กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 371

เกี่ยวกับสถานะของหม่าขู่เสวียนแห่งตรอกซิ่งฮวา เจิ้งต้าเฟิงแย้มพรายความลับสวรรค์ออกมาเสี้ยวหนึ่ง บอกว่าแมวดำที่มีชีวิตพึ่งพากันและกันกับหม่าขู่เสวียนตัวนั้นมีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา ความยิ่งใหญ่ของโชควาสนานี้เมื่อเทียบกับปลาหลีสีทองและข้องราชามังกรที่เกาเซวียนองค์ชายต้าสุยได้ไป กำไลมังกรเพลิงบนข้อมือของหร่วนซิ่ว มังกรไม้แกะสลักของจ้าวเหยา ปลาหนีชิวน้อยของกู้ช่านและงูสี่ขาของซ่งจี๋ซินแล้ว มีแต่จะมากกว่าไม่มีด้อยกว่า เพียงแต่ว่าไม่เหมือนกับห้าฝ่ายหลัง แมวดำแอบบุกเข้าไปในถ้ำสวรรค์หลีจู และมีแต่จะรับหม่าขู่เสวียนเป็นเจ้านายเพียงผู้เดียว

เฉินผิงอันจึงเล่าเรื่องการต่อสู้ระหว่างเขากับหม่าขู่เสวียน ครั้งหนึ่งที่สุสานเทพเซียนบ้านเกิด อีกครั้งหนึ่งคือบนถนนใหญ่ของแคว้นไฉ่อี

เจิ้งต้าเฟิงหัวเราะอย่างหนัก ไม่ได้เห็นเป็นจริงเป็นจังเท่าใดนัก เขาบอกว่าทุกห้าร้อยปีหรือพันปี ถ้ำสวรรค์หลีจูจะต้องมีคู่แค้นคู่อาฆาต หรือไม่ก็คู่สหายรักปรากฏขึ้นมาเสมอ ฝ่ายหลังก็อย่างเช่นหยกคู่เฉาหยวนแห่งราชวงศ์ต้าหลี คราวนี้ไม่แน่ว่าอาจเป็นพวกเจ้าสองคนก็ได้ หม่าขู่เสวียนแห่งตรอกซิ่งฮวา เฉินผิงอันแห่งตรอกหนีผิง

เฉินผิงอันหันหน้าไปมองสีท้องฟ้าด้านนอก ถึงช่วงเช้าตรู่ของวันที่หนึ่งเดือนหนึ่งแล้ว

ในช่วงเวลานี้ของเมื่อปีก่อน เขายังเดินเตร่ไปทั่วเหมือนผีเร่ร่อนอยู่ในพื้นที่มงคลดอกบัว เวลานี้รู้สึกเหมือนอยู่ห่างกันคนละโลกจริงๆ

เผยเฉียนตื่นขึ้นมาแล้วก็วิ่งไปจุดประทัดในตรอกนอกร้านยาทันที เพียงแต่ว่าอาจเป็นเพราะผ่านปีใหม่มาก็จะโตขึ้นอีกปี นางจึงรู้ความขึ้นมาก ถามเทพหยินแซ่จ้าวก่อนว่าจุดประทัดจะทำให้มันตกใจหรือไม่ เทพหยินยิ้มพูดว่าไม่เป็นไร

ได้ยินเสียงประทัดดังไม่ขาดสายมาจากตรอกเล็ก เจิ้งต้าเฟิงก็พลันพูดขึ้นว่า “เผยเฉียนอยู่ข้างกายเจ้าสามารถควบคุมสันดานเดิมบางอย่างเอาไว้ได้ แต่วันหน้าหากไปจากเจ้าแล้วจะทำอย่างไร?”

เฉินผิงอันคิดแล้วก็ตอบว่า “ก่อนหน้าที่นางจะไปจากข้า ข้าจะพยายามสอนให้นางรู้จักแยกแยะดีชั่วให้ได้ มีเพียงทำได้ถึงข้อนี้จึงจะสามารถพูดถึงเรื่องอยู่ใกล้ความดีงามขจัดความชั่วร้ายกับนางได้ ไม่อย่างนั้นไม่ว่านางจะทำอะไรก็จะเลอะเลือนมึนงง”

เฉินผิงอันใช้ปลายเท้าวาดวงกลมวงหนึ่งบนพื้น “ไม่มีกฎเกณฑ์ก็ไม่สามารถทำอะไรสำเร็จ ตอนนี้นางอายุยังน้อย ในวงกลมวงนี้ที่ข้าช่วยวาดไว้ให้นาง นางอยากทำอะไรก็ทำได้ แต่หากเรื่องใดที่ทำเกินวงกลมนี้ไป ข้าก็ต้องตบๆ ตีๆ ให้เข้าที่ บอกให้นางรู้ถึงเหตุผลหลักการบางอย่าง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเถอะ ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ผ่านปีใหม่นี้ไปก็เป็นแค่เด็กอายุสิบเอ็ดขวบเท่านั้น ตอนนี้ก็ถือว่าทำได้พอสมควรแล้ว”

เจิ้งต้าเฟิงยิ้มพูด “จะเทียบกับเจ้าได้หรือ?”

เฉินผิงอันยิ้มบางๆ “ทำไมต้องเปรียบเทียบกับข้าด้วยเล่า เผยเฉียนก็คือเผยเฉียน เฉินผิงอันก็คือเฉินผิงอัน”

เจิ้งต้าเฟิงพูดอย่างสะท้อนใจ “เผยเฉียนได้มาพบเจ้า คือความโชคดีของนาง”

เฉินผิงอันหันหน้ามามองเจิ้งต้าเฟิง “เจ้าเจิ้งต้าเฟิงได้มาพบข้าก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ? แค่เดินทางผ่านนครมังกรเฒ่าสองครั้งก็ต้องเป็นผู้ถ่ายทอดมรรคาให้แก่เจ้า แล้วยังต้องเป็นผู้ปกป้องมรรคาของเจ้าอีก เหนื่อยมากเถอะ รู้ไหม?”

เจิ้งต้าเฟิงจุ๊ปากพูด “ผู้ถ่ายทอดมรรคาเป็นได้อย่างถูไถ แต่ผู้ปกป้องมรรคาของเจ้าไม่ได้เรื่องสักเท่าไหร่”

เฉินผิงอันหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง จงใจกุมหมัดคารวะอย่างไม่จริงใจแล้วเอ่ยสัพยอก “ขออภัยๆ ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตห้า ทำได้ดีไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

เจิ้งต้าเฟิงค้อนตาคว่ำ บ่นพึมพำกับตัวเองว่า “วันหน้าจะหาเมียได้ยังไงกันนะ”

เผยเฉียนแบกไม้ปัดขนไก่ไว้บนบ่า บอกว่าต้องการให้ไม้เท้าเดินป่าอันนั้นพักผ่อนบ้าง พอมาถึงเรือนด้านหลัง เห็นใครก็เอ่ยคำพูดน่าฟัง บอกว่าหวังให้เหล่าเว่ยหาภรรยาตัวน้อยที่งดงามได้เร็วๆ หวังให้เสี่ยวป๋ายเล่นหมากล้อมได้ร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ ช่วงชิงอันดับที่ร้อยในใต้หล้ามาให้ได้ หวังให้พี่หญิงโย่วเปียนอ่อนเยาว์ขึ้นทุกวัน ไม่มีริ้วรอยไปตลอดชีวิต หวังให้ปีนี้จูเหลี่ยนทำอาหารที่อร่อยยิ่งกว่าเดิม หวังให้นายท่านเทพหยินแซ่จ้าวขอบเขตไต่ทะยานสวบๆๆ วันหน้าก็พานางขึ้นไปเล่นบนท้องฟ้า หวังให้กิจการร้านยาของเจิ้งต้าเฟิงเจริญรุ่งเรือง

สุดท้ายเผยเฉียนหวังให้ในปีใหม่นี้ เฉินผิงอันมีเงินทองไหลมาเทมา จะสกัดก็สกัดไว้ไม่อยู่ เหล่าเงินทองและของมีค่าไม่มีที่ให้เก็บ

เห็นได้ชัดว่าในปีใหม่นี้ นางไม่อยากเป็นตัวขาดทุนอีกแล้ว

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเผยเฉียนเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรืออย่างไร จากปากอีกาน้อยๆ (ปากอีกาคือคนปากเสีย ปากไม่เป็นมงคล) ที่แม้แต่จูเหลี่ยนก็ยังกลัว กลับกลายมาเป็นปากทองปากหยกที่พูดจาอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์

วันแรกของเดือนหนึ่ง ตามประเพณีของแจกันสมบัติทวีป วางไม้กวาดกลับหัว ไม่ต้อนรับแขก ไม่เดินทางไกล ไม่ทำงาน แค่กินดื่มเที่ยวเล่นให้สนุกอย่างเดียว ทว่าตอนเช้าฟ่านจวิ้นเม่ายังคงมาที่ร้านยาฮุยเฉิน นอกจากถามเฉินผิงอันว่าจะไปหลอมวัตถุแห่งชะตาชีวิตบนทะเลเมฆตอนไหนแล้วก็ยังนำเงินเหรียญทองแดงแก่นทองมามอบให้เฉินผิงอันสามถุง เงินยาเซิ่ง เงินก้งหยางและเงินอิ๋งชุนอย่างละถุง นับรวมกันแล้วได้สามสิบกว่าเหรียญ ล้วนเป็นเงินที่ฮ่องเต้สกุลซ่งต้าหลีควักออกจากถุงเงินของตัวเอง อีกทั้งยังรับประกันว่ายังจะมีตามมาอีกหลังจากนี้ เพราะเมื่อกีบเท้าม้าของกองทัพม้าเหล็กต้าหลีย่ำลงใต้ ตลอดทางอย่าว่าแต่ศาลเถื่อนที่ราชสำนักของแต่ละแคว้นสั่งห้ามเลย แม้แต่ร่างทองของเหล่าองค์เทพแห่งขุนเขาที่ไม่รู้จักกาลเทศะก็ยังถูกทุบทำลาย เศษชิ้นส่วนร่างทองจึงถูกนำมาหลอมเป็นเงินเหรียญทองแดงแก่นทอง

เฉินผิงอันมองเจิ้งต้าเฟิง ฝ่ายหลังก็มึนงงเหมือนกัน “ก็เหมือนกับเครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตของถ้ำสวรรค์หลีจู ตอนนี้ไม่มีการสร้างเงินเหรียญทองแดงแก่นทองขึ้นมาใหม่อีกแล้วไม่ใช่หรือ?”

ฟ่านจวิ้นเม่าหลุดหัวเราะพรืด “ดังนั้นถึงได้บอกว่านี่ต่างหากถึงเป็นความจริงใจในการชดใช้ไถ่โทษของสกุลซ่งต้าหลี ไม่อย่างนั้นจะดูว่าเป็นการจ่ายเงินก้อนใหญ่ได้อย่างไร?”

เจิ้งต้าเฟิงครุ่นคิด “เว้นเสียจากว่าท่านผู้เฒ่ากำราบฮ่องเต้สกุลซ่ง ไม่อย่างนั้นราชวงศ์ต้าหลีก็ไม่มีทางขูดเนื้อตัวเองอย่างนี้ เศษซากร่างทองพวกนี้ หากเก็บสะสมไว้แล้วเอาไปใช้ทาร่างทองขององค์เทพใหญ่แห่งขุนเขาอีกสามองค์ที่เหลือย่อมคุ้มค่ามากกว่า”

เฉินผิงอันพยักหน้าเห็นด้วย

เจิ้งต้าเฟิงจึงยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม “นี่ไม่เหมือนนิสัยของท่านผู้เฒ่าเลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!