กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 286

กระบี่จงมา – บทที่ 286.1 ชาดหนึ่งตลับ
บทที่ 286.1 ชาดหนึ่งตลับ
โดย
ProjectZyphon
เฉินผิงอันมาที่หอสูงใจกลางทะเลสาบแห่งหนึ่ง กวาดตามองไปรอบด้านก็เห็นน้ำทะเลสาบสีเขียวมรกต คลื่นน้ำกระเพื่อมแผ่เป็นวงกว้าง ไอหมอกลอยกรุ่น เหนือทะเลสาบมีหอเรือนร้อยกว่าแห่งลอยตัวอยู่ ระหว่างหอเรือนมีเส้นทางสายเล็กเชื่อมโยงพวกมันเข้าด้วยกัน หอเรือนแต่ละหลังผูกเรือแจวสองสามลำไว้รอให้คนล่องไปชมทัศนียภาพของทะเลสาบ

สี่ด้านแปดทิศของหอสูงมีเด็กสาวชุดกระโปรงสีเขียวหุ่นอรชรอ้อนแอ้น ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยสิบสามสิบสี่ปี แต่ละคนหน้าตาโดดเด่น คอยทำหน้าที่ชี้นำทางให้แก่ผู้โดยสาร

หอเรือนที่เฉินผิงอันพักอาศัยมีชื่อว่า ‘เรือนภูเขาร่มเงา’ ตอนที่ซื้อป้ายหยก อีกฝ่ายแนะนำว่าหอเรือนแห่งนี้สูงสามชั้น สามารถอยู่อาศัยร่วมกับคนอื่นได้หลายคน ประหยัดได้มากกว่าเดิม เฉินผิงอันใคร่ครวญดูแล้วก็เลือกที่จะปฏิเสธอย่างละมุนละม่อม

ทางฝ่ายของเรือข้ามฟากปลาวาฬกลืนสมบัติไม่รู้สึกว่ามีอะไรประหลาด ผู้ที่บำเพ็ญตนมักชอบไปไหนมาไหนเพียงลำพัง นี่เป็นเรื่องที่ปกติมาก แต่หากเป็นผู้ฝึกตนอิสระที่หาเงินได้อย่างยากลำบากมักจะเคยชินกับการคิดคำนวณอย่างรอบคอบ จึงเต็มใจที่จะพักอาศัยร่วมกับคนแปลกหน้า เพราะไม่แน่ว่าอาจเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ใหม่ๆ ขึ้นมา บนมหามรรคา มีสหายมากหน่อย ต่อให้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์ผิวเผินที่แค่เคยผงกศีรษะทักทายกันก็ไม่ใช่เรื่องร้าย ไม่แน่ว่าวันใดโชคดีก็อาจได้รับโชควาสนาครั้งใหญ่

หลังจากหญิงสาวชุดกระโปรงสีเขียวของทะเลสาบน้ำมรกตช่วยบอกทิศทางให้ เฉินผิงอันก็ลงจากหอสูง เดินช้าๆ ไปบนทางสายเล็กสายหนึ่งที่อยู่เหนือทะลสาบ สองฝั่งข้างกายหรือไม่ก็เหนือศีรษะมีเซียนซือขี่กระบี่ บ้างก็ทะยานลมผ่านไปเป็นระยะ เฉินผิงอันเดินไปได้ไม่นานเท่าไหร่ ด้านหลังก็มี ‘สาวงาม’ ยกชายกระโปรงวิ่งเหยาะๆ ตามมาด้วยท่าทางน่ารักซุกซน

เฉินผิงอันคือคนที่ไม่กลัวความลำบาก ตั้งแต่ตอนที่เป็นลูกศิษย์ของเตาเผามังกรซึ่งต้องทำงานหนักคอยรองรับคำด่า ไปจนถึงตอนที่คุ้มกันพวกหลี่เป่าผิง หลี่ไหวไปส่งที่สำนักศึกษาต้าสุย ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ล้วนเป็นเฉินผิงอันที่คอยให้การดูแลอย่างใส่ใจ เฉินผิงอันไม่กลัวความลำบากประเภทนี้ก็จริง แต่เขากลับกลัวความลำบากอีกชนิดหนึ่งที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้อย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นนักพรตสำนักหยินหยางที่ชื่อว่าลู่ไถคนนี้ แม้ลางสังหรณ์ของเฉินผิงอันจะไม่เกิดความรู้สึกที่ไม่เหมาะสมใดๆ ไม่ได้รู้สึกกดดันและอึมครึมเหมือนตอนที่เผชิญหน้ากับฝูหนันหัวหรือชุยฉานในช่วงแรกๆ แต่หากยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเรื่องหนึ่งจะดีหรือเลว เฉินผิงอันก็เคยชินที่จะทำให้ตัวเองแน่ใจก่อนว่าเรื่องนั้นๆ ‘ไม่เลว’

ที่ภูเขาห้อยหัว มีคนมากน้อยแค่ไหนที่แม้แต่ตอนหลับฝันก็ยังปรารถนาจะได้ข้ามธรณีประตูจวนหยวนโหรวของตระกูลหลิว?

แต่เฉินผิงอันที่หลังจากได้ยินคำกล่าวว่า ‘หอจิ้งเจี้ยนที่อยู่ข้างจวนหยวนโหรว’ และพอจะแน่ใจน้ำหนักของตระกูลหลิวในธวัลทวีปคร่าวๆ แล้ว เรื่องแรกที่เขาทำก็คือขีดเส้นความสัมพันธ์กับหลิวโยวโจวที่สร้างความประทับใจไม่เลวแก่เขาคนนั้นทันที อาจเป็นเพราะส่วนลึกในใจของเฉินผิงอันเอนเอียงเข้าหาความรู้สึกที่ได้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยวในถ้ำสวรรค์หลีจูมากกว่า เนื่องจากความรู้สึกนั้นได้ฝังลึกตรึงอยู่ในใจเขามาเนิ่นนานแล้ว

ลูกหลานสกุลลู่จากทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางที่บอกว่าตัวเองชื่อลู่ไถเดินเคียงบ่าไปกับเฉินผิงอัน หันหน้ามามองใบหน้าด้านข้างของเฉินผิงอันแล้วยิ้มหวานพูดว่า “โกรธหรือ? เป็นผู้ชายจะใจแคบแบบนี้ได้อย่างไร ต้องใจกว้างหน่อย เมื่อใจกว้างแล้วก็สามารถรองรับโชควาสนาได้มากตามไปด้วย เจ้าคงจะเคยได้ยินคำว่าวิญญูชนมิใช่เครื่องใช้ภาชนะของลัทธิขงจื๊อมาบ้างกระมัง?”

เฉินผิงอันหยุดเดิน หันหน้ามามองคนประหลาดผู้นี้ “เจ้าคอยมาอยู่ข้างกายข้าเพราะคิดจะทำอะไรกันแน่? คำทำนายมหามงคลนั่นของเจ้าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าสักหน่อย…”

ลู่ไถยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “จะไม่เกี่ยวได้อย่างไร ข้าใช้เงินฝนธัญพืชเหรียญที่เจ้ามอบให้ข้ามาทำนายเชียวนะ เกี่ยวกับเจ้ามากเลยล่ะ ในโชควาสนาครั้งนี้เจ้าก็คือคนที่…”

คราวนี้เป็นเฉินผิงอันบ้างที่ตัดบทคำพูดของเขา “เงินฝนธัญพืชไม่ได้ให้เจ้า ให้ยืม”

ลู่ไถขมวดคิ้วที่โก่งงอนเรียวบางเหมือนสตรี ตั้งใจคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ถามด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “พูดถึงแต่เรื่องเงินจะทำลายความสัมพันธ์เอาได้ ไม่สู้พวกเรามาทำการค้าเล็กๆ กันสักครั้ง ข้าจะเอาสมบัติอาคมชิ้นหนึ่งที่ข้ารักมาแลกเปลี่ยนกับเงินฝนธัญพืชจากเจ้า?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ติดไว้ก่อนเถอะ”

ลู่ไถพูดเหมือนน้อยใจ “ทำไมเจ้าต้องกลัวข้าขนาดนี้ด้วย? ทำไมต้องมองข้าเป็นดั่งภัยพิบัติชั่วร้าย? เจ้าคิดดูนะ บนเส้นทางของการฝึกตน เมื่อได้พบเจอคนที่ถูกชะตา จับมือกันท่องเที่ยวหาประสบการณ์ ชื่นชมภูเขาและแม่น้ำไปด้วยกัน นั่นจะเป็นเรื่องที่งดงามขนาดไหน?”

เฉินผิงอันรู้สึกหัวโตขึ้นมาทันที

ที่แท้ใต้หล้านี้ก็มีเรื่องที่ใช้เหตุผลมาพูดไม่ได้จริงๆ เขาไม่รู้แล้วว่าควรจะเปิดปากอธิบายอย่างไร

คนทั้งสองเดินหน้าไปด้วยกันเงียบๆ เฉินผิงอันไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ส่วนลู่ไถเหลียวซ้ายแลขวา พูดพึมพำกับตัวเองว่า “พื้นที่ลับแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของถ้ำสวรรค์น้อยฉุยฮวา เทพธิดาสาวท่านหนึ่งที่ชอบเก็บรวบรวมน้ำพุในโลกเป็นผู้ครอบครอง น่าเสียดายก็แต่สุดท้ายนางล้มเหลวตอนขอบเขตบินทะยาน ไม่เพียงแต่ร่างดับมรรคาสลาย ยังถูกวิถีสวรรค์แว้งกลับมาโจมตี เดือดร้อนให้ถ้ำสวรรค์ฉุยฮวาแตกสลายตามไปด้วย ชิ้นส่วนส่วนใหญ่สลายหายไปท่ามกลางฟ้าดิน ทะเลสาบน้ำมรกตแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง เพราะน้ำทะเลสาบในรัศมีสามร้อยลี้นี้ล้วนเป็นหนึ่งในน้ำพุมีชื่อเสียงที่เทพธิดาสาวเก็บรวบรวมเอาไว้ในปีนั้น ขอแค่เจ้าคว้าจับสายน้ำเล็กๆ เส้นหนึ่งซึ่งมีแก่นของน้ำพุซ่อนอยู่มาได้ ก็เหมาะที่จะนำมาต้มชาดื่มมากที่สุด”

เฉินผิงอันไม่เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว หลังจากเดินไปได้ประมาณสี่ห้าลี้ก็เห็นเรือนภูเขาร่มเงาที่สูงสามชั้นแห่งนั้น รอบด้านของหอเรือนคือระเบียงทางเดินที่อยู่ใต้ชายคาซึ่งโอบล้อมด้วยราวระเบียงหยกขาว ยังมีท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีเรือแจวสองลำจอดเทียบท่า บริเวณใกล้เคียงกับเรือนภูเขาร่มเงามีดอกบัวชูช่อเป็นผืนใหญ่ หญิงสาวเก็บดอกบัวคนหนึ่งกำลังพายเรือลอดไปตามช่องว่างพลางคลอบทเพลงพื้นบ้านอยู่ในลำคอ เป็นภาพที่นุ่มนวลน่าประทับใจ

เฉินผิงอันหยุดเดินแล้วเอ่ยเตือนว่า “ข้าถึงแล้ว”

ลู่ไถพยักหน้ารับ

เฉินผิงอันเห็นว่าเขาแกล้งไขสือก็ถามเข้าประเด็นโดยตรง “วันนี้ข้าคงไม่เชิญเจ้าเข้าไปนั่งข้างในแล้ว หากว่างเมื่อไหร่ข้าจะไปหาเจ้าแล้วกัน เจ้าพักอยู่ในหอเรือนใด?”

ลู่ไถชี้ไปที่เรือนภูเขาร่มเงา

เฉินผิงอันยิ้มจืดชืด “คุณชายลู่เลิกล้อเล่นเถอะ”

ลู่ไถชูสองมือขึ้นทำท่าว่ามีเงินร้อนน้อยอยู่ในมือกอบใหญ่ “เมื่อครู่ตอนอยู่หอสูงใจกลางทะเลสาบ ด้วยจำต้องหาทางเอาชีวิตรอด แล้วก็คิดว่าพวกเราสนิทกันขนาดนี้ ถึงอย่างไรเจ้าก็น่าจะยอมให้ข้าพักด้วย เลยขายที่พักของข้าให้กับเทพเซียนคนหนึ่งที่มีเงินมากไปแล้ว”

สีหน้าของเฉินผิงอันไม่ค่อยน่ามองนัก

บนโลกมีคนที่หน้าด้านเกาะติดคนอื่นเหนียวหนึบยิ่งกว่าตังเมแบบนี้ได้อย่างไร?

ลู่ไถพลันหัวเราะ “ก็ได้ๆ ข้าจะบอกกับเจ้าตามตรงก็แล้วกัน การเดินทางไปใบถงทวีปในครั้งนี้ นอกจากข้าจะทำนายได้เซียมซีดีเยี่ยมว่า ‘แต่งตั้งโหว’ แล้ว อันที่จริงยังทำนายได้ด้วยว่าโชควาสนาครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่วัตถุล้ำค่า แต่อยู่ที่ ‘ขึ้นดาดฟ้าพิศมรรคา’ ห้าคำนี้ เดินทางร่วมกับเจ้า อาศัยสภาพจิตใจของเจ้า ไม่ว่าจะดีเลวหรือสูงต่ำก็ล้วนสามารถขัดเกลาจิตแห่งเต๋าของข้าได้ นี่เรียกว่าใช้หินของภูเขาลูกอื่นมาเกลาเป็นหยก…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!