึ่งเป็นนักพรตจากสำนักการทหาร ร่วมมือกับเหล่าทหารที่ผ่านมาร้อยสมรภูมิรบ แต่ละคนบุกและถอยอย่างเป็นระเบียบ สังหารปีศาจที่แข็งแกร่งตนนั้นได้อย่างง่ายดาย คนสองกลุ่มที่มาจากบนภูเขาและล่างภูเขากลับร่วมมือสอดประสานกันได้อย่างไร้ช่องโหว่
นี่ต่างหากถึงจะเป็นความน่ากลัวที่แท้จริงของราชวงศ์ต้าหลี
……
ฝึกหมัดวันนี้แค่ชำระล้างจิตวิญญาณ แต่เฉินผิงอันต้องเผชิญกับหายนะรุนแรงมากกว่าเก่า
ตอนที่ถูกเด็กชายชุดเขียวแบกออกมา แขนขาเขายังชักกระตุก น้ำลายฟูมปาก ต่อให้ถูกวางลงในถังยาใบใหญ่ของชั้นล่างแล้วก็ยังมีสภาพชวนสังเวชเช่นนี้
รอจนเฉินผิงอันปีนออกมาจากถังยา เปลี่ยนมาสวมชุดใหม่สะอาดเอี่ยมก็เป็นเวลากลางดึกแล้ว เขาหิ้วกาเหล้ากานั้น พ่นลมหายใจขุ่นมัวออกมาหนึ่งที ยืดแขนบิดขี้เกียจ นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเด็กชายชุดเขียวกับเด็กหญิงชุดกระโปรงชมพู เฉินผิงอันดื่มเหล้ารสร้อนแรง แม้จะยังสำลักและคิดว่ามันไม่อร่อย แต่กลับให้ความรู้สึกที่ดีมาก ดีกว่าตอนดื่มครั้งแรก
เฉินผิงอันจิบคำเล็กๆ หรี่ตาลง รู้สึกกรึ่มๆ เล็กน้อย
เขาอาศัยรสเหล้าร้อนแรงเอ่ยถามว่า “ข้ารู้ว่าบนโลกมีน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ พวกเจ้าว่าที่ร้านผ้าห่อบุญจะมีขายหรือไม่?”
เด็กน้อยสองคนหันมามองหน้ากัน
ก่อนที่เด็กชายชุดเขียวจะถอนหายใจ “นายท่าน ไม่ใช่ว่าข้าไม่เต็มใจให้ท่านยืมเงินหรอกนะ อีกอย่างยังไม่ต้องพูดถึงว่าที่ร้านผ้าห่อบุญมีขายหรือไม่ ต่อให้มีขายจริงๆ ข้อแรก ไม่แน่เสมอไปว่านายท่านจะแย่งชิงมาได้ ข้อที่สองต่อให้ข้าเอาทรัพย์สินทั้งหมดออกมากอง ทุบหม้อขายเหล็ก ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะซื้อน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ที่ธรรมดาที่สุดใบหนึ่งได้”
เฉินผิงอันอึ้งตะลึงเล็กน้อย “แพงขนาดนั้นเลยหรือ?”
เด็กชายชุดเขียวพยักหน้าอย่างแรง “ไม่มีแพงที่สุด มีแต่แพงยิ่งกว่า! แพงจนถึงขนาดที่ว่าแม้แต่ผู้ฝึกลมปราณห้าขอบเขตกลางก็ยังรู้สึกเสียดายเงิน!”
เด็กชายชุดเขียวลุกขึ้นยืน เพิ่มระดับน้ำเสียง “เอาแค่สหายเทพวารีแม่น้ำอวี้เจียงของข้า ชีวิตนี้ความฝันยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือมือซ้ายถือน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่หนึ่งใบ มือขวาก็ถือน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่อีกหนึ่งใบ หึ เขาไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ แต่ดันต้องมาโมโหเอาเป็นเอาตายกับพวกผู้ฝึกกระบี่ที่เย่อหยิ่งเหล่านั้น ผลกลับกลายเป็นว่าป่านนี้แล้วเขาถึงเพิ่งจะมีน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ที่ระดับต่ำมากลูกหนึ่ง แน่นอนว่านี่ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขาใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายด้วย ลำพังแค่กับเทพธิดาคนนั้นก็ทำให้เขาผลาญทรัพย์สมบัติที่สะสมมาถึงสี่ห้าร้อยปี และบางคนที่ชื่นชอบเขา เขาก็ทุ่มเงินให้พวกนางด้วยเหมือนกัน เฮ้อ นารีเป็นเหตุแท้ๆ เพราะฉะนั้นถือว่านายท่านโชคดีที่ไม่มีโชคดอกท้อ (โชคด้านความรัก) อะไรกับเขา ไม่ต้องกลัดกลุ้มกับเรื่องพวกนี้”
เด็กหญิงชุดกระโปรงชมพูรีบเถียง “ไม่ถูก! พี่หญิงหร่วนชอบนายท่านของพวกเรา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!