รอจนบัณฑิตฟื้นตื่นขึ้นมาก็รู้สึกปวดหัวราวกับหัวจะแตก เขาพบว่าตัวเองอยู่ริมหน้าผาแห่งหนึ่ง ห่างไปไม่ไกลก็คือสะพานเหล็กแขวนเส้นยาวที่ส่ายไหวเบาๆ ไปตามสายลมภูเขาเหมือนงูยาวตัวหนึ่งที่หัวกับหางแยกกันห้อยอยู่ระหว่างกิ่งไม้สองกิ่ง
ชุดคลุมบนร่างของตนที่มีชื่อว่าเทาเที่ยร้อยตาตัวนั้นไม่อยู่แล้ว ยันต์ที่ทำขึ้นด้วยวิชาลับของตระกูลซึ่งเดิมทีเก็บไว้ในชายแขนเสื้อแน่นอนว่าหายเข้าไปในกระเป๋าของคนอื่นเช่นกัน
อีกทั้งยังถูกเชือกพันธนาการปีศาจสีทองเส้นหนึ่งมัดเอาไว้ ก้มหน้าลงมองก็เห็นว่าเป็นเชือกที่ระดับขั้นไม่ต่ำ ถึงขนาดทำมาจากหนวดยาวของเจียวสองเส้น อายุของเจียวเฒ่าตัวนั้นต้องไม่ใช่น้อยๆ แน่นอน หนวดเจียวหลงของปลาหลีสีเงินในทะเลสาบถงลวี่ เมื่อเทียบกับมันแล้วก็คาดว่าคงเหมือนเผ่าพันธุ์ตำหนักจันทราอย่างปี้สู่เหนียงเนียงที่มาเจอกับคางคกตัวจริงของตำหนักกว่างหานกระมัง? บางทีอาจไม่เกินจริงขนาดนั้น แต่ก็คงไม่หนีกันสักเท่าไหร่
บัณฑิตหลุดหัวเราะพรืดอย่างอดไม่อยู่
เขาไม่ได้ดิ้นรนแต่อย่างใด
เพราะทั้งหว่างคิ้วและด้านหลังหัวใจของตนต่างก็มีกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มหนึ่งลอยอยู่
ยังดี ขอแค่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางตะเกียงบงกชคืนวิญญาณในศาลบรรพจารย์ของตนดวงนั้นก็ถือว่าไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้ว
บัณฑิตถอนหายใจ “พี่ชายคนดี ของที่ยืมไป ไม่ช้าก็เร็วต้องคืนข้ามาด้วยนะ”
ห่างไปไม่ไกล จอมยุทธพเนจรหนุ่มสวมงอบคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิฝึกท่ายืนนิ่งเจี้ยนหลูอยู่ที่ริมหน้าผา
คนผู้นั้นไม่เอ่ยวาจา
บัณฑิตจึงเอ่ยต่อว่า “พี่ชายคนดี นิสัยที่ชอบปอกลอกเสื้อผ้าของคนอื่นนี้ของเจ้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ ชุดคลุมอาคมที่จักรพรรดิกระดูกขาวในคลังสมบัติของปี้สู่เหนียงเนียงสวมใส่ไว้ก็เป็นอย่างที่ข้าพูด แค่แตะก็สลายเป็นฝุ่นผงไม่ใช่หรือ? ชุดคลุมอาคมของผู้ฝึกตนหญิงสำนักชิงเต๋อคนนั้น ข้าก็ไม่ได้โกหกเจ้าจริงๆ ระดับขั้นของมันธรรมดาอย่างถึงที่สุด ก็เหมือนกับถ้วยเหล้าภาชนะที่ใช้บวงสรวงของศาลบรรพจารย์สำนักชิงเต๋อนั่นแหละ ต่างก็เป็นแค่สมบัติวิเศษเท่านั้น ขายก็ได้ราคาไม่ดี เว้นเสียแต่ว่าเจอกับผู้ฝึกตนที่ชอบเก็บสะสมชุดคลุมอาคมถึงจะพอได้กำไรอยู่บ้าง”
เฉินผิงอันยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ
บัณฑิตไม่มีความรู้สึกอับอายจนพานเป็นโกรธแม้แต่น้อย ก็แค่ไม่มีชุดคลุมอาคมที่เอาออกมาโอ้อวดใครไม่ได้ก็เท่านั้น ไม่ได้เนื้อตัวเปลือยเปล่าสักหน่อย แต่ยันต์กระดาษสีทองสามแผ่นนี่แหละที่ค่อนข้างจะเสียดาย แผ่นหนึ่งเป็นสายรองของยันต์ภูเขา มีชื่อว่ายันต์จวนปี้เซียว สามารถจำแลงเป็นจวนของอ๋องในนครเหลยเฉิงของจริงได้ เมื่อผู้ฝึกตนอยู่ในนั้นจะสามารถต้านทานการโจมตีจากสมบัติอาคมแห่งชะตาชีวิตของก่อกำเนิดได้หลายครั้ง หากเปลี่ยนมาเป็นโอสถทอง คาดว่าเวลาครึ่งก้านธูปก็อย่าหวังว่าจะเปิดประตูจวนได้ อีกแผ่นหนึ่งคือยันต์แสงสว่างอวี้ชิง เมื่อถูกผู้ฝึกตนโยนออกไปจะสาดส่องความมืดมิด สยบขวัญผีและปีศาจ กินอาณาบริเวณกว้างขวางยิ่ง ปกคลุมฟ้าดินในรัศมีหลายลี้ ไม่ได้มีไว้ใช้รับมือกับผู้ฝึกตนใหญ่ แต่เอาไว้ใช้ฝ่าวงล้อมโดยเฉพาะ
แผ่นสุดท้ายมีค่ามากที่สุด ทำขึ้นจากวิชาลับของตระกูลที่สืบทอดต่อกันมา คือยันต์นภากาศพิฆาต แก่นของยันต์ซ่อนแสงเทพที่มีมูลค่าควรเมืองไว้สี่เส้น หากลงมือเมื่อไหร่ก็จะมีองค์เทพบรรพกาลสี่ท่านอย่างเทพสายฟ้า เจ้าแม่ฟ้าแลบ พ่อปู่วาโย เทพพิรุณปรากฏตัวอย่างพร้อมเพรียงกัน แล้วรวมพลังกันโจมตีศัตรู
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในเรือนหลังของตำหนักกว่างหานบนภูเขาโปลั่ว ยันต์ที่บัณฑิตคีบไว้ในชายแขนเสื้อก็คือยันต์ประเภทนี้
เพียงแต่ว่าตอนนั้นอีกฝ่ายก็เจ้าเล่ห์ ทำท่าทางราวกับว่าซุกซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในชายแขนเสื้อเหมือนกัน บัณฑิตไม่แน่ใจในความตื้นลึกของอีกฝ่าย อีกทั้งคนทั้งคู่ยังอยู่ใกล้กันมาก พลานุภาพของยันต์ยิ่งใหญ่เกินไป หากใช้งานขึ้นมาครึ่งหนึ่งของภูเขาโปลั่วก็ต้องถูกปาดทิ้ง เขาไม่อยากจะสังหารศัตรูหนึ่งพันตัวเองเสียหายแปดร้อย และไม่แน่ว่าอาจจะยังเป็นการเปิดเผยร่องรอยของตัวเอง ถึงได้ข่มปราณสังหารเอาไว้
ส่วนยันต์ที่ภายหลังถูกคนผู้นี้ใช้กระบี่ฟันทิ้งก็มีพลังพิฆาตไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่ยิ่งใหญ่ทรงพลังเท่ากับยันต์นภากาศพิฆาต อีกทั้งยังไม่ได้เขียนขึ้นจากวิชาลับของตระกูลด้วย แต่เป็นความสามารถติดตัวของสำนักยันต์แห่งหนึ่งในอุตรกุรุทวีป เอาไว้ใช้กำราบผู้ฝึกกระบี่บนโลกโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าแม้จะเป็นนาทีนั้น แต่บัณฑิตก็ยังไม่ถูกกลุ่มปีศาจบีบบังคับจนถึงขั้นที่ต้องใช้ความสามารถประจำตระกูล เพียงแค่มองดูแล้วสภาพกระเซอะกระเซิงไปหน่อยเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ความคิดที่แท้จริงของเขาก็คือจงใจจะสร้างความเคลื่อนไหวครึกโครมที่กลุ่มภูเขาทั้งหลายต่างก็มองเห็น เพราะบัณฑิตแน่ใจว่าคนผู้นั้นก็ต้องแอบกลับมาอย่างเงียบเชียบแล้วซ่อนตัวอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งอย่างแน่นอน จากนั้นไม่แน่ว่าเมื่อวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำแล้วก็จะลอบฆ่าตน
บัณฑิตหรือจะไม่มีความคิดที่หมายแสดงความอ่อนแอเพื่อฉวยโอกาสนี้สังหารอีกฝ่าย?
น่าเสียดายก็แต่สวรรค์ไม่ทำให้คนสมปรารถนา
สมกับคำว่าธรรมะสูงหนึ่งฉื่อ อธรรมสูงหนึ่งจั้งจริงๆ
กระบี่เล่มนั้นของอีกฝ่ายประหลาดอย่างมาก มหัศจรรย์เกินไป ยันต์พันธนาการกระบี่กระดาษสีทองของตำหนักตี้จู่แผ่นหนึ่งกลับไม่สามารถกักขังกระบี่ยาวของอีกฝ่ายได้สำเร็จ ดังนั้นวิชาการหลบหนีที่ตนเตรียมเอาไว้ และยันต์พิฆาตแผ่นที่สองที่ซ่อนไว้ในชายแขนเสื้อของตนจึงเป็นดั่งวีรบุรุษที่ไร้ที่ให้แสดงฝีมือ ไม่อย่างนั้นหากใช้ยันต์แล้วเขาหลบหนีไปได้สำเร็จ อีกฝ่ายไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส เหลือไว้ให้กลุ่มปีศาจช่วยกันจัดการเก็บกวาด จะยังมีชีวิตรอดได้อีกหรือ?
ยังมีเจ้าหมอนั่นอีกคนที่ยิ่งอืดอาดยืดยาด ถึงเวลาคับขันกลับเลอะเลือน บังคับแย่งเอาอำนาจในการเป็นผู้นำของดวงวิญญาณไปเสียเกินครึ่ง ปลดการป้องกันทั้งหมดที่มีต่อคนผู้นี้ลง แล้วผลล่ะเป็นอย่างไร? ก็ยังถูกอีกฝ่ายปล่อยหมัดต่อยใส่อย่างไม่ลังเลเลยไม่ใช่หรือ? สุดท้ายตนก็ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดี เพราะอีกฝ่ายไม่ได้สังหารคนชิงทรัพย์ ทำลายศพกลบร่องรอยอย่างอำมหิต
ไยนี่จะไม่ใช่ความโชคดีเสี้ยวหนึ่งที่อีกฝ่ายสะสมไว้จากการใจอ่อนมีเมตตา
ไม่อย่างนั้นรอจนตนฟื้นตื่นขึ้นมาในตระกูล แม้ว่าจะพอรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่กลับต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลเป็นหนึ่งจิตหนึ่งวิญญาณ รากฐานมหามรรคาถูกทำลาย ต่อให้ตระกูลมีวิชาลับที่สามารถชดเชยได้ แต่อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาการเลื่อนขอบเขตไปร้อยปี ถึงเวลานั้นมีหรือตระกูลจะยอมละเว้นคนผู้นี้ไปง่ายๆ อย่าว่าแต่ไล่ฆ่าหมื่นลี้เลย ต่อให้เจ้าเป็นผู้สืบทอดสายตรงของสำนักที่มีคำว่าจงในชื่อของทวีปอื่นก็ยังจะถูกไล่ฆ่าข้ามทวีป สิบปีไม่สำเร็จก็ร้อยปีอยู่ดี
สกุลหยางตำหนักนภากาศที่อยู่ในหน่วยฉงเสวียนของราชวงศ์ต้าหยวนได้รับการยอมรับจากคนทั้งทวีปมาโดยตลอดว่าเห็นแก่บุญคุณความแค้นเป็นสำคัญ การตอบแทนบุญคุณเป็นเรื่องใหญ่ การจดจำความแค้นก็ยาวนาน การแก้แค้นก็ยิ่งอำมหิตมาดร้าย
ยันต์แห่งศาลบรรพจารย์กระดาษทองสามแผ่นที่เหลืออยู่ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานก็ดี หรือชุดคลุมอาคมเทาเที่ยร้อยตาตัวนั้นก็ช่าง ต่อให้จะมีมูลค่ามากแค่ไหน แต่จะมีมูลค่าได้เท่าชีวิตและมหามรรคาของผู้ฝึกตนหรือ?
ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้บัณฑิตจึงปล่อยวางได้
บิดากำชับกับตนมาโดยตลอดว่า บนเส้นทางของการฝึกตนต้องเสียเปรียบเล็กๆ น้อยๆ ให้มากหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!