กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 321

สรุปบท บทที่ 321.1 นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างบ่อน้ำ: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 321.1 นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างบ่อน้ำ – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 321.1 นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างบ่อน้ำ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 321.1 นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างบ่อน้ำ
ProjectZyphon
ก่อนจะแอบเข้ามาในตำหนักรัชทายาท ฮองเฮาโจวซูเจิน หรือควรจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเจ้าหอจิ้งหย่าง หรืออีกสถานะหนึ่งคือนักรบเดนตายของหอจิ้งซิน นางได้อำพรางตัวอยู่ท่ามกลางเงามืดที่ร่มเย็นแห่งหนึ่ง มองไปทางกำแพงเมืองทิศใต้ที่คนทั้งสองกำลังต่อสู้กันด้วยความปลงอนิจจังอย่างถึงที่สุด

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันจนภูเขาถล่มพื้นดินปริแยก

ต่อให้เปิดเอกสารลับที่มีฝุ่นเกาะหนาชั้นมากที่สุดในหอจิ้งหย่างออกดู ก็เป็นเวลาหลายหกสิบปีมาแล้วที่พื้นที่มงคลดอกบัวไม่เคยมีการเข่นฆ่าที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินเช่นนี้มาก่อน

คนเพียงสองคน แต่กลับตีกันเหมือนสองกองทัพประจัญบาน สร้างภาพบรรยากาศดุจดั่งมีทะเลทรายเหลืองอร่ามหมื่นลี้และกองทัพม้าเหล็กทวนทอง

ฮ่องเต้เว่ยเซี่ยนผู้บุกเบิกแคว้นหนันเยวี่ยนคือผู้ไร้เทียมทาน ในช่วงยุคสมัยนั้นไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ หลูป๋ายเซี่ยงในช่วงยุคหลังก็เป็นเช่นเดียวกัน เขาสามารถใช้กำลังของตัวเองคนเดียวข่มให้คนทั้งยุทธภพหายใจหายคอไม่สะดวกนานถึงหกสิบปี เซียนกระบี่สาวสุยโย่วเปียนก็ยิ่งเงียบเหงาจนได้แต่ขี่กระบี่บินทะยาน จูเหลี่ยนผู้บ้าคลั่งวรยุทธ์เลือกที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ใช้กำลังของคนคนเดียวต่อสู้กับคนเก้าคน ปรมาจารย์สิบท่านบนอันดับรายชื่อแห่งใต้หล้าถูกเขาสังหารไปเกินครึ่ง

คราวนี้ติงอิงได้มาเจอกับเจ๋อเซียนหนุ่มที่มีชื่อว่าเฉินผิงอัน

ก็ราวกับดวงตะวันและดวงจันทราแข่งขันประชันแสงโดยมีท้องนภาอยู่เบื้องบน

ทุกคนได้แต่ยืดคอยาวๆ ออกไปดู รอคอยผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น

โจวซูเจินถอนหายใจหนึ่งที ชำเลืองตามองชายหนุ่มหญิงสาวสองคนที่อยู่บนหลังคาสิ่งปลูกสร้างหลังหนึ่ง นางไม่ได้พุ่งทะยานตรงไปหาพวกเขา แต่พลิ้วกายลงในระเบียงแห่งหนึ่งอย่างเงียบเชียบแล้วเดินทอดน่องเอื่อยเฉื่อย หากเจอพวกสาวใช้หรือผู้ดูแลก็จะหลบอ้อมไปอยู่หลังเสา แนบตัวติดกับเสาบดบังสายตาจากมนุษย์ธรรมดาเหล่านั้น

บางครั้งก็กระโดดขึ้นไปบนเสาคาน มองดูแล้วประหนึ่งแถบผ้าหลากสีสันที่กำลังล่องลอยไปเบื้องหน้า สถานะของนางในตอนนี้ไม่เหมาะให้เผยตัวในตำหนักแห่งนี้

แม้ว่านางจะเป็นฮองเฮาคนปัจจุบันของแคว้นหนันเยวี่ยน แต่กลับไม่ใช่มารดาแท้ๆ ของรัชทายาทและองค์ชายรอง ถึงขั้นยังมีความเกี่ยวข้องกับอาการป่วยตายของฮองเฮาคนก่อน ข่าวลือและความลับต่างๆ ในวังหลวงล้วนมีเกี่ยวพันกับโจวฮองเฮาอย่างที่นางเลี่ยงไม่ได้

ร่างที่พุ่งวูบไปมาของโจวซูเจินทำให้เว่ยเหยี่ยนและฝานกว่านเอ่อร์สังเกตเห็นได้พอดี คนทั้งสองจึงทะยานลงมาจากหลังคา มาพบกับฮองเฮาที่มีความงามเสียงเลื่องลือผู้นี้ในสวนดอกไม้

ฝานกว่านเอ่อร์ค่อนข้างจะสงสัยและเป็นกังวล เพราะไม่รู้ว่าเหตุใดโจวซูเจินถึงมาอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังเผยกายต่อหน้านางและรัชทายาทเว่ยเหยี่ยนด้วย

โจวซูเจินผู้นี้ก็คือศิษย์พี่หญิงที่ปีนั้นเป็นคนพบเจอฝานกว่านเอ่อร์และพานางไปอยู่ที่หอจิ้งซิน หลังจากนั้นไม่นานโจวซูเจินก็ได้สวมรอยเป็นสาวงามผู้เข้าร่วมการคัดเลือกซึ่งเป็นตัวตนที่ทางหอจิ้งซินสร้างให้อย่างตั้งใจ ได้เข้าไปอยู่ในวังหลวงแคว้นหนันเยวี่ยนอย่างราบรื่น ก่อนจะเดินทีละก้าวจนมาสู่ตำแหน่งฮองเฮา

โจวซูเจินกล่าวอย่างจนใจ “สถานการณ์คับขัน ไม่ทันกาลแล้ว ต้องโทษที่ศิษย์พี่หญิงอย่างข้าทำอะไรไม่เรียบร้อย แล้วก็ต้องโทษมารเฒ่าติงที่ปรากฏตัวอย่างประจวบเหมาะเกินไป”

เว่ยเหยี่ยนมอง ‘เสด็จแม่’ แล้วค่อยหันกลับมามองฝานกว่านเอ่อร์ ในใจเหมือนมีพยับเมฆหนาชั้นปกคลุม

เขาไม่ถือสาหากตัวเองต้องลงเรือลำเดียวกับฝานกว่านเอ่อร์เพื่อเอาชนะน้องชายที่ยาเอ๋อร์แห่งลัทธิมารเป็นผู้สนับสนุน จากนั้นเดินทีละก้าวจนขยับเข้าใกล้กับเก้าอี้มังกรตัวนั้น ขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น สุดท้ายจับมือกับสาวงามวางแผนรวบรวมสี่แคว้นให้เป็นปึกแผ่น แต่หากบอกว่าสกุลเว่ยทุกคนในแคว้นหนันเยวี่ยนล้วนถูกหญิงสาวจากหอจิ้งซินเหล่านี้กุมเล่นไว้ในกำมือมานานแล้ว ถ้าเช่นนั้นต่อให้ตนจะได้นั่งเก้าอี้มังกร ได้สวมชุดคลุมมังกร แล้วจะยังมีความหมายอะไร?

แต่โจวซูเจินกลับไม่มีเวลามาสนใจความคิดของกษัตริย์ที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างของเว่ยเหยี่ยน นางพูดเข้าประเด็นกับฝานกว่านเอ่อร์ว่า “ปีนั้นการที่อาจารย์ส่งตัวข้ามาอยู่เมืองหลวงแคว้นหนันเยวี่ยน นอกจากสถานะฮองเฮานี้แล้ว อาจารย์ยังต้องการให้ข้าทำเรื่องหนึ่งให้สำเร็จ นั่นก็คือได้กระโปรงเขียวชุดนั้นมาครอบครอง ไม่ช้าไม่เร็ว จำเป็นต้องเป็นช่วงสุดท้ายก่อนระยะเวลาหกสิบปีนี้จะหมดลงพอดี แต่ข้าไม่กล้าเข้าใกล้มารเฒ่าติงเกินไป ไม่กล้าปรากฏตัวให้เขาเห็นเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะทำให้มารเฒ่าหงุดหงิด”

กล่าวมาถึงตรงนี้ นางก็ยิ้มขออภัยให้ฝานกว่านเอ่อร์ กล่าวเสียงขื่น “ดังนั้นศิษย์พี่หญิงจึงได้แต่ถอยมาเลือกลำดับรองลงมา ก่อนที่โจวเฝยจะลงจากภูเขาก็เคยป่าวประกาศแล้วว่าต้องการเจ้าศิษย์น้องหญิงเป็นของรางวัล เขาปรารถนาในความงามของเจ้ามานานแล้ว ดังนั้นข้าจึงจงใจให้คนเปิดเผยความลับแก่ตำหนักคลื่นวสันต์ บอกว่าเจ้าอยากครอบครองชุดกระโปรงตัวนั้น แล้วโจวเฝยก็ตรงไปหาภิกษุอวิ๋นหนีที่วัดจินกังจริงๆ ด้วยนิสัยของโจวเฝย หากเจ้าตกอยู่ในกำมือของเขา ขอแค่ศิษย์น้องหญิงเอ่ยปาก ไม่ว่าจุดประสงค์เดิมที่โจวเฝยไปแย่งกระโปรงสีเขียวชุดนั้นมาจะคืออะไร เขาก็ต้องยินดีมอบกระโปรงตัวนั้นให้ศิษย์น้องอย่างแน่นอน”

ฝานกว่านเอ่อร์ยังคงไม่เข้าใจ “ข้าได้กระโปรงตัวนั้นมาแล้วอย่างไร? ได้หนึ่งในสี่โชควาสนาใหญ่ก็จะโชคดีได้บินทะยานงั้นหรือ? แต่ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่หญิงก็เคยพูดไม่ใช่หรือว่า อาจารย์เคยสั่งไว้ว่า ไม่ให้ข้าจงใจไล่ตามโอกาสในการบินทะยาน?”

“น่าเสียดายก็แต่ตอนนี้โจวเฝยได้มอบกระโปรงตัวนั้นให้กับยาเอ๋อร์แห่งลัทธิมารไปแล้ว เรื่องมาถึงขั้นนี้…ยังดีที่อาจารย์ก็เคยคาดเดาสถานการณ์เช่นนี้มาไว้แล้ว”

โจวซูเจินควักกระจกทองแดงบานเล็กออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง “อาจารย์จึงบอกกับข้าว่าเมื่อถึงเวลานั้น ให้ข้ามอบมันแก่เจ้า”

เกี่ยวกับเรื่องอรหันต์ร่างทอง ฮ่องเต้สกุลเว่ยตอบรับอย่างไม่มีความลังเล ยอมให้อดีตภิกษุอวิ๋นหนีนำกลับไป

ภิกษุเฒ่าที่เพิ่งกลับมาเป็นฆราวาสได้ไม่นานรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เดิมทีเขายังคิดเตรียมคำพูดไว้มากมาย ยกตัวอย่างเช่นรับปากว่าจะอุทิศตนให้แก่สกุลเว่ยแคว้นหนันเยวี่ยนไปอีกสามสิบปี

ปี้เซิ่งเฉิงหยวนซานไม่ได้ไปรวมตัวกับพวกลูกศิษย์ เพราะทำอย่างนั้นจะสะดุดตาเกินไป ง่ายที่จะถูกคนพบตัว

อีกทั้งผู้เฒ่าก็ไม่สะดวกถือทวนเดินเตร่ไปมา จึงได้แต่เลือกมาหลบร้อนอยู่ใต้สะพานหินโค้งแห่งหนึ่ง

เขาตัดสินใจแล้วว่าเมื่อเสียงกลองครั้งที่สองดังขึ้นบนภูเขากู่หนิว หากคนสิบคนบนรายชื่อที่อยู่ในเมืองหลวงตายกันไปแล้วอย่างน้อยเกินครึ่ง เขาถึงจะเผยตัว หาไม่แล้วก็ยอมสูญเสียโอกาสบินทะยานครั้งนี้ไปดีกว่า

เฉิงหยวนซานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกปรมาจารย์ที่อยู่บนรายชื่อจะตายกันไปให้หมด

ส่วนข้อที่ว่าทำแบบนี้จะผิดต่อความตั้งใจเดิมหรือไม่ เฉิงหยวนซานไม่สนใจ เขาสนใจแค่ผลลัพธ์เท่านั้น ถ้อยคำเป็นหมื่นเป็นพันในหนังสือประวัติศาสตร์ นอกจากสี่คำว่าชนะเป็นราชาแพ้เป็นโจรที่โชกไปด้วยเลือดนี้แล้ว ยังจะมีอะไรอีก?

ถังเถี่ยอี้ที่อยากจะใช้เฉิงหยวนซานมาเป็นหินลับมีด เมื่อหาปี้เซิ่งไม่เจอก็ได้แต่ล้มเลิกความคิด ตอนนี้โอกาสในการเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุด แท้จริงแล้วอยู่ที่สถานะของเขา

หากถูกเปิดโปงว่าแม่ทัพใหญ่แคว้นเป่ยจิ้นมาเดินเล่นอยู่ในเมืองหลวงแคว้นหนันเยวี่ยนต้องเกิดปัญหาใหญ่มากแน่นอน แม้จะบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเป่ยจิ้นกับหนันเยวี่ยนนับว่าพอใช้ได้ แต่แคว้นหนันเยวี่ยนมีความทะเยอทะยานสูง เคยป่าวประกาศมานานแล้วว่าจะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเดียว ถังเถี่ยอี้ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกพาส่งออกนอกอาณาเขตของอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท หากไม่ต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อสกุลเว่ยก็ต้องตายอย่างเฉียบพลันอยู่ในเมืองหลวงต่างแคว้นแห่งนี้

—–

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!