กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 224

สรุปบท บทที่ 224.2: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 224.2 – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 224.2 ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

กระบี่จงมา – บทที่ 224.2 ชายเก่งกาจหญิงงดงาม
บทที่ 224.2 ชายเก่งกาจหญิงงดงาม
โดย
ProjectZyphon
เฉินผิงอันแข็งใจอดทนไม่ปล่อยให้ลมปราณและจิตใจของตัวเองทรุดลง จากนั้นก็ออกตามหานักฆ่าคนนั้นไปทั่วสี่ทิศ บนถนนไม่มีร่องรอยของศพ เขาจึงได้แต่กระโดดขึ้นไปบนกำแพง ค้อมตัววิ่งตะบึงไป แล้วจู่ๆ ก็หยุดวิ่ง พลิ้วกายลงไปเบื้องล่าง ตำแหน่งเบื้องล่างกำแพงที่เขากับหม่าขู่เสวียนคุมเชิงกันมีขี้เถ้าอยู่หนึ่งกอง ด้านในวางถ้วยสีขาวและไม้สีดำก้อนเล็กๆ คล้ายถ่านก้อนหนึ่ง เฉินผิงอันไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้ เพียงยืนมองนิ่งๆ อยู่ที่เดิม ริมขอบด้านนอกของถ้วยสีขาวใบเล็กมีภาพวาดของห้าขุนเขา ส่วนไม้สีดำนั้นเขามองเส้นสนกลในไม่ออก

นักฆ่าคนนี้น่าจะถูกผู้ฝึกตนสำนักการทหารผู้นั้นสังหารในเสี้ยววินาที จากนั้นก็ใช้เวทลับของภูเขาเจินอู่เผาไหม้ให้เป็นเถ้าถ่าน เพียงแต่ว่าบุรุษผู้นั้นจงใจทิ้งสมบัติสองชิ้นที่ติดตัวนักฆ่าเอาไว้ ไม่ได้ทำลายไปพร้อมกัน หรือว่านี่ก็คือการขออภัยที่เขาเอ่ยถึง? เฉินผิงอันลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่แล้วก็นั่งยองลงไป หยิบไม้สีดำที่ยาวแค่ฉื่อกว่าแต่กลับมีน้ำหนักมากขึ้นมา ท่อนไม้เล็กๆ แค่นี้กลับหนักถึงแปดเก้าจิน จากนั้นจึงหยิบถ้วยขาวใบเล็ก ใช้นิ้วหมุนถ้วยใบเล็กเบาๆ พินิจพิเคราะห์อย่างตั้งใจ ดูจากชื่อของห้าขุนเขาที่วาดไว้ในถ้วยขาว ถ้าเฉินผิงอันจำไม่ผิดน่าจะเป็นภาพห้าขุนเขาของแคว้นกู่อวี๋

อันที่จริงไม่ใช่เรื่องยากที่เฉินผิงอันจะเดาตัวตนของนักฆ่าออก มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นลูกน้องของบัณฑิตแซ่ฉู่ที่อยู่ในบ้านโบราณ จากคำพูดของเขา แม้แต่ฮ่องเต้ของแคว้นกู่อวี๋ก็ยังต้องนั่งในระดับที่เท่าเทียมกับเขา อีกทั้งก่อนตายร่างของเขายังกลายมาเป็นไม้เน่าเปื่อย เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นวิธีของการตายแทน อีกทั้งยังทิ้งคำอาฆาตเอาไว้บอกว่าจะมาจัดการกับเฉินผิงอัน ภายหลังผีชางหยางหว่างได้พูดคุยถึงเรื่องแกนไม้อวี๋ตัวเมีย รากฐานมหามรรคาของบัณฑิตแซ่ฉู่เป็นหลักการที่ง่ายมาก หนึ่งคือใช้ไม้กู่อวี๋ท่อนหนึ่งมาจำแลงกาย สองคือแกนไม้อวี๋ตัวเมียของผีสาวในบ้านโบราณ เป็นเหตุให้ภูตต้นไม้ตนนั้นใช้คำว่า ‘ตอนกิ่ง’

ในเมื่อเป็นของที่ศัตรูคู่แค้นทิ้งไว้ เฉินผิงอันจึงเก็บเอามาอย่างสบายใจ ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น เขายังบ่นด้วยว่าทำไมทรัพย์สินของนักฆ่าคนนี้ถึงได้น้อยนัก แม้แต่เงินเกล็ดหิมะไม่กี่สิบเหรียญก็ยังไม่รู้จักพกติดตัวบ้าง?

เฉินผิงอันเก็บถ้วยใบเล็กและไม้สีดำหนักอึ้งไว้ในวัตถุฟางชุ่นพร้อมกัน เขาเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ หลังจากเดินโซซัดโซเซไปได้สิบกว่าก้าวก็ค่อยๆ ทรุดตัวนั่งพิงพนังข้างต้นซิ่งลำต้นหนาใหญ่ เรียกเสื้อผ้าสะอาดชิ้นหนึ่งมาจากสืออู่กระบี่บิน บรรจงเช็ดคราบเลือดทั้งหมดทิ้ง

บอกคนอื่นว่าจะไปเข้าห้องส้วมก็คงไม่ควรกลับไปพร้อมคราบเลือดเต็มตัวกระมัง ไม่เพียงแต่ชายฉกรรจ์เคราดกและนักพรตหนุ่มจะเกิดความสงสัย เกรงว่าคนทั้งระเบียงก็คงร้องฮือฮาด้วยความตกใจ วันนี้เป็นวันที่ครึกครื้น เฉินผิงอันไม่ต้องการให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจ ยิ่งไม่อยากสร้างปัญหาให้กับหลิวเกาหวาด้วยเหตุนี้

เฉินผิงอันสามารถทนความยากลำบากและแบกรับความเจ็บปวดได้ไหว แต่ไม่ได้หมายความว่ารสชาติความรู้สึกนี้จะเป็นรสชาติที่ดี การต่อสู้เอาเป็นเอาตายในวงกลมกับหม่าขู่เสวียน อวัยวะภายในของเฉินผิงอันบาดเจ็บไม่เบา ตอนนี้เขาแค่อยากนั่งอย่างเดียว ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น การแสดงทางฝั่งของแท่นสูงกลางทะเลสาบยังไม่ปิดฉากลง เสียงไชโยโห่ร้องดังขึ้นไม่หยุด การมองเห็นถูกระเบียงหนึ่งเส้นและผู้คนที่เบียดเสียดกันบดบังเอาไว้ เฉินผิงอันอยู่ตรงนี้มองอะไรไม่เห็นทั้งนั้น เขาจึงทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้น

ต้นซิ่งที่อยู่ข้างกายของเขามีพุ่มใบดกหนา ดอกซิ่งผลิบานเต็มที่ สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดโชยเป็นระลอก

มนุษย์เราช่างแตกต่างกันยิ่งนัก

มีชาติกำเนิดจากเมืองเล็กเหมือนกัน หากเป็นเรื่องที่หม่าขู่เสวียนไม่สนใจ เขาก็จะไม่สนใจเลย ยกตัวอย่างเช่นคนอื่นด่าว่าเขาโง่ เหยียบรองเท้าของเขา แต่หากเป็นเรื่องที่หม่าขู่เสวียนให้ความสนใจ เขาจะยอมทนเห็นคนอื่นดีกว่าตัวเองไม่ได้เลยสักนิดเดียว

ส่วนหลิวเสี้ยนหยาง หากเป็นเรื่องใดที่เฉินผิงอันทำได้ดีกว่าเขา หลิวเสี้ยนหยางก็จะเลือกละทิ้งโดยตรง ยกตัวอย่างเช่นการทำธนูไม้ไผ่ วางกับดัก เป็นต้น

กู้ช่านเด็กขี้มูกยืดแห่งตรอกหนีผิง หากเห็นว่าเฉินผิงอันทำได้ดีกว่าเขา กู้ช่านก็จะแค่คอยตามก้นเฉินผิงอันต้อยๆ พึ่งพาใบบุญเขาเท่านั้น

แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้นอกจากนิสัยโดยกำเนิดแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับระดับความใกล้ชิดสนิทสนมด้วย

เฉินผิงอันปลดน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ลงมา กรอกเหล้ารสแรงเข้าปาก นี่ยิ่งทำให้ความรู้สึกร้อนลวกในช่องโพรงลมปราณยิ่งหนักข้อขึ้นไปอีก แต่เรื่องราวบนโลกก็มักจะแปลกประหลาดเช่นนี้เสมอ ทั้งๆ ที่เจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว เฉินผิงอันที่เจ็บจนแยกเขี้ยวกลับยิ่งอยากดื่มมากขึ้น เขาไม่ดื่มอึกใหญ่อีกต่อไป แต่ค่อยๆ จิบคำเล็กๆ ผีขี้เหล้าที่กระเป๋าแฟบแบน ต่อให้เหล้าจะรสชาติแย่แค่ไหนก็ยังเป็นอาหารเลิศรสได้ แล้วนับประสาอะไรกับที่ในน้ำเต้าของเฉินผิงอันคือเหล้าต้มที่เดิมทีก็รสชาติดีมากอยู่แล้ว

การต่อสู้บนถนนเส้นเล็กในวันนี้มีความอัดอั้นตันใจไม่น้อย แต่ความสะใจกลับมีมากยิ่งกว่า

แม้ว่าครั้งนี้หม่าขู่เสวียนจะยังประมาทอยู่เช่นเคย แต่ก็พอจะถือว่าคนทั้งสองสู้กันได้อย่างสูสี ทว่าแต่ไรไหนมาเฉินผิงอันก็ไม่เห็นความสำคัญของการแพ้ชนะอยู่แล้ว ก็เหมือนกับที่อาเหลียงเคยกล่าวไว้ อย่าตายเด็ดขาด ต้องมีชีวิตอยู่ก่อนถึงจะมีชีวิตที่ดีได้ เฉินผิงอันรู้สึกว่าประโยคนี้ของอาเหลียง แม้คำพูดจะหยาบ แต่เหตุผลกลับไม่หยาบ

ดังนั้นเฉินผิงอันจึงชูน้ำเต้าบรรจุสุราขึ้นสูง สูงเหนือหัว แกว่งเบาๆ จากนั้นก็อึ้งตะลึง หน้าม่อยคอตก เก็บเหล้ากลับมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก คำพูดห้าวเหิมที่เดิมทีกำลังจะหลุดออกจากปากก็ถูกกลืนกลับไปด้วย

ที่แท้เหล้าก็หมดแล้ว

เฉินผิงอันก้มหน้ารัดน้ำเต้าบรรจุเหล้าไว้ตรงเอวให้ดี จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จึงสื่อสารทางจิตกับกระบี่บินสืออู่ เพียงไม่นานในมือก็มีถุงผ้าปักลายใบหนึ่งเพิ่มขึ้นมา หลังจากเปิดออกแล้วก็เห็นว่าข้างในมีขนมดอกท้ออยู่สามชิ้น เฉินผิงอันก้มหน้าลงดม ไม่เน่าบูดเลยสักนิด วัตถุฟางชุ่นมหัศจรรย์จริงๆ ผ่านมานานขนาดนี้ ขนมยังสดใหม่พอๆ กับตอนที่เขารับมาบนภูเขาลั่วพั่วเลย

มือข้างหนึ่งของเฉินผิงอันอุ้มประคองถุง อีกมือหนึ่งคีบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้น วางใส่ปาก ขบเคี้ยวอย่างตั้งใจ เอนศีรษะพิงกำแพง เงยหน้ามองดอกซิ่งที่บานอยู่เต็มต้น

กินไปแล้วหนึ่งชิ้นก็ตัดใจกินไม่ลงอีก จึงรัดถุงผ้าอย่างระมัดระวัง

ใบหน้าของเฉินผิงอันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในใจคิดว่าขนมดอกท้อจากร้านของตัวเอง อร่อยจริงๆ!

จะยืนคุมเชิงกันต่อไปแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง เฉินผิงอันจึงหาข้ออ้าง แสร้งทำเป็นพูดอย่างเขินอายว่า “คุณชาย คุณหนู พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ามาถึงที่นี่ก่อนพวกเจ้า เพราะเพิ่งเคยเข้ามาในจวนนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน ก็เลย…”

คิดไม่ถึงว่าบุรุษคนนั้นจะตวาดกร้าวเสียงดัง “เจ้าอันธพาล โจรเด็ดบุปผา ยังไม่รีบรัดสายคาดเอวให้ดีอีก เจ้าคิดจะทำอะไร ขยะแขยงตัวเองบ้างหรือไม่ ไม่นึกเลยว่าบนโลกจะมีคนที่ถูกความหื่นกระหายบดบังจิตใจได้อย่างเจ้า!”

ขณะเดียวกันนั้นเขายังไม่ลืมหันไปปลอบใจสตรีด้านหลังที่ใบหน้างดงามเผือดสี “แม่นางหลิว เจ้าคอยหลบอยู่ด้านหลังข้าก็พอ อย่ามองเจ้าคนผู้นี้ให้เสียสายตาเลย”

สุดท้ายบุรุษคนนั้นแอบหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้เฉินผิงอัน สีหน้านั้นเต็มไปด้วยความลำพองใจ มองดูกวนโอ๊ยน่าเตะ คล้ายเขียนประโยคว่า ‘วันนี้ข้าผู้อาวุโสจะเป็นวีรบุรุษที่ช่วยเหลือสาวงาม จะได้ฉวยโอกาสนี้จับนังผู้หญิงคนนี้กินซะเลย แน่จริงไอ้หนูเจ้าก็จัดการข้าให้ได้สิ!’ แปะติดไว้เต็มใบหน้า

เฉินผิงอันมองเขา

เป็นบุรุษหนุ่มที่หล่อเหลาอย่างยิ่ง เรือนกายสูงเพรียว ใบหน้าราวหยกสลัก เป็นต้นฉบับของบัณฑิตหนุ่มผู้อ่อนแอ มิน่าเล่าชายฉกรรจ์เคราดกถึงมักจะบ่นอยู่เป็นประจำว่าพวกบัณฑิตไม่มีใครดีสักคนเดียว คุณหนูจากตระกูลน้อยใหญ่ทั้งหลายใต้หล้าแห่งนี้ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละที่ตาไม่บอด คนส่วนใหญ่ล้วนตาบอดมองข้ามเขาผู้แซ่สวีไปหันไปชอบบัณฑิตที่เป็นเหมือนคนขี้โรคพวกนั้นแทน

จากนั้นเฉินผิงอันก็เดินออกไปหนึ่งก้าว มาหยุดอยู่ตรงหน้าบัณฑิตคนนั้นแล้วยกมือตบฉาด ทำเอาเขาล้มคว่ำลงพื้น หมดสติไปในบัดดล

หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กับที่ นางอ้าปากค้าง สีหน้าอึ้งงัน คิดจะหวีดร้องแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่ข่มกลั้นไว้อย่างยากลำบาก กลัวว่าคนชั่วที่ลงมือทำร้ายคนผู้นี้จะฆ่าตนไปพร้อมกันด้วย ถึงเวลานั้นตนกับคนรักหลิ่วหลางที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานจะไม่กลายเป็นคู่ยวนยางที่ตายคู่หรอกหรือ? ทว่าในตำราที่กล่าวถึงชายเก่งกาจหญิงงดงามก็แค่บรรยายไว้ว่า อุปสรรคมากมายที่คู่รักพบเจอมีแค่พ่อแม่คัดค้าน ชีวิตติดขัดไม่ราบรื่น แต่สุดท้ายเมื่อความขมขื่นผ่านพ้น ความหวานชื่นก็ต้องมาเยือน ได้ครองรักกันอย่างมีความสุขไม่ใช่หรือไง? ไม่มีหนังสือเล่มไหนที่เขียนว่าบัณฑิตและสาวงามถูกโจรฆ่าตายเลยนี่นา

เฉินผิงอันก้าวยาวๆ จากไป ยักไหล่ขยับกล่องกระบี่ให้เข้าที่ ไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามอง

———————

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!