กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 457

เกี่ยวกับการกระทำของกู้ช่านในทะเลสาบซูเจี่ยน กวนอี้หรานย่อมไม่ชอบ ความรู้สึกนี้มาจากอุปนิสัยส่วนตัวของตัวเขาเอง แล้วเกี่ยวกับการอบรมบ่มเพาะจากตระกูลกวนที่ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัว คนเรามีชีวิตอยู่บนโลก ทุกสถานที่ล้วนเป็นวงการขุนนาง คนมุทะลุบุ่มบ่ามที่ทำลายกฎเกณฑ์เพื่อความบันเทิงอย่างกู้ช่านโชคดีมีชีวิตรอดอยู่ท่ามกลางกลียุคมาได้จนถึงทุกวันนี้ จำต้องพูดว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างยิ่ง ทว่าในเมื่อเขาคือสหายของคนผู้นั้น กวนอี้หรานจึงไม่ถึงขั้นปิดประตูไม่ต้อนรับแขก เพื่อนของเพื่อน ไม่แน่เสมอไปว่าจะต้องกลายมาเป็นเพื่อน เพียงแต่ว่าการให้หน้ากันเล็กน้อยแค่นี้ กวนอี้หรานยังยินดีมอบให้

ตอนนี้กองกำลังหลักของกองทัพม้าเหล็กต้าหลีได้ถอนออกไปจากทะเลสาบซูเจี่ยนแล้ว กวนอี้หรานที่อายุยังน้อย อันที่จริงก็เหมือนกลายมาเป็นเจ้าแห่งยุทธภพที่สามารถตัดสินใจเรื่องทุกอย่างได้แล้ว เป็นผู้กุมอำนาจใหญ่ที่ตัดสินว่าผู้ฝึกตนอิสระหลายหมื่นคนจะเป็นหรือตาย ถึงขั้นเป็นเจ้าแห่งยุทธภพได้สมชื่อยิ่งกว่าหลิวจื้อเม่าแห่งเกาะชิงเสียในปีนั้นเสียอีก

กู้ช่านที่สีหน้านิ่งสงบ เจิงเย่ที่ท่าทางขลาดกลัว หม่าตู่อี๋ที่ในใจเป็นกังวลไม่ต่างกัน พากันมาพบกวนอี้หราน

ทั้งสองฝ่ายเดินออกไปข้างหน้าแทบจะพร้อมกัน ต่างฝ่ายต่างมายืนอยู่ในลานบ้าน กวนอี้หรานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าก็คือกู้ช่านสินะ มีธุระหรือ?”

กู้ช่านยิ้มพลางควักเหล้ากาหนึ่งออกมา นั่นคือเหล้าหมักกุ้ยฮวาของนครมังกรเฒ่า เขายื่นมันส่งให้กวนอี้หราน ยิ้มกล่าวว่า “เฉินผิงอันต้องการให้ข้านำเหล้ากานี้มามอบให้แม่ทัพกวน บอกว่าเป็นเหล้าที่เขาติดค้างแม่ทัพกวนเอาไว้”

กวนอี้หรานไม่ได้ปฏิเสธ เขารับเหล้ากานั้นมา เพียงแต่กล่าวกลั้วยิ้มอย่างฉุนๆ ว่า “ได้สุรามาแล้ว แต่คนกลับไม่มาด้วย นี่มันเป็นยังไง”

จากนั้นกวนอี้หรานก็พึมพำอยู่กับตัวเอง “แต่เมื่อเทียบกับคนมา แต่สุราไม่มา ดูเหมือนว่าจะดีกว่าเล็กน้อย?”

แล้วกวนอี้หรานก็หัวเราะกับตัวเอง

เจิงเย่กับหม่าตู่อี๋รู้สึกโล่งอก ดูท่าแล้วแม่ทัพต้าหลีที่มีความสามารถทั้งที่อายุยังน้อยผู้นี้จะสนิทกับท่านเฉินไม่น้อย

กวนอี้หรานพลันถามว่า “กู้ช่าน รู้หรือไม่ว่าเหตุใดเฉินผิงอันถึงบอกให้เจ้านำสุรามามอบให้ข้า?”

กู้ช่านพยักหน้ารับ “รู้ เพราะอยากให้ข้ามาให้แม่ทัพกวนคุ้นหน้าคุ้นตา ต่อให้ไม่สามารถได้รับการดูแลจากท่านแม่ทัพ แต่ขอแค่แม่ทัพกวนรับเหล้านี้ไว้ ถ้าเช่นนั้นการเดินทางกลับเกาะชิงเสียของข้าในครั้งนี้ก็ยังลดปัญหายุ่งยากไปได้ไม่น้อย”

กวนอี้หรานยิ้มกล่าว “เจ้าเองก็ไม่โง่นี่นา เหตุใดเมื่อก่อนถึงทำตัวกำเริบเสิบสาน คิดอ่านไม่รอบคอบขนาดนั้น?”

กู้ช่านตอบอย่างตรงไปตรงมา “เมื่อก่อนไม่รู้ความ มักจะรู้สึกว่าทุกคนล้วนเป็นคนโง่ แต่ตอนนี้ไม่กล้าแล้ว”

กวนอี้หรานพยักหน้ารับ “ก็ได้ งั้นก็เอาตามนี้ วันหน้าหากเป็นเรื่องเล็กๆ สามารถมาขอให้ข้าช่วยได้ แต่หากเป็นเรื่องใหญ่ก็อย่ามาหาเรื่องใส่ตัวที่ที่ว่าการแห่งนี้จะดีกว่า อันที่จริงความประทับใจที่ข้ามีต่อเจ้านั้นธรรมดาสามัญอย่างยิ่ง”

กู้ช่านพยักหน้ารับ กุมหมัดกล่าวว่า “กู้ช่านขอขอบคุณแม่ทัพกวนไว้ ณ ที่นี้ก่อน หากมีเรื่องเล็กๆ ที่จำเป็นต้องรบกวนแม่ทัพกวนจริงๆ เรื่องอื่นไม่กล้าพูด เพราะทุกวันนี้มีหนี้เต็มตัว ยังต้องมีค่าใช้จ่ายอีกมาก ทว่าเหล้ากาหนึ่งยังสามารถนำมาให้ได้”

กวนอี้หรานชำเลืองตามองกู้ช่าน เพียงพยักหน้ารับ “ข้ามีงานรัดตัว คงไม่อยู่รับรองพวกเจ้าแล้ว”

กู้ช่านจึงบอกลาจากไปอย่างรู้กาลเทศะ

เจิงเย่กับหม่าตู่อี๋ก็หมุนตัวเดินออกมาจากจวนตระกูลฟ่านด้วย

เดินอยู่บนถนนใหญ่ของนครน้ำบ่อ หม่าตู่อี๋บ่นขึ้นว่า “อายุไม่มาก แต่กลับวางมาดใหญ่โตนัก”

กู้ช่านส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “แค่ยอมพบหน้าพวกเราก็บอกให้รู้แล้วว่ามาดของเขายังไม่ใหญ่มากพอ สองเรื่องใหญ่ของปลายปีนี้และกลางปีหน้า คงต้องไปมาหาสู่กับแม่ทัพกวนผู้นี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงเวลานั้นหากแม่นางหม่าไม่ยินดีมาเยือนที่ว่าการแห่งนี้ก็สามารถไปเดินเที่ยวที่ถนนวานรร่ำไห้กับเจิงเย่ได้”

หม่าตู่อี๋ไม่ได้ปฏิเสธ นางยังรู้สึกหวาดกลัวไม่หาย “กลิ่นอายความเป็นทางการของที่นี่เข้มข้นเกินไป โดยเฉพาะเทพทวารบาลต้าหลีสององค์ที่ติดไว้บนประตูใหญ่ของจวนสกุลฟ่าน สายตาของพวกเขาไม่เป็นมิตรนัก ข้าไม่อยากมาเจอเคราะห์กรรมที่นี่นักหรอก”

เจิงเย่เองก็พยักหน้ารับอย่างแรง “ข้าเองก็รู้สึกว่าสายตาที่พวกเขามองพวกเราไม่เป็นมิตรอย่างยิ่ง ช่วยไม่ได้ ข้าคือผู้ฝึกตนผี แค่ยอมให้ข้าเข้าไปด้านในโดยไม่ขัดขวาง ข้าก็แปลกใจมากแล้ว”

กู้ช่านพาพวกเขาไปเช่าเรือข้ามฟากลำหนึ่งที่ตกเป็นของทางการต้าหลี ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนหรือขุนนางชนชั้นสูงที่ต้องการชมทัศนียภาพของทะเลสาบก็ล้วนจำเป็นต้องมอบเอกสารผ่านด่านหรือสำมะโนครัวที่ท่าเรือ เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้วถึงจะเข้าออกทะเลสาบซูเจี่ยนได้ นี่ก็คือกฎใหม่ ทว่าหากมีป้ายสงบสุขปลอดภัยที่ทางต้าหลีมอบให้ ไม่ว่าระดับขั้นจะสูงหรือต่ำก็ล้วนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ทางท่าเรือยังจะเป็นฝ่ายเสนอเรือข้ามฝากท่องทะเลสาบโดยไม่คิดค่าตอบแทนด้วย เพียงแต่ว่าทะเลสาบซูเจี่ยนที่กว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ ผู้ฝึกตนเซียนดินที่ได้รับเกียรตินี้กลับมีน้อยจนนับนิ้วได้ เถียนหูจวินแห่งเกาะซู่หลิน อวี๋กุ้ยผู้ถวายงานลำดับต้นของเกาะชิงเสีย คู่สามีภรรยาเซียนดินเกาะหวงหลี จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต่อให้เป็นแผ่นป้ายสงบสุขปลอดภัยที่ระดับขั้นต่ำที่สุดแผ่นหนึ่งก็ยังมีมูลค่าสูงถึงเพียงนั้น

ช่วงที่ผ่านมานี้มีข่าวอยู่สองข่าวที่เล่าลือกันไปทั่วทะเลสาบซูเจี่ยน สร้างความสั่นสะเทือนครึกโครมไปสี่ทิศ

หนึ่งคือเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับผู้ฝึกตนอิสระของทะเลสาบซูเจี่ยนมากนัก แต่เรื่องนี้ใหญ่เกินไป นั่นคือฮ่องเต้ต้าหลีสิ้นพระชนม์แล้ว

อีกเรื่องหนึ่งนั้นเกี่ยวพันกับผู้ฝึกตนอิสระหลายหมื่นคนและเกาะนับพันเกาะอย่างแนบแน่น เมื่อความจริงที่น่าตะลึงพรึงเพริดนี้เป็นดั่งหินที่ผุดขึ้นมาหลังน้ำลด คนทั้งทะเลสาบซูเจี่ยนถึงเพิ่งสะดุ้งตื่นจากฝัน เข้าใจว่าเหตุใดสถานการณ์ของทะเลสาบซูเจี่ยนเมื่อสองปีก่อนถึงได้คลุมเครือนจนคนคิดอย่างไรก็ไม่กระจ่างแจ้งได้ถึงเพียงนั้น

ที่แท้สำนักตระกูลเซียนที่มีอักษรจง (แปลว่าสำนัก) ในชื่อซึ่งใหญ่ที่สุดในใบถงทวีปอย่างสำนักกุยหยก ได้เลือกทะเลสาบซูเจี่ยนให้เป็นสถานที่ตั้งของสำนักเบื้องล่างในแจกันสมบัติทวีป

ดังนั้นนับตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิของปีนี้เป็นต้นมา ข่าวน้อยใหญ่เกี่ยวกับสำนักกุยหยกจึงเหมือนหิมะใหญ่เท่าขนห่านที่ปลิวปรายไปทั่ว

เพียงแต่ว่าสำหรับกู้ช่านแล้ว เรื่องใหญ่พวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

เฉินผิงอันมอบหน้าที่การจัดงานพิธีกรรมใหญ่ของทั้งลัทธิเต๋าและลัทธิพุทธให้แก่เขากู้ช่าน

นอกจากจะถ่ายโอนสมุดบัญชีทั้งหมดมาให้เขากู้ช่านแล้ว กฎเกณฑ์แต่ละอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องใหญ่สองเรื่องนี้ก็ละเอียดยิบย่อยจนเฉินผิงอันนำมาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรได้หลายหมื่นคำ แล้วมอบมันให้แก่กู้ช่าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ หม่าตู่อี๋ยังเคยเอ่ยสัพยอกว่า ขาดอีกแค่นิดเดียวท่านเฉินก็จะกลายเป็นภิกษุหรือไม่ก็นักพรตแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!