กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 443

หลิวจื้อเม่าจึงเอ่ยต่อว่า “ต้าหลีหวังว่าข้าจะสามารถรักษาสถานะเจ้าแห่งยุทธภพจอมปลอมนี้ต่อไป แต่ผลประโยชน์ที่แท้จริงทั้งหมดทุกสิ่งอย่างล้วนมอบให้แก่เกาะกงหลิ่ว เกาะพันกว่าแห่งของทะเลสาบซูเจี่ยน ข้าที่เป็นผู้นำแห่งทะเลสาบซูเจี่ยนในนามนี้ ได้แต่เลือกเกาะอีกสามสิบแห่งนอกเหนือจากเกาะใต้อาณัติสิบกว่าแห่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทุกเกาะเชื่อมโยงถึงกัน กลายเป็นเหมือน ‘พื้นที่เมืองหลวงที่สำคัญ’ ของราชวงศ์ในโลกมนุษย์ เกาะทั้งหมดที่เหลือล้วนตกอยู่ในการปกครองของเกาะกงหลิ่ว แน่นอนว่าในอนาคต สกุลซ่งต้าหลีย่อมต้องดึงส่วนแบ่งไปจากหลิวเหล่าเฉิงอย่างแน่นอน และภายใต้เงื่อนไขนี้ หลิวเหล่าเฉิงไม่สามารถมีการกระทำใดๆ ที่เป็นการเล่นงานข้าและเกาะชิงเสียได้โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ไม่ได้ เพียงแต่ว่าข้อเสนอเล็กๆ น้อยๆ นี้ ถานหยวนอี้คงจะพยายามพูดกับหลิวเหล่าเฉิงอย่างอ้อมค้อมมากที่สุด”

หลิวจื้อเม่าถอนหายใจ “ต่อให้ข้ายอมถอยขนาดนี้แล้ว หลิวเหล่าเฉิงก็ยังคงไม่ยอมตอบรับ แม้แต่ตำแหน่งเจ้าแห่งยุทธภพในนามของข้า เขาก็ยังไม่ยอมทำทานให้แก่เกาะชิงเสีย เขาทิ้งประโยคหนึ่งไว้ให้ถานหยวนอี้ว่า วันหน้าทะเลสาบซูเจี่ยนจะไม่มีเจ้าแห่งยุทธภพอะไรอีกแล้ว เพราะนี่เป็นเรื่อตลกสิ้นดี”

เฉินผิงอันขมวดคิ้ว

ตอนนี้เขายังคิดถึงจุดเชื่อมโยงของเรื่องนี้ไม่ออก

เพราะเขาไม่รู้แผนการของสวินยวนเจ้าสำนักกุยหยกที่เลือกทะเลสาบซูเจี่ยนเป็นสถานที่ตั้งของสำนักเบื้องล่าง รวมไปถึงพันธมิตรระหว่างสวินยวนกับหลิวเหล่าเฉิง ยิ่งเดาไปไม่ถึงว่า ‘คนรู้จักเก่าแก่’ อย่างเจียงซ่างเจินที่ได้ครอบครองพื้นที่มงคลถ้ำเมฆาจะได้มาเป็นเจ้าสำนักคนแรกของสำนักเบื้องล่าง

ในฐานะสำนักเบื้องล่างของสำนักกุยหยก ต่อให้ได้ครอบครองพื้นที่ทั้งหมดของทะเลสาบซูเจี่ยน พวกเขายังรังเกียจว่าเล็กเกินไป ไม่แน่ว่าแม้แต่แคว้นใต้อาณัติของราชวงศ์จูอิ๋งที่อยู่รอบๆ ทะเลสาบซูเจี่ยนอย่างแคว้นสือหาวก็อาจต้องถูกควบรวมให้เข้าไปอยู่ในการปกครองของสำนักเบื้องล่างด้วย

ใครจะปล่อยให้คนอื่นมานอนกรนข้างเตียงตัวเอง? หลิวจื้อเม่าผู้ฝึกตนอิสระขอบเขตก่อกำเนิดคนหนึ่งจะนับเป็นอะไรได้?

เพียงแต่หลิวจื้อเม่าไม่รู้ และถานหยวนอี้เจ้าเกาะลี่ซู่ก็ไม่รู้เช่นกันว่า

เพื่อสถานการณ์หมากนี้ ราชครูชุยฉานปิดบังถานหยวนอี้คล้ายตั้งใจแต่ก็คล้ายไม่เจตนา นี่ก็เพื่อให้ชุยตงซานยอมแพ้ทั้งกายและใจ ระหว่างคนทั้งสองจึงจะแบ่งแยกได้ว่าใครเป็นนาย ใครเป็นบ่าว และทำให้ชุยตงซานออกมาจากสำนักศึกษาซานหยา มาให้เขาชุยฉานใช้งาน ช่วยเขาและกองทัพม้าเหล็กต้าหลียึดครองแผ่นดินครึ่งหนึ่งของแจกันสมบัติทวีปอย่างยินยอมพร้อมใจ ส่วนจะเป็นเหนือหรือใต้ จะเป็นแผ่นดินที่อยู่ทางเหนือของสำนักศึกษากวานหู หรือแผ่นดินที่อยู่ทางใต้ ตอนนั้นชุยฉานให้ชุยตงซานเลือกได้ทั้งสองอย่าง

สำหรับคนอย่างชุยฉานแล้ว ผู้คนและเรื่องราวทางโลกล้วนเชื่อถือไม่ได้ ทว่าแม้แต่ ‘ตัวเอง’ ก็ยังเชื่อถือไม่ได้งั้นหรือ? นั่นไม่เท่ากับว่ากังขาในมหามรรคาของตัวเองหรือไร? ก็เหมือนที่ส่วนลึกในใจของเฉินผิงอันต่อต้านว่าตัวเองได้กลายเป็นคนบนภูเขาแล้ว ดังนั้นแม้แต่สะพานยาวข้ามแม่น้ำที่ตัวเองสร้างขึ้นมา เขาก็ยังไม่เต็มใจจะเดินขึ้นไป

แม้จะบอกว่าตอนนี้คนคนเดียวแบ่งออกเป็นสอง ชุยตงซานถือว่าเป็นชุยฉานแค่ครึ่งตัว แต่ชุยฉานก็ดี หรือชุยตงซานก็ช่าง ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คนที่ดีแต่จะใช้กลอุบาย อวดฉลาดอย่างโง่งม

ขอแค่ตัดสินใจว่าจะนั่งลงประลองกันอย่างจริงจังแล้ว ก็ยินดีรับความพ่ายแพ้ แล้วนับประสาอะไรกับที่ยังแพ้ให้ตัวเองครึ่งตัว

หากชุยตงซานออกจากภูเขามาช่วยเหลือต้าหลีอย่างเต็มกำลัง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เท่ากับราชวงศ์ต้าหลีมีซิ่วหู่เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง!

ตอนนั้นชุยฉานยังไม่ออกไปจากหอเรือนสูงของนครน้ำบ่อ หากใช้คำสัพยอกกึ่งจริงกึ่งเล่นของชุยตงซานประโยคนั้นมาพูดก็คือ ‘แค่ข้าลองคิดก็กลัวแล้ว ต้าหลีที่อยู่ในแจกันสมบัติทวีปจะแพ้ได้อย่างไร?’

เฉินผิงอันเงียบไป ข่าวนี้มีทั้งดีและร้าย

ที่ดีก็คือ ความมั่นใจของหลิวจื้อเม่าในการเสนอราคากับตนจะต้องดิ่งลงเหว หลิวเหล่าเฉิงที่ครอบครองเกาะกงหลิ่วมีท่าทีแข็งกร้าวถึงเพียงนั้น ทางฝั่งของจวนชุนถิงรวมไปถึงจวนจูเสียนของเกาะชิงเสีย น้ำหนักของสิ่งของที่หลิวจื้อเม่าจะนั่งลงเสนอราคากับเฉินผิงอันมีแต่จะเบาลงเรื่อยๆ

ข้อเสียก็คือ นี่หมายความว่าหากคิดจะทำเรื่องในใจให้สำเร็จ เฉินผิงอันจำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับทางต้าหลีมากกว่าเดิม นี่ทำให้เฉินผิงอันเริ่มกังขาแล้วว่า ถานหยวนอี้แห่งเกาะลี่ซู่มีคุณสมบัติพอที่จะส่งอิทธิพลต่อนโยบายของศูนย์กลางต้าหลีหรือไม่ จะสามารถใช้ฐานะโฆษกของสกุลซ่งต้าหลีที่อยู่ในทะเลสาบซูเจี่ยนมาพูดคุยเรื่องการซื้อขายกับตนได้หรือไม่ หากเสียงของถานหยวนอี้ไม่ดังพอ เรี่ยวแรงที่เฉินผิงอันสิ้นเปลืองไปกับคนผู้นี้ก็จะละลายไปกับสายน้ำ ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นคือหากถานหยวนอี้ที่สร้างความดีความชอบได้เลื่อนขั้นไปอยู่ที่อื่นของต้าหลี ทะเลสาบซูเจี่ยนเปลี่ยนตัวแทนคนใหม่ของต้าหลีมา ‘ความสัมพันธ์ควันธูป’ อันน้อยนิดที่เฉินผิงอันสร้างไว้กับถานหยวนอี้จะกลับกลายเป็นเรื่องร้าย ที่น่ากลัวที่สุดก็คือหลิวเหล่าเฉิงยื่นเท้าเข้าแทรก เป็นเหตุให้สถานการณ์ของทะเลสาบซูเจี่ยนเปลี่ยนแปลงไป ต้องรู้ว่าไม่ว่าสุดท้ายแล้วทะเลสาบซูเจี่ยนจะตกไปเป็นของใคร ขุนนางผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงที่แท้จริงไม่เคยใช่เกาะลี่ซู่อะไรนั่น แต่เป็นกองทัพม้าเหล็กต้าหลีที่อยู่ชายแดนราชวงศ์จูอิ๋ง เป็นกองทัพม้าเหล็กกองนี้ที่บุกทุกอย่างที่ขวางหน้าให้พังราบเป็นหน้ากลอง เป็นผู้ตัดสินว่าทะเลสาบซูเจี่ยนจะใช้แซ่ใด หากถานหยวนอี้ถูกพวกแซ่สกุลที่เป็นเสาค้ำยันแคว้นของต้าหลีพูดสรุปแบบตอกฝาโลงในราชสำนักว่าเขาทำงานได้ไม่ดี ถ้าอย่างนั้นเฉินผิงอันก็ไม่จำเป็นต้องไปที่เกาะลี่ซู่แล้ว เพราะถานหยวนอี้เองก็ยังแทบเอาตัวไม่รอด ไม่แน่ว่าอาจเห็นเขาเฉินผิงอันเป็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย กำไว้ในมือแน่น ให้ตายก็ไม่ยอมปล่อย หวังว่าจะใช้เขามาเป็นเงินทุนก้อนสุดท้ายในการร้องขอชีวิต ในเวลานั้นถานหยวนอี้ผู้ฝึกตนเซียนดินคนหนึ่งที่สามารถตัดสินชะตากรรมของสองเกาะใหญ่อย่างเกาะชิงจ่งและเกาะเทียนหมู่ได้ภายในค่ำคืนเดียว จะยิ่งน่าหวาดกลัวและยิ่งไม่เลือกวิธีการ

เหตุผลก็ง่ายดายมาก

ถานเซวี่ยถูกเฉินผิงอันปักตรึงไว้บนบานประตู

เฉินผิงอันเองก็อาจจะกลายมาเป็นถานเซวี่ยคนต่อไป

นี่ต่างหากจึงจะเป็นการท่องยุทธภพที่แท้จริง เป็นตายต้องรับผิดชอบเอาเอง

หลิวจื้อเม่าอดทนรอให้เฉินผิงอันเปิดปาก ไม่ได้ขัดจังหวะการครุ่นคิดของนักบัญชีท่านนี้

และประโยคแรกของเฉินผิงอันก็คือ “รบกวนเจินจวินเชิญถานหยวนอี้ให้มาพูดคุยกับข้าอย่างลับๆ บนเกาะชิงเสียสักหน่อย ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”

หลิวจื้อเม่าผ่อนลมหายใจโล่งอก

เพียงแต่ว่าคำพูดต่อมาของเฉินผิงอันกลับทำให้หลิวจื้อเม่ารู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ลำบากใจอย่างถึงที่สุด

“เจ้าและข้าต่างก็รู้กันดีว่าถานหยวนอี้ไปชนตออยู่บนเกาะกงหลิ่ว หลิวเหล่าเฉิงไม่มีทางให้ราคาสูงเทียมฟ้า เพื่อเปิดโอกาสให้พวกเจ้าได้หั่นราคาต่อรอง ตอนนี้ตัวของถานหยวนอี้แห่งเกาะลี่ซู่ก็คือหลุมโคลนเละๆ หลุมหนึ่ง น้ำขุ่นบ่อนี้หากไม่ทันระวังก็อาจเปรอะเปื้อนเต็มตัว ดังนั้นข้าจึงมีข้อเสนอสองอย่าง หนึ่งคือเจ้าจำเป็นต้องถอนพันธนาการลับทั้งหมดบนร่างของมารดากู้ช่านออก ไม่ต้องถามข้าว่าจะสงสัยว่าเจ้าจะรับปาก แต่กลับไม่ยอมทำตามหรือไม่ เจ้าและข้าต่างก็รู้ขีดจำกัดของกันและกันดี ไม่จำเป็นต้องถามคำถามลองเชิงที่น่าเบื่อประเภทนี้ และเจ้าก็ยิ่งรู้ดีว่าทุกวันนี้ข้ามีท่าทีต่อจวนชุนถิงอย่างไร”

“เงื่อนไขข้อที่สอง เจ้ายกเลิกการควบคุมที่มีต่อหงซูจวนจูเสียนไปซะ มอบตัวนางให้ข้า ในเมื่อถานหยวนอี้ไม่ได้เรื่องก็ให้ข้าไปพูดคุยกับหลิวเหล่าเฉิงด้วยตัวเอง”

สุดท้ายเฉินผิงอันเอ่ยเสียงหนัก “เงื่อนไขข้อที่สองนี้ อันที่จริงไม่ถือว่าเป็นเงื่อนไขด้วยซ้ำ หลิวจื้อเม่า เจ้าช่างน้ำหนักดูให้ชัดเจน! เมื่อภูเขาเขียวยังอยู่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีฟืน นี่ไม่ใช่แค่กฎเกณฑ์ของทะเลสาบซูเจี่ยนพวกเจ้าเท่าเน้น ยังเป็นสัจธรรมของผู้ฝึกตนอิสระทุกคนทั่วหล้าด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!