กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 334

สรุปบท บทที่ 334.2 ด้านในเปลือกหอยมีสถานที่ประกอบพิธีกรรม: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 334.2 ด้านในเปลือกหอยมีสถานที่ประกอบพิธีกรรม – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 334.2 ด้านในเปลือกหอยมีสถานที่ประกอบพิธีกรรม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 334.2 ด้านในเปลือกหอยมีสถานที่ประกอบพิธีกรรม
ProjectZyphon
เฉินผิงอันไม่มีทางรู้เลยว่าเขาเดาถูกจริงๆ แต่ถือว่าเดาถูกแค่ครึ่งเดียว

น้ำเต้าเลี้ยงกระบี่สีทองที่มีชื่อว่า ‘โต่วเลี่ยง’ (ปริมาณที่มากมาย) ลูกนั้นสามารถบรรจุน้ำซึ่งรวมถึงน้ำของสุราในใต้หล้าได้มากที่สุดจริงๆ แล้วก็เพราะเหตุนี้น้ำของทะเลบูรพาถึงได้ลดระดับลงไปหลายฉื่อ

นี่เป็นเหตุให้มีซิ่วไฉยากจนคนหนึ่งจุ๊ปากชื่นชมไม่หยุด แล้วยังเพิ่มคำประจบเข้าไปด้วยว่า ‘น้ำเต้าลูกเล็กๆ กลับสามารถเลี้ยงเจียวหลงไว้ได้นับร้อยนับพันตัว มรรคาจารย์เต๋าช่างประเสริฐ ประเสริฐเลิศล้ำ ประเสริฐเหนือประเสริฐ’

แน่นอนว่าก็มีความเป็นไปได้ที่เพราะการนั่งลงถกปัญหากับนักพรตเฒ่าได้ทำลายใบบัวในถ้ำสวรรค์เหลียนฮวาไปหลายใบ ถึงได้กล่าวประโยคนี้เพื่อหวังจะได้ประโยชน์โดยไม่ต้องเปลืองแรง

ในศาลบุ๋นที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘สำนักดั้งเดิมที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม’ ของลัทธิขงจื๊อในทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางแห่งนั้น เหล่าอริยะที่ทุกวันนี้รูปปั้นของพวกเขายังถูกตั้งบูชาไว้สูงต้องไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้แน่นอน ทำลายสิ่งของของคนอื่น แล้วยังกล้าทำตัวไร้ยางอาย แต่ซิ่วไฉเฒ่าที่เทวรูปถูกย้ายออกจากศาลบุ๋นกลับทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมชาติเสียยิ่งกว่าพวกเซียนลัทธิเต๋าที่อยู่ในหอป๋ายอวี้จิงซะอีก

พอเฉินผิงอันลงมาชั้นล่าง เถ้าแก่เนี้ยะก็คลี่ยิ้มดุจดอกไม้ผลิบาน

หล่อเหลา มีเงิน บุคลิกก็ดี ยิ่งมองเฉินผิงอัน สตรีแต่งงานแล้วก็ยิ่งถูกตาต้องใจ

เฉินผิงอันขอเหล้าบ๊วยไหเล็กหมักห้าปีมาหนึ่งจิน แล้วเทใส่น้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ต่อหน้าเถ้าแก่เนี้ยะ

ในสายตาของสตรีแต่งงานแล้ว น้ำเต้าเลี้ยงกระบี่เป็นแค่น้ำเต้าบรรจุเหล้าสีชาดที่ถูกลูบคลึงบ่อยๆ จนแวววาวราวกับกระจกเท่านั้น ไม่มีค่าพอให้พูดถึง ทว่าแค่มองก็รู้ว่าเป็นของรักของคนอย่างน้อยสองรุ่น ถึงได้กลายมาเป็นของเก่าแก่อย่างในตอนนี้

สตรีแต่งงานแล้วเท้าคางด้วยมือข้างเดียว นั่งเบี่ยงตัวอยู่บนม้านั่งยาว หันหน้าไปมองคนหนุ่มที่เทเหล้าด้วยมือที่มั่นคงอย่างยิ่ง สองข้างแก้มของนางแดงก่ำน้อยๆ กลิ่นหอมของเหล้ายังไม่จางหายไป นางก็ถามขึ้นยิ้มๆ ว่า “คุณชายใช้ถ้วยดื่มเหล้าไม่สะดวกกว่าหรือ? หากเจ้าดื่มเหล้าหนึ่งจินนี้หมด ก็ต้องเทใส่เข้าไปในน้ำเต้าอีกครั้งไม่ใช่หรือ?”

ทว่าแม้จะพูดเช่นนี้ นางก็ยังไปหิ้วกาเหล้ามาให้ตัวเองดื่ม แล้วก็ไม่ลืมยกกับแกล้มสามจานมากินแกล้มเหล้าด้วย แน่นอนว่ายังถือตะเกียบมาอีกสองคู่

เฉินผิงอันเอ่ยยิ้มๆ “ข้าเองก็ดื่มเหล้าได้ไม่มาก ดื่มหมดก็หมดไป ไม่ต้องเติมเพิ่มอีก”

สตรีแต่งงานแล้วคลี่ยิ้ม “เพื่อนของเจ้าดื่มเหล้าเก่งจริงๆ”

เฉินผิงอันรู้สึกอายเล็กน้อย ในใจคิดว่า เว่ยเซี่ยน จะดีจะชั่วเจ้าก็เป็นถึงฮ่องเต้ผู้บุกเบิกแคว้น ทำตัวแบบนี้น่าอายนัก

เฉินผิงอันถามเหมือนชวนคุย “ในเมื่อทหารชายแดนตระกูลเหยามีชื่อเสียงอยู่ที่ชายแดนมากขนาดนี้ เถ้าแก่เนี้ยะรู้หรือไม่ว่าตอนนี้บุคคลยิ่งใหญ่ในตระกูลเหยามีใครบ้าง?”

สตรีแต่งงานแล้วเลิกคิ้วสูง “โอ้โห คุณชาย เจ้าคงไม่ใช่สายลับแคว้นเป่ยจิ้นหรอกกระมัง?”

เฉินผิงอันชี้ไปยังชั้นบน “มีสายลับที่เป็นแบบข้าด้วยหรือ? พาเพื่อนที่ดื่มเหล้าเก่งติดตามมาด้วย? แถมยังมีเด็กด้วยอีกคน?”

สตรีแต่งงานแล้วพยักหน้ารับ “ก็จริงนะ หากเป่ยจิ้นมีสายลับอย่างคุณชาย ไหนเลยจะมีสงครามบ่อยขนาดนี้ ป่านนี้ใต้หล้าคงสงบสุขไปนานแล้ว”

นางดื่มไปค่อนข้างเยอะแล้ว ยืดแขนออกมาคีบเนื้อหมักเต้าเจี้ยวในจานหนึ่งอยู่สองครั้งก็ยังคีบไม่ติด เฉินผิงอันจึงผลักจานไปให้นางเบาๆ นางชำเลืองตามองมาอย่างหยาดเยิ้ม สุดท้ายตัดสินใจวางตะเกียบลง “เรื่องนี้จะเล่าให้เจ้าฟังก็ไม่เป็นไร จะได้สอนให้คนป่าเถื่อนทางใต้อย่างพวกเจ้าได้รู้ถึงความร้ายกาจของทหารชายแดนต้าเฉวียนของพวกเราด้วย”

นางเรอดังเอิ้ก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไร “แม่ทัพผู้เฒ่าเหยาที่อยู่บนหลังม้ามาครึ่งชีวิตคนนี้คือหนึ่งในแม่ทัพใหญ่ที่ใช้อักษรตัวเจิงของต้าเฉวียนเรา มีบุตรชายสามคน บุตรสาวสองคน น่าเสียดายที่บุตรชายตายไปสองคน บุตรสาวตายไปหนึ่งคน บุตรสาวคนที่อายุน้อยสุดแต่งงานไปอยู่เมืองหลวง ได้คู่ครองที่ดี ทุกคนต่างก็พูดกันว่าพวกเขาเป็นคู่สร้างคู่สม เป็นคู่รักเทพเซียน มีหลานชายหลานสาวมากมาย คนที่ได้ดิบได้ดีที่สุดมีอยู่สองคน หลานชายชื่อเหยาเซียนจือ ได้ยินว่าอายุสิบขวบก็เข้าไปอยู่ในกองทัพ หลานสาวที่ชื่อเหยาหลิ่งจือก็ยิ่งร้ายกาจ พรสวรรค์ด้านการฝึกยุทธ์ดีจนถึงขั้นที่ทุกคนในชายแดนต่างก็รับรู้”

เฉินผิงอันถามด้วยความใคร่รู้ “เหตุใดถึงต้องลงท้ายชื่อด้วยอักษรตัว ‘จือ’ ทุกคน?”

สตรีแต่งงานแล้วเอ่ยยิ้มๆ “เป็นรุ่นที่ใช้อักษรตัวจืออย่างไรล่ะ”

เฉินผิงอันยิ่งสงสัย “ตัวอักษรที่กำหนดรุ่นไม่ควรอยู่ตรงกลางหรอกหรือ? หรือว่าต้าเฉวียนของพวกเจ้าไม่เหมือนที่อื่น?”

สตรีแต่งงานแล้วพูดเสียงขุ่น “ข้าจะไปรู้กฎของบรรพบุรุษตระกูลเหยาที่ร่ำรวยและสูงศักดิ์ได้อย่างไร เจ้าจะไม่ยอมให้คนมีเงินมีนิสัยประหลาดบ้างเลยหรือ?”

เฉินผิงอันถามหยั่งเชิง “ชื่อเสียงของกองทัพม้าเหล็กตระกูลเหยายิ่งใหญ่ขนาดนี้ คนต้าเฉวียนของพวกเจ้าคงมีคนอิจฉาตาร้อนไม่น้อยเลยกระมัง?”

สตรีแต่งงานแล้วมองค้อน “เจ้าถามข้า แล้วข้าจะไปถามใคร? ถามฮ่องเต้งั้นหรือ?”

แล้วนางก็หัวเราะคิกคักกับตัวเอง ท่าทางเย้ายวนมีเสน่ห์ “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรอให้ตาแก่ฮ่องเต้ถูกใจในความงามของข้า รับข้าเข้าวังเสียก่อน แม้ว่าเขาจะอายุมากไปหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นถึงฮ่องเต้ ไม่แน่ว่าขาเตียงของเขาอาจจะทำมาจากทองคำ…”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

ชายฉกรรจ์เห็นท่าทางเช่นนี้ของเขาก็พลันโมโห เห็นใบหน้านอบน้อมและยิ้มประจบจากพวกชาวบ้านในเมืองหูเอ๋อร์มาจนชิน อยู่ดีๆ กลับมีคนที่ไม่รู้จักก้มหัวค้อมเอวเอาใจโผล่มา ประเด็นสำคัญคือยังหล่อเหลาขนาดนี้ เลยคิดอยากหาวิธีจัดการกับเจ้าเด็กนี่ สอนให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเขาต่างหากที่เป็นงูเจ้าถิ่นของเมืองหูเอ๋อร์แห่งนี้ ขนาดเสือที่ลงจากภูเขามาเจอเข้ากับเขาหม่าผิงก็ยังต้องทรุดตัวนั่งอย่างว่าง่าย มังกรข้ามแม่น้ำก็ต้องขดตัวนอนไม่กล้าหือ เป็นคนอื่นจะมีสิทธิ์มายักคิ้วหลิ่วตาให้จิ่วเหนียงของโรงเตี๊ยมได้อย่างไร

สตรีแต่งงานแล้วพลันถามว่า “ได้ยินว่าในเมืองมีผีอาละวาดอีกแล้ว? คราวนี้ใครโดนผีเข้าล่ะ?”

พอพูดถึงเรื่องอัปมงคลนี้ หม่าผิงก็หมดอารมณ์ โยนเอกสารผ่านทางคืนให้กับเจ้าเด็กหน้าขาว ดื่มเหล้าอย่างอัดอั้น ก่อนจะพูดงึมงำด้วยความหงุดหงิด “มารดามันเถอะ ช่างเป็นเสนียดจัญไรซะจริง เมื่อก่อนมีแต่คนต่างถิ่นที่ถูกเล่นงาน คราวนี้ดันมาเป็นคนในเมืองเล็กที่โดน ตาเฒ่าหลิวแขนเดียว เจ้ารู้จักใช่ไหม คนที่เปิดร้ายขายกระดาษเงิน ตาแก่มอซอที่ชอบดูฮวงจุ้ยให้คนอื่นน่ะ เขาเสียสติไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว อากาศแบบนี้ ตอนกลางวันเขากลับไม่สวมเสื้อผ้าวิ่งพล่านอยู่บนถนนใหญ่ แถมยังบอกว่าตัวเองร้อนมาก พวกพี่น้องในหน่วยหลายคนช่วยกันจับตัวเขาขังไว้ ผ่านไปได้ไม่กี่วันก็ขี้เต็มห้องขัง กลิ่นเหม็นตลบอบอวล วันนี้เพิ่งจะคืนสติกลับมาเล็กน้อย ไม่เอาแต่พึมพำภาษาประหลาดอีกต่อไป พวกเราพี่น้องก็เลยอยากมาขอเหล้าบ๊วยจากจิ่วเหนียงดื่มสักสองสามชามเพื่อบำรุงปราณหยางให้แข็งแกร่ง ชำระล้างไออัปมงคลออกไปนี่ไงล่ะ”

สตรีแต่งงานแล้วขมวดคิ้ว “แล้วอย่างนี้จะจัดการกันยังไง? คราวก่อนปรมาจารย์ที่พวกเจ้าทุ่มเงินก้อนใหญ่เชิญมาจากเขตการปกครองได้มอบยันต์เทพเซียนไว้ให้เจ้าแผ่นหนึ่งไม่ใช่หรือ? เขาโม้กับข้าไว้ว่ายังไงนะ บอกว่า ‘ยันต์หนึ่งแผ่น หมื่นผีถอยหนี’?”

ชายฉกรรจ์หันไปถ่มเสลดเหนียวข้นลงพื้นอย่างแรง “ปรมาจารย์ตดหมาน่ะสิ มันเป็นนักต้มตุ๋นชัดๆ ข้าโดนต้มเสียจนเปื่อย ช่วงนี้มือปราบหันก็คอยหาเรื่องข้าอยู่เรื่อย”

หม่าผิงพ่นลมหายใจขุ่นมัวออกมาหนึ่งที ฝืนเค้นรอยยิ้มส่งให้ ทั้งยังยื่นมือออกมาหมายจะลูบมือเล็กๆ ของนาง สตรีแต่งงานแล้วหดมือกลับอย่างไม่กระโตกกระตาก เมื่อไม่ได้สมใจปรารถนา หม่าผิงจึงยิ้มตาหยีกล่าวว่า “จิ่วเหนียง เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนอย่างไร? อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาในเมืองหูเอ๋อร์กระมัง? ข้ามีรายได้ไม่น้อย ชาติตระกูลก็ใสสะอาด แถมยังเคยฝึกวรยุทธ์มาก่อน มีพละกำลังมากมายให้ใช้ไม่หมด เจ้าไม่หวั่นไหวบ้างหรือ? จิ่วเหนียง เจ้าอย่าคิดมากเลย พี่ใหญ่หม่าของเจ้าไม่ใช่คนหัวโบราณขนาดนั้น ข้าไม่ถือสาอดีตที่ผ่านมาของเจ้าหรอก”

สตรีแต่งงานแล้วหัวเราะเหอๆ

หลังจากนั้นเขาก็ใช้ข้ออ้างว่าเมาคิดจะแตะอั๋งนางอยู่หลายครั้ง แต่สตรีแต่งงานแล้วล้วนหลบมาได้ทุกครั้ง หม่าผิงกับมือปราบที่เป็นเพื่อนร่วมงานอีกสองคนกินอาหารกันจนแทบเกลี้ยงโต๊ะ ปากมันแผล็บ ดื่มจนเมามาย ดูท่าแล้วคงกะจะมากินฟรี สุดท้ายไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป คนทั้งสามขึ้นไปนอนที่ชั้นบน บอกว่าพรุ่งนี้ค่อยกลับไปที่เมืองหูเอ๋อร์

เฉินผิงอันขยับไปนั่งตรงอื่นนานแล้ว ตอนที่เด็กขาเป๋มาเก็บโต๊ะ สตรีแต่งงานแล้วมานั่งข้างเฉินผิงอัน ถอนหายใจยาวเหยียดคล้ายเหนื่อยล้า ก่อนจะยิ้มขื่นกล่าวว่า “หม่าผิงคนนี้คือมือปราบของเมืองหูเอ๋อร์ ครอบครัวของเขาทำอาชีพนี้กันมาหลายรุ่นหลายสมัย แค่พอจะมีความเกี่ยวข้องกับที่ว่าการของทางการเล็กน้อยเท่านั้น สถานที่ใหญ่แค่ก้นแห่งนั้น คำเรียกขานว่าขุนนางใหญ่ คนที่สวมหมวกขุนนางใหญ่สุดก็เป็นแค่ขุนนางเล็กๆ ที่ไม่มีระดับขั้น อันที่จริงเรียกได้แค่ว่าเป็นพนักงานผู้น้อย ไม่ถือว่าเป็นขุนนางด้วยซ้ำ ทว่ากลับวางท่าใหญ่โตเทียมฟ้า”

เผยเฉียนได้ยินความเคลื่อนไหวด้านนอกก็เปิดประตูออกมาเบาๆ ย่อตัวลงนั่งยอง เอาศีรษะลอดร่องราวระเบียงชั้นสองแอบมองคนสองคนที่อยู่ข้างล่าง ผลคือกว่าจะเอาหัวออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย นางรีบวิ่งเหยาะๆ ลงไปชั้นล่าง เพิ่งจะขยับเข้าไปใกล้โต๊ะก็ได้ยินสตรีแต่งงานแล้วบ่นเรื่องคนในวงการขุนนางที่ทำตัวเป็นผีตามติด บอกว่ามือปราบพวกนั้นชอบมากินฟรีดื่มฟรีที่โรงเตี๊ยม นอกจากจ่ายเงินเพื่อซื้อความสงบแล้ว นางยังจะทำอะไรได้อีก

—–

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!