เย่หานลุกขึ้นยืนช้าๆ ถามด้วยสีหน้าเป็นมิตร “แม้จะบอกว่าเซียนกระบี่ปลอดภัยดี แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่าพวกเราจะก่อความผิดมหันต์ มีโทษถึงตาย ทว่าถึงอย่างไรช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ก็เป็นพวกเราที่ไปรบกวนความสงบของเซียนกระบี่จริงๆ ถ้าเช่นนั้นจะขอให้นครหวงเยว่ของพวกเราเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ โดยมีข้าเย่หานออกหน้าด้วยตัวเอง ช่วยชดเชยให้เซียนกระบี่ได้หรือไม่?”
เซียนกระบี่หนุ่มผู้นั้นพยักหน้ารับ “แน่นอนว่าย่อมได้ มีประโยคหนึ่งที่เทพอภิบาลเมืองในศาลกล่าวได้ดี ใต้หล้านี้ไม่มีเรื่องใดที่ปรึกษากันดีๆ ไม่ได้”
เขายื่นมือออกไปคว้า บังคับกระบี่ให้เข้ามาอยู่ในมือ จากนั้นก็ปาดกระบี่วาดไปในแนวขวาง “ว่ามาเถอะ เปิดราคามา”
การกระทำของเซียนกระบี่ผู้นั้นอยู่เหนือการคาดคิดของผู้คนเกินไป การออกกระบี่ก็ยิ่งรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ รอจนเขาบิดหมุนข้อมือ โยนกระบี่สอดกลับเข้าฝัก ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำเช่นนี้มีความหมายว่าอย่างไร
ทว่าเจ้านครหวงเยว่ที่มีชื่อเสียงด้านความสุภาพอ่อนโยน สง่างามใจกว้างอยู่บนภูเขาของหลายสิบแคว้นกลับแผดเสียงคำรามอย่างเดือดดาลขึ้นมากะทันหัน “เจ้ากล้าบังอาจฆ่าคนต่อหน้าข้าเชียวรึ!”
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองอย่างพร้อมเพรียงกัน สุดท้ายเส้นสายตาไปหยุดอยู่บนร่างของเด็กหนุ่มหน้าตางดงามที่ยกมือขึ้นกุมลำคอของตัวเองเอาไว้
ขลุ่ยไม้ไผ่ตระกูลเซียนที่อยู่ในมือหล่นร่วงลงพื้น ประหนึ่งหยกที่ตกกระแทกพื้นส่งเสียงดังเคร้ง
ร่างของเหอลู่โซเซถอยหลังไปหลายก้าว มีเลือดสดซึมออกมาจากร่องนิ้วของเขาแล้ว เด็กหนุ่มเจ๋อเซียนผู้นี้น้ำตานองหน้า มือข้างหนึ่งกดลำคอเอาไว้แน่น มืออีกข้างหนึ่งชี้ไปที่เย่หาน พูดเสียงสะอื้น “บิดาช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย…”
ฟ่านเหวยหรานขนลุกอยู่ในใจ ต่อมาก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกคนตบบ้องหูแรงๆ ซีกแก้มปวดแสบปวดร้อน
นางเกือบจะโมโหจนผมขาวตั้งชันดีดมงกฎสีทองที่เซียนประทานให้ชิ้นนั้นออกไปโดยตรงเสียแล้ว!
เหอลู่ตัวดี เย่หานตัวดี คู่พ่อลูกตัวดีที่อำพรางความลับเล่นงานผู้ฝึกตนหลายสิบแคว้น!
หากตนกับดินแดนเซียนเป่าต้งมีความคิดอยากจะสนับสนุนให้เยี่ยนชิงกับเหอลู่ผูกสมัครกลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรกันจริงๆ ด้วยกลอุบายและฝีมือของพวกเขาสองพ่อลูก จะไม่กลายเป็นว่าพวกตนเอาซาลาเปาไส้เนื้อขว้างหัวหมาหรอกหรือ? เยี่ยนชิงเป็นเพียงเด็กสาวบริสุทธิ์ที่เอาแต่ตั้งใจฝึกตน ไม่สนเรื่องราวทางโลก ไหนเลยจะเอาไปเปรียบเทียบกับจิ้งจอกเฒ่าจิ้งจอกรุ่นเยาว์อย่างเย่หาน เหอลู่ที่เดิมทีมีสถานะเป็นพ่อลูกกันคู่นี้ได้ ถอยไปพูดหมื่นก้าว แม่หนูเยี่ยนไม่ช่วยคู่รักอย่างเหอลู่เล่นงานดินแดนเซียนเป่าต้ง ไม่อาจทำเรื่องที่เป็นการหลอกลวงอาจารย์ลบล้างบรรพชนได้ แต่ถึงเวลานั้นจิตแห่งเต๋าก็ต้องถูกทำลายลงไปเกินครึ่ง ต่อให้นางจะเคารพครูบาอาจารย์ให้ความสำคัญกับมรรคา อยากช่วยสำนักเล่นงานนครหวงเยว่ เยี่ยนชิงก็ได้แต่มีใจไร้กำลัง!
ฟ่านเหวยหรานกระดกดื่มเหล้าในจอกแรงๆ ก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะเสียงดัง “สาแก่ใจยิ่งนัก คนอย่างเจ้าเหอลู่ผู้นี้ตายไปได้ก็ดี! เย่หานเจ้าเพิ่งเสียบุตรชายไป ไยไม่ลงมือประลองวิชากับเซียนกระบี่ด้วยความเคียดแค้นเล่า?! ความแค้นที่สังหารบุตรชายจะอดทนข่มกลั้นไว้ได้อย่างไร? หากเปลี่ยนมาเป็นข้า วันนี้อยู่ในวังมังกรทะเลสาบชางอวิ๋น ตายเป็นตายสิ”
เฉินผิงอันยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “เจ้าเองก็ต้องตาย อย่าเพิ่งรีบร้อนไปเกิดใหม่”
เสียงหัวเราะอย่างเบิกบานของฟ่านเหวยหรานหยุดชะงักในฉับพลัน
เหอลู่เห็นว่าเย่หานเพิ่งจะยื่นมือออกมาก็หดมือกลับเข้าไปอีกครั้ง ในใจทั้งเศร้าสลดทั้งสิ้นหวัง การมองเห็นของเขาพร่าเลือน จ้องเขม็งไปยังบิดาที่ไม่ยอมช่วยเหลือตน ในดวงตาของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความแค้น จากนั้นเขาที่มีเลือดสดไหลทะลักออกมาจากร่องนิ้วมากกว่าเดิมถึงค่อยๆ หันไปมองเยี่ยนชิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สายตาเปลี่ยนเป็นอ้อนวอน “เยี่ยนชิง ช่วยข้าด้วย”
เยี่ยนชิงพ่นลมหายใจขุ่นมัวออกมา คว้ากระบี่สั้นเล่มนั้น พอลุกขึ้นยืนแล้วก็หันหน้าไปมองเซียนกระบี่ชุดขาว “การออกกระบี่ครั้งนี้ เพียงแค่เพื่อตัวข้าเองเท่านั้น”
เซียนกระบี่ชุดขาวเอาสองมือไพล่หลัง พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มบางๆ “ขอเมตตาก็ได้เมตตา ขอตายก็ได้ตาย วังมังกรที่สกปรกแห่งนี้ ในที่สุดก็มีผู้ฝึกตนที่เข้าท่าเข้าทีสักคนโผล่มาแล้ว”
เยี่ยนชิงยืนถือกระบี่สั้นคลี่ยิ้มอย่างสง่างาม เมื่อสภาพจิตใจของนางกลับคืนสู่ความใสกระจ่าง ราศีผ่องใสก็หมุนเวียน ปราณวิญญาณไหลรินไปทั่วร่าง มงกุฎสีทองบนศีรษะส่องประกายระยิบระยับยิ่งขับให้สตรีที่งามล่มบ้านล่มเมืองผู้นี้ล่องลอยประดุจเซียน
เพียงแต่ว่ามองดูงดงามมากก็จริง ทว่าผู้ฝึกลมปราณทุกคนในห้องโถงใหญ่ของวังมังกรกลับยังคงรู้สึกแปลกพิกลอยู่ดี
เหอลู่ผู้นั้นเซถอยไปด้านหลัง สุดท้ายหลังพิงกำแพง ทรุดตัวลงอย่างสิ้นสภาพ นั่งแน่นิ่งอยู่ที่เดิม
สุดท้ายศีรษะหนึ่งก็กลิ้งตกลงพื้น
เสียงที่อยู่ไกลเกินกว่าจะเทียบกับฟ้าร้องสะท้านสะเทือนก่อนหน้านี้ได้ติดกลับทำให้ผู้ฝึกตนรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบหนักๆ ลงบนหัวใจ แทบจะหายใจไม่ออก
เหอลู่แห่งนครหวงเยว่ตายไปทั้งอย่างนี้แล้ว
ผู้มีพรสวรรค์ด้านการฝึกตนคนหนึ่งที่มีความหวังว่าจะยืนอยู่บนยอดเขาเคียงบ่าฟ่านเหวยหราน เย่หาน กลับกลายเป็นศพที่หัวแยกขาดจากตัวเช่นนี้?
แล้วพอหันไปมองเทพธิดาเยี่ยนชิงที่บุคลิกเลิศล้ำผู้นั้น ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงก็ยิ่งประหลาดใจ
เป็นลูกรักแห่งสวรรค์ที่โดดเด่นที่สุดบนภูเขาของหลายสิบแคว้นเหมือนกัน
เหอลู่ที่เป็นคนจิตใจละเอียดรอบคอบ ก็แค่ขาดโชคถึงได้ต้องมาตายอยู่ในวังมังกรทะเลสาบชางอวิ๋นต่างบ้านต่างเมืองแห่งนี้ ทว่าเทพธิดาเยี่ยนชิงที่เห็นได้ชัดว่ามีโอกาสจะสลัดความสัมพันธ์กับเขาทิ้ง แต่เหตุใดถึงได้น้ำเข้าสมองเลอะเลือนเช่นนี้?
ถ้าอย่างนั้นกุมารทองกุมารีหยกคู่นี้ที่เกือบจะได้กลายเป็นคู่รักเทพเซียน ทำอย่างไรถึงมาคบหากันได้?
หรือจะบอกว่าเมล็ดพันธ์ความรักหยั่งรากลึก เห็นคนรักต้องตายไปต่อหน้าต่อตา เยี่ยนชิงที่แค้นเคืองจึงคิดจะออกกระบี่อย่างเดือดดาล?
เพียงแต่ว่าการออกกระบี่ใส่เซียนกระบี่ตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่ง หาใช่ว่าพวกเราดูแคลนเจ้าเยี่ยนชิงไม่ แต่เจ้าก็แค่หาเรื่องอับอายขายหน้าให้ตัวเองเท่านั้น
และในช่วงเวลาสำคัญขณะที่เยี่ยนชิงถือกระบี่ มองประสานสายตากับเซียนกระบี่หนุ่มนั้นเอง
เหตุการณ์ประหลาดพลันเกิดขึ้น!
ตำแหน่งใกล้กับที่นั่งตรงข้างแถบของเย่หาน โต๊ะตัวหนึ่งที่วางจานอาหารและจอกสุราไว้จนเต็มโต๊ะพลันระเบิดแตก ผู้ฝึกตนสองฝั่งลอยกระเด็นพุ่งชนกันไปเป็นแถบใหญ่
ร่างกายกำยำที่ทั่วร่างเปล่งไปด้วยแสงสีทองของคนผู้หนึ่งโผล่พรวดชนโต๊ะให้แตกหักอย่างไม่มีลางบอกเหตุ ก้าวเท้าเหยียบลงบนพื้น ตลอดทั้งวังมังกรก็สั่นสะเทือนตาม จากนั้นก็ปล่อยหนึ่งหมัดต่อยให้เซียนกระบี่ชุดขาวผู้นั้นปลิวกระเด็นออกไป ผนังของตำหนักใหญ่ถูกชนทะลุทันที ไม่เพียงเท่านี้ เสียงผนังแตกยังดังต่อกันเป็นทอดๆ
หมัดนี้
จะถูกปล่อยออกมาจากผู้ฝึกลมปราณห้าขอบเขตล่างของยอดเขาเมิ่งเหลียงได้จริงหรือ?
ฟ่านเหวยหรานและเย่หานหันมามองหน้ากัน ต่างก็มองเห็นความตื่นตะลึงและหวาดกลัวในดวงตาของอีกฝ่าย
คนผู้นี้อำพรางตัวได้อย่างลึกล้ำถึงเพียงนี้ ต้องไม่ใช่หมากของทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน!
ไม่แน่ว่าอาจเป็นพวกเดียวกับผู้เฒ่าเลี้ยงลิงและปีศาจจิ้งจอกแคว้นอิ๋นผิงอย่างแท้จริง!
การลอบโจมตีของหมัดนี้ ขอแค่ก่อนหน้านั้นไม่ได้ป้องกันไว้ก่อน ต่อให้เป็นโอสถทองอย่างพวกเขาสองคนก็ไม่มีทางต้านรับได้ไหว จะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
หลังจากชายฉกรรจ์ที่รูปโฉมไม่สะดุดตาผู้นั้นปล่อยหมัดอันสูงสุดซึ่งรวบรวมปณิธานหมัดของทั้งชีวิตเอาไว้ออกไปอย่างเต็มที่ แขนทั้งแขนของเขาก็ถึงกับถูกแรงสะเทือนจนปริแตก ห้อยตกลงข้างตัว แต่ความฮึกเหิมของชายฉกรรจ์กลับเต็มเปี่ยม มองผู้ฝึกตนที่นั่งกันเต็มห้องโถงเหมือนไก่เหมือนหมา เขาพูดกลั้วหัวเราะเสียงดังอย่างสาสมใจ “ท่าไม้ตายหมัดนี้ เดิมทีควรจะหาโอกาสปล่อยใส่เจ้าโจรเฒ่าเซี่ยเจินผู้นั้น คิดไม่ถึงว่าเจ้าบื้อที่แสร้งอวดเก่งจะมาชิงรับไปก่อน”
ชายฉกรรจ์มองผ่านผนังแต่ละชั้นที่ทะลุเป็นรูโหว่เหมือนประตูแต่ละบานที่ถูกเปิดออก มองไปยังทิศไกลที่ฝุ่นผงคลุ้งตลบ “ต่างก็พูดกันว่าเซียนกระบี่อย่างเจ้าไร้เหตุผล มีเรือนกายของขอบเขตร่างทองใช่ไหม ตอนนี้เล่าเป็นอย่างไร ยังมีร่างทองอยู่อีกหรือไม่? หมัดนี้ของข้า ต่อให้ผู้ฝึกยุทธขอบเขตร่างทองที่แท้จริงมาเจอเข้า อวัยวะภายในก็ยังต้องถูกกระเทือนจนเละเทะ ตายคาที่ทันที!”
ชายฉกรรจ์ถ่มเลือดออกมาหนึ่งคำ ชำเลืองตามองฝักกระบี่ยาวที่อยู่บนพื้น “เซียนกระบี่ชาติสุนัข ทำเป็นอวดเก่งนัก! อดทนกับเจ้ามานานแล้ว ใช้หนึ่งกระบี่สังหารเจ้าลูกเจี๊ยบขอบเขตชมมหาสมุทรผู้นั้น คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานจริงๆ หรือไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!