อ่านสรุป บทที่ 370.1 พบเจอและแยกย้าย จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet
บทที่ บทที่ 370.1 พบเจอและแยกย้าย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ในขณะที่กระบี่บินชูอีและสืออู่ใกล้จะกินแท่นสังหารมังกรรูปทรงยาวชิ้นนั้นจนหมด กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างต่อเนื่อง กระบี่บินส่งเสียงดังสวบๆ ก็มาถึงวันที่ยี่สิบเก้าเดือนสองแล้ว
เผยเฉียน เว่ยเซี่ยนสุยโย่วเปียนสามคนซื้อของที่ใช้ในวันตรุษจีนที่ร้านยาฮุยเฉินกลับมาเต็มไม้เต็มมือ วิ่งไปกลับอยู่ห้าหกรอบ การที่เผยเฉียนร้องขอร้องสุยโย่วเปียนอย่างยากลำบากให้เดินทางไปเป็นเพื่อนนั้นใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เพราะขอแค่สุยโย่วเปียนยืนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับร้านต่างๆ ไม่จำเป็นต้องให้เว่ยเซี่ยนและเผยเฉียนต่อรองราคากับเถ้าแก่ร้าน ราคาก็จะลดดิ่งฮวบลงได้เอง
ทุกครั้งจะออกไปแต่เช้า กลับมาเย็นย่ำ ผู้เฒ่าคนนั้นก็จะนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไหวโบราณของหัวเลี้ยวตรอก ตอนแรกยังมีท่าทางระมัดระวังอยู่บ้าง ภายหลังคุ้นเคยกันแล้วจึงพูดทักทายพวกเขา สองครั้งสุดท้าย เว่ยเซี่ยนที่มีหน้าที่แบกของหนักไม่ได้ตามไปด้วย วันนี้ตอนที่สุยโย่วเปียนซึ่งสะพายหีบไม้ไผ่สีเขียวของเฉินผิงอันพาเผยเฉียนเดินกลับเข้ามาในตรอกเล็ก ผู้เฒ่าก็เอ่ยทักทายขึ้นอีกครั้ง เผยเฉียนตอบรับอย่างอ่อนหวาน สุยโย่วเปียนไม่ได้เอ่ยอะไร พอเดินเข้ามาในตรอกเล็ก เผยเฉียนก็หัวเราะร่าพูดว่าผู้เฒ่าที่ลักษณะท่าทางเหมือนซิ่วไฉเหมือนจวี่เหรินท่านนี้ช่างทำตัวสมกับคำว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ก็แค่อายุมากไปสักหน่อย สุยโย่วเปียนดึงหูเผยเฉียน ยิ้มตาหยีถามว่าผู้เฒ่าได้ตกปากรับคำว่าจะมอบเงินยาสุ้ยถุงสีแดงหนาหนักให้เจ้าใบหนึ่งใช่หรือไม่? เผยเฉียนได้แต่แสร้งโง่ร้องโอดโอยว่าเจ็บ
เดินข้ามธรณีประตูร้านยาเข้ามา เฉินผิงอันยังคงนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะคิดเงิน รอจนสุยโย่วเปียนปล่อยมือที่ดึงหูเผยเฉียนแล้ว เผยเฉียนก็เริ่มร่ายเสียงดังว่าพวกนางสองคนไปที่ไหนเวลาไหน ซื้อของอะไรที่ราคาเดิมเท่าไหร่ แต่ซื้อมาด้วยราคาเท่าไหร่ที่ร้านใด เฉินผิงอันดีดลูกคิด เมื่อเสียงของเผยเฉียนเงียบลง เสียงดีดลูกคิดใสกังวานดังเสนาะหูก็หยุดลงทันควันเช่นกัน เฉินผิงอันชูนิ้วโป้งให้สุยโย่วเปียน “ลำพังแค่พวกอุปกรณ์ตกแต่งบนโต๊ะหนังสือก็ได้ลดไปประมาณร้อยตำลึงเงินแล้ว”
เผยเฉียนช่วยสุยโย่วเปียนเลิกผ้าม่านไม้ไผ่ สุยโย่วเปียนเดินไปด้านหลังของร้านยาแล้วปลดข้าวของที่ซื้อมาสำหรับใช้ในวันตรุษจีนลงจากบ่า
เผยเฉียนเดินย้อนกลับไปที่โต๊ะคิดเงิน เขย่งปลายเท้า เอาคางวางบนโต๊ะ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มทวงรางวัล
เฉินผิงอันชำเลืองตามองไปทางม่านไม้ไผ่ แอบหยิบเงินเหรียญทองแดงออกมาเจ็ดแปดเหรียญ “นี่คือส่วนแบ่งของเจ้า รีบเก็บไปเร็วเข้า หากนางเห็นเข้า พวกเราสองคนต้องแย่แน่”
เผยเฉียนเก็บทรัพย์สินก้อนเล็กนี้มาอย่างระมัดระวังแล้ววิ่งปรู๊ดไปที่เรือนด้านหลัง รีบเอาไปเก็บไว้ในกล่องเก็บสมบัติของนาง
เฉินผิงอันเอ่ยเตือน “ไปช่วยนางเก็บของด้วย ต้องทำดีให้เสมอต้นเสมอปลาย แล้วจำไว้ว่าสุดท้ายต้องพูดกับนางหนึ่งคำว่าลำบากนางแล้ว”
“ได้เลย!” เผยเฉียนตอบรับเสียงดัง
มองม่านไม้ไผ่สีเขียวที่ยังแกว่งส่าย เฉินผิงอันก็คลี่ยิ้มอย่างเข้าใจ
พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันที่สามสิบของสิ้นปีแล้ว วันสุดท้ายของปี บอกลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (ปีใหม่ของจีนคือวันตรุษจีน จะอยู่ในช่วงเดือนสอง ไม่ใช่วันที่สามสิบเอ็ดเดือนสิบสองอย่างปีสากล)
ไม่ว่าอย่างไรเฉินผิงอันก็คิดไม่ถึงว่าจะได้ร่วมฉลองวันปีใหม่พร้อมกับคนมากมายในร้านยาฮุยเฉินของนครมังกรเฒ่าเช่นนี้
เมื่อไม่กี่วันก่อนไปซื้อของสำหรับตรุษจีนมาหลายรอบ สุยโย่วเปียนไม่ใคร่จะเต็มใจนัก ภายหลังเว่ยเซี่ยนก็คร้านจะไป กลับกลายเป็นสุยโย่วเปียนที่ติดใจขึ้นมา ลากเอาเผยเฉียนบุกตะลุยไปทั่วสี่ทิศ สนุกสนานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ช่วงแรกเริ่มสุดจูเหลี่ยนมาปรึกษากับเผยเฉียนเป็นการส่วนตัว บอกว่าขอแค่พาสุยโย่วเปียนออกไปข้างนอกด้วยกันได้ก็จะมอบสี่สมบัติให้ห้องหนังสือหนึ่งชุดและเงินยาสุ้ยหนึ่งก้อนให้นาง เผยเฉียนบอกว่านางจะรับไว้พิจารณา หลังจากนั้นนางก็ไปหาเฉินผิงอัน เฉินผิงอันรู้สึกว่าสุยโย่วเปียนควรจะออกไปข้างนอกให้มาก สัมผัสกลับกลิ่นอายของโลกมนุษย์เยอะหน่อยก็เป็นเรื่องดี จึงบอกให้เผยเฉียนรับปากไป ดังนั้นสุยโย่วเปียนที่ทนรำคาญเสียงพึมงึมงำราวเสียงแมลงวันของเผยเฉียนซึ่งรบกวนการฝึกยืนนิ่งเจี้ยนหลูของนางไม่ไหว จึงได้แต่ออกไปผ่อนคลายอารมณ์พร้อมกับนางและเว่ยเซี่ยน
ภายหลังสุยโย่วเปียนไปหยิบเอาหีบหนังสือไม้ไผ่สีเขียวใบที่วางอยู่ในมุมห้องของนางกับเผยเฉียนมาด้วยตัวเอง แล้วลากเผยเฉียนออกไปซื้อของด้วยกัน เฉินผิงอันจึงแอบตกลงกับเผยเฉียนอย่างลับๆ ว่า ขอแค่สุยโย่วเปียนต่อรองราคากับเถ้าแก่ร้านได้หนึ่งครั้ง เผยเฉียนก็จะได้รับเงินส่วนแบ่งเป็นเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญ
เฉินผิงอันหันหน้าไปมองนอกประตูร้านยา
แสงสว่างในตรอกเล็กพลันมืดสลัวลง บรรยากาศอึมครึมแผ่ปกคลุมไปทั่ว อีกทั้งดูเหมือนว่าเส้นแสงนั่นจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นทำให้ดูหนักอึ้งอย่างเห็นได้ชัด
คนผู้หนึ่งที่สวมชุดกระโปรงสีเขียวพลิ้วกายลงมาจากฟากฟ้า นางก็คือฟ่านจวิ้นเม่า
เฉินผิงอันเดินอ้อมโต๊ะคิดเงิน ข้ามธรณีประตูออกไป
ฟ่านจวิ้นเม่าถาม “คิดดีแล้วหรือยัง?”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “หวังว่าจะส่งท้ายปีนี้ไปได้ด้วยดี”
ฟ่านจวิ้นเม่าหันไปเอ่ยเตือนเทพหยินแซ่จ้าวที่แผ่ควันดำตลบอบอวล ปราณดุร้ายล่องลอยไปทั่ว “อย่าวาดงูเติมหาง แอบตรวจสอบความเคลื่อนไหวบนทะเลเมฆ ถึงเวลานั้นคนที่ลำบากก็คือเฉินผิงอัน”
เทพหยินพยักหน้ารับ หากมันอาศัยค่ายกลของร้านยาก็จะมีตบะเท่ากับขอบเขตหยกดิบ ซึ่งสามารถตรวจสอบทะเลเมฆเบื้องบนของนครมังกรเฒ่าได้เล็กน้อยจริงๆ เพียงแต่ว่าปราณวิญญาณของทะเลเมฆทั้งสะอาดและบริสุทธิ์ ทว่าเทพหยินและค่ายกลต่างก็เป็นปราณที่สกปรกและดุร้าย ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกัน ประหนึ่งทหารที่ประมือกันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ง่ายที่จะชักนำให้ทะเลเมฆเกิดความวุ่นวาย ทำให้การหล่อหลอมวัตถุแห่งชะตาชีวิตชิ้นนั้นของเฉินผิงอันล้มเหลว และจะทำร้ายไปถึงรากฐานของมหามรรคา
ฟ่านจวิ้นเม่ายื่นมือมาคว้าเฉินผิงอันและทะยานลมขึ้นไปยังทะเลเมฆเหนือศีรษะ
ฟ่านจวิ้นเม่ามองตราประทับเล็กๆ ชิ้นนี้ด้วยสายตาลึกล้ำแวบหนึ่ง “เจ้าจะหลอมวัตถุชิ้นนี้จริงๆ หรือ? วันหน้าเมื่อเชื่อมโยงเข้ากับชะตาชีวิต หากเจ้าคิดจะเอามันไปประทับมอบโชคแห่งน้ำให้กับลำคลองและแม่น้ำ อาจจะทำลายตบะบนมหามรรคาของตัวเจ้าเอง แน่นอนว่าหากไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้ ใช้ตราประทับชิ้นนี้เป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิตของธาตุน้ำในห้าธาตุ ย่อมมีประโยชน์มหาศาลสำหรับการเปิดจวนในร่างกาย คนทั่วไปคิดขุดน้ำหนึ่งบ่อ อย่างมากสุดก็ได้แค่อ่างน้ำแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่เจ้ากลับมีหวังว่าจะบุกเบิกทะเลสาบเล็กๆ แห่งหนึ่ง สภาวะเสี่ยงอันตรายของเจ้าในตอนนี้ที่ปราณวิญญาณกรอกเทเข้าสู่ร่างกายและจิตใจ พุ่งทะยานไปตามช่องโพรงต่างๆ อย่างกำเริบเสิบสาน รุกรานลมปราณแท้จริงที่บริสุทธิ์เฮือกนั้นก็จะสามารถแก้ไขไปได้อย่างง่ายดาย”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับพลางเอ่ยเสียงหนัก “งั้นก็เอาตราประทับตัวอักษรน้ำนี่แหละ!”
เฉินผิงอันยื่นนิ้วออกมาลูบมังกรเฒ่าโปรยพิรุณชิ้นนั้นเบาๆ เกิดความรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย เขาจึงขมวดคิ้ว เงยหน้ามองฟ่านจวิ้นเม่า “นี่ก็คือแก่นน้ำ? ส่วนที่ดีเยี่ยมที่สุดซึ่งเกิดจากโชคชะตาแห่งสายน้ำบนโลกมารวมตัวกันเป็นของที่จับต้องได้จริง?”
สายตาของฟ่านจวิ้นเม่าเย็นชา หัวเราะหยันเสียงเย็น “ทำไม กลัวว่าข้าจะทำร้ายเจ้าอย่างนั้นรึ?!”
เฉินผิงอันส่ายหน้า ลังเลอยู่ชั่วครู่ก็หยิบแผ่นหยกชิ้นที่เจ้าแม่เทพวารีลำคลองหมายเหอมอบให้ออกมาถือไว้ในฝ่ามือ “วัตถุนี้ก็คือแก่นน้ำด้วยเหมือนกัน?”
เมื่อวัตถุนี้ปรากฏออกมา ทะเลเมฆสี่ทิศก็คล้ายจะมีสติปัญญา พากันลิงโลดร่าเริงราวกับกลุ่มเด็กน้อยที่เห็นน้ำตาลปั้นแล้วอยากกิน
สีหน้าของฟ่านจวิ้นเม่าเปลี่ยนมาเป็นเคร่งเครียด ไม่ได้ให้คำตอบ แต่ถามกลับว่า “เจ้าไปได้มันมาจากไหน?”
เฉินผิงอันยิ้มตอบ “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าใช่ ดูเหมือนว่าจะดีกว่าหยกมังกรเฒ่าโปรยพิรุณที่อยู่ในศาลบรรพชนสกุลฝูชิ้นนี้ด้วย”
สายตาของฟ่านจวิ้นเม่าเปลี่ยนมาเป็นร้อนแรง นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกก็คือตอนที่นางได้ยินว่าบนตัวเฉินผิงอันมีโอสถทองของปีศาจใหญ่ขอบเขตสิบสอง ก่อนหน้านี้นางจึงคอยไปป้วนเปี้ยนอยู่ที่ร้านยา
เพียงแต่ว่าคราวนี้ฟ่านจวิ้นเม่าระงับความปรารถนาลงไปได้อย่างรวดเร็ว นางไม่กล้าบังคับซื้อบังคับขายแล้ว เพียงขยับเข้าไปใกล้เล็กน้อย พินิจมองแผ่นหยกที่ถูกเฉินผิงอันปิดตัวอักษรเกินครึ่งอย่างละเอียด แผ่นหยกแวววาวโปร่งใส มีประกายแสงไหลเวียนวน ขอแค่ให้นางได้ดูเป็นบุญตาก็พอ
เฉินผิงอันดูของไม่ออก แต่นางมองออก นี่ต้องเป็นแก่นแห่งโชคชะตาน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของสายน้ำขนาดใหญ่บางสายซึ่งเป็นที่ตั้งวังมังกรบางแห่งแน่นอน เป็นวัตถุในซากปรักหักพังของยุคบรรพกาลที่โชคดีเหลือรอดอยู่บนโลก เมื่อเทียบกับหยกมังกรเฒ่าโปรยพิรุณที่บรรพบุรุษตระกูลฝูห้อยไว้มานานหลายปีแล้วก็ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน สมบัติวิเศษก่อนกำเนิดกับวัตถุหลังกำเนิด เดิมทีก็มีร่องลึกขนาดใหญ่กั้นขวางอยู่แล้ว และที่ฟ่านจวิ้นเม่าอิจฉาตาร้อนขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าหากหลอมแผ่นหยกชิ้นนี้มาชดเชยความเสียหายของทะเลเมฆ จะช่วยให้นางได้ย้อนกลับคืนสู่ก่อกำเนิดได้อีกครั้งอย่างง่ายดาย จากนั้นก็จะได้เลื่อนขั้นสู่ห้าขอบเขตบนแบบสบายๆ แค่ต้องใช้เวลาไม่เกินสามสิบสี่สิบปีเท่านั้น หลังจากนั้นถึงต้องให้ฟ่านจวิ้นเม่าสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจไปตามหาโชควาสนาตามพื้นที่ลับหรือถ้ำสวรรค์ที่ปริแตกแห่งต่างๆ หวนคืนสู่ถิ่นเก่าก็เท่านั้น เมื่อเทียบกับผู้ฝึกลมปราณทั่วไปที่ต้องออกไปท่องตามซากปรักหักพังซึ่งมีปราณสังหารซุ่มอยู่ทั่วทิศแล้วก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
—–
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!