กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 370

เฉินผิงอันเอ่ยถาม “ข้าใช้วัตถุชิ้นนี้มาเป็นแก่นน้ำในการหลอมตราประทับอักษรน้ำแห่งชะตาชีวิต คงจะได้กระมัง?”

ฟ่านจวิ้นเม่าพูดเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ได้! ได้อย่างมาก! เจ้าคนนี้ วันๆ เหยียบแต่ขี้หมานำโชคจริงๆ วัตถุหายากที่พันปีจะพานพบสักครั้งเช่นนี้ เจ้าก็ยังไปเจอแล้วเอามาเก็บไว้ในกระเป๋าของตัวเองได้! รู้หรือไม่ว่าสมบัติวิเศษก่อนกำเนิดที่ได้แต่ปรารถนามิอาจครอบครองชิ้นนี้ เกรงว่าต่อให้เป็นในถ้ำสวรรค์พื้นที่มงคลไม่ทราบชื่อที่ยังไม่มีพวกอริยะไปนั่งในส้วมแต่ไม่ยอมขี้ พวกเซียนดินโอสถทองก่อกำเนิดก็ยังต้องแย่งกันหัวร้างข้างแตก ไม่แน่ว่าอาจมีคนตายอยู่ในนั้น และมีความเป็นไปได้สูงว่ายังต้องช่วงชิงวาสนาเสี้ยวหนึ่งบนมหามรรคากับผู้ฝึกตนขอบเขตหยกดิบ…”

เฉินผิงอันตัดบท ‘คำบ่น’ ของฟ่านจวิ้นเม่าด้วยการยิ้มบางๆ กล่าวว่า “แต่ละคนมีโชควาสนาแตกต่างกันไป หากข้าเกิดและเติบโตมาในนครมังกรเฒ่า อยู่นานเป็นพันปีก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะมีโอกาสมายืนอยู่บนทะเลเมฆผืนนี้ ส่วนเจ้าฟ่านจวิ้นเม่าที่ต่อให้ไปเดินเล่นอยู่ในศาลเทพวารีนานเป็นหมื่นปีก็ยังไม่อาจได้หยกชิ้นนี้มาครอง”

ฟ่านจวิ้นเม่าพยักหน้ารับ “พูดไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย แต่อย่ามัวพูดพล่ามไร้สาระอยู่เลย รีบหลอมวัตถุเข้าเถอะ!”

นางสูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง เริ่มก้าวเดินไปกลางอากาศ สองมือทำมุทรา รอบด้านก็มีลมพัดกระพือฮือโหม ทะเลเมฆผืนใหญ่ยักษ์ที่ปกป้องตลอดทั้งนครมังกรเฒ่าเอาไว้ แถบพื้นที่วงนอกสุดเริ่มม้วนตัวเข้าหากันอย่างรวดเร็วคล้ายดอกบัวดอกหนึ่งที่เดิมทีผลิบานได้หุบกลีบกลับมาเป็นดอกบัวตูมสีขาวหิมะอีกครั้ง ห่อหุ้มนางกับเฉินผิงอันและโต๊ะเมฆตัวนั้นไว้ภายใน เส้นแสงสีขาวหิมะจำนวนนับไม่ถ้วนเหนือศีรษะเป็นเหมือนน้ำพุที่ผุดออกมาจากตาน้ำ ไหลลงสู่เบื้องล่าง ปราณวิญญาณลอยขึ้น เฉินผิงอันรู้สึกหายใจยากลำบากขึ้นมาในทันที พอเห็นสายตาฉายแววเร่งรัดของฟ่านจวิ้นเม่าก็หยิบเอาแผ่นหยกสีทองแผ่นนั้นออกมาแขวนไว้ตรงเอวอย่างไม่กระโตกกระตาก

ตัวอักษรที่สลักไว้บนแผ่นหยกคือ ‘ข้าเชี่ยวชาญการบ่มเพาะจิตใจที่ซื่อตรงและยิ่งใหญ่’

ปราณวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนของทะเลเมฆไหลกรูเข้าหาแผ่นหยกชิ้นนั้น

ฟ่านจวิ้นเม่ารีบสะบัดชายแขนเสื้อขับไล่แก่นน้ำทะเลเมฆที่จงใจทำให้เฉินผิงอันรู้สึกกดดันออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกแผ่นหยกชิ้นนั้นดูดซับไปจนหมดสิ้น ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่านางเอาซาลาเปาเนื้อขว้างสุนัข ขว้างไปแล้วไม่ได้กลับคืนจริงๆ

ฟ่านจวิ้นเม่ายังถือว่าพอจะมีคุณธรรมอยู่บ้าง นางถอยกรูดออกไปจากดอกบัวทะเลเมฆ เพียงแต่ใช้เสียงในทะเลสาบหัวใจเอ่ยเตือนว่า “หากมีปัญหาใหญ่ให้หยุดการหล่อหลอมไว้ทันที ได้รับบาดเจ็บแล้วต้องจ่ายเงินชดใช้ อย่างไรก็ดีว่าเอาชีวิตไปทิ้ง ระดับความสูงต่ำของโต๊ะเมฆที่อยู่ด้านหน้านั้น เจ้าสามารถใช้จิตสั่งให้สูงขึ้นหรือต่ำลงได้”

เฉินผิงอันนั่งขัดสมาธิ โต๊ะเมฆก็ลดระดับต่ำตามมา สุดท้ายกลายมาเป็นเหมือนเสื่อหญ้าสีขาวที่ปูวางอยู่บนพื้น

ตราประทับตัวอักษรน้ำที่ต้องนำมาหลอมเป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิต เตาตู้ทองห้าสี แผ่นหยกแก่นน้ำที่มาจากวังมังกรของแม่น้ำใหญ่บางสาย ตอนนี้จึงยังไม่ถึงเวลาที่ต้องใช้หยกมังกรเฒ่าโปรยพิรุณชิ้นนั้น

วัตถุดิบวิเศษสี่สิบกว่าชิ้น หนึ่งในนั้นคือชาดที่ ‘นอกเหนือจากห้าธาตุเผาผลาญไม่หมด ยิ่งหลอมนานยิ่งมหัศจรรย์’ ซึ่งมีสิบกว่าชิ้นและมีสีสันหลากหลาย มีทั้งชาดน้ำลึกที่คุณภาพต่ำ มีคุณสมบัติคือความหนักและทื่อ แล้วก็ยังมีชาดเป่ยโต่วที่ส่องประกายแสงระยิบระยับดุจแสงดาว ชาดชนิดต่างๆ ที่มีมูลค่ามากควรเมืองล้วนแบ่งแยกใส่ไว้ในขวดแก้วโปร่งใสเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน

เฉินผิงอันนั่งอยู่เหนือทะเลเมฆ กวาดตามองไปรอบด้าน แม้ว่าร่างจะอยู่ท่ามกลางค่ายกลใหญ่ดอกบัวตูมของทะเลเมฆ ทว่าการมองเห็นกลับเปิดกว้างไร้อุปสรรค สามารถมองเห็นน้ำของทะเลสามทิศได้

การหลอมครั้งนี้หัวใจหลักอยู่ที่แผ่นหยก ไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะสามารถหลอมตราประทับอักษรน้ำให้กลายเป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิตได้ในรวดเดียว

ต่อให้หลอมไม่สำเร็จ แล้วแก่นน้ำที่ถูกฟูมฟักมาจากวังมังกรแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งอยู่ในภาพลักษณ์ของแผ่นหยกนี้จะแหลกสลายหายไป แต่จะดีจะชั่วก็สามารถกักเก็บปราณวิญญาณไว้ในป้ายหยกสีทองตรงเอวแผ่นนั้นได้ ต่อให้จะไหลกระจายไปบ้าง แต่ก็ต้องผสานรวมเข้ากับทะเลเมฆแห่งนี้ ถือซะว่าเป็นค่าตอบแทนที่ฟ่านจวิ้นเม่าช่วยจัดวางค่ายกลให้

ถอยไปเลือกลำดับรอง หยกมังกรเฒ่าโปรยพิรุณแผ่นนั้นก็สามารถใช้กักเก็บแก่นน้ำมาช่วยประคับประคองการหลอมตราประทับอักษรน้ำได้แช่นกัน

เฉินผิงอันใช้ท่ายืนนิ่งเจี้ยนหลูอยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้จิตใจสงบ ในสมองจินตนาการเป็นภาพตอนที่ขึ้นรูปเครื่องปั้นเมื่อครั้งยังเป็นเด็กหนุ่ม

หลังจากโยนเงินร้อนน้อยกำใหญ่เข้าไปแล้ว เตาตู้ทองห้าสีที่วางไว้บนโต๊ะเมฆด้านหน้าก็มีเมฆมงคลห้าสีผุดลอยออกมาจากปากของสัตว์ห้าตัวที่อยู่ริมขอบกระถางโอสถ

เฉินผิงอันดึงปราณแท้จริงที่บริสุทธ์ในร่างกายเฮือกนั้นขึ้นมาแล้วพ่นใส่เตาตู้ทองห้าสีเบาๆ เพื่อ ‘จุดไฟ’

ปราณแท้จริงที่บริสุทธิ์ซึ่งไหลทอดยาวไม่ขาดสายขุมนี้เป็นดั่งมังกรเพลิงที่ว่ายวนอยู่ด้านในผนังของเตาหลอมโอสถ เกิดประกายไฟแลบแปลบปลาบไปสี่ทิศ

ไฟแท้จริงในการหลอมวัตถุมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถจุดไฟให้กับเตาหลอมโอสถได้สำเร็จหรือไม่ และระดับความบริสุทธิ์ที่สำคัญยิ่งกว่าก็จะเป็นตัวตัดสินว่าสุดท้ายแล้วระดับขั้นของวัตถุที่ถูกหลอมจะสูงเท่าไหร่

การหลอมแผ่นหยกของตำหนักปี้โหยวชิ้นนี้ไม่เกี่ยวพันกับรากฐานของชีวิต แผ่นหยกไม่ได้หยั่งรากลงในช่องโพรงลมปราณ เมื่อเทียบกับตราประทับตัวอักษรน้ำแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบวิเศษและชาดสีต่างๆ มากมายนัก

เฉินผิงอันศึกษาตำราการหลอมโอสถของลู่ยงก่อกำเนิดผู้เฒ่าเล่มนั้นมานาน และศึกษาเนื้อหาคาถาเซียนที่ ‘ชี้ตรงไปยังมหามรรคา’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน คาถาทั้งสองบทนี้เรียกได้ว่าบอกทุกหมดที่รู้อย่างไม่มีกักเก็บเอาไว้ ต่างก็เป็นแก่นความรู้ที่ยอดเยี่ยมของทั้งเจ้าตำหนักพยัคฆ์เขียวและเจ้าแม่เทพวารีลำคลองหมายเหอ โดยเฉพาะอย่างหลังที่เป็นเลือดเนื้อและจิตใจทั้งชีวิตของเจ้าแม่เทพวารี เฉินผิงอันแค่ต้องทำตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ก็พอ ควรจะเพิ่มปราณแท้จริงที่บริสุทธิ์คำใหม่ซึ่งเป็นดั่งฟืนอีกครั้งเมื่อไหร่ ควรจะโปรยชาดในขวดแก้วใบไหนกี่ตำลึงเมื่อไหร่ ควรจะท่องคาถาขอฝนซึ่งซุกซ่อนสัจธรรมแห่งมหามรรคายามใด ชักนำปรากฎการณ์แห่งเตาหลอม เพิ่มไฟ โปรยน้ำค้างหวานลงไปเหนือเตาหลอมโอสถ ให้น้ำและเปลวไฟที่ส่ายสะบัดอยู่ในเตาหลอมผสมผสานกัน ล้วนแล้วแต่มีกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตามทั้งสิ้น

ดังนั้นนอกจากเฉินผิงอันจะเหนื่อยเล็กน้อยแล้ว โดยภาพรวมก็ถือว่ายังมีสมาธิจิตใจที่แน่วแน่เป็นอย่างดี

ฟ่านจวิ้นเม่านั่งอยู่นอกค่ายกลใหญ่ของทะเลเมฆ พึมพำเบาๆ อยู่กับตัวเองว่าเพิ่มชาดไปอีกสองตำลึง รีบๆ ลืมหลอมหินลาวาภูเขาไฟก้อนนั้น พ่นปราณแท้จริงบริสุทธิ์ที่ไม่เพียงพอใส่เตาหลอมให้ช้าหน่อย…

น่าเสียดายก็แต่ทุกการกระทำของเฉินผิงอันเป็นระบบระเบียบ ถึงขั้นตอนที่รอเปลวไฟยังหลับตาทำสมาธิหายใจเข้าออกอย่างมีกฎเกณฑ์ ไม่มีช่องโหว่ที่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิตในขั้นตอนใดๆ เลย แน่นอนว่าตำหนิน้อยใหญ่ย่อมมีอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ทว่าการเผาผลาญในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้ การที่แก่นน้ำของสมบัติพิทักษ์วังมังกรแม่น้ำใหญ่จะไหลล้นออกมาจากเตาหลอม กลายมาเป็นสารบำรุงของทะเลเมฆ เป็นแค่ขนหนึ่งเส้นในวัวเก้าตัวเท่านั้น ฟ่านจวิ้นเม่าผิดหวังอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!