กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 308

บทที่ 308.1 ใต้เปลือกตา ใต้ฝ่าเท้า
ProjectZyphon
รู้ว่าอาจารย์ตายแล้ว เณรน้อยก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ คิดไม่ตกวางไม่ลง ไม่เหมือนคนออกบวชเลยแม้แต่นิดเดียว

แต่ตอนนั้นเฉินผิงอันมองศีรษะโล้นเกลี้ยงน้อยๆ ที่ร้องไห้จ้า เขย่าแขนภิกษุเฒ่าอย่างแรงราวกับต้องการปลุกให้อาจารย์ตื่นขึ้นจากฝัน เขากลับรู้สึกว่านี่ต่างหากถึงจะเป็นอารมณ์ปกติทั่วไปของมนุษย์

ภายหลังรู้ว่าอาจารย์มรณภาพไปแล้ว เมื่อเผาร่างกลับเหลือพระธาตุทิ้งไว้อย่างที่มีกล่าวถึงในพุทธคัมภีร์ เณรน้อยก็หัวเราะได้อีกครั้ง รู้สึกว่าพระธรรมของอาจารย์ต้องร้ายกาจมากแน่ๆ ท่าทางเช่นนี้ของเณรน้อยก็ยังไม่เหมือนคนที่ออกบวชอยู่ดี

เฉินผิงอันคอยอยู่ช่วยจัดการเรื่องงานศพของภิกษุเฒ่าในวัด ยุ่งวุ่นวายไม่น้อย จากนั้นก็บอกความคิดของภิกษุเฒ่าแก่เจ้าอาวาสคนใหม่ของวัดซินเซียงเป็นการส่วนตัวว่า เรื่องของพระธาตุอย่าเพิ่งรีบร้อนป่าวประกาศแก่คนภายนอก หาไม่แล้วจะเป็นการชักนำให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์จากพวกชาวบ้านเสียมากกว่า หรืออาจถึงขั้นถูกทางการหวาดระแหวง สำหรับเรื่องนี้เจ้าอาวาสคนใหม่ไม่มีความเห็นต่าง เขาพนมมือก้มศีรษะให้เฉินผิงอันแสดงถึงการขอบคุณ

หลังจากนั้นมาเฉินผิงอันก็ไม่ไปนั่งหาความสงบที่วัดซินเซียงอีก แต่เขาก็บอกกับเจ้าอาวาสคนใหม่ว่า หากวัดซินเซียงมีเรื่องลำบากอะไรก็สามารถไปบอกเขายังที่พักได้ เขาเฉินผิงอันช่วยเหลือได้มากเท่าไหร่ก็จะพยายามช่วยให้ได้มากเท่านั้น

ภิกษุวัยกลางคนเอ่ยว่าอมิตาภพุทธหนึ่งคำ พอเฉินผิงอันจากไปแล้วก็ตรงไปที่โต๊ะหมู่บูชาในตำหนักใหญ่ จุดตะเกียงฉางหมิงดวงหนึ่งให้กับประสกที่มีจิตใจดีงามผู้นี้เงียบๆ จากนั้นเรียกเฉรน้อยให้มาช่วยดูตะเกียงดอกบัวดวงนี้ไว้

เณรน้อยร้องอ้อรับหนึ่งทีพลางพยักหน้า ภิกษุวัยกลางคนเห็นว่าเจ้าตัวน้อยตอบรับรวดเร็วก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องแอบอู้ จึงเขกนิ้วลงบนศีรษะเล็กๆ ที่โล้นเกลี้ยงเบาๆ หนึ่งที เอ่ยสั่งสอนว่า “ปลาไม้ เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจ” เณรน้อยหน้าม่อยร้องอ้อรับอีกครั้ง จะจำได้จริงหรือไม่ยังบอกได้ยาก แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการไม่รู้จักจดจำบทเรียนเป็นอย่างไร เขารู้รสชาติของมันดีแล้ว

รอจนศิษย์พี่เจ้าอาวาสออกไปจากตำหนักใหญ่ เณรน้อยถึงถอนหายใจหนึ่งครั้ง เมื่อก่อนศิษย์พี่ใจดีมีเมตตา แต่พอเป็นเจ้าอาวาสกลับไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าก่อน ไม่ต่างจากท่านอาจารย์เลยสักนิด วันหน้าต่อให้เขาได้เป็นเจ้าอาวาส เขาก็จะไม่เป็น หาไม่แล้วต้องทำให้ศิษย์น้องเสียใจแน่ๆ …เอ๊ะ? ตนคือลูกศิษย์คนเล็กที่สุดของท่านอาจารย์ จะเอาศิษย์น้องมาจากที่ไหน วันหน้าไม่มีทางมีแล้ว ช่างเสียเปรียบยิ่งนัก! คิดมาถึงตรงนี้ เณรน้อยก็หมุนตัววิ่งพรวดออกไปจากตำหนักใหญ่ พอตามไปทันเจ้าอาวาสก็ถามอย่างกระตือรือร้นว่าจะรับลูกศิษย์เมื่อไหร่

ภิกษุเจ้าอาวาสรู้ดีถึงอุบายน้อยๆ ของเณรน้อย เขาไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แสร้งทำท่าว่าจะเอาศีรษะของเณรน้อยมาเป็นปลาไม้อีกครั้ง เพราะเดิมทีชื่อของเขาทางพุทธศาสนาก็คือปลาไม้อยู่แล้ว

เณรน้อยถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย หมุนตัววิ่งจากไป

สภาพจิตใจของเฉินผิงอันเริ่มสงบนิ่งขึ้น แต่น่าประหลาดมากที่เขายังคงไม่ได้หยิบ ‘ตำราหมัดเขย่าขุนเขา’ และ ‘คัมภีร์เวทกระบี่ที่แท้จริง’ ออกมา แต่ยังคงเดินเตร่ไปทั่วเมืองหลวง คราวนี้เขาสะพายห่อสัมภาระผ้าฝ้ายใบเล็กไว้บนหลังด้วย เดินหน้าไปอย่างเชื่องช้า ดื่มสุรากินขนมเปี๊ยะ ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง แค่หาสถานที่สงบๆ สักแห่งก็พอ จะเป็นใต้ร่มไม้ บนหลังคาหรือริมสายน้ำข้างสะพานเล็กก็ได้ทั้งสิ้น

กำแพงสูงสีชาดแถบนั้น ด้านบนกำแพงสูงมีต้นไม้เขียวชอุ่มโผล่พ้นกำแพงออกมาด้านนอก เสียงแกว่งชิงช้าและเสียงหัวเราะสนุกสนานดังออกมาจากด้านใน

มีปัญญาชนและบัณฑิตสวมกวานสูงรัดเข็มขัดหยก นิยมวางจอกเหล้าไปตามกระแสน้ำไหล จอกเหล้าหยุดอยู่ที่ใคร ผู้นั้นต้องแต่งบทกวี

ตอนนั้นมีคนชุดขาวผู้หนึ่งนั่งดื่มเหล้าอยู่บนกิ่งไม้เงียบๆ

มีเหลาสุราริมน้ำอยู่แห่งหนึ่งซึ่งที่นั่งภายในถูกจับจองจนเต็ม ล้วนมีแต่ผู้มากความสามารถที่อายุยังน้อยของเมืองหลวงแคว้นหนันเยวี่ยน พวกเขาวิจารณ์บ้านเมือง ชี้ข้อบกพร่องเพื่อหาทางแก้ไขให้กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ปัญญาชนปกครองบ้านเมืองเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามหลักฟ้าดิน เฉินผิงอันนั่งอยู่บนหลังคาของเหลาสุรา ตั้งใจรับฟังการถกเถียงที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์เร่าร้อน เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและรังเกียจดุจศัตรูของพวกเขา แต่เฉินผิงอันกลับรู้สึกว่าวิธีการปกครองที่พวกเขาเสนอมา หากให้นำไปปฏิบัติจริงคงยากสักหน่อย แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าคนหนุ่มที่มีความสามารถเหล่านี้ดื่มเหล้ามากจนเริ่มเมามาย จึงไม่ได้พูดถึงต้นสายปลายเหตุอย่างชัดเจน

อันธพาลสองกลุ่มนัดหมายกันแล้วว่าจะยกพวกมาตีกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีคนฝั่งละสามสิบสี่สิบคน บางทีนี่อาจจะเป็นยุทธภพของพวกเขา พวกเขากำลังเดินอยู่ในยุทธภพ กำลังท่องอยู่ในยุทธจักร เฉินผิงอันนั่งยองอยู่บนกำแพงเตี้ยๆ ผุพังที่ห่างไปไกล สังเกตเห็นว่า ‘คนเก่าแก่ในยุทธภพ’ ที่อายุยี่สิบปีขึ้นไปวาดฝีไม้ลายมือได้ลื่นไหล ส่วนเด็กหนุ่มที่อายุต่ำกว่ายี่สิบลงมากลับลงมืออย่างไร้ความยำเกรง โหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด หลังจบเรื่องก็หน้าเขียวจมูกแดง ใบหน้ามีแต่คราบเลือด กอดไหล่พี่น้องที่ร่วมทุกข์มาด้วยกัน จากนั้นก็เริ่มเดินไปหาบุญคุณความแค้นในยุทธภพครั้งต่อไป

พี่ชายผู้นำกลุ่มอายุค่อนข้างมาก เกือบสามสิบปีแล้ว เห็นว่าพรรคพวกกำลังจะไปที่อื่นจึงตวาดให้พวกเขาไปดื่มสุราที่ร้านอย่างฮึกเหิม สตรีแต่งงานแล้วของร้านขายเหล้าซึ่งมีหน้าตางดงามก็คือภรรยาของเขา เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากลุ่มนี้ก็ได้แต่เค้นรอยยิ้มมาส่งให้ หยิบเอาสุราและกับแกล้มมารับรองพี่น้องของสามีตน มองบุรุษที่ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มคนที่พูดคุยกันเสียงดัง ตรงหว่างคิ้วของสตรีแต่งงานแล้วก็เผยความกลัดกลุ้มที่การทำมาหากินยากลำบาก ทว่าดวงตากลับเปล่งประกายด้วยความชื่นชม

นางมองบุรุษของตัวเอง ส่วนเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ซึ่งเป็นลูกน้องที่รู้ใจมากที่สุด เก่งกล้ามากที่สุดของบุรุษกลับแอบเหลือบมองนาง

เฉินผิงอันนั่งมองพวกเขาอยู่ห่างไปไกล เขาซื้อเหล้ามาสองกา กาหนึ่งเทใส่น้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ อีกกาหนึ่งนั่งดื่มที่ร้าน

สตรีแต่งงานแล้วที่ยังสาวกัดฟันบอกราคาสุราที่สูงกว่าปกติกับคุณชายคนนี้ บอกเขาว่าเหล้าสองกาสามสิบอีแปะ ยังดีที่คนผู้นั้นเหมือนจะไม่รู้ราคาข้าวของในตลาดจึงควักเงินออกมาอย่างไม่ลังเล สตรีแต่งงานแล้วรู้สึกละอายใจเล็กน้อย จึงหยิบเอากับแกล้มที่ตัวเองทำมาเพิ่มให้เขาอีกสองจาน คนผู้นั้นลุกขึ้นยืนยิ้มขอบคุณนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!