กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 340

สรุปบท บทที่ 340.2 คนประหลาด ฝันประหลาด: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 340.2 คนประหลาด ฝันประหลาด – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 340.2 คนประหลาด ฝันประหลาด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 340.2 คนประหลาด ฝันประหลาด
ProjectZyphon
จงขุยพลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “เสื้อเกราะน้ำค้างหวานที่ชายฉกรรจ์คนที่ขัดขวางพวกผู้ฝึกลมปราณอยู่นอกประตูคืนนั้นสวมใส่ หากข้ามองไม่ผิดน่าจะเป็น ‘ซีเยว่’ ที่ถูกบันทึกไว้ในตำราโบราณของสำนักการทหาร คือหนึ่งในเสื้อเกราะบรรพบุรุษแปดตัวของเสื้อเกราะน้ำค้างหวาน เจ้าได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษงั้นรึ?”

เฉินผิงอันใจสั่นเล็กน้อย เขาส่ายหน้ากล่าวว่า “ซื้อมาจากหอหลิงจือของภูเขาห้อยหัว”

จงขุยถาม “จ่ายเงินเงินฝนธัญพืชไปกี่เหรียญ?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “แค่จ่ายเงินร้อนน้อยไปบางส่วน ไม่แพง กะว่าวันหน้าจะเอาไปมอบให้คนอื่น”

จงขุยเอ่ยยิ้มๆ “หอหลิงจือไม่รู้จักดูของ ทำให้เจ้าโชคดีได้มาครอง แต่ก็เป็นเรื่องปกติ ซีเยว่ถูกยอดฝีมือร่ายตราผนึกเอาไว้ หากไม่เป็นเพราะในสำนักศึกษาของข้ามีตำราลับที่ใกล้จะขาดเป็นเศษชิ้นส่วนเล่มนั้น จึงรู้เรื่องวงในด้านการสืบทอดเม็ดเสื้อเกราะของสำนักการทหารพอดี อีกทั้งตอนนั้นยังพยายามเพ่งมองอยู่นาน ก็คงไม่มีทางจำได้ว่าเป็นมัน ข้าแนะนำเจ้าว่าเก็บมันไว้จะดีกว่า มันมีค่าขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรกับที่มันยังมีเรื่องราวมากมาย มอบให้คนอื่นง่ายๆ คงน่าเสียดายยิ่งนัก”

เฉินผิงอันไม่ได้บอกว่าสุดท้ายแล้วจะมอบหรือไม่มอบให้ใคร เขาเพียงถามอย่างใคร่รู้ว่า “เสื้อเกราะบรรพบุรุษแปดตัว?”

จงขุยหยิบถั่วลิสงหนึ่งเม็ดโยนเข้าปาก “เสื้อเกราะน้ำค้างหวานมีชื่อเต็มว่าเทพรับน้ำค้าง ข้าถามเจ้า เทพอะไร? รับน้ำค้างอะไร?”

เฉินผิงอันส่ายหน้าบอกว่าไม่รู้

จงขุยจึงคลี่ยิ้ม “นอกจากซีเยว่แล้ว เสื้อเกราะน้ำค้างหวานอีกเจ็ดตัวแรกสุดแบ่งออกเป็นฝอกั๋ว ฮวาเปา ซานกุ่ย สุ่ยเซียน เสียกวาง ไฉ่อีและอวิ๋นไห่ ส่วนใหญ่ล้วนถูกทำลายไปในสนามรบและสูญหายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ที่เหลืออยู่มีไม่มาก ตามหลักฐานซึ่งสามารถตรวจสอบได้ก็มีแค่ซานกุ่ยและไฉ่อีสองชิ้นเท่านั้น อย่าเห็นว่าซีเยว่ที่อยู่ในมือเจ้าพังเละมากแล้ว เมื่อเทียบกับอีกสองชิ้นที่ยังอยู่บนโลกมนุษย์ได้อย่างยากลำบากก็ถือว่าดีมากแล้ว หากไปเจอกับคนที่รู้จักดูของ เจ้าสามารถเรียกราคาได้เต็มที่ รับรองว่าจะต้องได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่ว่าถึงอย่างไรเสื้อเกราะบรรพบุรุษเหล่านี้ก็สูญเสียพลังต้นกำเนิดไปแล้ว วิชาอภินิหารที่ช่วยปกป้องเจ้านายไม่เหลือแม้แต่ส่วนเดียว เป็นเรื่องที่น่าเสียดายนัก สำหรับเรื่องนี้ สมควรต้องดื่มหนึ่งจอก”

จงขุยยกถ้วยเหล้าขึ้น แหงนหน้ากระดกดื่มจนหมดนำไปก่อน

เฉินผิงอันจึงได้แต่ดื่มตามไปอีกถ้วย

แล้วจงขุยก็เป็นฝ่ายเอ่ยถึงหายนะในครั้งนี้ด้วยตัวเอง “องค์ชายสองคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร หลังจากนี้หากเจ้ายังอยู่ต่อในต้าเฉวียนก็ต้องระวังตัวสักหน่อย ล่างภูเขาย่อมมีกฎของล่างภูเขา อีกทั้งยอดฝีมือที่อยู่ล่างภูเขาก็มีมากมาย ยกตัวอย่างเช่นเมื่อองค์ชายสามผู้นั้นมาพบกับเจ้าก็คือเหนือภูเขายังมีภูเขา ดังนั้นเขาถึงได้กลับไปอย่างสะบักสะบอม”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ก็คือหลักการนี้”

จู่ๆ จงขุยก็เอ่ยยิ้มๆ ว่า “คิดถึงการเข่นฆ่าระหว่างเจ้ากับโส่วกงไหวของต้าเฉวียนคืนนั้น แล้วหันมามองเจ้าตอนนี้ที่นั่งดื่มเหล้าพูดจาเออออกับข้า ข้ารู้สึกไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไหร่ ทำไม ตอนอยู่บ้านเกิดเคยลำบากเพราะสำนักศึกษามาก่อนงั้นหรือ ถึงได้กริ่งเกรงยศวิญญูชนถึงขนาดนี้?”

เฉินผิงอันหลุดหัวเราะพรืด

จงขุยเอ่ยขึ้นอีกว่า “วันนั้นที่เจ้าพูดว่าเหตุผลของใครก็ล้วนมีเหตุผลเสมอ ข้ารู้สึกว่าเจ้าพูดได้ดีมาก ส่วนที่บอกให้กั๋วกงน้อยถามใจตัวเองดู แม้ฟังแล้วจะเผด็จการไปสักหน่อย แต่ก็สมเหตุสมผล หาข้อตำหนิไม่ได้เลย แต่อันที่จริงแล้วค่อนข้างจะ…ไม่มีมารยาทสักเท่าไหร่”

เฉินผิงอันดื่มเหล้าหนึ่งอึก “ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”

จงขุยพยักหน้ารับ “ก็จริง เรื่องราวบนโลกก็เป็นเช่นนี้ ตัวอยู่ในหลุมขี้ก็เลยรู้สึกว่าการกินขี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามหลักฟ้าดิน มีคนยกกับข้าวมาให้หนึ่งถาด คนเขาก็ยังไม่เต็มใจจะกิน”

เฉินผิงอันฟังแล้วถึงกับเดาะลิ้น

นี่คือ ‘หลักการ’ ที่วิญญูชนของลัทธิขงจื๊อพูดกันหรือ?

จงขุยทอดถอนใจ “แต่ต่อให้โลกใบนี้จะเละเหมือนหลุมขี้ก็ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเราจะกินขี้”

คราวนี้เฉินผิงอันที่มือหนึ่งคีบอาหาร มือหนึ่งถือถ้วยเหล้าอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้

จงขุยเห็นท่าทางผิดปกติของเฉินผิงอันก็รีบพูดปลอบใจ “ที่พวกเรากินดื่มไม่ใช่ขี้เยี่ยว คืออาหารดีสุรารสเลิศ เจ้ากินให้สบายใจ”

เฉินผิงอันจึงเริ่มกินดื่มอีกครั้งเงียบๆ

พูดคุยกับคนผู้นี้แล้วรู้สึกตามความคิดของเขาไม่ทันสักเท่าไหร่

ทันใดนั้นเฉินผิงอันก็ไพล่นึกไปถึงเป่าผิงน้อย

ตรงหน้าประตู มีจิ่วเหนียงออกหน้าให้ เพียงไม่นานปัญหาก็คลี่คลาย

ตอนนี้โรงเตี๊ยมในสายตาของชาวบ้านเมืองหูเอ๋อร์ทั้งลึกลับและพิลึกพิลั่น ดังนั้นแม้แต่ความกล้าที่จะเข้ามาโวยวายข้างในก็ยังไม่มี

เฉินผิงอันขอบคุณสตรีแต่งงานแล้ว แล้วจึงเดินไปทางบันได เผยเฉียนยังนั่งวาดวงกลมอยู่ตรงนั้น เฉินผิงอันพูดว่าตามข้ามา นางก็เดินตามไปด้านหลังแต่โดยดี ไหล่ลู่คอตก มองดูเหมือนคนที่ทำความผิดแล้วรู้ว่าตัวเองผิด แต่เฉินผิงอันใช้หัวเข่าคิดยังรู้เลยว่าเด็กหญิงที่อยู่ด้านหลังกำลังแอบหัวเราะชอบใจ เขาถึงขั้นจินตนาการได้ถึงท่าทางเห่อเหิมลำพองใจของเผยเฉียนยามนางไปเยือนเมืองหูเอ๋อร์คราวหน้า

มาถึงในห้อง เฉินผิงอันก็นั่งลง เผยเฉียนไม่กล้านั่ง พอปิดประตูลงแล้วก็ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะ

เฉินผิงอันพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “วันหน้าเจ้าก็อยู่ที่นี่ต่อไป ข้าจะมอบเงินก้อนหนึ่งให้ทางโรงเตี๊ยม”

เผยเฉียนพลันเงยหน้าขึ้นอย่างเดือดดาล กำลังจะขยับปากพูด แต่พอนางเห็นสีหน้าเย็นชาของเฉินผิงอันก็ก้มหน้าลงไปอีกครั้ง “ข้าผิดไปแล้ว คราวหน้าไม่กล้าแล้ว เดี๋ยวข้าจะกลับไปที่เมืองหูเอ๋อร์ ซื้อว่าวตัวใหม่ให้เสี่ยวเหมย จะซื้อว่าวผีเสื้อตัวใหญ่สีสันสวยงามราคาสี่สิบอีแปะให้นาง มันสวยกว่าว่าวรูปกบเยอะเลย พวกเสี่ยวเหมยอยากได้มานานแล้ว แต่พวกลูกกระต่ายยากจนที่พอได้ถังหูลู่ไม้เดียวก็รู้สึกเหมือนได้ฉลองปีใหม่พวกนั้นซื้อไม่ไหว คราวนี้ถือว่าได้ดีนางไป”

เฉินผิงอันถาม “เจ้าไปเอาเงินมาจากไหน?”

เดินอยู่บนทางดินเหลืองที่เป็นหลุมเป็นบ่อไม่ราบเรียบ เฉินผิงอันมองไปทางทิศตะวันตกแวบหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวเดินกลับโรงเตี๊ยม

เขากับคนกลุ่มหนึ่งมาถึงนอกโรงเตี๊ยมแทบจะเวลาเดียวกัน อีกฝ่ายก็คือเจ้าประมุขสกุลเหยาที่ยังได้รับบาดเจ็บ แม่ทัพใหญ่เหยาเจิ้น เขาพาเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ตอนนั้นก็เป็นหนึ่งในคนที่ตกอยู่ในวงล้อมสังหารมาด้วย นอกจากนี้ก็มีเหยาหลิ่งจือผู้มีพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธ์ที่ผ่านคลื่นมรสุมในโรงเตี๊ยมมากับตัว รวมไปถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่สวมผ้าคลุมหน้า ด้านหลังคนเหล่านี้มีทหารม้าห้าหกนาย ไม่ใช่กองทหารม้าชายแดนของตระกูลเหยา แต่เป็นผู้ฝึกตนที่ติดตามกองทัพซึ่งไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อเกราะ คนบนภูเขาที่เข้าร่วมกองทัพเหล่านี้ หากอยู่ที่ต้าหลีน่าจะถูกเรียกว่าเลขาธิการฝ่ายบู๊

พอเห็นเฉินผิงอันที่สวมชุดคลุมยาวสีเขียว แม่ทัพผู้เฒ่าที่สีหน้าอิดโรย แต่ยังยืนกรานจะมาเยือนโรงเตี๊ยมด้วยตัวเองก็รีบลงจากหลังม้า เดินเร็วๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินผิงอัน กุมมือคารวะพลางกล่าวว่า “สองครั้งที่ผู้ผดุงคุณธรรมให้ความช่วยเหลือ สกุลเหยาของข้าซาบซึ้งยิ่งนัก! วันนี้มาพบผู้มีพระคุณ ขอท่านโปรดรับการคารวะจากข้าเหยาเจิ้น!”

ผู้เฒ่าพูดจบก็โค้งตัวลงต่ำให้เฉินผิงอัน เฉินผิงอันได้แต่รั้งแขนของผู้เฒ่าเอาไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายทำท่าคารวะที่ยิ่งใหญ่นี้

เพียงแต่ว่าแม้จะห้ามปรามเหยาเจิ้นไว้ได้ แต่ลูกหลานสกุลเหยาคนอื่นๆ รวมไปถึงผู้ฝึกตนติดตามกองทัพที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับคนสกุลเหยากลับก้มลงคารวะเขาอย่างพร้อมเพรียงกันแล้ว

ผู้เฒ่าหน้าซีดขาว ใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพมานานทำให้เขามีนิสัยตรงไปตรงมา จึงถามเข้าประเด็นโดยตรงว่า “ไม่ทราบว่าต้องการให้ตระกูลเหยาของข้าตอบแทนเช่นไร?”

เห็นเฉินผิงอันไม่พูดไม่จา ผู้เฒ่าก็คลี่ยิ้มกล่าวว่า “หาใช่ดูแคลนน้ำใจและความมีคุณธรรมของคุณชายไม่ แต่บุญคุณยิ่งใหญ่ขนาดนี้ หากสกุลเหยาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น พวกเราก็คงไม่มีหน้าชูธงที่ด้านบนมีอักษรคำว่าเหยาไว้เหนือกองทัพชายแดนตระกูลเหยาอีกต่อไปแล้ว”

เฉินผิงอันจึงถามอย่างไม่เกรงใจ “แม่ทัพผู้เฒ่ามีวิธีช่วยให้ข้าหลบเลี่ยงหูตาของราชสำนักต้าเฉวียนจนกระทั่งเดินทางไปถึงยอดเขาเทียนแชวของชายแดนทางเหนือหรือไม่?”

เหยาเจิ้นถาม “กลุ่มของผู้มีพระคุณมีกันทั้งหมดกี่คน?”

เดิมทีเฉินผิงอันอยากตอบว่าหกคน แต่พอคำพูดมารอตรงปากแล้วก็รีบเปลี่ยนใหม่ว่า “ห้าคน”

เหยาเจิ้นทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้ารับ “ได้! หากผู้มีพระคุณเชื่อใจสกุลเหยาก็รออยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน หลังจบเรื่องจะต้องทำให้กลุ่มของผู้มีพระคุณทั้งห้าไปถึงยอดเขาเทียนแชวทางทิศเหนือได้อย่างปลอดภัยแน่นอน”

เฉินผิงอันถาม “จะสร้างปัญหาให้พวกท่านหรือไม่?”

เหยาเจิ้นหัวเราะเสียงดังกังวาน “ปัญหาใหญ่เทียมฟ้ายังผ่านมันไปได้แล้ว ตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่จะเป็นปัญหาได้อีกแล้ว”

ตอนที่แม่ทัพผู้เฒ่าพูดประโยคนี้ เขารู้สึกเบาสบายไปทั้งร่าง แม้ว่าบาดแผลจะสาหัส ขี่ม้ากระเด้งกระดอนมาตลอดทางก็ยิ่งเป็นการเพิ่มน้ำค้างแข็งลงบนหิมะ แต่ระหว่างที่พูดคุยกันนี้ เขากลับรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก

เพียงแต่ว่าทุกคนที่อยู่ด้านหลังเหยาเจิ้นกลับมีสีหน้าหนักอึ้ง แฝงไว้ด้วยความไม่ยินยอมอย่างเข้มข้น

—–

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!