หยางเหล่าโถวไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาพูดด้วยสีหน้าเฉยชาว่า “ทุกคนต่างก็มีความผิด ทว่าพวกเจ้าสองคนกลับทำผิดมหันต์ยิ่งกว่าใคร!”
หลี่หลิ่วทั้งไม่มีความหวาดเกรง แล้วก็ไม่มีความละอายใจ นางแหงนหน้ามองท้องฟ้า “คงจะใช่กระมัง”
หยางเหล่าโถวพลันเอ่ยว่า “แม้จะบอกว่าสำหรับพวกเจ้าแล้ว แค่สะบัดอาภรณ์ ดินโคลนต่างๆ ก็ปลิวกระจายหาย แต่ก็ยังต้องระวังอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นสักวันหนึ่ง ดินโคลนที่ไม่สะดุดตาจะเป็นเหมือนโคลนสีที่ติดอยู่บนตราประทับ แล้วพวกเจ้าจะต้องเจอกับความยากลำบากใหญ่หลวง”
หลี่หลิ่วส่ายหน้า “เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพูดกับข้า ข้ารู้ดีว่าควรทำเช่นไร”
จากนั้นหลี่หลิ่วก็คลี่ยิ้มอ่อนหวาน มองไปทางผู้เฒ่า
หยางเหล่าโถวหลุดหัวเราะพรืด พูดเหมือนคนที่กำลังหาข้ออ้างให้ตัวเอง “นั่งอยู่เฉยๆ ในกรงขังมาหมื่นปี ยังจะไม่ยอมให้ข้าหาความบันเทิงมาแก้อุดอู้บ้างเลยหรือ?”
หลี่หลิ่วกลั้นยิ้ม “ท่านพ่อข้ายังดีหน่อย เพราะถึงอย่างไรก็ต้องทิ้งโชคชะตาบู๊บางส่วนไว้ให้กับแจกันสมบัติทวีป แต่อันที่จริงท่านแม่ข้าไม่จำเป็นต้องไปอุตรกุรุทวีปเลย”
หยางเหล่าโถวเงียบงัน สีหน้าไม่ค่อยดีนัก
พอนึกถึงสตรีปากร้ายที่ราวกับว่ากินสารหนูเข้าไปวันละหลายๆ จินผู้นั้น อารมณ์เขาก็ไม่อาจดีได้จริงๆ
สิ่งที่เทพชิงชังผีรังเกียจ ขี้แมลงวันในกระถางธูป มองนานหน่อยยังรังเกียจว่าสกปรกสายตา
หลี่ไหวกับมารดาของเขาไม่ค่อยเหมือนกับบิดาหลี่เอ้อร์และหลี่หลิ่วผู้เป็นพี่สาวสักเท่าไร พวกเขาต่างก็ไม่ใช่คนบนเส้นทางเดียวกัน แม่ลูกสองคนนั้นเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น แน่นอนว่าหลี่ไหวเป็นคนก็จริง แต่ไม่ใช่คนที่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ใต้หล้านี้ไม่มีลูกกระต่ายน้อยที่ไหนที่เหมือนมีขี้หมานำโชคมาเรียงต่อแถวรอให้เขาเหยียบเช่นนี้ หวงถิงแห่งภูเขาไท่ผิงใบถงทวีป เฮ้อเสี่ยวเหลียงแห่งสำนักโองการเทพ ต่างก็ถูกขนานนามให้เป็นผู้ที่มีโชควาสนาเป็นอันดับหนึ่งในทวีปของตัวเอง แต่คนที่มีโชคดีขี้หมาอย่างไร้ศัตรูทัดเทียมได้อย่างหลี่ไหวนี้ ดูเหมือนว่ายากเกินกว่าจะทำให้ผู้คนเข้าใจได้ หวงถิงและเฮ้อเสี่ยวเหลียงยังต้องคิดพิจารณาว่าควรจะคว้าเอาโชควาสนาต่างๆ มาไว้ในมือให้มั่นคงได้อย่างไร หลีกเลี่ยงไม่ให้โชคมาพร้อมกับเคราะห์ เจ้าหลี่ไหวจำเป็นหรือไม่? เขาเป็นคนประเภทที่ว่าโชควาสนาพากันพุ่งมาหาเขาด้วยตัวเอง บางครั้งยังต้องคอยกังวลด้วยว่าของบางอย่างจะหนักเกินไปหรือไม่ จะงดงามน่ามองหรือไม่ด้วยซ้ำ
ดังนั้นสำหรับหลี่ไหวแล้ว หยางเหล่าโถวจึงสามารถแหกกฎได้มากหน่อย อีกทั้งยังไม่ต้องเกี่ยวพันกับการทำการค้าเลยแม้แต่น้อย เพราะถึงอย่างไรผู้เฒ่าก็ชอบเจ้าลูกกระต่ายน้อยผู้นี้จริงๆ
ถ้ำสวรรค์หลีจูมีอายุยาวนาน คนที่สามารถเข้ามายังเรือนด้านหลังของตระกูลหยางได้นั้น เดิมทีก็มีน้อยอยู่แล้ว และเด็กอย่างหลี่ไหวก็มีให้เห็นได้ไม่มาก
ส่วนสตรีผู้นั้น ก็เป็นเพราะว่าธรรมดาสามัญเกินไป ดังนั้นผู้เฒ่าถึงได้คร้านจะถือสา ไม่อย่างนั้นหากเปลี่ยนมาเป็นเซี่ยสือแห่งตรอกเถาเย่ หรือไม่ก็เฉาซีจากตรอกหนีผิงในอดีตดูสิ? จะยังเดินออกไปจากถ้ำสวรรค์หลีจูได้ไหม?
หยางเหล่าโถวนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง “เฉินผิงอันเริ่มสืบหาเบาะแสเรื่องเครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตแล้ว แต่ทำอย่างมิดชิด ไม่เปิดเผยพิรุธแม้แต่น้อย”
เกี่ยวกับเรื่องนี้หลี่หลิ่วไม่ได้สนใจมากนัก นางพอจะรู้เรื่องวงในบางอย่างคร่าวๆ ถือเป็นเส้นสายบนภูเขาที่ซับซ้อนอย่างถึงที่สุดเส้นหนึ่ง แน่นอนว่าร้านยาตระกูลหยางไม่อาจปัดความเกี่ยวข้องทิ้งได้ เพียงแต่ว่ากฎเกณฑ์ในการลงมือนั้นไม่ได้จงใจใช้เล่นงานเฉินผิงอันโดยเฉพาะ ก็แค่นั่งลงแบ่งส่วนแบ่งกับสกุลซ่งต้าหลีก็เท่านั้น การเผาเครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิต แรกเริ่มสุดก็คือวิธีการที่ใหญ่เทียมฟ้าของหยางเหล่าโถว ถึงขั้นพูดได้ว่าการลุกผงาดของราชวงศ์ต้าหลีก็ล้วนต้องยกความดีความชอบให้กับการค้าครั้งนี้ของถ้ำสวรรค์หลีจู นี่ต่างหากที่ทำให้พวกเขาร่ำรวยเป็นเศรษฐี ค่อยๆ ลุกผงาดขึ้นมาได้ ดังนั้นคำชื่นชมที่หยางเหล่าโถวมีให้กับจิตวิญญาณของเด็กหนุ่มชุยฉาน จึงถือว่าเป็นการยอมรับที่สูงที่สุดในใต้หล้าแห่งนี้แล้ว สามารถพูดได้ว่านอกจากหยางเหล่าโถว คนบนเส้นทางนี้ที่มีความสามารถค้ำฟ้าก็มีเพียงชุยฉานและชุยตงซานเท่านั้น สามีภรรยาแซ่หม่าที่อาศัยอยู่ในตรอกซิ่งฮวาแต่กลับมีความสามารถที่จะควบคุมเตาเผามังกร ซึ่งก็คือพ่อแม่ของหม่าขู่เสวียน มีความเกี่ยวข้องสูงสุดกับเรื่องที่เครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตของเฉินผิงอันแตก หม่าหลันฮวาที่ทุกวันนี้เลื่อนจากแม่ย่าลำคลองไปเป็นองค์เทพลำคลอง แต่กลับไม่มีร่างทองอยู่ในศาล แล้วก็ยิ่งไม่มีคนจุดธูปกราบไหว้ หญิงชราที่จิตใจอำมหิตชั่วร้ายคนนั้น มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่มโนธรรมในใจบังเกิด อีกทั้งนางยังเคยพยายามหยุดยั้งบุตรชายและลูกสะใภ้อย่างสุดความสามารถด้วย เพียงแต่ว่าคู่สามีภรรยาถูกผลประโยชน์บดบังหัวใจ หญิงชราจึงทำไม่สำเร็จก็เท่านั้น ปีนั้นหม่าขู่เสวียนเคยสะดุ้งตื่นมากลางดึก จึงพอจะรู้ความจริงของเรื่องนี้บ้างเล็กน้อย ดังนั้นลูกรักแห่งสวรรค์ที่ในอดีตแสร้งทำเป็นคนโง่ตลอดเวลาผู้นี้ถึงได้ให้ความสนใจเฉินผิงอันมากเป็นพิเศษ
เหนียงเนียงต้าหลี หรือก็คือไทเฮาในทุกวันนี้ รวมไปถึงอดีตฮ่องเต้ ต่างก็ทำเพื่อซ่งจี๋ซิน และก็ยิ่งเพื่อโชคชะตาแคว้นของต้าหลี
ส่วนราชครูชุยฉานก็คล้อยไปตามสถานการณ์ แล้วก็ได้เล่นหมากล้อมกระดานหนึ่งกับฉีจิ้งชุนด้วยเรื่องนี้ หากมองแค่ผลลัพธ์ ก็ถือว่าชุยฉานได้วางหมากฝีมือเทพเซียนอย่างแท้จริง
ส่วนเรื่องที่ว่าปีนั้นเป็นใครกันแน่ที่ซื้อเครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตของเฉินผิงอันไป แล้วเหตุใดถึงได้ถูกทุบแตก ด้วยเรื่องนี้สกุลซ่งต้าหลีได้จ่ายเงินเทพเซียนให้กับคนเบื้องหลังที่ซื้อเครื่องปั้นไปกี่มากน้อย หลี่หลิ่วไม่ค่อยรู้แน่ชัดนัก แล้วก็ไม่ยินดีจะไปสืบสาวเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองเหล่านี้ โดยทั่วไปแล้ว เด็กคนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตรอกหนีผิง ราคาที่คนเดิมพันกับเครื่องปั้นย่อมไม่มีทางต่ำเกินไป เพราะตรอกหนีผิงเคยมีเฉาซีเซียนกระบี่ผู้ดูแลหอพิทักษ์เมืองของทักษิณาตยทวีปที่โดดเด่น ในข้อนี้จะช่วยทำให้ราคาเพิ่มขึ้น แต่ก็จะไม่สูงเกินไปนัก เพราะถึงอย่างไรตรอกหนีผิงก็เคยมีเฉาซีปรากฎตัวแล้วคนหนึ่ง ดังนั้นปีนั้นอดีตฮ่องเต้สกุลซ่งและราชสำนักต้าหลี รวมถึงคนซื้อเครื่องปั้นคนนั้นก็น่าจะไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจสักเท่าไร แต่ว่าเมื่อเฉินผิงอันเดินทีละก้าวจนมาถึงทุกวันนี้ คาดว่าคงจะบอกได้ยากแล้ว ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจอดไม่ไหวพลิกบัญชีเก่าขึ้นมาเปิด ใช้เหตุผลต่างๆ นานามางัดข้อกับฮ่องเต้องค์ใหม่ของต้าหลีดูสักรอบ เพราะตามหลักปกติแล้ว เครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตของเฉินผิงอันแตกแล้ว อีกทั้งเขายังมีหน้ามีตาเช่นทุกวันนี้ หากยังไม่แตก แล้วยังถูกคนซื้อเครื่องปั้นพาออกไปจากถ้ำสวรรค์หลีจู จากนั้นก็ให้การอบรมปลูกฝังเป็นอย่างดี ก็ไม่ใช่ว่าเขาต้องสามารถกลายเป็นผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนได้อย่างแน่นอนหรอกหรือ? ดังนั้นการชดเชยค่าเสียหายของราชสำนักต้าหลีในปีนั้นย่อมถูกมองว่าไม่ยุติธรรม แต่ก็แน่นอนว่าหากคนซื้อเครื่องปั้นเป็นคนตระกูลเซียนของแจกันสมบัติทวีป คาดว่าตอนนี้คงไม่กล้าเปิดปากพูดอะไร ได้แต่นินทาอยู่ในใจเท่านั้น แต่หากเป็นตระกูลเซียนของทวีปอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลเซียนยิ่งใหญ่ที่มีตัวอักษรจงอยู่ในชื่อสำนัก และยิ่งมาจากอุตรกุรุทวีปด้วยแล้วล่ะก็ ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของต้าหลีที่รากฐานยังไม่มั่นคงคงหนีไม่พ้นต้องเป็นบุตรที่ใช้หนี้แทนบิดาแล้ว
หลี่หลิ่วพลันเอ่ยว่า “เฉินผิงอันเป็นคนที่คุยได้ง่ายมากคนหนึ่ง”
แล้วนางก็เอ่ยต่อว่า “แต่ว่า ขณะเดียวกันเฉินผิงอันก็เป็นคนที่น่ากลัวมากคนหนึ่ง”
หยางเหล่าโถวหัวเราะ “ได้รับคำวิจารณ์เช่นนี้จากเจ้า หมายความว่าตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเฉินผิงอันไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างเสียเปล่าแล้ว”
หลี่หลิ่วขมวดคิ้ว “หากเฉินผิงอันตรวจสอบจนรู้แน่ชัด ศัตรูอันดับแรกก็จะอยู่ใกล้กับภูเขาลั่วพั่วและตรอกหนีผิงในระยะประชิดแล้ว”
อันดับแรกคือตระกูลหม่าแห่งตรอกซิ่งฮวา
อันดับที่สองก็คือเชื้อพระวงศ์สกุลซ่งต้าหลี
และเห็นได้ชัดว่าหม่าขู่เสวียนคือคนที่ผู้เฒ่าทุ่มเดิมพันก้อนใหญ่และให้ความสำคัญอย่างถึงที่สุด
ผู้เฒ่าหลุดหัวเราะพรืด “หากหม่าขู่เสวียนถูกคนวัยเดียวกันที่เครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตถูกทุบแตกฆ่าตาย ก็เท่ากับว่าช่วยลดการเดิมพันในช่วงหลังให้ข้าไปได้ ข้าควรจะขอบคุณเฉินผิงอันถึงจะถูก”
หลี่หลิ่วถอนหายใจ
นี่ก็คือคัมภีร์การทำการค้าของผู้เฒ่า
หยางเหล่าโถวหัวเราะ “อันที่จริงในอดีตเจ้าลัทธิเต๋าผู้นั้นเคยได้บอกกล่าวความจริงที่เป็นเรื่องใหญ่อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเฉินผิงอันคิดจนเข้าใจกระจ่างหรือยัง ยกตัวอย่างเช่นคนที่ทำเรื่องดี ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นคนดี คนที่ทำเรื่องเลวร้ายก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นคนเลว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!