บัณฑิตจึงไปทยอยเปิดหีบทั้งสามใบ หีบใบหนึ่งเต็มไปด้วยเงินเกล็ดหิมะสีขาวพร่างตา มีมากถึงพันกว่าเหรียญ หีบอีกใบหนึ่งด้านในมีแค่ป้ายศิลาลักษณะโบราณแผ่นหนึ่ง ด้านบนสลักตัวอักษรไว้แน่นขนัด ส่วนหีบใบที่ก่อนหน้านี้วางไว้ด้านล่างสุดนั้นก็มีวัตถุเพียงอย่างเดียว นั่นคือครกหินขนาดเล็กใบหนึ่งที่สูงเท่าหัวเข่า ไม่ต่างจากครกที่ชาวบ้านเอามาใช้ตำข้าว
สายตาของบัณฑิตเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เขาส่ายหน้าเบาๆ เห็นได้ชัดว่ารู้สึกว่าการคาดเดาในใจนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “คงไม่ใช่ครกหินใบที่ในตำนานบอกว่าภูตกระจ่ายใช้บดยาหรอกกระมัง?”
บัณฑิตหัวเราะร่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเรา…มาลองเดิมพันกันดู?”
เฉินผิงอันถาม “จะเดิมพันอย่างไร?”
บัณฑิตชี้ไปยังครกหินที่อยู่ในหีบ “ของสิ่งนี้ นับเป็นเจ็ดส่วน อย่างที่เหลือนับเป็นสามส่วน แต่ข้าจะให้เจ้าเลือกก่อน”
เฉินผิงอันเลือกสามส่วนอย่างไม่ลังเล
บัณฑิตรีบเปิดปากทันที “อย่าเพิ่งเลือก ข้าเปลี่ยนใจแล้ว”
บัณฑิตยกฝ่ามือตบลงเบาๆ ครกหินใบนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นผุยผง เผยให้เห็นเป็นหินหยกลักษณะเหมือนชามขาวก้อนหนึ่ง เขาเอ่ยอย่างเสียดายว่า “เป็นเช่นนี้จริงเสียด้วย ถ้วยหยกขาวใบนี้คือสถานที่ที่ปี้สู่เหนียงเนียงฝึกตนสำเร็จ เนื่องจากเป็นเผ่าพันธุ์ตำหนักจันทรา จึงสร้างครกหินมาห่อหุ้มมันไว้ภายใน คาดว่าคงจะเพื่อให้เป็นนิมิตหมายที่ดี”
บัณฑิตเก็บชามใบนั้นขึ้นมาวางคว่ำบนฝ่ามือ ก้นชามสลักตัวอักษรแบบบรรจงแปดตัวขนาดเล็กเท่าหัวแมลงวัน ‘เซียนผู้สันโดษแห่งชิงเต๋อ ใช้สุราเชื้อเชิญจันทรา’
คือหนึ่งในภาชนะที่ใช้ในพิธีบวงสรวงของศาลบรรพจารย์สำนักชิงเต๋อ
เป็นแค่วัตถุวิเศษชิ้นหนึ่งเท่านั้น
แต่สำหรับปี้สู่เหนียงเนียงที่ฝึกตนจนกลายเป็นภูตได้สำเร็จแล้ว แน่นอนว่าความหมายย่อมยิ่งใหญ่อย่างมาก
เฉินผิงอันถาม “เจ้าจะเลือกป้ายศิลาประตูมังกรแผ่นนั้น หรือจะเลือกหีบเงินเกล็ดหิมะ?”
หนังตาของบัณฑิตกระตุกยิกๆ
ตัวอักษรของบนโลกใบนี้ก็มีแบ่งแยกความเก่าแก่ ตัวอักษรโบราณบางตัว เว้นเสียแต่ว่าเป็นตระกูลเซียนชนชั้นสูงที่มีการสืบทอดอย่างเป็นระบบระเบียบแล้ว ก็ไม่อาจจะเข้าใจเนื้อหาของมันได้เลย
คนต่างถิ่นอายุน้อยผู้นี้รู้จักตัวอักษรโบราณสองคำว่า ‘ประตูมังกร’ ที่เป็นประโยคแรกสุดบนป้ายศิลาได้อย่างไร?
บัณฑิตหัวเราะ
ถ้ำหินใต้ดินแห่งนี้เหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่เข่นฆ่าช่วงชิงชีวิตจริงๆ
เพียงแต่ว่าเวลานี้เอง คนผู้นั้นกลับเอ่ยประโยคหนึ่งที่อยู่เหนือการคาดคิดของเขา “ไม่เพียงแต่ป้ายศิลาประตูมังกรนี้จะเป็นของเจ้า เงินเกล็ดหิมะหนึ่งหีบนั้นแบ่งเป็นเจ้าเจ็ดข้าสาม และข้าจะยังเอาโครงกระดูกขาวสองโครงนั้นด้วย”
บัณฑิตกล่าวอย่างกังขา “โครงกระดูกขาวทั้งสองนั่นไม่มีมูลค่าจริงๆ ตอนที่ผู้ฝึกตนหญิงสำนักชิงเต๋อผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่มีตบะแค่ขอบเขตประตูมังกร ชุดคลุมอาคมก็ยิ่งเป็นชุดธรรมดาทั่วไป มีค่าแค่เงินร้อนน้อยไม่กี่เหรียญ ชุดคลุมมังกรชุดนั้น เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าแค่ยื่นมือไปสัมผัสเบาๆ ก็แหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลีแล้ว”
รอยยิ้มของบัณฑิตมีเลศนัย “อีกอย่าง ดึงเอาชุดของคนตายมา อีกทั้งยังเป็นชุดของผู้ฝึกตนหญิงคนหนึ่งคงไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่กระมัง?”
เฉินผิงอันกล่าว “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
บัณฑิตพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้”
เขาม้วนชายแขนเสื้อเก็บป้ายหินนั้นไปพร้อมกับหีบไม้ ส่วนเฉินผิงอันก็เก็บโครงกระดูกขาวทั้งสองไปไว้ในวัตถุจื่อชื่อพร้อมกัน
เห็นได้ชัดว่าอย่างน้อยบัณฑิตก็ต้องมีวัตถุจื่อชื่อชิ้นหนึ่งติดกาย
ส่วนเงินเกล็ดหิมะหีบนั้น เฉินผิงอันแบ่งเอามาประมาณหนึ่งพันห้าร้อยเหรียญ
บัณฑิตได้เงินส่วนมากไปครอง แต่ก็ยังไม่ค่อยจะพอใจนัก “ปี้สู่เหนียงเนียงแห่งภูเขาโปลั่วจะต้องคอยแสดงความกตัญญูต่อที่พึ่งใหญ่ของนางเป็นประจำ ทรัพย์สมบัติจึงน้อยไปหน่อย ไม่อย่างนั้นปีศาจโอสถทองตนหนึ่งคงไม่ได้มีทรัพย์สินเพียงแค่นี้”
เฉินผิงอันกล่าว “อยู่ในหุบเขาผีร้าย ต้องคอยต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับผู้อื่น สามารถมีชีวิตอยู่รอดมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว จะไปเทียบกับเซียนดินโอสถทองข้างนอกได้อย่างไร”
บัณฑิตพยักหน้ารับ “เข้าใจได้”
เฉินผิงอันถามชวนคุยว่า “เจ้ามีวัตถุวิเศษไว้ใช้กักเก็บน้ำอย่างพวกขวดดื่มน้ำหรือไม่?”
แล้วทันใดนั้น
เฉินผิงอันก็พลันชักกระบี่ออกจากฝัก กระบี่บินสองเล่มอย่างชูอีสืออู่ที่พุ่งออกมาจากใต้ดิน เล่มหนึ่งก็ยิ่งชี้ไปที่กลางกระหม่อมของบัณฑิต ส่วนอีกเล่มหนึ่งลอยอยู่ด้านหลังของอีกฝ่าย ปลายกระบี่ชี้ไปที่หัวใจทางด้านหลัง
บัณฑิตกล่าวอย่างระอาใจ “นี่เจ้าคิดจะทำอะไร? จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างนั้นหรือ? จะไม่รอให้พวกเราทำลายถ้ำสถิตบนภูเขาที่เหลืออีกห้าลูกให้ราบพนาสูร ต่างคนต่างกินอิ่มจนท้องป่องแล้วค่อยลงมือปลิดชีวิตกันจริงๆ หรือไร?”
เฉินผิงอันสีหน้าหนักอึ้ง เมื่อครู่นี้เขาสัมผัสได้ถึงปราณสังหารของอีกฝ่าย
ปราณสังหารที่ผุดขึ้นมาในใจของบัณฑิตเข้มข้นยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในสถานที่ที่ก่อนหน้านี้ปี้สู่เหนียงเนียงตายอย่างเฉียบพลันเสียอีก
เฉินผิงอันเห็นว่าบัณฑิตในเวลานี้ นับตั้งแต่สภาพจิตใจไปจนถึงสีหน้าต่างก็ไม่มีความผิดปกติ
เขาจึงบอกให้ชูอีสืออู่พุ่งกลับเข้ามาในน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ แล้วเก็บเจี้ยนเซียนสอดกลับใส่ฝัก “เมื่อครู่ตาลาย เข้าใจผิดคิดว่ามีวัตถุหยินที่เฝ้าพิทักษ์ถ้ำจะลอบโจมตีเจ้า”
บัณฑิตหัวเราะร่า “คิดไม่ถึงว่าพี่ใหญ่ท่านนี้ก็มีจิตใจเมตตาอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าทั้งเมาเลือดทั้งตาลาย หากถึงเวลาที่ต้องเปิดฉากสังหารบนภูเขาลูกอื่น ก็อย่าได้เป็นตัวถ่วงของข้าเด็ดขาดเชียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!