กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 258

กระบี่จงมา – บทที่ 258.2
บทที่ 258.2 ยอดบนสุดของเกาะกุ้ยฮวา
โดย
ProjectZyphon
เจิ้งต้าเฟิงมองเห็นว่าบนเสาต้นใหญ่ที่สูงเทียมฟ้าต้นหนึ่งของประตูสวรรค์ มีแม่ทัพเทพที่มองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน ห่มเสื้อเกราะสง่างามเคร่งขรึมลักษณะคล้ายน้ำค้างแข็งอยู่คนหนึ่ง แม่ทัพเทพถูกกระบี่เล่มหนึ่งปักตรึงอยู่บนเสาประตูสวรรค์ เลือดสดสีทองอร่ามไหลนองอาบเสา

ตอนนั้นเจิ้งต้าเฟิงเงยหน้ามองศพที่ตายอนาถศพนั้น

มีอยู่ชั่ววินาทีหนึ่งที่คล้ายว่าศพของแม่ทัพเทพจะฟื้นคืนชีพกลับมา ประสานสายตากับเจิ้งต้าเฟิง ริมฝีปากของแม่ทัพเทพขยับเบาๆ ราวกับกำลังพูดคำหนึ่งว่า

หนีไป!

ตอนนั้นเจิ้งต้าเฟิงเกือบจะขวัญสลาย จิตวิญญาณแตกดับ และยิ่งเกือบจะกลายเป็นคนน่าสงสารที่เพิ่งจะฝ่าทะลุขอบเขต ขอบเขตก็ถอยร่นตกต่ำ

ตอนนั้นการปรากฏตัวของฝูฉีช่วยให้เจิ้งต้าเฟิงหลุดพ้นพันธนาการนั้นมาได้ และคำถามของเฉินผิงอันในเวลานี้ก็ทำลายความคิดของเจิ้งต้าเฟิงลง

“เจิ้งต้าเฟิง ขอบเขตสามของข้าปูรากฐานมาได้ด้วยหมัดของคนอื่นที่ต่อยข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ในเมื่อรากฐานของฟ่านเอ้อร์ไม่ถือว่าดีนัก ทำไมเจ้าถึงไม่ช่วยเขา?”

เจิ้งต้าเฟิงจ้องเป๋งไปยังเจ้าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแล้วหลุดหัวเราะ “เจ้ารู้สึกว่ารากฐานขอบเขตสามของฟ่านเอ้อร์ ‘ไม่ถือว่าดีนัก’?”

เฉินผิงอันขมวดคิ้ว “หรือว่าแท้จริงแล้วคือ ‘ไม่ดีอย่างมาก’?”

เจิ้งต้าเฟิงเกือบจะสำลักควันตาย พูดกลั้วหัวเราะเสียงดังว่า “ไม่ดีกะผีน่ะสิ! ไม่พูดถึงข้าเจิ้งต้าเฟิง ศิษย์พี่รองหลี่เอ้อร์ แน่นอนว่ายังมีอ๋องเจ้าแคว้นอย่างซ่งจ่างจิ้งนั่นอีกคน หากพูดตามมาตรฐานทั่วไปของผู้ฝึกยุทธ์ในแจกันสมบัติทวีป รากฐานของฟ่านเอ้อร์ตั้งแต่ขอบเขตหนึ่งถึงขอบเขตสามล้วนปูมาดีมากพอแล้ว อีกอย่างเดิมทีฟ่านเอ้อร์เองก็เป็นผู้มีพรสวรรค์ในการฝึกวรยุทธ์ แต่เจ้ากลับพูดว่าไม่ถือว่าดีนัก? ถ้าอย่างนั้นผู้ฝึกยุทธ์เต็มตัวในแจกันสมบัติทวีปก็ควรเอาก้อนเต้าหู้มาทุบหัวตัวเองให้ตาย หรือจะใช้สายรัดเอวของพวกผู้หญิงมาแขวนคอตายก็ได้”

เฉินผิงอันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มักจะรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่กำลังผลักภาระความรับผิดชอบ วันๆ เอาแต่หยอกเย้าพวกสตรีในร้านยา ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับฟ่านเอ้อร์สักเท่าไหร่

เจิ้งต้าเฟิงยิ้มตาหยีพูดว่า “ตอนนี้ยังต้องเพิ่มเจ้าไปอีกคน หากข้าจำไม่ผิดล่ะก็ ตอนนั้นรากฐานขอบเขตสามของหลี่เอ้อร์อาจจะด้อยกว่าเจ้านิดหน่อยด้วย แต่เจ้าก็อย่าเพิ่งรีบดีใจเร็วเกินไปนัก เจ้าก็แค่ได้ดิบได้ดีในขอบเขตสามเท่านั้น รากฐานขอบเขตเก้าของหลี่เอ้อร์เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก ขอบเขตแปดของข้าก็พอๆ กัน แปลกใจจริง ใครกันที่มีความสามารถยิ่งใหญ่ถึงขนาดใช้หมัดปูรากฐานขอบเขตสามของเจ้าได้ดีขนาดนี้? ท่านผู้เฒ่าคงไม่ได้เรียกหลี่เอ้อร์กลับมาที่ถ้ำสวรรค์หลีจูเพื่อให้เขาสอนเจ้าเองกับมือหรอกกระมัง?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “เป็นคนอื่น”

คราวนี้เจิ้งต้าเฟิงอยากรู้จริงๆ ยาก็ไม่สูบอีกต่อไป “คนผู้นั้นหล่อหลอมร่างกายและจิตใจให้เจ้าอย่างไรกันแน่?”

เฉินผิงอันนิ่วหน้าเล็กน้อย เพียงแค่นึกถึงสภาพการณ์ที่ตัวเองต้องเผชิญในเรือนไม้ไผ่บนภูเขาลั่วพั่วก็รู้สึกใจคอไม่ดี

เจิ้งต้าเฟิงพูดยิ้มๆ ว่า “แค่เล่าให้ฟังคร่าวๆ ก็พอ หากเจ้ายอมเล่า นอกจากการตกลงซื้อขายก่อนหน้านี้ ข้ายังจะมอบตำรากระบี่วิถีวรยุทธ์ที่เป็นขั้นพื้นฐานสุด แต่ถูกขนานนามให้เป็นตำราที่ ‘ไม่มีข้อผิดพลาดมากที่สุด’ ให้กับเจ้าอีกหนึ่งเล่ม ตอนนั้นท่านผู้เฒ่าซื้อมาจากเทพหยินตนหนึ่งที่ตอนมีชีวิตอยู่เคยเป็นผู้ฝึกกระบี่ ข้ากับหลี่เอ้อร์ และหลี่หลิ่วสามคนต่างก็เคยศึกษากันมาก่อน เพียงแต่ว่ามันไม่มีความหมายกับข้าเลย หลักๆ แล้วท่านผู้เฒ่าซื้อมาเพื่อให้หลี่หลิ่วมากกว่า และสำหรับเจ้าเฉินผิงอันก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะมีประโยชน์”

เฉินผิงอันคิดแล้วก็พูดว่า “การหล่อหลอมเรือนกายและจิตวิญญาณของข้าไม่ต่างอะไรจากทุบข้าวเหนียวปั้นเป็นขนมหมาฉือ (ขนมโมจิ) ง่ายๆ แค่นี้แหละ จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจเจ้า เพียงแต่ว่าหลังจากนั้นข้ายังต้องทำอะไรบางอย่าง…”

กล่าวมาถึงตรงนี้ เฉินผิงอันก็ประกบสองนิ้วเข้าด้วยกัน แล้วชี้ไปยังแขนของตัวเอง “ข้าต้องเลาะหนัง ดึงเส้นเอ็นของตัวเองออกมาทีละชุ่นช้าๆ ดวงตาก็ห้ามกะพริบ ห้ามถลกหนังให้หมดในคราวเดียว แล้วก็ห้ามดึงเส้นเอ็นให้ขาด ทุกครั้งจะต้องมีคนคอยบอกว่าสามารถหยุดได้ตอนไหน หลังจากนั้นก็จะถูกคนแบกไปแช่ในถังยา เพื่อที่ว่าบาดแผลจะประสานตัวหายดีโดยเร็ว”

เจิ้งต้าเฟิงเอ่ยถาม “รวมแล้วกี่ครั้ง? หนึ่งสองครั้ง? สามสี่ครั้ง?”

เฉินผิงอันแสยะยิ้ม “ต้องทำทุกวัน สองมือก็นับไม่พอ”

เจิ้งต้าเฟิงทำหน้าเหลือเชื่อก่อน จากนั้นก็กุมท้องหัวเราะก๊าก “ดีๆๆ เห็นแก่ที่เจ้าต้องลำบากทนทรมานมามากขนาดนี้ พอข้าผู้อาวุโสนึกถึงแล้วก็ให้อารมณ์ดียิ่งนัก เดี๋ยวกลับไปข้าจะจัดระเบียบรวบรวมตำรากระบี่เล่มนั้นให้ดี รับรองว่าจะไม่เล่นตุกติกใดๆ จะมอบให้เจ้าอย่างสมบูรณ์แบบทั้งเล่มเลย!”

เฉินผิงอันเหลือกตามองสูงใส่

คนผู้นี้นี่น่าเบื่อชะมัด

แต่พอคิดแล้วก็เข้าใจได้ ถ้าไม่น่าเบื่อจริง จะมาเปิดร้านยาที่วันๆ ไม่มีรายได้มีแต่รายจ่ายอย่างนี้ได้ยังไง?

เจิ้งต้าเฟิงหัวเราะอยู่พักใหญ่ กว่าจะหยุดเสียงหัวเราะได้ไม่ใช่เรื่องง่าย “รากฐานที่มีมาตั้งแต่เกิดของฟ่านเอ้อร์ไม่ได้แย่ไปกว่าเจ้า แต่ในเรื่องของสภาพจิตใจ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคุณชายน้อยตระกูลใหญ่ ผ่านการขัดเกลามาน้อย ดังนั้นรากฐานวิถีวรยุทธ์ตลอดทั้งร่างที่ไม่ว่าจะเป็นจิตวิญญาณหรือเนื้อหนังมังสา เมื่อเทียบกับพวกเราแล้วก็ยังถือว่าแข็งนอกอ่อนใน ไม่สามารถทนรับการทรมานอย่างที่เจ้าเผชิญมาได้ หากเจอเข้าจริงคงแตกสลายได้ง่าย”

เจิ้งต้าเฟิงใช้สองนิ้วคีบจอกสุราที่อยู่บนโต๊ะ จอกใบนั้นแหลกสลายกลายเป็นผุยผงในทันที

เจิ้งต้าเฟิงพูดเรียบๆ ว่า “วิถีวรยุทธ์สำคัญกว่า หรือว่าชีวิตสำคัญกว่า?”

เฉินผิงอันเริ่มเก็บชามและตะเกียบ

อารมณ์ของเจิ้งต้าเฟิงหนักอึ้งขึ้นมาทันที

เพราะเขาเพิ่งค้นพบว่า เรื่องที่เครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตของเฉินผิงอันถูกทุบแตก น้ำบ่อนั้นลึกมาก ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งยิ่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้

พอเห็นท่าทางที่เก็บถ้วยชามอย่างคล่องแคล่วของเฉินผิงอัน จู่ๆ เจิ้งต้าเฟิงก็รู้สึกสงสารเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!