กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 414

ซ่งจี๋ซินถามด้วยรอยยิ้ม “ได้พบเจ้าและได้ขอร้องตามที่ต้องการไปแล้ว ข้าก็กลับไปได้ด้วยความสบายใจแล้ว ใช่แล้ว จื้อกุยรอข้าอยู่ที่หน้าประตูสำนักตรงตีนเขา เจ้าจะไปพบนางพร้อมกับข้าหรือไม่?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “ไม่ล่ะ”

ซ่งจี๋ซินกล่าวอีก “ตอนนี้หม่าขู่เสวียนที่อยู่ในภูเขาเจินอู่ฝ่าทะลุด่านได้หลังจากปิดด่าน เรื่องการฝ่าทะลุขอบเขตนี้ สำหรับเขาแล้วไม่ต่างจากการที่มนุษย์ธรรมดากินของผิดสำแดงแล้วต้องถ่ายท้อง ดังนั้นตอนนี้เขาจึงถูกเรียกขานว่าเว่ยจิ้นแห่งศาลลมหิมะคนที่สองแล้ว เจ้าว่าตรอกซิ่งฮวาอาศัยเขาคนเดียว ในด้านชื่อเสียงก็สามารถงัดข้อกับคนทั้งตรอกหนีผิงอย่างพวกเราได้แล้ว มันน่าโมโหหรือไม่?”

เฉินผิงอันเงียบงันไม่ตอบ

ซ่งจี๋ซินยื่นนิ้วออกมาสองนิ้ว งอนิ้วหนึ่งลงไปแล้วก็กล่าวว่า “เดิมทีข้าอยากจะบอกเจ้าสองเรื่องเพื่อเป็นการตอบแทนเจ้าเรื่องของศาลเทพภูเขาลั่วพั่วแห่งนั้น แต่ตอนนี้ข้าพบว่าเห็นหน้าเจ้าแล้วก็ยังไม่ถูกชะตาอยู่ดี งั้นก็พูดแค่เรื่องเดียวแล้วกัน ตอนนี้เมื่อสถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ดูเหมือนว่าสกุลซ่งต้าหลีของพวกเรามีแววว่าจะถูกคว่ำเรือ กองกำลังของแคว้นอื่นที่มาซื้อภูเขาใหญ่ทางทิศตะวันตกของเขตการปกครองหลงเฉวียนไว้ แล้วสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นบนภูเขาเป็นจำนวนไม่น้อยไม่ค่อยเห็นดีในตัวพวกเราสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะสำนักที่อยู่ใกล้เคียงกับภาคกลางของแจกันสมบัติทวีปที่ต่างก็มีความคิดว่าจะขายภูเขาออกไปในราคาถูก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ในอนาคตถูกใครกุมจุดอ่อน มีการค้าอยู่ครั้งสองครั้งที่ทำกันสำเร็จอย่างลับๆ ไปแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือหร่วนฉงที่ซื้อภูเขารวดเดียวสามลูก ซึ่งภูเขาหนึ่งในนั้นก็คือภูเขาหนิวเจี่ยวที่ร้านผ้าห่อบุญเป็นคนลงมือสร้าง หากเจ้ารีบกลับไปให้เร็วขึ้น ไม่แน่ว่าอาจจะแย่งชิงมาได้สักลูกสองลูก เพราะการซื้อภูเขาในตอนนี้ขอแค่มีเงินฝนธัญพืชก็พอแล้ว”

เฉินผิงอันถาม “นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ซ่งจี๋ซินเหลือกตาใส่ “ระหว่างที่เดินทางมาข้าเพิ่งได้ยินสวี่รั่วพูดถึง เกิดขึ้นเมื่อประมาณสิบวันก่อน ก่อนหน้านั้นมีใครบ้างที่ตัดใจปล่อยให้ภูเขาเปลี่ยนไปอยู่ในมือของคนอื่นได้ลง? แต่ละคนแทบอยากจะย้ายทั้งสำนักมาอยู่ในเขตการปกครองหลงเฉวียนด้วยซ้ำ ว่ากันว่าหลายปีมานี้ภูเขาพีอวิ๋นของเว่ยป้อครึกครื้นจนหาความสงบไม่ได้ มีแต่พวกประจบสอพลอทั้งนั้น ดีที่เว่ยป้อไม่เคยปฏิเสธคนที่มาเยือน เต็มใจต้อนรับขับสู้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ หากเปลี่ยนมาเป็นข้า ป่านนี้คงสะอิดสะเอียนจนอาเจียนออกมาแล้ว”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ข้าจะลองดู”

ซ่งจี๋ซินยิ้มกล่าว “ไม่ต้องไปส่งข้า”

เฉินผิงอันตอบ “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ไปส่ง”

ซ่งจี๋ซินหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง “เรื่องนี้ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ยังน่าเบื่ออยู่เหมือนเดิม”

ซ่งจี๋ซินเดินห่างมาจากทะเลสาบ มุ่งหน้าตรงไปยังตีนเขา

เฉินผิงอันยืนอยู่ที่เดิม มองส่งคนผู้นี้เดินจากไป

ซ่งจี๋ซินมาถึงหน้าประตูสำนักศึกษาแล้วก็ยิ้มพูดกับจื้อกุย “กลับกันเถอะ”

จื้อกุยถาม “คุณชายอารมณ์ไม่เลวเลย?”

ซ่งจี๋ซินหัวเราะร่า “ได้พบเฉินผิงอัน เห็นว่าเขาได้ดิบได้ดีไม่น้อย คุณชายก็ดีใจเป็นพิเศษ”

จื้อกุยร้องอ้อหนึ่งที

ซ่งจี๋ซินหันกลับไปมองสำนักศึกษาแวบหนึ่งแล้วถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “ไม่อยากไปเดินเล่นบ้างจริงๆ หรือ? หากอยากไป คุณชายสามารถไปเป็นเพื่อนเจ้าได้”

จื้อกุยส่ายหน้า “ไม่อยาก”

ซ่งจี๋ซินทอดถอนใจ “เจ้าว่าราชครูทั้งสองจะพากันไปยืนอยู่ข้างน้องชายของข้าหรือไม่?”

จื้อกุยปิดปากหัวเราะ “คุณชาย ท่านถามข้ามาหลายรอบแล้วนะ”

ซ่งจี๋ซินกล่าวอย่างจนใจ “ก็คุณชายไม่มั่นใจนี่นา ท่านอาก็ไม่ยอมมอบความมั่นใจนี้ให้ข้า ใต้เท้าราชครูทั้งสองท่านก็ทำตัวลึกลับยากจะหยั่งขนาดนั้น คุณชายอยู่ในเมืองไม่มีรากฐานอะไรเลย เทียบกับปีนั้นตอนที่เฉินผิงอันยังอยู่ในตรอกหนีผิงก็เรียกว่าตัวเปล่าเล่าเปลือยกว่าด้วยซ้ำ จะดีจะชั่วเขาก็ยังมีบ้านบรรพบุรุษอยู่หนึ่งหลัง แต่คุณชายไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ขุนนางบุ๋นแม่ทัพบู๊ บนภูเขาล่างภูเขา นอกจากพวกคนที่เชื่อมั่นในการเดิมพันครั้งใหญ่แล้ว มีใครบ้างที่เห็นดีในตัวของคุณชายเจ้าจริงๆ?”

จื้อกุยเอ่ยปลอบใจ “ก็ยังมีบ่าวอยู่ข้างกายคุณชายไงล่ะ”

ซ่งจี๋ซินหัวเราะ ชูแขนขึ้นสูง แบฝ่ามือออก หันหลังมือให้กับแผ่นฟ้า หันฝ่ามือเข้าหาตัวเอง “ถึงอย่างไรคุณชายก็เป็นแค่หุ่นเชิด พวกเขาอยากจะจับวางอย่างไรก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ขนาดเฉินผิงอันยังมีวันนี้ได้ ทำไมข้าถึงจะมีพรุ่งนี้บ้างไม่ได้?”

จื้อกุยยังคงแต่งกายเป็นสาวใช้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่อยู่ตรอกหนีผิง เครื่องประดับที่สวมใส่แค่เพิ่มความหรูหรามากขึ้นเท่านั้น เรือนกายของนางยิ่งสะโอดสะอง นางยิ้มกล่าวว่า “คุณชายเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเขา ดูเหมือนว่าจะค่อนข้าง…น่าขายหน้า?”

ซ่งจี๋ซินหุบมือกลับมา กำหมัดทุบฝ่ามือ หันหน้ามาเอ่ยชื่นชมว่า “คำปลอบใจประโยคนี้ ข้าชอบฟัง!”

……

เมืองหลวงต้าสุย ในขณะที่งานเลี้ยงเชียนโซ่วเยี่ยนกำลังจะจัดขึ้น บรรยากาศในช่วงที่ผ่านมานี้ค่อนข้างแปลกประหลาด

ไช่เฟิงขอลาหยุดกับกองโหราศาสตร์ เพียงแต่ว่าที่จวนตระกูลไช่กลับไม่มีเงาร่างของไช่เฟิง

จางไต้จ้วงหยวนคนใหม่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มาปรากฏตัวในสำนักฮั่นหลินที่สูงสง่าที่สุด และเป็นสถานที่ที่ปลูกฝังอบรมเหล่าผู้มีความรู้มากมายมานานมากแล้ว

ว่ากันว่าซ่งซ่านรองผู้บัญชาการกองทหารราบยังแวะไปเยี่ยมเยือนที่ว่าการกรมอาญามารอบหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!