เฉินผิงอันยืนนิ่งอยู่ที่หัวเรือตลอดเวลา
ระหว่างนี้กู้ช่านไปที่ห้องชั้นบนสุดของเรือหอเรือน จิตใจของเขาวุ่นวายยุ่งเหยิง ขว้างปาแก้วทุกใบบนโต๊ะทิ้ง แม่นางเปิดสาบเสื้อหลายคนที่อยู่ในห้องตัวสั่นงันงก ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้านายตัวน้อยที่ยิ้มแย้มแจ่มใสตั้งแต่เช้าจรดค่ำถึงได้เกรี้ยวกราดเพียงนี้
หนีชิวน้อยที่ยืนอยู่ด้านข้างก็อัดอั้นตันใจมากเหมือนกัน
กู้ช่านเงยหน้าขึ้นจ้องมองหนีชิวน้อย แล้วเขาก็คลี่ยิ้ม พูดอย่างลำพองใจว่า “หนีชิวน้อย ไม่ต้องกลัวนะ เฉินผิงอันก็แค่โมโหข้าเท่านั้น ตอนเด็กก็มักจะเป็นเช่นนี้ หากทำให้เขาไม่พอใจเมื่อไหร่ ไม่ว่าข้าจะคอยตามก้นเขาต้อยๆ พูดจาน่าฟังเอาใจเขาแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจข้า วันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่ทุกครั้งหากเห็นว่าข้าหรือท่านแม่ข้าถูกเพื่อนบ้าน หรือไม่ก็พวกคนชั่วของเมืองเล็กรังแก เขาก็ยังช่วยพวกเราอยู่ดี หลังจากนั้นต่อให้ข้าจะร้องไห้งอแงแค่ไหน เฉินผิงอันก็ไม่โกรธข้าแล้ว เฮ้อ น่าเสียดายที่ทุกวันนี้ข้าไม่มีขี้มูกยืดสองเส้นนั่นอีกแล้ว นั่นน่ะคือสมบัติอาคมชิ้นที่ใหญ่ที่สุดของข้าเลยนะ เจ้ารู้ไหม? ทุกครั้งที่เฉินผิงอันช่วยข้าและท่านแม่ ขอแค่ข้าสูดน้ำมูก เขาจะต้องทำหน้าตึงไม่ไหว หลุดหัวเราะ ทุกครั้งที่เป็นอย่างนั้น เขาก็จะไม่โกรธข้าอีก”
หนีชิวน้อยพยักหน้ารับ
กู้ช่านและตัวมันเองต่างก็รู้ดีว่าเหตุใดตอนที่อยู่บนถนน มันจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว
เป็นเพราะมันกลัวจริงๆ
นั่นคือความเคาพยำเกรงที่เกี่ยวพันกับมหามรรคาของมัน
เกรงว่าแม้แต่ตัวเฉินผิงอันเอง คนทั้งถ้ำสวรรค์หลีจู หรือแม้แต่อาจารย์ของกู้ช่านอย่างสกัดคงคาเจินจวินหลิวจื้อเม่าก็คงไม่มีทางรู้สาเหตุ
เพราะหนีชิวน้อยตัวนี้ไม่ค่อยเหมือนกับปลาหลีสีทองที่ถูกขังอยู่ในข้องราชามังกรของหลี่เอ้อร์ หรืองูสี่ขาตัวที่อยู่ในลานบ้านของซ่งจี๋ซินสักเท่าไหร่ การที่สามารถจับโชควาสนาใหญ่เทียมฟ้าอย่างหนีชิวน้อยตัวนี้มาได้ นั่นก็คือโชควาสนาของตัวเฉินผิงอันเอง! เป็นโชควาสนาเพียงหนึ่งเดียวในถ้ำสวรรค์หลีจูที่เฉินผิงอันสามารถจับมาได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีโอกาสกุมมันไว้ในมืออย่างแน่นหนา! แต่เฉินผิงอันกลับอาศัยความรู้สึกของตนมอบมันให้กับกู้ช่านที่ตอนนั้นก็เกิดจิตเชื่อมโยงกับหนีชิวน้อยจึงทำหน้ายิ้มประจบขอร้องมาจากเฉินผิงอัน นี่เท่ากับว่าตัวเขามอบโชควาสนาของตัวเองให้กลายเป็นโชควาสนาบนมหามรรคาของกู้ช่าน
แต่นี่ไม่ได้กระทบกับข้อที่ว่า สำหรับหนีชิวน้อยแล้ว เฉินผิงอันก็ยังคงเป็นเจ้านายของมันครึ่งตัว!
แม้ตอนนี้เฉินผิงอันจะไม่มีทางควบคุมหนีชิวน้อยที่เป็นขอบเขตก่อกำเนิดแล้วได้ แต่หากจะบอกว่าหนีชิวน้อยกล้าลงมือกับเฉินผิงอัน ก็เว้นเสียแต่ว่าเจ้านายคนปัจจุบันอย่างกู้ช่านจะออกคำสั่ง มันถึงจะกล้าทำ
กู้ช่านพลันฟุบตัวลงบนโต๊ะ “หนีชิวน้อย ใต้หล้านี้นอกจากท่านแม่ก็มีแค่เฉินผิงอันที่เต็มใจจะมอบของที่ดีที่สุดของตัวเองให้ข้าอย่างแท้จริง ตอนที่ไม่ได้เป็นช่างปั้น ตอนที่เป็นช่างปั้นแล้ว เฉินผิงอันก็ล้วนเป็นเช่นนี้ ขอแค่ในมือมีเงินสักเล็กน้อย ตัวเขาเองตัดใจซื้อไม่ลง แต่ขอแค่ข้าอยากกิน เขาก็จะซื้อมาให้ข้าโดยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วสักครั้ง แถมยังโกหกข้าว่าเขาได้เงินมาก้อนใหญ่ ข้าเพิ่งจะมารู้ก็ตอนที่หลิวเสี้ยนหยางหลุดปากเล่าให้ฟังในภายหลัง หนีชิวน้อย เจ้าว่า ทำไมเฉินผิงอันต้องโกรธด้วยล่ะ?”
หนีชิวน้อยส่ายหน้า
กู้ช่านพลิกตัวกลับ เอาศีรษะวางพาดไว้บนโต๊ะ สองมือสอดประสานกันอยู่ในชายแขนเสื้อ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าบอกมาสิว่าคราวนี้เฉินผิงอันจะโกรธนานแค่ไหน? เฮ้อ ตอนนี้ข้าไม่กล้าเล่าเรื่องแม่นางเปิดสาบเสื้อให้เขาฟังด้วยซ้ำ จะทำยังไงดี?”
กู้ช่านหลั่งน้ำตา “ข้ารู้ว่าครั้งนี้เฉินผิงอันไม่เหมือนเดิม เมื่อก่อนเวลาคนอื่นรังแกข้ากับท่านแม่ ขอแค่เขาได้เห็นก็จะสงสารข้า ดังนั้นต่อให้ข้าจะไม่รู้ความแค่ไหน เขาจะโกรธแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางไม่ยอมรับน้องชายอย่างข้า แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนกัน ข้ากับท่านแม่ต่างก็มีชีวิตที่ดีมากแล้ว เขาเฉินผิงอันจะต้องรู้สึกว่า ต่อให้ไม่มีเขาเฉินผิงอัน พวกเราก็สุขสบายได้ ดังนั้นเขาจะต้องโกรธต่อไป จะไม่สนใจข้าอีกตลอดชีวิต แต่ข้าอยากบอกกับเขาว่า ไม่ใช่แบบนั้น ไม่มีเฉินผิงอัน ข้าจะต้องเสียใจมาก ข้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต หากเฉินผิงอันไม่สนใจข้าแล้ว ข้าก็จะไม่ห้ามเขา ข้าแค่จะบอกกับเขาว่า หากเจ้ากล้าไม่สนใจข้า ข้าก็จะยิ่งเป็นคนเลวมากกว่าเดิม ข้าจะทำเรื่องชั่วร้ายมากกว่าเดิม ร้ายจนถึงขั้นที่ว่าไม่ว่าเจ้าเฉินผิงอันจะไปอยู่ที่ใดในแจกันสมบัติทวีป ไปอยู่ใบถงทวีป หรือทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง ก็ล้วนต้องได้ยินชื่อเสียงของข้ากู้ช่าน!”
กู้ช่านยกสองมือปิดหน้า
นี่คือครั้งที่สองที่กู้ช่านเผยด้านที่อ่อนแอออกมาให้เห็นนับตั้งแต่มาอยู่ทะเลสาบซูเจี่ยน ครั้งแรกคือตอนฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์กับมารดาบนเกาะชิงเสีย ตอนนั้นก็พูดถึงเฉินผิงอันเช่นกัน
จิตใจของหนีชิวน้อยเชื่อมโยงอยู่กับกู้ช่าน อารมณ์ทั้งหมดของเขาไม่ว่าจะเป็นเศร้า ดีใจ เสียใจหรือโกรธ มันล้วนมีความรู้สึกร่วมไปด้วย มันจึงหลั่งน้ำตาไม่ต่างจากเขา
……
ในที่สุดเรือหอเรือนก็มาถึงเกาะชิงเสีย
ตอนที่ลงจากเรือ เฉินผิงอันหยิบป้ายหยกแผ่นหนึ่งส่งมอบให้กับหนีชิวน้อย เฉินผิงอันพูดเสียงทุ้มหนัก “เอานี่ไปให้หลิวจื้อเม่า บอกให้เขาเก็บไว้ก่อน รอให้ข้าไปจากเกาะชิงเสียเมื่อไหร่ค่อยคืนให้ข้า แล้วก็บอกเขาด้วยว่า ช่วงเวลาที่ข้าอยู่เกาะชิงเสีย อย่าให้ข้าได้เห็นหน้าเขาแม้แต่ครั้งเดียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!