กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 429

ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดโชย ปูใหญ่อวบอ้วน เวลานี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกินปูเสื้อทองของนครน้ำบ่อ เมื่อถึงช่วงเวลาของมื้ออาหาร ทั่วทั้งเมืองจะอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมที่มีเฉพาะตัว

ถึงขั้นที่ว่าจะมีพวกนักกินที่เดินทางไกลเป็นพันลี้มาเยือนราชวงศ์จูอิ๋ง ผลัดกันชนจอกเหล้าอยู่ในเหลาสุราและจวนริมน้ำร่วมกับสหายสนิทของตัวเอง แต่ปีนี้แคว้นสือหาวที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบซูเจี่ยนมากที่สุดกลับแทบไม่มีใครมาเสพสุขกับลาภปากที่นี่ เพราะถึงอย่างไรชีวิตก็แทบจะรักษาไว้ไม่ได้อยู่แล้ว

ยังเหลืออีกสิบวันก่อนที่งานชุมนุมเจ้าเกาะของทะเลสาบซูเจี่ยนจะถูกจัดขึ้น ถึงเวลานั้นเจ้าเกาะร้อยกว่าแห่งจะพากันขึ้นไปบนเกาะกงหลิ่วที่เจ้าของเกาะไม่อยู่มานานหลายปี เพื่อคัดเลือกเจ้าแห่งยุทธภพคนถัดไป

หลิวจื้อเม่าสกัดคงคาเจินจวินย่อมต้องเป็นตัวเลือกที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน

แต่ที่นี่คือทะเลสาบซูเจี่ยน คือทะเลสาบซูเจี่ยนที่ในงานเลี้ยงสีสันอาหารตระการตา เสียงชนจอกเหล้าเคล้าเสียงหัวเราะพูดคุยเพิ่งจะจางหายไปก็มีผู้ฝึกตนอิสระสี่ร้อยกว่าคนร่วมมือกันมาสังหารก่อกำเนิดและผู้ฝึกกระบี่โอสถทอง

สองวันมานี้ในเมืองน้ำบ่อมีข่าวลือแพร่ออกมา บอกว่ามารน้อยกู้ผู้นั้นจะมากินปูที่เมือง ฟ่านเยี่ยนเจ้านครน้อยของนครน้ำบ่อได้เริ่มทุ่มเงินก้อนใหญ่เพื่อหาซื้อปูเสื้อทองที่อวบอ้วนที่สุดของทะเลสาบซูเจี่ยนมาแล้ว คือ ‘กิ่งไผ่’ ที่หายากที่สุดในบรรดาปูเสื้อทอง ตัวโตอย่างมาก เต็มเปี่ยมไปด้วยแก่นแห่งโชคชะตาน้ำ ชั่วชีวิตของชาวประมงธรรมดาอย่าได้หวังว่าจะจับมาได้สักตัว ขนาดพบเห็นยังยาก นั่นคือของล้ำค่าที่มีเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตถ้ำสถิตเท่านั้นถึงจะพอโชคดีจับมาได้

เกาะชิงเสียที่เป็นดั่งดวงตะวันกลางนภาในทุกวันนี้ หนึ่งปีที่ผ่านมาหลิวจื้อเม่าเริ่มหยุดการขยับขยาย ก็เหมือนกับคนผู้หนึ่งที่สวาปามกินอาหารเข้าไปอย่างบ้าคลั่งจนอิ่มแปล้ จึงต้องค่อยๆ ย่อยส่วนที่กินเข้าไปก่อน ไม่อย่างนั้นสถานการณ์ที่มองดูเหมือนจะดี แท้จริงแล้วกลับจะกลายเป็นเม็ดทรายหนึ่งถาดที่กระจัดกระจายเพราะจิตใจคนไม่มั่นคง สำหรับในข้อนี้ หลิวจื้อเม่ามีสติแจ่มชัดมาโดยตลอด ในส่วนของผู้ฝึกตนอิสระที่เลือกมาสวามิภักดิ์ต่อเกาะชิงเสียก็จะยิ่งคัดเลือกอย่างเข้มงวด ส่วนการลงมืออย่างเป็นรูปธรรมนั้นก็ล้วนยกให้ผู้ฝึกตนหญิงคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของเขาซึ่งมีนามว่าเถียนหูจวินเป็นผู้จัดการ

ช่วงแรกเริ่มสุดนางคือศิษย์พี่หญิงรองของกู้ช่าน แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นศิษย์พี่หญิงใหญ่อย่างสมเหตุสมผล ศิษย์พี่ใหญ่ถูกศิษย์น้องเล็กอย่างกู้ช่านฆ่าตายไปแล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่ควรปล่อยตำแหน่งเว้นว่างเอาไว้ ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย หากแพร่ออกไปจะไม่น่าฟังแค่ไหน

ตอนนี้คนที่ล้อมวนเวียนอยู่รอบกายกู้ช่านมีผู้ฝึกตนหนุ่มสาวที่ตัวตนไม่ธรรมดาและลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์กลุ่มใหญ่ ยกตัวอย่างเช่นฟ่านเยี่ยนเจ้านครน้อยของนครน้ำบ่อที่กำลังจะจัดงานเลี้ยงรับรอง ‘พี่ใหญ่กู้’ ที่เป็นบุตรชายโทนของเจ้านคร ถูกฮูหยินเลี้ยงดูอย่างตามใจจนไม่กลัวแม้แต่เทพเทวดา ป่าวประกาศว่าชีวิตนี้ตนจะไม่ยอมพ่ายแพ้ให้แก่เทพเซียนพสุธาอะไรทั้งนั้น จะยอมศิโรราบให้กับวีรบุรุษชายชาตรีเท่านั้น

พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นคนประเภทไร้สมอง

คนอายุเกือบสามสิบปีแล้วยังชอบเรียกกู้ช่านว่าพี่ใหญ่กู้ คนของนครน้ำบ่อต่างก็ชอบมองเจ้านครน้อยผู้นี้เป็นตัวตลก

นอกจากนี้ยังมีศิษย์พี่สี่แห่งเกาะชิงเสีย ฉินเจวี๋ย ศิษย์พี่หกเฉาเจ๋อ ล้วนเป็นผู้ฝึกตนที่โดดเด่นมากเป็นพิเศษของทะเลสาบซูเจี่ยน พรสวรรค์ดีเยี่ยม สังหารใครไม่เคยใจอ่อน คือขุนพลคนสนิทของสกัดคงคาเจินจวินที่ออกกรีฑาทัพไปทั่วสี่ทิศ

และยังมีศิษย์น้องเล็กของเจ้าของเกาะหวงหลี ลวี่ไช่ซาง อายุต่างจากศิษย์พี่ที่เป็นเจ้าของเกาะอยู่หลายร้อยปี เนื่องจากเป็นลูกศิษย์ที่บรรพจารย์ท่านหนึ่งรับตัวมาก่อนจะปิดด่าน ฐานะจึงสูงมากเป็นพิเศษ

ก่อนที่เกาะชิงเสียจะเจริญรุ่งเรือง เกาะหวงหลีคือเกาะขนาดใหญ่ในจำนวนน้อยนิดที่สามารถงัดข้อกับเกาะชิงเสียได้ แน่นอนว่าทุกวันนี้พลังอำนาจย่อมเทียบกับเกาะชิงเสียไม่ได้

นายน้อยแห่งเกาะกู่หมิง หยวนหยวน (元袁) มีชื่อเล่นว่าหยวนหยวน (圆圆) พ่อแม่คือคู่บำเพ็ญตนคู่หนึ่งของเกาะกู่หมิง เป็นผู้ฝึกตนโอสถทองทั้งสองคน สตรีแซ่หยวน (元) บุรุษแซ่หยวน (袁) เป็นคู่ที่แต่งงานกันแล้วบุรุษย้ายเข้ามาอยู่บ้านภรรยา มารดาของหยวนหยวนเป็นสตรีดุร้ายป่าเถื่อนที่ทำให้หลิวจื้อเม่าปวดหัว ประเด็นสำคัญคือผู้ฝึกตนหญิงคนนี้มีภูมิหลังที่ใหญ่มาก ในอดีตเคยเป็นอนุภรรยาซึ่งเป็นที่โปรดปรานของผู้ฝึกกระบี่ก่อกำเนิดท่านหนึ่งของราชวงศ์จูอิ๋ง

หันจิ้งหลิงองค์ชายแคว้นสือหาว หวงเฮ้อบุตรชายของแม่ทัพใหญ่

กู้ช่าน ฟ่านเยี่ยนคุณชายเสเพล ฉินเจวี๋ย เฉาเจ๋อ ลวี่ไช่ซาง หยวนหยวน หันจิ้งหลิง หวงเฮ้อ บวกกับเถียนหูจวินศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่ไม่ชอบปรากฏตัว แต่กลับเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติตามคำสั่งของกู้ช่านอย่างไม่รีรอ

นอกจากเถียนหูจวินที่ถูกกู้ช่านบังคับลากตัวมาร่วมด้วยแล้ว คนอื่นๆ อีกแปดคนล้วนสวามิภักดิ์ด้วยความสมัครใจ ว่ากันว่าภายใต้คำแนะนำของกู้ช่าน ไม่รู้ว่าพวกเขาไปจับไก่ตัวผู้ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งมาจากไหน เอามากรีดเลือดไก่สาบานเป็นพี่เป็นน้องกัน เรียกตัวเองว่าสิบวีรบุรุษแห่งทะเลสาบซูเจี่ยน

ไม่พูดถึงคนของทั้งทะเลสาบซูเจี่ยน อันที่จริงแม้แต่คนทั้งแปดก็ยังอดสงสัยไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีกันเก้าคน แต่เหตุใดถึงป่าวประกาศแก่คนนอกว่าสิบวีรบุรุษ?

ตอนนั้นมารน้อยกู้ช่านแค่เปลือยเท้ายืนอยู่บนเก้าอี้ใหญ่อันดับสอง กระโดดโลดเต้นชี้ไปยังเก้าอี้อันดับหนึ่งที่ว่างเปล่า คลี่ยิ้มกว้างพูดว่าตำแหน่งนี้เก็บไว้ก่อน

กู้ช่านผู้นี้อายุไม่มาก แต่พอมาอยู่ทะเลสาบซูเจี่ยน ส่วนสูงของเขากลับเหมือนหน่อไม้ที่ผุดขึ้นหลังฝนฤดูใบไม้ผลิ ปีหนึ่งก็สูงขึ้นคืบใหญ่ เด็กอายุสิบกว่าขวบกลับตัวสูงพอๆ กับเด็กหนุ่มอายุสิบสี่สิบห้าแล้ว

มีข่าวลือเล็กๆ บอกว่าเจียวหลงที่ชอบจับผู้ฝึกลมปราณกินเป็นอาหารตัวนั้นสามารถนำพลังกลับมาหล่อเลี้ยงเรือนกายของกู้ช่านได้ บนเกาะชิงเสีย การลอบฆ่าครั้งเดียวที่ขยับใกล้ความสำเร็จมากที่สุดก็คือนักฆ่าคนหนึ่งที่ตวัดดาบฟันลงบนกระดูกสันหลังของมารน้อยกู้อย่างแรง หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปต้องตายคาที่แน่นอน ต่อให้เป็นผู้ฝึกลมปราณห้าขอบเขตล่าง หากไม่ได้พักฟื้นรักษาตัวสักสองสามปีก็อย่าหวังว่าจะลงจากเตียงมาได้ ทว่าเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน มารน้อยผู้นั้นกลับออกจากภูเขามาอีกครั้ง แล้วก็เริ่มมานั่งอยู่บนหัวของเจียวหลงที่ถูกเขาเรียกว่า ‘หนีชิวน้อย’ ตัวนั้น ให้มันพาแหวกว่ายธาราของทะเลสาบซูเจี่ยนอย่างมีความสุขอีกครั้ง

วันนี้มองจากหอเรือนสูงของนครน้ำบ่อไปยังทะเลสาบซูเจี่ยนก็จะสามารถมองเห็นเรือหอเรือนขนาดใหญ่ยักษ์ลำหนึ่งขับเคลื่อนตรงมาช้าๆ ความใหญ่โตของเรือนั้นทำให้มันมีระดับสูงเทียบเท่ากับความสูงของกำแพงนครน้ำบ่อ

รอบด้านของเรือหอเรือน นอกจากคลื่นน้ำที่ถูกตัวเรือแหวกทะยานออกมาแล้ว บนผิวน้ำของทะเลสาบที่ห่างจากเรือหอเรือนไปร้อยกว่าจั้งก็มีริ้วน้ำกระเพื่อมเป็นวงเบาๆ ซึ่งสังเกตเห็นได้ไม่ง่ายนัก

มีคนผู้หนึ่งที่ลักษณะคล้ายเด็กหนุ่มสวมชุดหม่างสีหมึกกระชับรับกับรูปร่าง นั่งเท้าเปล่าอยู่บนราวรั้วของหัวเรือ เขาแกว่งเท้าทั้งสองข้าง ทุกๆ ระยะเวลาช่วงหนึ่งจะสูดจมูกด้วยความเคยชิน ดูเหมือนว่ากาลเวลายาวนาน ตัวก็สูงขึ้นแล้ว ทว่าบนใบหน้ายังคงมีน้ำมูกสองเส้น จึงต้องสูดมังกรเขียวตัวน้อยสองตัวกลับถ้ำไป

ด้านหลังของเขามีคนยืนอยู่สามคน ศิษย์พี่หญิงใหญ่เถียนหูจวิน ทุกวันนี้นางเป็นผู้ดูและเกาะชิงเสียและมีอำนาจใหญ่ในการตัดสินความเป็นความตายของคนเกือบหมื่นที่อยู่บนเกาะใกล้เคียงใต้อาณัติ จึงเริ่มมีบารมีอำนาจที่คล้ายคลึงกับสกัดคงคาเจินจวินอยู่หลายส่วนแล้ว คนที่ยืนขนาบซ้ายและขวาของนางคือศิษย์น้องสองคนอย่างฉินเจวี๋ยและเฉาเจ๋อ

ขยับไปเบื้องหลังก็คือแม่นางเปิดสาบเสื้อหน้าตางดงาม บุคลิกท่าทางแตกต่างกันออกไปหลายสิบคนที่ยืนเป็นแถวเรียงราย เพียงแต่ว่าเมื่อออกมาเที่ยวเล่นด้านนอกจึงเปลี่ยนมาสวมอาภรณ์ที่สุภาพถูกกาลเทศะ

และเบื้องใต้น้ำของทะเลสาบที่อยู่รอบเรือหอเรือน

ก็คือ ‘หนีชิวน้อย’ ตัวหนึ่งที่ยาวหลายร้อยจั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!