กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 485

เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้แต่ ‘ช่างไม้ผู้เฒ่า’ แซ่หลวนผู้นั้นก็ยังถูกปิดหูปิดตา ต่อให้อยู่ด้วยกันมานานก็ยังสัมผัสไม่ได้แม้แต่น้อย จำต้องพูดว่าผู้ฝึกตนสายรองของสำนักลู่ผู้นั้นมีความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่ายังมีอดีตฮ่องเต้ต้าหลีที่มีกลอุบายลึกล้ำด้วย

ราชครูชุยฉานและสำนักศึกษาซานหยาของฉีจิ้งชุนต่างก็เพิ่งจะมาเลือกสกุลซ่งต้าหลีตามหลังสองสายนี้ ส่วนข้อที่ว่านอกเหนือจากที่ลูกศิษย์สองคนของเหวินเซิ่งอย่างชุยฉานและฉีจิ้งชุนจะช่วยเหลือประคับประคองและให้การศึกษาแล้ว ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่กลายมาเป็นศัตรูกันนานแล้ว แต่กลับต้องมาเป็นเพื่อนบ้านกันอีกครั้งคู่นี้ แท้จริงแล้วแต่ละคนต้องการอะไรกันแน่ ก็บอกได้ยากแล้ว

สุดท้ายอาเหลียงผู้นั้นก็มาเยือน

เขาได้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของต้าหลีและตลอดทั้งแจกันสมบัติทวีปไปอย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่อาเหลียงปล่อยหนึ่งกระบี่ออกไป ป๋ายอวี้จิงจำลองที่ทุ่มกองกำลังเกือบครึ่งแคว้นสร้างขึ้นมาไม่อาจโคจรได้อย่างราบรื่น ในระยะเวลาหลายสิบปีจะไม่สามารถใช้ค่ายกลกระบี่สังหารศัตรูไกลหมื่นลี้ได้อีก สกุลซ่งต้าหลีเสียหายอย่างหนัก ลามไปถึงพลังต้นกำเนิด แต่กลับได้รับโชคดีหลังโชคร้าย ลู่เฉินเจ้าลัทธิที่แอบมาเยือนถ้ำสวรรค์หลีจูอย่างลับๆ ผู้นั้นเหมือนว่าคร้านจะถือสาต้าหลี นับตั้งแต่มาเยือนใต้หล้าไพศาล ไปจนถึงกลับไปยังใต้หล้ามืดสลัวจึงไม่ได้ลงมือทำลายป๋ายอวี้จิงหลังนั้นของต้าหลี การออมมือไว้ไมตรีของลู่เฉิน จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นเรื่องประหลาดที่ทำให้ยอดฝีมือหลายคนคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ หากลู่เฉินลงมือเพราะเหตุนี้ ต่อให้การที่เขาพานโกรธเอากับราชวงศ์ต้าหลีจะเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุไปสักหน่อย ทว่ารองเจ้าขุนเขาของศาลบุ๋นและเหล่าอริยะที่มีรูปปั้นในทวีปแผ่นดินกลางย่อมไม่มีทางขัดขวาง

ภายหลังกองทัพม้าเหล็กต้าหลีก็รีบร้อนกรีฑาทัพลงใต้

การสร้างป๋ายอวี้จิงจำลองได้เผาผลาญกองกำลังของสกุลซ่งต้าหลีไปถึงครึ่งแคว้น

นอกจากนี้ต้าหลียังอาศัยแหล่งที่มาของเงินเทพเซียนจากช่องทางลับบางอย่าง รวมไปถึงอาศัยการเชื่อเงินผู้อื่นเพื่อให้หลวนจวี้จื่อและอาจารย์กลไกสำนักโม่สร้างเรือข้ามฟาก ‘ภูผา’ ขึ้นมาถึงแปดลำเต็มๆ

สามารถพูดได้ว่า ขอแค่การลงใต้ของต้าหลีถูกขัดขวางไม่ราบรื่น ต้องชะงักอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ขอแค่ถูกถ่วงเวลาไว้สักสามปีห้าปี ต่อให้พลังการต่อสู้ของกองทัพม้าเหล็กต้าหลีจะได้รับความเสียหายไม่มาก สกุลซ่งต้าหลีเองก็คงประคองตัวต่อไปไม่ไหวแล้ว

เพราะฉะนั้นการที่ราชวงศ์จูอิ๋งยอมให้พินาศวอดวายกันไปทั้งสองฝ่าย ถึงอย่างไรก็ต้องถ่วงเวลาม้าเหล็กต้าหลีไว้ให้ได้ ย่อมไม่ใช่การกระทำที่ใช้แต่อารมณ์อย่างแน่นอน ส่วนการที่พวกแคว้นใต้อาณัติรอบด้านพยายามต้านทานไว้สุดชีวิต ใช้กองกำลังทหารหลายหมื่นหลายแสนนายไปเผาผลาญกำลังของม้าเหล็กต้าหลี แน่นอนว่าเบื้องหลังก็ย่อมมียอดฝีมือคอยชี้แนะและผลักดัน ไม่อย่างนั้นภายใต้สถานการณ์ใหญ่เช่นนี้ ทั้งๆ ที่เห็นได้ชัดว่าพลังการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมาก ถูกกำหนดมาแน่นอนแล้วว่าบนสนามรบจะต้องแพ้อย่างอนาถ ใครเล่าจะยังยินดีพาตัวไปตายเปล่า?

ในอดีตผู้ฝึกตนเฒ่าของสำนักโม่ผู้นี้อคติกับชุยฉานอย่างมาก มักรู้สึกว่าชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่กับความเป็นจริงของเขาไม่สอดคล้องกันอย่างยิ่ง ลวงโลกเกินไป เคยเล่นหมากล้อมเมฆสีรุ้งกับเจ้านครจักรพรรดิขาวแล้วอย่างไร? ในอดีตเคยเป็นลูกศิษย์ของเหวินเซิ่งแล้วอย่างไร มีตบะขอบเขตสิบสองแล้วอย่างไร ตัวคนเดียวโดดเดี่ยว ทั้งไม่มีภูมิหลัง แล้วก็ไม่มีที่พึ่ง แล้วนับประสาอะไรกับที่อยู่ในทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง เขาชุยฉานก็ยังคงไม่ถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเล็กๆ ที่อยู่ยอดบนสุด ถูกขับออกจากสายบุ๋นของเหวินเซิ่ง ม้วนเสื่อหอบผ้ากลับมายังบ้านเกิดอย่างแจกันสมบัติทวีปแล้วจะสร้างวีรกรรมยิ่งใหญ่อะไรได้สักเท่าไหร่?

แต่เมื่อสวี่รั่วโน้มน้าวจวี้จื่อ (จวี้จื่อคือคำเรียกบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ประสบความสำเร็จ) ของสำนักโม่สายหลักในทุกวันนี้ได้สำเร็จ จนพวกเขามาเยือนสถานที่ป่าเถื่อนกันดารอย่างแจกันสมบัติทวีปนี้จริงๆ ถึงจะเริ่มค่อยๆ ตระหนักได้ถึงความร้ายกาจของชุยฉาน

เมื่อปีก่อนกองทัพม้าเหล็กต้าหลีถูกราชวงศ์จูอิ๋งขัดขวางไว้ที่ด่านอันตรายนอกประตูแคว้น คงจะเพื่อปลอบใจผู้คน ชุยฉานที่ไม่ค่อยชอบปรากฎตัวท่ามกลางสถานการณ์ใหญ่ที่พรั่งพรูสู่ทิศใต้ของต้าหลีถึงได้เรียกพวกตาแก่บางคนมานั่งลง แล้วพูดคุยเปิดอกกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่พูดถึงเรื่องที่ว่าต้าหลีจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน รวมไปถึงหลังจากประสบความสำเร็จแล้วจะแบ่งผลประโยชน์กันอย่างไร ชุยฉานแค่พูดถึงขั้นตอนแต่ละก้าวย่างที่กองทัพม้าเหล็กต้าหลีจะเดินไปภายในสิบปีต่อจากนี้ ซึ่งแทบจะละเอียดยิบย่อยจนถึงขั้นที่ว่าแต่ละปีกองทัพม้าเหล็กสามกองของต้าหลีจะถูกมอบไว้ในมือใคร จะเปิดศึกในสถานที่ใด สถานการณ์ศึกของสองฝ่ายเป็นอย่างไร รวมไปถึงสภาพการณ์ของท้องพระคลังแคว้นต้าหลีในแต่ละช่วงเวลา ฯลฯ ล้วนเป็น ‘เรื่องเล็ก’ ที่ละเอียดจนละเอียดไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว จากนั้นก็พูดถึงท่าทีของกองกำลังบนยอดเขาในแจกันสมบัติทวีปอย่างสำนักศึกษากวานหู ภูเขาเจินอู่และศาลลมหิมะที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน รวมไปถึงฉีเจินแห่งสำนักโองการเทพจะเข้ามาร่วมสถานการณ์ตอนไหน ในที่สุดเขาจะยินดีพบทูตของต้าหลี ภายหลังแม้แต่การที่ขี้เถ้ามอดติดไฟอีกครั้งบนอาณาเขตแห่งใหม่ของต้าหลี รวมไปถึงการโต้ตอบกันกลับไปกลับมาของฐานทัพต้าหลี การจุดชนวนจะเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด แล้วควรจะจัดการอย่างไร ผลได้ผลเสียของต้าหลีระหว่างนี้ เขาล้วนไล่อธิบายไปทีละอย่าง

ถึงท้ายที่สุดชุยฉานบอกให้ทุกคนรอคอยดู จะเชื่อหรือไม่ จะยอมละทิ้งกลางคัน ถอยออกไปจากสถานการณ์ หรือจะเพิ่มเดิมพัน ล้วนไม่ต้องรีบร้อน แค่นั่งดูไฟชายฝั่งอย่างเดียวก็พอ ดูสิว่ากองทัพม้าเหล็กต้าหลีจะสามารถยึดครองราชวงศ์จูอิ๋งตามขั้นตอนที่เขาชุยฉานบอกไว้ได้หรือไม่

และเรื่องจริงก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ชุยฉานคิดถูก

จนกระทั่งถึงบัดนั้น ผู้ฝึกตนเฒ่าผู้นี้ถึงจำต้องยอมรับว่า ชุยฉานเล่นหมากล้อมเก่งมากจริงๆ

แต่ผู้ฝึกตนเฒ่าก็เป็นคนดื้อดึงคนหนึ่ง เขาไม่ยอมเชื่อง่ายๆ จึงไปถามชุยฉานว่าทำได้อย่างไรกันแน่ เขาไม่เชื่อสักนิดว่าใต้หล้าจะมีใครที่ทำนายเหตุการณ์ได้ล่วงหน้าดุจเทพและมีญาณหยั่งรู้อนาคต ถึงอย่างไรการช่วงชิงชัยชนะของหนึ่งแคว้นก็ไม่ใช่หมากแค่ไม่กี่ตัวที่พวกนักเล่นวางบนกระดานจริงๆ

ชุยฉานจึงพาเขาไปยังห้องเก็บเอกสารคดีความของต้าหลีที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา ห้องลับนั้นสร้างไว้ที่ชานเมืองของเมืองหลวง

คนเกือบห้าร้อยคน ครึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้ฝึกตนที่ต่างก็กำลังทำเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเก็บรวบรวมรายงานและข้อมูล รวมไปถึงการรับส่งข่าวสารระหว่างสายลับและนักรบเดนตายของแต่ละพื้นที่ในหนึ่งแคว้น

การจัดวางกองกำลังทหาร การกระจายตัวของกลุ่มอิทธิพลบนภูเขา ข้อมูลส่วนตัวของขุนนางบุ๋นบู๊คนสำคัญของราชวงศ์และแคว้นใต้อาณัติทั้งหมดในแจกันสมบัติทวีป กึ่งกลางของภูเขาสูงลูกหนึ่งถูกเจาะจนโล่งว่างเพื่อเอาไว้เก็บเอกสารที่สะสมมานานเป็นร้อยปีเหล่านี้

นี่ยังไม่ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ฝึกตนเฒ่าตกตะลึงมากที่สุด เรื่องที่ทำให้ผู้ฝึกตนสำนักโม่หวาดกลัวอย่างแท้จริงยังมี ‘เรื่องเล็ก’ อีกเรื่องหนึ่งที่ถูกมองข้ามได้ง่ายมาก

ตอนนั้นราชครูต้าหลีที่สวมชุดลัทธิขงจื๊อพาเขาไปเยี่ยมชมพื้นที่ต้องห้ามของต้าหลีที่มีชื่อว่า ‘ภูเขาตำรา’ แห่งนั้น ผู้คนสัญจรไปมาที่พบเจอตลอดทางล้วนเหมือนกันอย่างไม่มีข้อยกเว้น นั่นคือฝีเท้าเร่งร้อน พอเห็นราชครูของแคว้นก็เพียงแค่หลีกทางให้ จากนั้นก็เดินผ่านไป ไม่มีการคุกเข่าคารวะ ไม่มีการทักทายปราศรัยตามมารยาท ต่อให้ราชครูเอ่ยถามก็แค่ตอบเท่าที่ถาม สองฝ่ายพูดคุยกันอย่างกระชับเรียบง่าย จากนั้นก็แยกย้ายกันไป

ในฐานะยอดฝีมือของสำนักโม่ คือผู้โดดเด่นมีความสามารถในกลุ่มนักศาสตร์แห่งกลไกล ตอนนั้นความรู้สึกของผู้ฝึกตนเฒ่าก็คือ เมื่อเขาคืนสติกลับมาแล้วกวาดตามองไปรอบด้านอีกครั้ง เมื่อตนมาอยู่ท่ามกลาง ‘ภูเขาตำรา’ แห่งนี้แล้ว ก็เหมือนตกอยู่ท่ามกลางกลไกที่ใหญ่โตและซับซ้อนแห่งหนึ่งที่เกริกก้องสั่นสะเทือนคนโบราณและโชติช่วงรุ่งโรจน์มาจนยุคปัจจุบันซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความแม่นยำ ถูกต้องและสอดผสานเป็นหนึ่งในทุกจุดทุกมุม

การลงภูเขามา ‘ประคองมังกร’ อย่างยิ่งใหญ่เอิกเกริกของผู้ฝึกตนในประวัติศาสตร์ เมื่อเทียบกับการกระทำของซิ่วหู่ผู้นี้แล้ว ก็เหมือนกับการเล่นพ่อแม่ลูกของเด็กๆ ที่แค่พอรู้สึกประสบความสำเร็จก็ดีใจมีความสุขกันมากแล้ว

หลังจากที่ออกจากทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางที่เต็มไปด้วยกลุ่มดวงดาวที่ทอประกาย ลูกศิษย์คนแรกของเหวินเซิ่งที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่ก็เงียบหายไปนานถึงหนึ่งร้อยปีเต็ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!