กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 421

วันนี้หร่วนเฉิงปรากฎตัวอีกครั้ง เขาพูดจากระชับเรียบง่าย เอ่ยแค่สองเรื่องก็ย้อนกลับไปยังเตาหลอมกระบี่

เรื่องแรก ขอแค่ใครก็ตามที่กลายมาเป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการ หร่วนฉงก็จะหลอมกระบี่ให้คนผู้นั้นเองกับมือหนึ่งเล่ม

ต้องรู้ว่าเจ้าสำนักหร่วนคืออันดับหนึ่งด้านการหลอมกระบี่ในแจกันสมบัติทวีปอย่างแท้จริง เป็นเหตุให้อย่าว่าแต่ทั้งสิบสองคนเลย นอกจากศิษย์พี่สี่เซี่ยที่ยังคงมีสีหน้าไม่สนใจไยดีดังเดิมแล้ว แม้แต่ศิษย์พี่รองและศิษย์พี่หญิงสามที่รีบกลับภูเขามารับฟังคำสั่งสอนของอาจารย์ผู้มีพระคุณก็ยังอดเผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้

เรื่องที่สองคือตอนนี้สำนักกระบี่หลงเฉวียนได้ซื้อภูเขาแห่งใหม่ไว้อีกลูกหนึ่ง หร่วนฉงจึงพูดจาให้กำลังใจสองสามคำ บอกว่าในอนาคตใครที่เลื่อนเป็นก่อกำเนิดก็จะมีคุณสมบัติจัดงานพิธีเปิดขุนเขาขึ้นที่สำนักกระบี่หลงเฉวียน แล้วได้ครอบครองภูเขาลูกหนึ่งไปเพียงลำพัง อีกทั้งในฐานะผู้ฝึกตนคนแรกของสำนักกระบี่ที่ได้เลื่อนขั้นเป็นเซียนดิน จากข้อตกลงก่อนหน้านี้ มีเพียงต่งกู่ที่ได้รับการยกเว้น สามารถเปิดขุนเขา เลือกภูเขาลูกหนึ่งไว้เป็นที่สร้างจวนในการฝึกตนของตนเองได้เลย และสำนักกระบี่หลงเฉวียนจะป่าวประกาศเรื่องนี้แก่ใต้หล้า

ทว่าต่งกู่กลับปฏิเสธ ขอร้องอาจารย์ว่ารอให้ตนได้เลื่อนขั้นเป็นก่อกำเนิดเสียก่อนถึงจะเปิดภูเขาอย่างถูกต้องเปิดเผย

หร่วนฉงจึงอนุญาต

สวีเสี่ยวเฉียวที่เหล่าศิษย์น้องชายหญิงเคยชินที่จะเรียกว่าศิษย์พี่หญิงสามลงจากภูเขาไปอีกครั้ง กลับไปยังเพิงริมลำคลองหลงซวีอันเป็นสถานที่ก่อกำเนิดของสำนักกระบี่ หร่วนซิ่วเดินทางไปกับนางด้วยอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้สวีเสี่ยวเฉียวรู้สึกตกใจที่ได้รับความเมตตาอย่างไม่คาดฝัน

เซี่ยหลิงศิษย์พี่สี่อยากตามพวกนางไปด้วย ผลคือหร่วนซิ่วไม่พูดอะไร แค่ชำเลืองตามองเขา เซี่ยหลิงก็ยอมล่าถอยไปเอง ยอมอยู่ต่อบนภูเขาอย่างว่าง่าย

ตอนที่เดินเท้าลงจากภูเขา หร่วนซิ่วถามว่า “อันที่จริงเจ้าต่างหากถึงจะเป็นลูกศิษย์ใหญ่เปิดภูเขาของพ่อข้า แต่เป็นเพราะต่งกู่สร้างโอสถทองได้ก่อน ทุกคนก็เลยเรียกเจ้าว่าศิษย์พี่หญิงสาม เจ้ารู้สึกไม่ดีหรือไม่?”

สวีเสี่ยวเฉียวที่ปีนั้นถูกศาลลมหิมะทอดทิ้งขับไล่ออกจากสำนักตอบตามสัตย์จริง “ในใจย่อมรู้สึกแย่ แต่ให้ต่งกู่เป็นศิษย์พี่รอง ข้าไม่มีความเห็นใด”

หร่วนซิ่วไม่ปฏิเสธและไม่ยอมรับ

สวีเสี่ยวเฉียวที่ปีนั้นนิ้วโป้งของมือข้างที่กุมกระบี่ขาดหายไปเงียบงันไปครู่หนึ่งก็ถามว่า “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ สักวันหนึ่งข้าจะเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตก่อกำเนิดได้จริงๆ หรือ?”

หร่วนซิ่วตอบตามตรง “ค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับต่งกู่ที่สามารถเลื่อนเป็นก่อกำเนิดได้ภายในร้อยปีแล้ว ตัวแปรของเจ้ามีมากกว่า สำหรับเขาแล้วการสร้างโอสถค่อนข้างง่าย แต่เมื่อถึงเวลานั้นพ่อข้าต้องช่วยเจ้าแน่นอน ไม่มีทางลำเอียงช่วยแต่ต่งกู่ เมินเฉยเจ้า แต่หากคิดจะเลื่อนขั้นเป็นก่อกำเนิด เจ้ากลับลำบากกว่าต่งกู่มาก”

สวีเสี่ยวเฉียวสีหน้าหม่นหมอง

คนในตระกูลเซียนทั่วไปที่สามารถเป็นผู้ฝึกตนโอสถทองได้นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีใหญ่เทียมฟ้าที่ต้องจุดธูปกราบไหว้ป้ายวิญญาณศาลบรรพชน กลับไปแอบหัวเราะชอบใจอยู่ในโปงผ้าห่มของตัวเองได้แล้ว

ทว่าในสายตาของสวีเสี่ยวเฉียวที่อยู่ในสำนักกระบี่หลงเฉวียนและเคยเห็นทัศนียภาพบนยอดเขาของศาลลมหิมะมาก่อนรู้ดีว่า เป็นแค่ผู้ฝึกตนโอสถทองนั้นอยู่ไกลจากคำว่าเพียงพอมากนัก

คิดไม่ถึงว่าหร่วนซิ่วจะยังพูดซ้ำเติมมาอีกประโยค “ส่วนเซี่ยหลิงศิษย์น้องของพวกเจ้าจะเป็นลูกศิษย์คนแรกของสำนักกระบี่หลงเฉวียนที่ได้เลื่อนขั้นสู่ขอบเขตหยกดิบ หากตอนนี้เจ้าก็รู้สึกอิจฉาเซี่ยหลิงแล้ว คาดว่าตลอดชีวิตของเจ้าก็มีแต่จะยิ่งอิจฉาเขามากขึ้นทุกที”

สวีเสี่ยวเฉียวเม้มปาก ฝีเท้าหนักอึ้ง

ในบรรดาลูกศิษย์เปิดภูเขาสามคนของหร่วนฉงผู้เป็นอาจารย์ ต่งกู่คือคนที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยที่สุด เพราะเป็นเดรัจฉานในป่าเขาที่ฝึกตนจนกลายเป็นภูต และตอนนี้แค่สะบัดตัวก็จำแลงกาย กลายมาเป็นเซียนดินโอสถทองและศิษย์พี่รองที่ทุกคนในสำนักกระบี่หลงเฉวียนให้ความเคารพนับถือ

เซี่ยหลิงคือชาวบ้านที่เกิดและเติบโตมาในพื้นที่ อายุน้อยที่สุด ไม่เคยเผชิญกับความยากลำบากมาแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นคนที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่มากที่สุด ไม่เพียงแต่บรรพบุรุษในตระกูลคือเทียนจวินลัทธิเต๋าคนหนึ่ง ยังถึงขั้นทำให้เจ้าลัทธิเต๋าท่านหนึ่งที่ฐานะสูงส่ง อยู่สูงเหนือนอกฟ้ามอบเจดีย์จิ๋วที่เทียบเคียงได้กับอาวุธเซียนชิ้นหนึ่งให้เขาด้วยมือตัวเอง

มีเพียงนางสวีเสี่ยวเฉียวที่ชีวิตพบเจอกับอุปสรรคมากที่สุด ตั้งใจฝึกตนมากที่สุด ทว่ามหามรรคากลับขรุขระมากที่สุด!

หร่วนซิ่วเด็ดกิ่งไม้กิ่งหนึ่งริมทางภูเขามาถือไว้ในมือ เอ่ยเนิบช้าว่า “รู้สึกว่าคนเราเมื่อเอาตัวไปเปรียบเทียบกับคนอื่นก็ทำให้โมโหตายได้เลย ถูกไหม?”

สวีเสี่ยวเฉียวตาแดงก่ำ

หร่วนซิ่วพลันพูดประโยคหนึ่งด้วยรอยยิ้มบางๆ น้ำเสียงแผ่วเบา “แม้จะบอกว่าต่อให้ร่างทองของเจ้าเน่าเปื่อย แก่ตายไปอย่างสิ้นเชิงแล้วก็ยังไม่มีทางเทียบกับเซี่ยหลิงและต่งกู่ได้ติด แต่ข้าก็ยังชอบเจ้ามากกว่า แต่ดูเหมือนว่านี่จะไม่มีประโยชน์ต่อการฝึกตนของเจ้าสักเท่าไหร่”

สวีเสี่ยวเฉียวใช้หลังมือเช็ดหางตา หันหน้ามายิ้มให้หร่วนซิ่ว “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ขอบคุณท่านมาก”

หร่วนซิ่วหยุดเดิน ผงกศีรษะพูดว่า “ขอบคุณข้า? ถ้าอย่างนั้นขึ้นเขามาคราวหน้าก็เอาขนมมาให้ข้าด้วยล่ะ เจ้าก็รู้จักร้านในตรอกฉีหลงนี่นา”

สวีเสี่ยวเฉียวอึ้งตะลึง แต่แล้วก็คลี่ยิ้มราวกับบุปผาผลิบาน “โถ่ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของข้า!”

หร่วนซิ่วยิ้มตามนางไปด้วย

นางมาส่งสวีเสี่ยวเฉียวถึงแค่ตีนเขา เบื้องใต้ซุ้มประตูที่มีกรอบป้าย ‘สำนักกระบี่หลงเฉวียน’ ที่ฮ่องเต้ต้าหลี หรือควรจะพูดให้ถูกต้องว่าอดีตฮ่องเต้ประทานให้ สวีเสี่ยวเฉียวบอกลาหร่วนซิ่ว แล้วจึงโคจรลมปราณ ขึ้นเหยียบบนกระบี่ ทะยานลมจากไป

ในเขตการปกครองหลงเฉวียน ผู้ที่จะทำเช่นนี้ได้มีเพียงลูกศิษย์ของสำนักกระบี่หลงเฉวียนเท่านั้น

หากเปลี่ยนมาเป็นเซียนดินคนอื่นๆ ใครที่กล้าบินทะยานบนฟ้า หร่วนฉงไม่คิดจะใช้ใจของอริยะอะไรพูดคุยด้วยทั้งนั้น

นับตั้งแต่ผู้ฝึกตนต้าหลีหลายกลุ่มที่มาหยั่งเชิงในช่วงแรกสุด มาจนถึงเซียนกระบี่เฉาจวิ้นในภายหลัง ต่างก็เคยลิ้มรสกฎของหร่วนฉงไปแล้ว บ้างก็ตาย บ้างก็บาดเจ็บ

หร่วนซิ่วยืนอยู่ตรงตีนเขา แหงนหน้ามองกรอบป้ายนั้น ท่านพ่อไม่ชอบให้สำนักกระบี่หลงเฉวียนมีสองคำว่าหลงเฉวียนเพิ่มขึ้นมา ลูกศิษย์เปิดขุนเขาทั้งสามคนอย่างพวกสวีเสี่ยวเฉียวกต่างก็รู้ดีว่า ท่านพ่อหวังให้ในบรรดาพวกเขาสามคน มีคนใดคนหนึ่งสามารถปลดคำว่าหลงเฉวียนลงไปได้ เหลือทิ้งไว้เพียงคำว่า ‘สำนักกระบี่’ ที่หยัดยืนอยู่เหนือยอดเขาที่มีกลุ่มภูเขาของแจกันสมบัติทวีปโอบล้อม ถึงเวลานั้นคนผู้นั้นก็จะได้เป็นเจ้าสำนักคนถัดไป

สำหรับปมในใจของบิดา หร่วนซิ่วค่อนข้างจะเข้าใจดี แต่ทุกครั้งที่บิดามาพูดบอกกับนางว่าให้ตั้งใจฝึกตนมากขึ้น แม้ปากของนางจะตอบรับ แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพขนมเอย เนื้อตุ๋นหน่อไม้แห้งเอย

นี่ทำให้หร่วนซิ่วละอายใจเล็กน้อย

นางจึงเก็บความคิดนั้นไว้ คิดว่าจะไม่ไปพูดกับบิดาแล้วว่า ควรถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนอาหารการกินให้เหล่าศิษย์น้องทั้งหลายโดยเพิ่มเนื้อเข้ามาในทุกมื้ออาหารได้แล้วหรือไม่

น่าสงสารเหล่าศิษย์น้องที่ไม่มีลาภปากนั้น

ตำแหน่งศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่อยากจะเป็นนี้ทำหน้าที่ได้ไม่ดีเลยจริงๆ

ในขณะที่หร่วนซิ่วย้อนกลับขึ้นเขาไปด้วยความรู้สึกผิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!