กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 375

สรุปบท บทที่ 375.2 พบเจอคนคุ้นเคยในต่างแดน: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 375.2 พบเจอคนคุ้นเคยในต่างแดน จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 375.2 พบเจอคนคุ้นเคยในต่างแดน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เฉินผิงอันหรี่ตาลงทันใด เพียงแต่ไม่นานสีหน้าก็กลับคืนมาเป็นปกติอีกครั้ง คิดว่ามีเรื่องมากขึ้นไม่สู้มีเรื่องให้น้อยลง จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา

คาดไม่ถึงว่าคนผู้นั้นก็มองเห็นเฉินผิงอัน เขาเดินเร็วๆ มาหยุดตรงหน้าเฉินผิงอัน ยื่นนิ้วออกมาชี้ น่าจะเพราะจำหน้าเฉินผิงอันได้ แต่นึกชื่อแซ่ของเขาไม่ออก สีหน้าจึงดูร้อนใจเล็กน้อย

เป็นโชคหรือเป็นภัยล้วนหลบไม่พ้น เฉินผิงอันจึงได้แต่คลี่ยิ้มเป็นการทักทายแล้วพูดด้วยภาษาทางการของแจกันสมบัติทวีป “ที่หน้าประตูเมืองเล็ก พวกเราเคยพบกันครั้งหนึ่ง ตอนนั้นข้ากับคนเฝ้าประตูอยู่ข้างใน เจ้ายืนอยู่นอกรั้วไม้ ความทรงจำของเจ้าดีมาก ผ่านมานานขนาดนี้ก็ยังจำข้าได้”

ชายร่างกำยำพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย “ใช่ เจ้านี่เอง นอกจากคนเฝ้าประตูผู้นั้นแล้ว เจ้าก็คือคนในท้องที่ของเมืองเล็กที่ข้าได้พบเป็นคนแรก นึกไม่ถึงว่าจะได้มาเจอเจ้าอยู่ที่นี่ ตอนแรกข้ายังไม่กล้ามาทักเจ้า เพราะเจ้าเปลี่ยนไปมาก เจ้าบอกว่าข้าความจำดี ข้ารู้สึกว่าความจำเจ้าเองก็ไม่แย่เหมือนกัน แถมยังน่าจะดีกว่าข้าเล็กน้อยด้วย”

เห็นในมือเฉินผิงอันหิ้วเหล้าเซียนบ่อน้ำไว้สองไห ชายฉกรรจ์ที่ตรงคางเต็มไปด้วยตอหนวดเขียวครึ้มก็ยิ้มพูดว่า “เหล้าบ่อน้ำไหนี้ของเจ้าถูกหลอกให้ซื้อแล้ว เหล้าเซียนของแท้ต้องเป็นเหล้าที่หมักด้วยน้ำสามหยดจากบ่อที่เก่าแก่ที่สุด และเหล้าสองไหนี้ของเจ้ามาจากบ่อน้ำใหม่สิบกว่าคำที่ร้านพ่อค้าหัวหมอไร้มโนธรรมสร้างขึ้นมาเป็นการส่วนตัว รสชาติไม่ถูกต้อง ไปๆๆ ข้าจะพาเจ้าไปดื่มเหล้าบ่อน้ำเก่าของแท้ ไม่อย่างนั้นการมาเยือนท่าเรือหางผึ้งครั้งนี้ของเจ้าก็เสียเที่ยวแล้ว”

เขาเพิ่งจะเดินออกมาหนึ่งก้าวก็หัวเราะฮ่าๆ “ช่างเถิด ยุทธภพอันตราย พวกเราสองคนก็อย่าใกล้ชิดสนิทสนมกันนักเลย”

ชายร่างกำยำบอกที่ตั้งร้านเหล้าสองร้านให้แก่เฉินผิงอัน “หากยินดีก็ไปเอง ข้าจะไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าทำดีหวังผล เจ้าและข้าจะได้ไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวนทั้งสองฝ่าย”

เขากุมหมัดบอกลาเฉินผิงอันแล้วก้าวยาวๆ จากไป

เป็นคนรวดเร็วตรงไปตรงมา

เฉินผิงอันถอนหายใจอยู่ในใจ

โซ่เหล็กที่ถูกชายร่างกำยำนำมาทำเป็นสายรัดเอว เห็นได้ชัดว่าเป็นโซ่เหล็กเส้นหนาใหญ่ของบ่อโซ่เหล็กก่อนที่ถ้ำสวรรค์หลีจูจะแตกแล้วร่วงลงมา ตอนนั้นเฉินผิงอันก็ได้ยินมาแล้วว่าคนผู้นี้ได้โชควาสนาครั้งใหญ่ไปครอง นอกจากวัตถุห้าธาตุแล้ว ในบรรดาสมบัติอาคมมากมายที่ซ่อนอยู่ตามกลุ่มชาวบ้านของถ้ำสวรรค์หลีจูเวลานั้น ก็มีของชิ้นนี้กับน้ำเต้ามรกต กาซานเซียวของซ่งจี๋ซิน รวมถึงกระจกสยบมารอีกบานหนึ่งที่ล้ำค่ามากที่สุด ซึ่งโซ่พันธนาการมังกรเส้นนี้มีมูลค่าควรเมืองมากที่สุด เคยเป็นเชือกพันธนาการหนึ่งเส้นที่สามารถพันธนาการมังกรที่แท้จริงตัวสุดท้ายได้สำเร็จ ระดับขั้นของมันจะสูงแค่ไหน เพียงคิดก็พอจะจินตนาการได้

ตอนนี้ได้ถูกคนผู้นี้หล่อหลอมให้กลายมาเป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิตได้สำเร็จแล้ว การที่เขากล้าเอามาใส่โอ้อวดคนอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ คาดว่าหากไม่มีฝีมือและความกล้าหาญก็คงต้องมีที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่มากพอ หรือไม่ก็มีครบทั้งสองอย่าง

ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เฉินผิงอันได้สัมผัสกับฟ้าดินข้างนอกอย่างแท้จริง

วานรย้ายขุนเขาของภูเขาตะวันเที่ยง ไช่จินเจี่ยนแห่งภูเขาเมฆาเรือง ซวี่ซื่อแห่งนครลมเย็น ฝูหนันหัวแห่งนครมังกรเฒ่า

นั่นคือสถานการณ์แห่งความเป็นความตายที่เกิดขึ้นติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า คือช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของเฉินผิงอัน ความรู้สึกไร้ที่พึ่งเช่นนั้นมากมหาศาลยิ่งกว่าในอนาคตตอนที่เฉินผิงอันเผชิญหน้ากับเจียวเฒ่าก่อกำเนิดในร่องเจียวหลง มากกว่าตอนที่เผชิญหน้ากับตู้เม่าบินทะยานในนครมังกรเฒ่าเสียอีก

เพียงแต่ว่าก็เหมือนครั้งนั้นที่พูดความในใจกับหลูป๋ายเซี่ยง บนเส้นทางของชีวิตคน ขอแค่ได้เห็นดอกไม้สักดอกท่ามกลางความรกร้างว่างเปล่า ทุกอย่างก็ต่างออกไปจากเดิมแล้ว

เฉินผิงอันได้เจอกับแม่นางที่ดีคนหนึ่ง ยามนางคลี่ยิ้ม เฉินผิงอันจะต้องรู้สึกว่าตัวเองคือคนที่มีเงินมากที่สุดในใต้หล้า

จะไม่ชอบได้อย่างไร จะตัดใจไม่วางนางไว้บนหัวใจได้อย่างไร

ดื่มเหล้าบนหลังคาร้านยาครั้งสุดท้ายกับฟ่านเอ้อร์ในนครมังกรเฒ่า เฉินผิงอันบอกว่า “แม่นางที่ข้าชอบ นางงดงามที่สุดแล้ว แต่ว่าเวลาที่นางซึ่งงดงามที่สุดงดงามยิ่งกว่าเดิมก็คือ เวลาที่ข้ากำลังมองนาง แล้วนางแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทว่าขนตาของนางที่ข้าเห็นจากใบหน้าด้านข้างกลับสั่นไหวเบาๆ”

ตอนนั้นฟ่านเอ้อร์อึ้งตะลึงไปเล็กน้อย ถามเขาว่า มารดามันเถอะ นี่เจ้าเฉินผิงอันชอบแม่นางคนนั้นมากขนาดไหนกันแน่!

ตอนนั้นเฉินผิงอันดื่มจนเริ่มเมากรึ่มๆ แล้ว จึงจับประคองน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ไว้ด้วยสองมือแล้วหัวเราะอย่างโง่งม

……

ในขณะที่เฉินผิงอันเดินไปตามหาสุราบ่อน้ำเก่าแก่ที่แท้จริง ชายฉกรรจ์ร่างกำยำไม่อยากจะไปเจอกับคนหนุ่มที่มาจากถ้ำสวรรค์หลีจูผู้นี้อีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นำมาซึ่งการคาดเดา เขาจึงจงใจเลือกร้านเหล้าแห่งอื่น ระหว่างทางผู้เฒ่าคนหนึ่งที่เก็บอำพรางลมปราณไว้อย่างมิดชิดพลันปรากฎตัวกะทันหัน มาหยุดอยู่ข้างกายชายหนุ่ม เล่าเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่งให้ฟัง

ชายหนุ่มโมโหจัดจนกลายเป็นขำ “คนกลุ่มนี้น้ำเข้าสมองแล้วหรือไง คิดแต่จะเอาเงินไม่เอาชีวิตกันจริงๆ เจ้านำความไปบอกผู้ดูแล ให้พวกเขาหยุดมือ อย่าได้ไปเซ่นฟันให้คนอื่นอีกเลย” (เซ่นฟันในอดีตหมายถึงการได้กินเนื้อมื้อหนึ่งของทุกๆ ต้นเดือนหรือกลางเดือน แต่ภายหลังหมายถึงการได้กินอย่างอิ่มหมีพีมันในบางมื้ออาหาร)

อาจารย์มักจะบอกว่าคนล่างภูเขาที่อายุหกสิบก็เส้นผมขาวโพลน เจ็ดสิบก็แก่หง่อมเหล่านี้ต่างหากถึงจะเป็นรากฐานของผู้ฝึกตนกลุ่มเล็กๆ บนภูเขาอย่างแท้จริง

ไม่มีพวกเขา คำว่าการฝึกตนก็เป็นแค่หอเรือนกลางอากาศเท่านั้น

สำหรับเรื่องนี้ชายฉกรรจ์ร่างกำยำไม่คิดอะไรมากนัก เพราะขี้เกียจจะคิด ถึงอย่างไรในด้านของการฝึกตน เขาก็ชอบปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และพึงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่แล้ว ไม่เป็นฝ่ายไปทำร้ายใคร ถูกใครทำร้ายก็ไม่ใจอ่อน ดังนั้นอาจารย์จึงโน้มน้าวให้เขาเลือกฮ่องเต้คนใดคนหนึ่งจากสกุลถังแคว้นชิงหลวน สกุลเหยียนแคว้นอวิ๋นเซียวและสกุลเหอแคว้นชิ่งซาน จากนั้นก็ปิดบังชื่อแซ่ ไปขัดเกลาจิตใจอยู่ในราชสำนัก ให้ยาถูกกับโรคในเร็ววันเพื่อสลายมารในใจทิ้ง ในอนาคตวันใดที่เลื่อนสู่ก่อกำเนิดจะได้ไม่ต้องภาวนาขอพรพระในช่วงจวนเจียน เพียงแต่ว่าเขาปฏิเสธมาตลอด ตั้งแต่เช้าจรดเย็นต้องคอยคบค้าสมาคมอยู่กับพวกฮ่องเต้ พวกเสนาบดี จะมีความหมายอะไร? ฮ่องเต้สกุลถังฟุ่มเฟือยอย่างไร้ขีดจำกัด ตายก็ต้องรักษาหน้าตา ชอบแข่งขันเรื่องทรัพย์สินเงินทองกับพวกเทพเซียนบนภูเขา ฮ่องเต้สกุลเหอแคว้นชิ่งซานมีนิสัยประหลาด วังหลังมี ‘ห้าสะคราญ’ ที่น่าตื่นตะลึง ตลอดทั้งราชสำนักมีแต่กลิ่นอายสกปรก ฮ่องเต้สกุลเหยียนเต็มไปด้วยความทะเยอะทะยาน ทำงานหนักเพื่อบ้านเมือง แต่จิตใจกลับอำมหิต ชอบดีดลูกคิดวางแผนยิ่งกว่าลูกหลานตระกูลพ่อค้าเสียอีก ว่ากันว่าเขายังเขียนตำรา ‘เฉียนเปิ่นฉ่าว’ ซึ่งเป็นที่นิยมเล่มนั้นด้วยตัวเอง บอกว่า ‘เงิน รสหอมหวาน ร้อนระอุ เป็นทั้งพิษเป็นทั้งยา สามารถเชื่อมโยงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถจ้างผีให้โม่แป้ง’ คำพูดประโยคเดียวที่แทงใจดำเหล่าพ่อค้าได้มากมาย

เขาดื่มเหล้าหนึ่งกาแล้วก็เรียกเถ้าแก่เนี้ยะมาคิดเงิน บรรจุเหล้าเซียนบ่อน้ำหลายสิบจินจนเต็มกาเหล้า ผูกไว้ข้างเอว และยังขอสุรารสเลิศมาเพิ่มอีกสองไหเล็ก ใช้นิ้วหนีบกาเหล้าสองไหเอาไว้ สำหรับเรื่องนี้สตรีแต่งงานแล้วเห็นจนชินตา ตลอดทั้งท่าเรือหางผึ้งต่างก็รู้ว่าสถานะของชายหนุ่มผู้นี้ไม่ธรรมดา ใครก็ไม่กล้าไปมีเรื่องด้วย เขาที่ได้มาอยู่ในบ้านหลังท้ายสุดของตรอกเล็กเจียเฟิงตั้งแต่ยังเด็กก็ไม่เคยไปหาเรื่องใคร ว่ากันว่าเขาแค่ทำหน้าที่เก็บเงินค่าเช่า คอยดูแลพื้นที่ครึ่งตรอกแทนใครบางคนเท่านั้น คนที่สามารถเช่าบ้านหลังหนึ่งในตรอกเจียเฟิงได้ หากไม่ใช่เซียนซือผู้ฝึกตนอิสระที่ถุงเงินตุงแน่น ก็ต้องเป็นขุนนางชั้นสูงของสามแคว้นที่มีรสนิยม ส่วนนอกจากนั้นก็เป็นกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ที่ซื้อบ้านในตรอกนี้ไปโดยตรง

ชายฉกรรจ์ร่างกำยำเดินกลับเข้าไปในตรอก ค่อยๆ เดินเข้าไปยังจุดลึกของตรอก ในตำแหน่งตรงกลางของตรอกที่อยู่ห่างจากด้านหลังเขาไปห้าสิบก้าว มีบ้านหลังใหญ่ว่างเปล่าสองหลังที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน บนประตูใหญ่แปะภาพเทพทวารบาลสีสันสดใสที่ไม่เคยเปลี่ยนมาหลายร้อยปี แต่กลับยังคงใหม่เอี่ยม ฝั่งซ้ายมือคือเทพทวารบาลฝ่ายบุ๋นสองภาพ ฝั่งขวามือของประตูบ้านคือเทพทวารบาลฝ่ายบู๊สององค์ ตอนที่คนหนุ่มเดินผ่านบ้านทั้งสองหลังก็ใช้มือข้างหนึ่งโยนกาเหล้าออกไป เทพทวารบาลสี่ภาพบนประตูบ้านฝั่งซ้ายขวาพลันเกิดส่องแสงเรืองรอง แต่ละตนต่างยื่นแขนสีทองข้างหนึ่งออกมารับกาเหล้าไป เก็บเข้าไป ‘ในประตู’ จากนั้นบนมือของเทพทวารบาลบุ๋นบู๊ทั้งสองฝั่งต่างก็มีกาเหล้าที่ถูกวาดลงบนกระดาษปรากฏเพิ่มขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ หลังจากดื่มเหล้าแล้วก็ยื่นกาเหล้าส่งให้กับสหายที่อยู่ใกล้เคียง พอดื่มเสร็จ เทพทวารบาลสี่ท่านก็กลับคืนมาเป็นปกติ เพียงแต่ว่าบนกระดาษตำแหน่งหนวดของเทพทวารบาลฝ่ายบู๊ท่านหนึ่งคล้ายจะเปียกชื้น ทว่าไม่นานก็แห้งสนิท

ชายหนุ่มร่างกำยำกลับมายังบ้านที่ตัวเองพักอยู่เพียงลำพัง บ้านที่สงบเงียบ เขาใช้ชีวิตแบบนี้มานานหลายปี ท่านอาจารย์ผู้เฒ่าชอบท่องไปทั่วทิศ เมื่อก่อนทุกครั้งเขาจะต้องสาบานเป็นมั่นเป็นเหมาะ บอกว่าครั้งนี้จะต้องหาอาจารย์แม่ที่งดงามดุจบุปผาดุจหยกกลับมาให้เขาอย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ไปตามหาว่าที่อาจารย์แม่ที่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่านางยังหลับอยู่ในท้องแม่หรือไม่ แต่ไปเพราะธุระสำคัญ บอกว่าต้องการไปตามหาร่างทองแก้วใสของเทพเซียนห้าขอบเขตบนคนหนึ่งที่ตายไปในการต่อสู้ มีหลายส่วนที่ร่วงหล่นลงมาบนพื้นที่ของแจกันสมบัติทวีป หากแย่งมาได้สักชิ้นก็รวยแล้ว แล้วจะได้มีเงินแต่งเมียสักที ด้วยเหตุนี้อาจารย์ยังไปหาเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็ไม่แน่เสมอไปว่าเขาจะสามารถช่วงชิงมาจากพวกตะพาบเฒ่าที่อายุพอๆ กันเหล่านั้นได้ เมื่อมีสหายคนนั้นคอยช่วยเหลือ ความเป็นไปได้ก็จะมากขึ้น

ชายร่างกำยำรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย กังวลว่าในเมื่อเป็นสมบัติล้ำค่าขนาดนี้ เพื่อนคนนั้นจะเกิดใจนึกอยากครอบครองหรือไม่

อาจารย์พูดกลั้วหัวเราะเสียงดัง ทุกคนในแจกันสมบัติทวีปอาจเป็นไปได้ แต่เจ้าเต่าชราที่เรียกตัวเองว่าหนุ่มน้อยหน้าหยกผู้นี้ไม่มีทางคิดอย่างนั้นแน่นอน แม้ว่านิสัยของคนผู้นี้จะทั้งแข็งกระด้างทั้งไม่น่าเข้าใกล้ เทียบกับก้อนหินในห้องส้วมไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่คนผู้นี้กลับถูกขนานนามว่าเป็นบุคคลที่ ‘ในใจไร้ผี’ (หากในใจมีผีจะหมายถึงคนที่มีอุบาย คนที่มีความคิดชั่วร้าย) บนเส้นทางแห่งการฝึกตน ชั่วชีวิตนี้เพื่อคุณธรรมน้ำมิตรที่มีต่อสหาย และเพื่อเกียรติยศของสำนักแล้ว เขาก็ยอมร่วมศึกเป็นตายถึงสองครั้ง หลังจากเลื่อนสู่ขอบเขตหยกดิบสองครั้งก็ถดถอยกลับมาที่ก่อกำเนิดสองครั้ง ความองอาจห้าวหาญดุจดั่งวีรบุรุษเช่นนี้ ต่อให้เป็นขอบเขตบินทะยานก็ยังไม่แน่เสมอไปว่าจะมีได้ หร่วนฉงอาจารย์หลอมกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาลลมหิมะ ตอนนี้ได้เป็นอริยะของสำนักการหทารแล้ว ในอดีตก็เคยมีชื่อเสียงเรื่องนิสัยตรงไปตรงมา และเขาก็เคยป่าวประกาศว่า ขอแค่คนผู้นี้ต้องการกระบี่เล่มหนึ่ง เขาหร่วนฉงจะไม่เพียงแต่หลอมกระบี่ให้ทันที ยังจะนำไปส่งถึงภูเขาด้วยตนเองอีกด้วย

นี่เป็นครั้งแรกที่ชายกำยำเห็นอาจารย์มั่นใจขนาดนี้ เขาจึงวางใจลงได้

และนั่นก็ทำให้เขาเกิดความสงสัยใคร่รู้ว่าสหายผู้เฒ่าของอาจารย์มีชื่อฉายาค่อนข้าง ‘สง่างามเป็นเอกลักษณ์’ ท่านนั้นจะเป็นคนเช่นไร

—–

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!