กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 247

กระบี่จงมา – บทที่ 247.2 ในความวุ่นวาย ได้พบวิญญูชน
บทที่ 247.2 ในความวุ่นวาย ได้พบวิญญูชน
โดย
ProjectZyphon
เมืองใหญ่เขตการปกครอง ในเรือนที่เงียบสงบไม่สะดุดตาหลังหนึ่งมีแขกสูงศักดิ์ของเมืองหลวงมาพักอยู่ที่นี่ แม้ว่าเรือนหลังนี้จะไม่หรูหราใหญ่โต แต่ก็สะอาดสะอ้าน ของตกแต่งทุกชิ้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเรียบง่ายสง่างามอย่างบ้านเรือนของปัญญาชนผู้มีความรู้ อีกทั้งยังเงียบสงบทั้งๆ ที่อยู่ในพื้นที่จอแจ เห็นได้ชัดว่าผู้สร้างทุ่มเทแรงกายแรงใจไปไม่น้อย

มีสตรีแต่งงานแล้วที่ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติและมั่งคั่งยืนอยู่ในลานบ้าน แม้ว่าอายุจะไม่น้อยแล้ว แต่กลับดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี ความงดงามจึงยังคงอยู่ หากไม่ตั้งใจเพ่งมองริ้วรอยเล็กๆ ตรงหางตา นางก็คล้ายสตรีวัยสามสิบเท่านั้น เวลานี้นางกำลังก้มตัวโยนอาหารเลี้ยงปลาในอ่างขนาดใหญ่ ด้านในอ่างเลี้ยงปลาทองตัวเล็กสิบกว่าตัว นอกจากนี้ยังมีดอกบัวสีเขียวปลั่งราวกับจะเค้นน้ำได้อีกหลายดอก สีทองและเขียวขับดันกันได้อย่างน่ามอง

นอกจากสตรีจากเมืองหลวงที่มีท่าทางสูงศักดิ์คนนี้ ในลานบ้านยังมีสาวใช้พกดาบร่างกายล่ำสันอีกคนหนึ่ง นอกจากนี้ก็ไม่มีคนอื่นอีก

ทว่าตรอกซอกซอยรอบบ้านกลับมีกลไกลับแฝงไว้ ไม่เพียงแต่มีทหารกล้ามือดีของกองทัพให้การอารักขา ยังมียอดฝีมือวิถีวรยุทธ์อีกหลายคนแฝงตัวปะปนอยู่กับหมู่ชาวบ้าน มือปราบมากความสามารถประสบการณ์โชกโชนของที่ว่าการมณฑลหลายนายก็คอยให้การพิทักษ์อย่างลับๆ แขกจากเมืองหลวงท่านนี้ย่อมต้องมีภูมิหลังไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

แต่ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนานี้ สาวใช้พกดาบที่ร่างกำยำดุจบุรุษกลับล้มลงนอนพังพาบอยู่บนพื้นอย่างไม่มีลางบอกเหตุ ด้านหลังของสาวใช้มีคุณชายหน้าตาหล่อเหลาในมือถือพัดคนหนึ่งปรากฏกาย เขาโบกพัดเอาลมเย็นๆ มาให้ตัวเองจนเส้นผมตรงจอนปลิวไสวเบาๆ เขายิ้มมองไปยังสตรีแต่งงานแล้วที่ยังคงค้อมตัวให้อาหารปลา ส่วนเว้าส่วนโค้งที่อวบอิ่มของนางปรากฎให้เห็นชัดเจน คุณชายหนุ่มรู้สึกเพียงว่าทัศนียภาพในเวลานี้งดงามจนไม่อยากละสายตา ไม่เสียแรงที่เดินทางมาในครั้งนี้

สตรีแต่งงานแล้วยืดตัวขึ้น หันหน้ามามองคนหนุ่มผู้นี้เงียบๆ

คนหนุ่มยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ฮูหยิน ก่อนหน้านี้พวกเราเคยพบกันที่เมืองหลวงมาแล้ว”

สีหน้าของสตรีเยือกเย็น เอ่ยเยาะหยัน “ลูกหลานสกุลหานภูเขาเสี่ยวฉงมีความกล้ามากพอจะงัดข้อกับแม่ทัพใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

คุณชายหนุ่มหุบพัดลง ยกสองมือขึ้นปิดหน้า ก่อนจะค่อยๆ ลดมือลงช้าๆ สุดท้ายเผยให้เห็นใบหน้าที่สตรีแต่งงานแล้วคุ้นเคยอย่างถึงที่สุด คนหนุ่มเอ่ยกลั้วหัวเราะด้วยเสียงที่สตรีแต่งงานแล้วคุ้นหู “แล้วตอนนี้ล่ะ? ฮูหยินคนดีของข้า?”

ก่อนหน้าที่สตรีแต่งงานแล้วจะแผดเสียงด้วยความตกใจ หานหยวนซ่านลูกหลานสกุลหานภูเขาเสี่ยวฉงก็ยกนิ้วข้างหนึ่งขึ้นมา ทำเสียงชู่ว์เบาๆ “ฮูหยินโปรดวางใจ ข้าหานหยวนซ่านแค่ชอบขโมยใจ ไม่เคยขโมยร่างกายของสตรีคนใด แต่เชื่อว่าสักวันหนึ่งฮูหยินจะยินดีสนิทสนมใกล้ชิดกับข้า…”

หานหยวนซ่านที่เผยโฉมด้วยใบหน้าของฉู่หาวชี้ไปยังอ่างปลา หยุดพูดไปครู่หนึ่งก็เอ่ยต่อว่า “คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เข้ากันได้ดีดุจปลากับน้ำ”

……

เมืองแยนจือแคว้นไฉ่อีมีปัญญาชนลัทธิขงจื๊อสูงวัย ตรงเอวห้อยหยกประดับชิ้นหนึ่งยืนอยู่บนกำแพงเมืองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เมืองหลวงแคว้นไฉ่อี ห้องทรงพระอักษรในวังหลวงก็มีปัญญาชนลัทธิขงจื๊อวัยเจ็ดสิบปีคนหนึ่งยืนสองมือไพล่หลัง ตรงเอวเขาก็พกหยกประดับเช่นกัน ผู้เฒ่ายืนอยู่ตรงหน้าต่างไม่พูดไม่จา ฮ่องเต้แคว้นไฉ่อียืนตัวสั่นงันงกอยู่ข้างกาย แม้แต่จะนั่งก็ยังไม่กล้านั่ง

แคว้นกู่อวี๋ ยังคงเป็นปัญญาชนลัทธิขงจื๊อสวมเสื้อสีเขียวคนหนึ่ง คนผู้นี้อายุสามสิบปี ตรงเอวก็ห้อยหยกประดับลักษณะเดียวกันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เขานั่งอยู่ในรถม้าหยาบๆ คันหนึ่งที่เช่ามากับสารถีร่างกายบึกบึนคนหนึ่งที่บ่นโน่นตินี่มาตลอดทาง ขณะที่อยู่บนถนนทางหลวงห่างจากแคว้นกู่อวี๋อีกยี่สิบลี้ สารถีก็ตกใจจนพูดไม่ออก เขาที่สายตาไม่เลวมองเห็นว่าตรงนั้นมีทหารม้านับพันนับหมื่นยืนออ มีขุนนางใหญ่สวมชุดขุนนางกลุ่มใหญ่ และดูเหมือนว่าจะมีบุรุษที่สวมชุดคลุมสีเหลืองอีกคนหนึ่งที่ยืนกุมมืออยู่ข้างจุดพักม้า คล้ายกำลังรอคอยใคร?

บัณฑิตที่อยู่ในห้องโดยสารวางตำราในมือลง พูดกับสารถีว่า “ไปถึงจุดพักม้าแล้วค่อยจอดรถ วางใจเถอะ พวกเขามารอข้า นอกจากเงินที่จ่ายไปก่อนหน้านี้ รางวัลที่ราชสำนักกู่อวี๋มอบให้เจ้าเป็นการส่วนตัวก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดของข้าแล้วกัน”

กล่าวจบ บัณฑิตวัยกลางคนก็เก็บตำราพลางกล่าวยิ้มๆ ไปด้วยว่า “กว่าจะได้ออกมาครั้งหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย มาถึงแคว้นกู่อวี๋แล้ว เจ้าก็อย่าโมโหเจ้าขุนเขาของพวกเราอีกเลย”

ส่วนที่หมู่บ้านวารีกระบี่ พิธีแต่งตั้งผู้นำยุทธภพกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ในห้องโถงใหญ่ขาดใบหน้าคุ้นตาที่เคยปรากฎตัวก่อนหน้านี้ไปสองสามคน แต่ก็มีบุคคลยิ่งใหญ่ที่ชื่อเสียงเลื่องลือในยุทธภพเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน สองสายขาวดำล้วนมาครบหมด คนดังในยุทธภพเกินครึ่งล้วนมาอยู่ที่นี่

ซ่งเฟิ่งซานนั่งอยู่บนตำแหน่งประธานสูงสุด มองบุคคลเหล่านี้ด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างจะเฉยชา

ในบรรดาบุคคลเหล่านี้ล้วนไม่ขาดคนที่คิดสวามิภักดิ์เพราะถูกรสนิยมกัน ไม่ขาดคนหน้าเนื้อใจเสือที่อำพรางแผนชั่วร้ายไว้ในใจ มีทั้งคนที่คิดมาตรวจสอบสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยลงเดิมพัน แล้วก็มีคนในราชสำนักที่คิดว่ากำลังดูเรื่องตลกที่ใหญ่เทียมฟ้า

ห่างจากข้างกายซ่งเฟิ่งซานไปไม่ไกลมีภรรยาของเขานั่งอยู่ วันนี้นางแต่งกายเต็มยศ รูปโฉมและบุคลิกที่สง่างามนั้นไม่แพ้สตรีสูงศักดิ์ในวังคนใดเลย

ซ่งเฟิ่งซานมั่นใจในแผนการของตัวเอง บางคนที่อยู่เบื้องล่างก็ย่อมต้องคิดว่าตัวเองกุมชัยชนะได้อย่างมั่นคงไม่ต่างกัน

แต่ทั้งสองฝ่ายล้วนคิดไม่ถึงว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งมาทำลายแผนการที่พวกเขาต่างก็ทุ่มเทกายใจขบคิดกันมานานหลายปีนี้ลง

ไม่มีคนเฝ้าประตูมารายงาน ยิ่งไม่มีลูกศิษย์ของหมู่บ้านวารีกระบี่ลงมือขัดขวาง พอเห็นบุคคลที่มาเยือนซึ่งแนะนำชื่อแซ่ตัวเองเสร็จสรรพผู้นี้ เกือบทุกคนต่างก็ประสานมือคารวะตามแบบพิธีการของลัทธิขงจื๊อตามจิตใต้สำนึกทันที

ผู้มาเยือนคนนั้นคือชายหนุ่มสวมชุดและหมวกผ้าของลัทธิขงจื๊อ ตรงเอวก็มีหยกประดับชิ้นหนึ่งห้อยอยู่ เขาก้าวเดินด้วยฝีเท้าและจังหวะบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของหมู่บ้านวารีกระบี่ซึ่งมีกลุ่มคนจำนวนมากมารวมตัวกันอย่างไม่รีบไม่ร้อน หลังจากข้ามธรณีประตูมาแล้ว เขาก็กวาดตามองไปรอบด้าน แล้วแนะนำตัวเองอีกครั้ง “นักปราชญ์โจวจวี่แห่งสำนักศึกษากวานหู”

แทบทุกคนในห้องโถงใหญ่ต่างก็ลุกพรวดขึ้นยืน ประสานมือคารวะคนผู้นี้

คนหนุ่มคารวะกลับคืน หลังจากนั้นก็เดินขึ้นหน้าไปสองสามก้าว มองไปยังนายน้อยท่านผู้นำของหมู่บ้านวารีกระบี่

ซ่งเฟิ่งซานสีหน้ามืดทะมึน สตรีสาวที่นั่งอยู่ใกล้กับเขาใช้สายตาบอกเป็นนัยไม่ให้เขาบุ่มบ่าม

นักปราชญ์หนุ่มสำนักศึกษากวานหูกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “หานหยวนซ่านลูกหลานสกุลหานภูเขาเสี่ยวฉงอยู่หรือไม่?”

ซ่งเฟิ่งซานข่มกลั้นโทสะที่อยู่ในใจลง กระตุกมุมปาก ตอบเนิบช้า “บังเอิญจริง เมื่อวานหานหยวนซ่านยังอยู่ในหมู่บ้าน แต่วันนี้กลับไม่อยู่แล้ว เขาบอกว่าเกิดความสนใจกะทันหัน เลยออกเดินทางไปเที่ยวชมแม่น้ำภูเขาแล้ว ไม่ทราบว่าอาจารย์แห่งสำนักศึกษาท่านนี้มาหาเขาด้วยธุระใด? หากไม่รีบร้อน ข้าสามารถช่วยนำความไปบอกแก่เขาได้”

นักปราชญ์หนุ่มคลี่ยิ้ม “หานหยวนซ่านคือจิ้นซื่อ (บัณฑิตขั้นสูง ซึ่งถือได้ว่ามีระดับเทียบเท่าปริญญาเอกในปัจจุบัน เป็นคุณวุฒิที่ปัญญาชนจำนวนมากในสมัยนั้นมักแสวงหาและใฝ่ฝัน ถ้าสอบได้เป็นจิ้นซื่อ จะมีโอกาสได้รับตำแหน่งขุนนางระดับสูง ดังนั้นการสอบระดับจิ้นซื่อจึงยากที่สุด ) ของแคว้นซูสุ่ย ถือเป็นลูกศิษย์ในลัทธิขงจื๊อเราแล้ว แต่กลับฝึกวิชามาร มีเจตนาร้ายแอบแฝง เป็นภัยต่อแคว้นและบ้านเมือง ข้าต้องการพาตัวเขาไปรับโทษที่สำนักศึกษากวานหู ส่วนจะจัดการอย่างไร เมื่อไปถึงสำนักศึกษา ย่อมมีข้อสรุปเอง ซ่งเฟิ่งซาน ข้าไม่ใช้สถานะของนักปราชญ์แห่งสำนักศึกษา แต่จะใช้ความเป็นโจวจวี่ของข้าแนะนำเจ้าสักคำ ดึงบังเหียนม้ากลับเมื่อถึงหน้าผายังไม่สาย วัวหายล้อมคอกก็ยังไม่ถือว่าช้าเกินกาล”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!