กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 448

เฉินผิงอันพ่นลมหายใจขุ่นมัวออกมาหนึ่งที แล้วชี้คนหนุ่มที่อยู่ท่ามกลางกองทหารเบื้องหน้าให้หม่าตู่อี๋และเจิงเย่ดู “พวกเจ้าอาจจะไม่ทันได้สังเกต หรือไม่มีโอกาสที่จะได้เห็น ในรายงานเกาะปุยหลิวของทะเลสาบซูเจี่ยนพวกเจ้า ข้าเคยเห็นหน้าของคนผู้นี้มาก่อนสองครั้ง ดังนั้นจึงรู้ว่าเขาชื่อหันจิ้งซิ่น คือน้องชายต่างมารดาขององค์ชายหันจิ้งหลิง มีชื่อเสียงในเมืองหลวงของแคว้นสือหาวอย่างมาก ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ๆ ที่ฮองเฮาแคว้นสือหาวรักและตามใจมากที่สุด”

เฉินผิงอันถูฝ่ามือเข้าด้วยกัน “และข้าเองก็เคยคบค้าสมาคมกับองค์ชายที่มีสถานะเท่าเทียมกับกับหันจิ้งหลิง หันจิ้งซิ่น ซึ่งพวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน แต่อยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งของใบถงทวีปที่เรียกว่าราชวงศ์ต้าเฉวียน แต่เมื่อเทียบกับสองพี่น้องคู่นี้แล้ว คู่พี่น้องที่ใบถงทวีปเหมือนจะฉลาดกว่ามาก ไม่ว่าทำเรื่องอะไรก็ตาม จะดีหรือเลว อย่างน้อยก็ยังรู้จักใช้แผนการเล่นงานคนอื่น แต่ลูกชายคนสุดท้องของฮ่องเต้แคว้นสือหาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ดูเหมือนจะชอบใช้วิธีปะทะกันซึ่งๆ หน้ามากกว่า”

สีหน้าของหม่าตู่อี๋เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

เฉินผิงอันยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ไม่ต้องเป็นกังวล ไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของเจ้า และไม่มีทางเดือดร้อนไปถึงครอบครัวเจ้า”

หม่าตู่อี๋กล่าวอย่างเดือดดาล “เรื่องนี้ยังต้องให้เจ้ามาบอกข้าด้วยหรือ? ข้ากังวลว่าเจ้าจะอวดเก่ง แล้วต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เปล่าๆ ต่างหาก ถึงเวลานั้น…จะยังเดือดร้อนให้ข้าถูกองค์ชายบ้าตัณหาผู้นี้ลักพาตัวไปด้วย!”

เฉินผิงอันย่อมรู้อยู่แล้วว่าหม่าตู่อี๋เป็นห่วงความปลอดภัยของเขาจากใจจริง ส่วนประโยคครึ่งหลังของนางนั้น บางทีอาจเป็นเพราะสตรีหน้าบางก็เลยจงใจเปลี่ยนความหวังดีมาเป็นถ้อยคำแย่ๆ แทน

เฉินผิงอันหันหน้าไปยิ้มให้นาง “ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ข้าก็ยังไม่เคยบอกให้พวกเจ้าหันหลังหนีไป ใช่ไหม?”

ตอนนี้ในหัวสมองของเจิงเย่เต็มไปด้วยแม่นางซู คิดว่าหากเหตุการณ์สมมติที่ท่านเฉินพูดถึงปรากฏขึ้นจริง ตนควรจะรับมืออย่างไร หัวสมองของเขาเหลวเป็นแป้งเปียกไปแล้ว จึงไม่เข้าใจความนัยในคำพูดนี้ของท่านเฉิน

ทว่าหม่าตู่อี๋กลับเป็นสตรีฉลาดเฉลียวที่มีจิตใจรอบคอบละเอียดอ่อน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตถ้ำสถิตได้ทั้งที่อายุยังน้อย หากไม่เป็นเพราะเจอกับหายนะที่มาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัว ตอนนั้นที่เผชิญหน้ากับเจียวหลงตัวนั้น ไม่รู้ว่านางเสียสติหรืออย่างไร ถึงได้ยืนกรานไม่ถอยหนี ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้นางก็มีหวังว่าจะเลื่อนสู่ตำแหน่งสูงถึงการได้เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตประตูมังกรของทะเลสาบซูเจี่ยนไปแล้ว ถึงเวลานั้นแค่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรพจารย์ในสำนักและผู้ฝึกตนของเกาะใหญ่แห่งต่างๆ เมื่อได้ครอบครองเกาะแห่งหนึ่ง อยู่ในทะเลสาบซูเจี่ยนก็ถือว่าได้ ‘ก่อสำนักตั้งพรรค’ แล้ว

แม้ว่าหม่าตู่อี๋จะฟังความหมายของเฉินผิงอันออก แต่กระนั้นก็ยังพูดด้วยความเป็นกังวลว่า “ท่านเฉินจะงัดข้อกับองค์ชายผู้นี้ให้ถึงที่สุดจริงหรือ?”

จากนั้นนางก็รีบร้อนอธิบายว่า “แน่นอนว่าข้าไม่ได้ช่วยพูดแทนทหารม้ากองนั้น เพียงแต่ว่าทะเลสาบซูเจี่ยนของพวกเราไม่ค่อยสนับสนุนในหลักใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา หากไม่ลงมือก็คือลงมือแล้วต้องตัดรากถอนโคนให้สิ้นซาก ถ้าเกิดความขัดแย้งกับหันจิ้งซิ่นผู้นี้ขึ้นมา แล้วหลังจากนี้พวกเรายังต้องไปเยือนใจกลางแคว้นสือหาว รวมไปถึงมณฑลอีกหลายแห่งของทางทิศเหนือ จะมีปัญหาหรือไม่? จะถ่วงรั้งงานใหญ่ของท่านเฉินหรือไม่?”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ข้าจะลองหาวิธีก็แล้วกัน การฆ่าคนไม่เคยใช่เป้าหมายของข้า แต่หันจิ้งซิ่นผู้นี้ หลังจากที่เขาออกจากเมืองหลวงก็คล้ายจะฆ่าคนเพื่อความบันเทิงมาโดยตลอด แถมยังเสพติดการฆ่าคนไปแล้ว ในกลุ่มผู้ติดตามของเขายังมีคนแขวนศีรษะของคนที่ฆ่ามาได้ไว้ข้างอานม้า ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะใช่กองลาดตระเวนของต้าหลี นี่หมายความว่าเขาไม่ได้จะเอาไปเป็นหลักฐานเพื่อขอคุณความชอบทางการทหาร แต่เป็นการฆ่าคนเพื่อระบายความแค้น”

เฉินผิงอันยกมือขึ้นวาดเส้นเส้นหนึ่งกลางอากาศอย่างเรียบง่าย

คราวนี้ไม่เพียงแต่เจิงเย่เท่านั้นที่ไม่เข้าใจ แม้แต่หม่าตู่อี๋ที่บนไหล่ทั้งสองข้างมีหิมะเกาะเต็มก็ยังมึนงงไปด้วย

เฉินผิงอันตบหน้าผากตัวเอง ก่อนหันไปพูดกับหม่าตู่อี๋ว่า “ลืมไปว่าสามารถเก็บเจ้าไว้ในชายแขนเสื้อได้”

หม่าตู่อี๋ปิดปากหัวเราะคิกคัก

ทางฝั่งของหันจิ้งซิ่น พอเห็นท่วงท่ามีเสน่ห์ของผีสาวที่งดงามตนนั้น ในใจก็พลันเดือดพล่าน รู้สึกว่าการที่ต้องมายืนตากหิมะใหญ่เท่าขนห่านคืนนี้ไม่ได้เสียเปล่า

เขายิ้มถาม “สังหารผู้ฝึกตนที่ไม่รู้ประวัติความเป็นมาแค่ไม่กี่คน จะสร้างปัญหาให้ท่านเจิงหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!