กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 534

งานเลี้ยงค่อยๆ เลิกราไป

เด็กสาวเรือนกายสูงโปร่งสะโอดสะองคนหนึ่งยืนอยู่นอกประตูใหญ่ของศาล ตรงเอวห้อยน้ำเต้าลูกเล็กสีเขียวมรกตเปล่งประกายแวววาว นี่ก็คือของขวัญชิ้นน้อยที่พี่ปันไฉ (มาจากชื่อของซ่งจี๋ซิน จี๋ซินแปลว่าเก็บรวบรวมฟืนไม้ ส่วนปันไฉก็แปลว่าย้ายฟืน) ของนางมอบให้นางในปีนั้น ในความเป็นจริงแล้วตอนนั้นต่างก็ไม่มีใครตระหนักได้ว่าน้ำเต้าสีเขียวมรกตลูกนี้จะเป็นสมบัติอาคมชั้นเยี่ยมที่มีมูลค่าควรเมืองชิ้นหนึ่ง ยังคงเป็นบรรพบุรุษตระกูลเถาที่ไปหายอดฝีมือมาช่วยตรวจสอบให้ ถึงได้แน่ใจในความล้ำค่าของมัน

ข้างกายของเด็กสาวเถาจื่อมีวานรเฒ่าเรือนกายกำยำผู้นั้นยืนอยู่ หรือก็คือผู้พิทักษ์แห่งภูเขาตะวันเที่ยง

เถาจื่อดึงสายตากลับมาจากศาลที่ยิ่งใหญ่โอฬารแห่งนั้น แล้วหันหน้ามายิ้มถามว่า “ท่านปู่ป๋ายหยวน พี่หญิงซูไม่มีโอกาสจะกลับมาที่ภูเขาตะวันเที่ยงอีกแล้วจริงๆ หรือ?”

วานรเฒ่าส่ายหน้า “เป็นเศษสวะคนหนึ่งไปแล้ว อยู่ต่อที่ภูเขาตะวันเที่ยงก็มีแต่จะกลายเป็นที่ขบขันของผู้อื่น”

เถาจื่อบ่นอย่างไม่พอใจ “เจ้าสวนหนุ่มของสวนลมฟ้าผู้นั้นก็จริงๆ เลย ช้าไม่ปิดด่านเร็วไม่ปิดด่าน ดันมาปิดด่านเก็บซ่อนตัวไม่พบเจอใครเอาตอนนี้ เจ้าเล่ห์จริงๆ”

วานรเฒ่าแสยะปาก “พอหลี่ถวนจิ่งตายไป สวนลมฟ้าก็ทรุดลงมาเกินครึ่ง ต่อให้หวงเหอที่เป็นเจ้าสวนคนใหม่จะมีพรสวรรค์ดีเยี่ยมแค่ไหน ก็ยังเป็นเพียงไม้ท่อนเดียวที่ยากจะประคับประคองคนหมู่มากได้ ส่วนหลิวป้าเฉียวผู้นั้นก็เป็นพวกไม่เอาไหนที่ถูกพันธนาการด้วยความรัก อย่าเห็นว่าตอนนี้ยังพอมีหน้ามีตา ฝ่าทะลุขอบเขตไม่ช้า แต่ในความเป็นจริงแล้วยิ่งเป็นช่วงหลังๆ มหามรรคาก็ยิ่งเลือนราง ตอนที่หวงเหอออกจากด่าน ถึงเวลานั้นภูเขาตะวันเที่ยงของพวกเราก็สามารถไปท้าประลองกระบี่กับเขาได้อย่างผึ่งผาย และนั่นก็จะเป็นวันที่สวนลมฟ้าถูกตัดชื่อออก”

วานรเฒ่ามองไปยังภูเขาบรรพบุรุษที่ตั้งของศาลบรรพชนอย่าง ภูเขาตะวันเที่ยง

แล้วก็ยิ้มเอ่ยว่า “ภูเขาตะวันเที่ยงของพวกเราไม่เหมือนที่อื่น เส้นทางกระบี่แต่ละเส้นมุ่งขึ้นสู่ยอดเขา หากรวบรวมกองกำลังใหญ่บางส่วนบนโลกมนุษย์มาได้อีก ไม่เพียงแต่จะสามารถได้เลื่อนขั้นเป็นตระกูลเซียนที่มีอักษรจงในชื่อได้คราเดียว ไม่แน่ว่าอาจจะยังมีเซียนกระบี่ห้าขอบเขตบนที่ไม่ใช่แค่คนเดียวอีกด้วย! ถึงเวลานั้น ผู้ฝึกกระบี่ของทั้งทวีปต่างก็ต้องก้มหัวกราบกรานพวกเรา ผู้แข็งแกร่งมีโชคชะตาที่แข็งแกร่ง จากนี้ไปร้อยปีพันปี ภูเขาตะวันเที่ยงมีแต่จะยิ่งเป็นดั่งดวงตะวันที่ลอยขึ้นกลางนภา เมื่อเทียบกับสวนลมฟ้าและภูเขาเจินอู่ที่มีแนวโน้มว่าจะเสื่อมถอยแล้ว ก็ถูกกำหนดมาแล้วว่ามหามรรคาจะต้องสูงส่งยิ่งกว่า”

เถาจื่อถอนหายใจ “ท่านปู่ป๋ายหยวน เรื่องพวกนี้ที่ท่านพูดมา ข้าไม่ค่อยสนใจเท่าไรหรอกนะ”

วานรเฒ่าพลันเอ่ยว่า “คนสกุลสวี่ของนครลมเย็นมาถึงแล้ว”

เถาจื่อกลอกตามองบน “เจ้าคนน่ารำคาญผู้นั้น”

วานรเฒ่าหัวเราะ

หลังจากที่เจ้าประมุขสกุลสวี่แห่งนครลมเย็นได้เสื้อเกราะโหวจื่อตัวนั้นไป ก็ทำการกวาดล้างกองกำลังสายรองภายในสกุลสวี่เป็นการใหญ่ เพียงไม่นานก็สามารถกำจัดภัยร้ายที่แฝงอยู่ภายในไปได้อย่างหมดจด นอกจากที่ต้องย้ายออกมาภูเขาจูซาในปีนั้น ใช้แผนการชั้นต่ำที่สร้างความประทับใจไม่ดีงามให้กับราชสำนักของต้าหลีแล้ว นอกจากนี้ก็ไม่เคยใช้แผนการที่โง่งมอีก บวกกับที่ภายหลังสกุลสวี่นครลมเย็นได้ให้บุตรสาวทายาทสายตรงแต่งงานกับบุตรอนุภรรยาของสกุลหยวน ดั่งการล้อมคอกเมื่อวัวหาย ไปตีสนิทกับแซ่สกุลผู้เป็นเสาค้ำยันแคว้นที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นกองกำลังระดับกลางบนภูเขาที่ช่วยประคับประคองมังกร เพียงแต่ว่ายังคงด้อยกว่าภูเขาตะวันเที่ยงหนึ่งระดับ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ สตรีหน้าตางดงามเพริศพริ้งที่กลอุบายลึกล้ำของนครลมเย็นผู้นั้นก็คอยเลียบๆ เคียงๆ มาโดยตลอด ด้วยหวังให้บุตรชายของนางได้เป็นคู่บำเพ็ญเพียรกับเถาจื่อ เพียงแต่ว่าจนถึงตอนนี้บรรพจารย์ตระกูลเถาก็ยังไม่ยอมตอบตกลง ในความเป็นจริงแล้ว หากสกุลสวี่กับนครลมเย็นแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน สำหรับคนทั้งภูเขาตะวันเที่ยงแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ไม่เล็ก ทั้งสองตระกูลสามารถเป็นบุปผาที่ปักลงบนผ้าแพรให้แก่กันและกันได้

สตรีสวมชุดชาววังลักษณะสุภาพงามสง่าคนหนึ่งจับมือกับเด็กหนุ่มหน้าตางดงามสวมชุดสีแดงสดทะยานลมมาถึง

เถาจื่อยิ้มกว้าง ทำท่าคารวะทักทาย “คารวะฮูหยิน”

ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นก็หันไปคารวะวานรเฒ่าย้ายขุนเขา “คารวะท่านปู่หยวน”

วานรเฒ่าเพียงแค่พยักหน้ารับ ถือเป็นการตอบรับเด็กหนุ่มแล้ว

ส่วนสตรีแต่งงานแล้วกลับเอื้อมมือมาคว้ามือของเด็กสาวด้วยกิริยานุ่มนวล ยิ้มบางๆ ด้วยสีหน้าเอ็นดู “ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ปี แม่หนูเถาของข้าก็งดงามโดดเด่นขนาดนี้แล้ว”

หลังจากทักทายปราศรัยกันไปครู่หนึ่ง

สตรีแต่งงานแล้วและวานรเฒ่าที่เข้าใจตรงกันโดยปริยาย ต่างก็ปล่อยให้เด็กหนุ่มเด็กสาวอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

ผู้ใหญ่ทั้งสองพากันเดินไปทางศาลของอดีตขุนเขาแห่งนั้น

ตรงนอกศาล เถาจื่อถลึงตา ยื่นมือออกมา “เจ้าคนน่ารำคาญ ของขวัญของเจ้าล่ะ?”

เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่สวมชุดสีแดงสดยื่นมือที่กำเป็นหมัดออกมา แล้วพลันคลายฝ่ามือออก ในมือของเขาว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด แล้วจึงตบลงบนฝ่ามือของเด็กสาวเบาๆ “เก็บไว้ให้ดีล่ะ”

เถาจื่อขมวดคิ้ว

เด็กหนุ่มชูสองมือขึ้นสูง ยิ้มพูดหน้าเป็นว่า “อย่ารีบร้อน ช่วงนี้แคว้นหูของนครลมเย็นพวกเรามีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น ข้าก็เลยได้แต่รอไปก่อน คงต้องชดเชยของขวัญให้เจ้าช้าสักหน่อย”

เถาจื่อแค่นเสียงหึในลำคอ

คนทั้งสองเดินอยู่บนลานกว้างหยกขาวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาของอดีตขุนเขาแคว้นอื่น เดินเล่นเลียบราวรั้วไปช้าๆ แต่ไหนแต่ไรมา ทัศนียภาพของกลุ่มยอดเขาของภูเขาตะวันเที่ยงก็มีชื่อเสียงด้านความงดงามในแจกันสมบัติทวีปมาอย่างยาวนาน

เด็กหนุ่มชำเลืองตามองน้ำเต้าสีเขียวมรกตที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเถาจื่อ “พี่ปันไฉของเจ้าคนนั้น เหตุใดถึงไม่มาร่วมอวยพร?”

เถาจื่อหัวเราะเสียงเย็น “เจ้าคิดว่าเขาเป็นคนว่างงานแบบเจ้าหรืออย่างไร? ตอนนี้เขาเป็นอ๋องเจ้าเมืองแล้ว ถือเป็นเจ้าของแผ่นดินครึ่งทวีป”

เด็กหนุ่มยิ้มกล่าว “คำพูดเช่นนี้อย่าได้พูดออกมาส่งเดช”

เถาจื่อหลุดหัวเราะพรืด “ผลลัพธ์จากการที่ข้ายืนพูดจาเหลวไหลอยู่ตรงนี้ กับผลลัพธ์จากการที่เจ้านำไปพูดส่งเดชหลังจากที่ได้ฟังไป แบบไหนจะร้ายแรงกว่ากัน?”

เด็กหนุ่มทำอะไรไม่ได้ เพราะนังหนูนี่พูดเรื่องจริง

เขาฟุบตัวอยู่บนราวรั้ว “หม่าขู่เสวียนร้ายกาจจริงๆ กองทัพม้าเหล็กไห่เฉาแห่งนั้นไม่เหลืออยู่แล้ว ได้ยินมาว่าสตรีที่ปีนั้นทำให้หม่าขู่เสวียนเดือดดาลไปโขกหัวอ้อนวอนพร้อมกับท่านปู่ของนาง แต่กลับไม่สามารถทำให้หม่าขู่เสวียนเปลี่ยนใจได้””

เถาจื่อร้องอ้อรับหนึ่งที “เจ้าคนที่อยู่ในตรอกซิ่งฮวาของถ้ำสวรรค์หลีจูนั่นน่ะหรือ? หลังจากไปถึงภูเขาเจินอู่ก็ฝ่าทะลุขอบเขตราวกับคนบ้า คนแบบนี้ อย่าไปสนใจเขาเลยจะดีกว่า”

เด็กหนุ่มเงียบไปพักใหญ่ สีหน้ามืดทะมึน

เพราะเขานึกถึงคนที่ปีนั้นเขาได้เห็นครั้งแรกก็รู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุด

แต่สิ่งที่พอจะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้างก็คือ เจ้าเศษสวะบ้านนอกที่เขาไม่ชอบคนนั้นเป็นเพียงแค่อริของเขาคนเดียว ทว่าเด็กสาวข้างกายกับตลอดทั้งภูเขาตะวันเที่ยงกลับเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับเจ้าหมอนั่นแบบที่ต่อให้เป็นเทพเซียนก็ยากจะคลายปมแค้นเงื่อนตายนั้นได้ ที่น่าสนุกยิ่งกว่านั้นยังเป็นเพราะ ไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นทำอย่างไร จากเศษสวะที่สะพานแห่งความเป็นอมตะขาดสะบั้น กลับหันไปเรียนวรยุทธ ชอบออกไปเตร็ดเตร่อยู่ด้านนอก ไม่รู้จักเสวยสุขอยู่ในบ้านของตัวเอง ตอนนี้ไม่เพียงแต่มีกิจการ ยังเป็นกิจการที่ใหญ่มากด้วย มีภูเขามากมายรวมถึงภูเขาลั่วพั่ว และภูเขาจูซาหนึ่งในนั้นยังเป็นชุดแต่งงานที่ตระกูลเขาตัดให้กับคนผู้นี้ ทำให้อีกฝ่ายได้จวนบนภูเขาแบบสำเร็จรูปไปเปล่าๆ พอคิดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ของเขาก็ย่ำแย่อย่างถึงที่สุดอีกครั้ง

น่าเสียดายที่ทางฝั่งของเขตการปกครองหลงเฉวียนปกปิดข่าวสารได้อย่างแน่นหนา อีกทั้งยังมีอริยะหร่วนฉงนั่งบัญชาการณ์ สกุลสวี่นครลมเย็นไม่กล้าไปสืบข่าวเองโดยพลการ เรื่องวงในกระจัดกระจายหลายอย่างที่เหมือนมีเมฆหมอกล้อมวนยังคงต้องอาศัยสกุลหยวนที่พี่สาวของเขาออกเรือนไปด้วยนำกลับมาแจ้งแก่บ้านเดิมทีละนิด ซึ่งมีประโยชน์ไม่มากเลย

ขอแค่คนผู้นั้นยังไม่ตาย ก็จะเป็นหนามแหลมทิ่มแทงใจของเด็กหนุ่มว่าที่เจ้านครลมเย็นในอนาคตผู้นี้ตลอดไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!