กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 278

กระบี่จงมา – บทที่ 278.1 สามศึกของขอบเขตสี่สองคนบนหัวกำแพงเมือง
บทที่ 278.1 สามศึกของขอบเขตสี่สองคนบนหัวกำแพงเมือง
โดย
ProjectZyphon
สิ่งของวางเต็มบนโต๊ะ มองแล้วละลานตา

นี่เป็นทั้งผลเก็บเกี่ยวของเฉินผิงอัน แล้วก็เป็นทั้งยุทธภพของเขา

หินดีงูชั้นเยี่ยมหนึ่งก้อน เฮ้อเสี่ยวเหลียงนักพรตหญิงแห่งสำนักโองการเทพคืนให้เฉินผิงอันตอนอยู่บนเรือคุน และยังมีหินดีงูธรรมดาอีกส่วนหนึ่งที่สีซีดแล้ว

หัวใจบุ๋นสีทองที่เสิ่นเวินเทพอภิบาลเมืองแคว้นไฉ่อีมอบให้ นอกจากนี้ด้านข้างยังวางเศษชิ้นส่วนร่างทองสีเงินและสีทองไว้อีกกองเล็กๆ เศษชิ้นส่วนสีเงินของขุนนางผู้ช่วยฝ่ายบุ๋นและบู๊ แล้วก็มีเศษร่างทองของเทพภูเขาเถื่อนของเมืองแยนจือ

ตราประทับชิ้นหนึ่งที่มาจากฝีมือเทียนซือใหญ่รุ่นหนึ่งของภูเขามังกรพยัคฆ์ ตามคำบอกของเสิ่นเวิน จำเป็นต้องใช้คู่กับวิชาห้าอสนีของลัทธิเต๋าถึงจะสามารถสำแดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ แต่ที่ทำให้เฉินผิงอันจดจำได้แม่นยำที่สุดก็ยังคงเป็นประโยค ‘มีเพียงผู้มีคุณธรรมถึงจะได้ครอบครอง’

เหรียญทองแดงที่กองกันเป็นภูเขาลูกย่อม เงินฝนธัญพืช เงินร้อนน้อย เงินเกล็ดหิมะ

แผ่นไม้ไผ่เล็กๆ หนึ่งกอง มีทั้งที่มาจากไม้ไผ่ธรรมดา แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไม้ไผ่จากภูเขาชิงเสินที่เหลือมาจากตอนเว่ยป้อสร้างเรือนไม้ไผ่ ด้านบนสลักคำเตือนหรือไม่ก็คำกลอนที่ไพเราะไว้จนเต็ม มีวลีจากอริยะปราชญ์ที่ชุยฉานท่องออกมาเวลาฝึกหมัดกับเขา มีตัวอักษรยันต์ที่หลี่ซีเซิ่งเขียนไว้นอกผนังของเรือนไม้ไผ่ มีที่เฉินผิงอันคัดลอกมาจากบันทึกแห่งภูเขาและแม่น้ำ มีคำพูดที่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจซึ่งได้ยินมาจากเรื่องเล่าในยุทธภพ…

มีถ้วยไก่ชนหนึ่งใบที่ซื้อมาจากท่าเรือแคว้นซูสุ่ย ไม่มีมูลค่าอะไร แต่นี่คือค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่เฉินผิงอันยอมควักเงินจ่ายอย่างที่หาได้ยาก

หนวดมังกรสีทองสองเส้นที่ผู้ฝึกกระบี่จั่วโย่วมอบให้ รวมถึงชุดคลุมอาคมสีทองชุดหนึ่งที่เจียวเฒ่าตัวการหายนะทิ้งไว้หลังจากตายไป และไข่มุกเก่าแก่ที่เหมือนยาสีเหลืองหนึ่งเม็ด

อ่างล้างพู่กันกระเบื้องขาวหนึ่งใบ ได้มาจากฮูหยินอสรพิษนักฆ่าจากแคว้นกู่อวี๋ สุดท้ายไม่ได้ขายไปตอนอยู่หอชิงฝูก็เพราะเฉินผิงอันชอบตัวอักษรเป็นวงที่มีชีวิตชีวาพวกนั้น

‘คัมภีร์เวทกระบี่ที่แท้จริง’ หนึ่งเล่ม ป้ายหยกที่เป็นวัตถุจื่อฉื่อหนึ่งแผ่น ล้วนเป็นเจิ้งต้าเฟิงที่อยู่นครมังกรเฒ่ามอบให้

คัมภีร์ลัทธิขงจื๊อหนึ่งเล่มที่ซิ่วไฉเฒ่าเหวินเซิ่งมอบให้ บันทึกภูเขาและแม่น้ำและผลงานวรรณกรรมที่ได้มาจากจวนเจ้าเมืองแยนจืออีกหลายเล่ม

ตราประทับชิ้นหนึ่งที่สลักคำว่า ‘สงบใจสมปรารถนา’

ตราประทับแม่น้ำหนึ่งชิ้นที่ไม่มีตราประทับภูเขาเคียงคู่ ซึ่งดูโดดเดี่ยวอย่างเห็นได้ชัด

มันถูกเฉินผิงอันวางไว้ใกล้มือมากที่สุด

แน่นอนว่ายังมีตำราหมัดเขย่าขุนเขาที่อยู่กับเฉินผิงอันมานานที่สุด

หนิงเหยาพลิกๆ หยิบๆ สำรวจไปทีละชิ้น สุดท้ายถึงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ให้ข้าทั้งหมดเลยหรือ? ไม่คิดจะเก็บไว้เป็นเงินส่วนตัวหน่อยรึ?”

ในใจหนิงเหยาหงุดหงิดตัวเองเล็กน้อย

แค่เงินส่วนตัวจะนับเป็นอะไรได้ วันหน้าเวลาพูดคุยกับเฉินผิงอันจะใจจืดใจดำแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว

จำไว้ว่านี่ไม่ใช่การฝึกตนบนวิถีกระบี่

เห็นได้ชัดว่าเฉินผิงอันสัมผัสไม่ได้ถึงความนัยลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของหนิงเหยา เขาชี้ไปที่ของหลายชิ้นแล้วพูดด้วยสีหน้าขึงขังว่า “ตำราหมัดเขย่าขุนเขาเล่มนี้ เจ้าก็รู้ว่าไม่ใช่ของข้า ข้าแค่ช่วยเก็บรักษาไว้ให้กู้ช่านเท่านั้น ตราประทับที่อาจารย์ฉีมอบให้ข้าก็ไม่ได้เหมือนกัน และยังมีตราประทับเทียนซือของเทพอภิบาลเมืองชิ้นนั้นที่ข้าคิดว่ามอบให้เจ้าคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ของชิ้นอื่นๆ หากเจ้าต้องการก็เอาไปเถอะ”

หนิงเหยาเบ้ปาก “ไม่เห็นจะอยากได้ เจ้าเก็บไว้เถอะ”

เฉินผิงอันตบศีรษะตัวเอง ปลดน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ ‘เจียงหู’ ที่อยู่ตรงเอวตัวเองออกมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นค่อยดึงยันต์ที่ผีสาวโครงกระดูกไปพักผิงออกมาจากกล่องกระบี่ พูดอธิบายว่า “น้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ลูกนี้ ข้าได้มาเป็นของแถมตอนที่ซื้อภูเขาหลายลูกพวกนั้น เว่ยป้อช่วยขอจากต้าหลีมาให้ข้า ในยันต์แผ่นนี้มีผีสาวตนหนึ่งที่ดุร้ายมาก ภายใต้ความช่วยเหลือจากเกาะกุ้ยฮวา นางจึงลงนามในสัญญากับข้าหกสิบปี ตอนนี้อาศัยอยู่ในกล่องกระบี่ กุ้ยฮูหยินบอกว่านี่ก็คือเรือนไหว เมื่อพวกวัตถุหยินมาอาศัยอยู่ภายในจะสามารถหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ ช่วยให้ตบะเพิ่มพูน น่าจะเป็นเหมือนถ้ำสวรรค์พื้นที่มงคลสำหรับพวกมันกระมัง”

หนิงเหยาถาม “ผีสาวโครงกระดูก สวยไหม?”

เฉินผิงอันคิดแล้วก็ตอบว่า “ก็งั้นๆ แหละ ไม่สวยเหมือนผีชุดเจ้าสาวของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และผีชุดเจ้าสาวก็สวยสู้เจ้าไม่ได้”

หนิงเหยาพูดอย่างดุดัน “เฉินผิงอัน เจ้ากลายมาเป็นคนกะล่อนแบบนี้เพราะเลียนแบบมาจากอาเหลียงใช่ไหม?”

เฉินผิงอันส่ายหน้ายิ้ม “เปล่าสักหน่อย นี่เป็นคำพูดจากใจของข้า คำพูดที่น่าฟังกับคำพูดที่กะล่อนปลิ้นปล้อนก็ไม่เหมือนกันสักหน่อย”

หนิงเหยาหัวเราะคิก “ถ้าอย่างนั้นเจ้าเคยไปหลอกให้แม่นางหลายคนหลงรักด้วยใช่หรือเปล่า?”

กล่าวมาถึงตรงนี้ หนิงเหยาก็ฟุบตัวลงบนโต๊ะ หันหน้ามองเฉินผิงอันที่ตัวสูงขึ้นเยอะมาก และผิวก็ขาวขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ดูเหมือนนางจะห่อเหี่ยวนิดๆ “ตอนนี้ข้าไม่สามารถตบเฉินผิงอันห้าร้อยคนด้วยฝ่ามือเดียวได้อีกแล้ว เจ้าเดินทางมาเกินครึ่งของแจกันสมบัติทวีปแล้ว ไม่แน่ว่าแม่นางในสถานที่เล็กๆ มากมายหลายแห่งอาจจะมองเจ้าเป็นเทพเซียน แล้วก็ชอบเจ้า”

เฉินผิงอันรีบโบกมือเป็นพัลวัน “ไม่มีแม่นางคนไหนชอบข้าหรอก ตลอดทางที่ผ่านมาถ้าไม่ใช่พวกศัตรูคู่แค้นที่เข่นฆ่ากันก็เป็นพวกคนที่ได้พบกันเพียงผิวเผิน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!