กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 540

ยามไฮ่ (ช่วงสามทุ่มถึงห้าทุ่ม) ถูกผู้ฝึกตนเรียกว่าเป็นช่วงเวลาคนหยุดนิ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกลมปราณของลัทธิเต๋าที่เมื่อถึงยามคนนิ่ง ก็คือช่วงเวลาที่สำคัญในการฝึกตน เหมาะกับการทำจิตใจให้สะอาดสงบที่สุด คือสภาวะที่สงบนิ่งอย่างเป็นธรรมชาติอันดับหนึ่ง

เนื่องจากเฉินผิงอันต้องไปให้ทันเรือข้ามฟากที่จะออกเดินทาง จึงได้แต่ละทิ้งสภาพจิตใจที่สงบนิ่งมั่นคงนั้นชั่วคราว เก็บเมล็ดงาดวงจิตออกมาจากฟ้าดินขนาดเล็กร่างกายมนุษย์ ไม่ได้นั่งอยู่บนยอดเขาเพื่อมองดูภาพปราณกระบี่บุกหน้าด่านต่ออีก แต่ลุกขึ้นเตรียมจะออกเดินทางต่อ

คิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่หญิงร้านน้ำชาคนนั้นจะปรากฎตัวอีกครั้ง ในมือถือโถเครื่องกระเบื้องเก็บใบชามาด้วยใบหนึ่ง ยืนรออยู่ตรงจุดที่ห่างจากศาลาไปไกล

เฉินผิงอันก้าวเร็วๆ ตรงไปหาอีกฝ่าย หลังจากที่ผู้ฝึกตนหญิงจวนไช่เฉวี่ยผู้นี้ทำความเคารพแล้วก็ยื่นโถกระเบื้องบรรจุใบชาที่น่ามองใบนั้นมาให้พลางยิ้มกล่าว “เฉินเซียนซือ นี่คือกำแพงดำน้อยที่ทางร้านเก็บมาปีนี้ เป็นของขวัญเล็กๆ ไม่ถือว่าสลักสำคัญอะไร”

เฉินผิงอันรับโถกระเบื้องมาแล้วก็ถามว่า “ร้านน้ำชายังมีกำแพงดำน้อยอีกไหม ข้าอยากจะซื้อเพิ่มอีกสักหน่อย”

ผู้ฝึกตนหญิงส่ายหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงขออภัย “ต้นชาเก่าแก่ที่ภูเขาด้านหลังจวนไช่เฉวี่ยมีอยู่แค่ไม่กี่ต้นเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็ล้วนมีการจับจองไว้ก่อนแล้ว ทางด้านร้านน้ำชาก็ได้รับมาในจำนวนที่จำกัดเช่นกัน ตอนนี้เหลืออยู่อีกไม่มากแล้ว”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ได้ใบชาไปเปล่าๆ โถหนึ่งแล้ว”

ผู้ฝึกตนหญิงพยักหน้ารับ เพียงยิ้มบางๆ โดยไม่เอ่ยคำใด

เฉินผิงอันถาม “ท่าเรือดอกท้อมีรายงานภูเขาสายน้ำหลังเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่หาซื้อได้บ้างหรือไม่? ตลอดทางที่ข้าเดินทางจากท่าเรือหัวมังกรแคว้นลวี่อิงมานี้ ต้องพลาดอะไรไปไม่น้อย”

ผู้ฝึกตนหญิงกล่าว “ที่ร้านน้ำชามีอยู่บางส่วน เฉินเซียนซือไม่จำเป็นต้องควักเงิน ร้านเราเอาเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

เฉินผิงอันทำท่ายกโถเก็บใบชาขึ้นแล้วพูดอย่างจนใจว่า “ดื่มชาจากผู้อาวุโสอู่โดยไม่จ่ายเงินมามื้อหนึ่งแล้ว แล้วยังเอากำแพงดำน้อยไปเปล่าๆ อีกโถหนึ่ง หากยังรับรายงานภูเขาสายน้ำไปเฉยๆ อีก คงไม่ค่อยดีเท่าไร”

ผู้ฝึกตนหญิงยิ้มกล่าว “เรื่องเดิมไม่ทำซ้ำสามครั้ง กำลังดี”

เฉินผิงอันกล่าวอย่างจนใจ “มีเหตุผล”

น้ำใจคนที่เล็กน้อยยิบย่อยก็เป็นน้ำใจคนของแท้แน่นอนเช่นกัน

ในความทรงจำของเขา การต้อนรับขับสู้ในช่วงแรกเริ่มสุดของซุนเจียซู่แห่งนครมังกรเฒ่า เถ้าแก่หญิงที่จงใจปิดบังสถานะของหอชิงฝู และยังมีผู้ฝึกตนหญิงของร้านน้ำชาตรงหน้าผู้นี้ ล้วนค่อนข้างเชี่ยวชาญในเรื่องพวกนี้

แค่จดจำไว้ก็พอ

บนเส้นทางของชีวิตคน ทัศนียภาพที่จำเป็นต้องเหลียวซ้ายแลขวาไปมองมีมากเกินไป อย่าได้เดินไปเดินมาก็ลืมมันเสีย ทว่าแท้จริงแล้วต่อให้ลืมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ผู้ฝึกตนหญิงบอกให้เฉินผิงอันรอสักครู่ แล้วจึงไปนำรายงานจวนเทพเซียนสามฉบับมามอบให้กับแขกผู้ทรงเกียรติท่านนี้

หลังจากที่เฉินผิงอันเดินออกมาจากร้านน้ำชาแล้ว เขาก็เริ่มเปิดรายงานอ่านไปด้วย

การที่อู่ชวินออกมารับรองแขกอย่างกระตือรือร้น เหตุผลนั้นง่ายดายมาก

ตอนอยู่ในแคว้นฝูฉวีที่เป็นแคว้นเพื่อนบ้าน การทยอยกันเซ่นกระบี่ของเขากับฉีจิ่งหลงสร้างความเคลื่อนไหวที่ใหญ่เกินไป

รายงานภูเขาสายน้ำของอุตรกุรุทวีปมองดูเหมือนไร้ความยำเกรงใดๆ แต่ขณะเดียวกันก็มีกฎข้อหนึ่งที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร นั่นคือหลังจากที่เซียนกระบี่ท่านหนึ่งรบตายที่กำแพงเมืองปราณกระบี่ ข่าวจะถูกส่งกลับมายังอุตรกุรุทวีปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าใครก็ตามที่เซ่นกระบี่ จะไม่มีบันทึกไว้ในรายงานภูเขาสายน้ำ

ฉีจิ่งหลงได้บอกเหตุผลที่ชัดเจนให้ฟังก่อนแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดคุยฆ่าเวลาเพื่อความบันเทิงได้

ขนบธรรมเนียมของใต้หล้า แต่ละถิ่นแต่ละสถานที่ล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง

ทางฝั่งของศาลาริมน้ำในร้านน้ำชา อู่ชวินบรรพจารย์ผู้คุมกฎนั่งอยู่ตรงตำแหน่งเดิม เพียงแต่ว่าฝั่งตรงข้ามกลับไม่มีคนนั่งและไร้ถ้วยน้ำชาวางอยู่ อู่ชวินเองก็ไม่มีความคิดอยากจะดื่มชา จึงทำเพียงนั่งชมริ้วคลื่นในทะเลสาบที่ส่องประกายวับวาบล้อแสงจันทร์อยู่เงียบๆ

ผู้ฝึกตนหญิงยืนอยู่นอกขั้นบันไดของศาลา

อู่ชวินเอ่ยถาม “ความเคลื่อนไหวทางฝั่งเมืองหลวงต้าจ้วน ไม่มีภูเขาลูกใดรู้เรื่องวงในแล้วเขียนลงในรายงานภูเขาสายน้ำบ้างเลยหรือ?”

ผู้ฝึกตนหญิงส่ายหน้า “ดูเหมือนว่าฮ่องเต้สกุลหลูของต้าจ้วนจะออกคำสั่ง ห้ามไม่ให้แพร่งพรายข้อมูลใดๆ ตอนนั้นคนที่ไปยืนชมศึกตรงหัวกำแพงเมืองหลวงกับริมตลิ่งแม่น้ำอวี้ซีมีแค่หร็อมแหร็ม อริยะจากสำนักศึกษาท่านนั้นมานั่งพิทักษ์ด้วยตัวเอง และยิ่งไม่มีเซียนดินคนใดกล้าลอบชมศึก ต่อให้เป็นการใช้วิชาอภินิหารเทพมองภูเขาสายน้ำผ่านฝ่ามือชมศึกอยู่ไกลๆ ก็ยังไม่ค่อยกล้าเท่าไร”

อู่ชวินยิ้มกล่าว “อริยะท่านนั้นอารมณ์ร้ายอยู่มากจริงๆ แต่ว่าหลังจากที่เขาลงมือสองครั้ง บนภูเขาล่างภูเขาของภาคกลางอุตรกุรุทวีปก็สงบมั่นคงขึ้นมาเยอะมาก”

ผู้ฝึกตนหญิงถามอย่างใคร่รู้ “เหตุใดบรรพจารย์อู่ถึงไม่มอบชุดคลุมอาคมชั้นเลิศให้กับท่านเฉินไปโดยตรง?”

อู่ชวินผายมือบอกเป็นนัยให้เด็กรุ่นหลังในสำนักผู้นี้นั่งลง หลังจากฝ่ายหลังนั่งลงแล้ว อู่ชวินก็ยิ้มเอ่ยว่า “สนองตอบความต้องการของผู้อื่น อีกฝ่ายให้ความเคารพกฎเกณฑ์และมารยาทอย่างมาก ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ควรเคารพกฎเช่นกัน หากเป็นพวกละโมบบ้าตัณหา จึงจะใช้แผนการอย่างอื่น”

ผู้ฝึกตนหญิงเอ่ยอย่างระมัดระวัง “แค่กำแพงดำน้อยโถเดียวเท่านั้น ตอนที่เฉินเซียนซือรับไว้ ท่าทางเขาดูชื่นชอบมันมากจริงๆ”

อู่ชวินชำเลืองตามองเด็กรุ่นหลังผู้ฉลาดเฉลียวที่คอยช่วยเหลือภูเขาทำหน้าที่ต้อนรับขับสู้แขก

การที่สามารถมาทำหน้าที่เป็นเถ้าแก่ร้านน้ำชาที่ต้องรับรองแขกชนชั้นสูงของตระกูลเซียนแทนจวนไช่เฉวี่ยได้นั้น แสดงว่าต้องมีจิตใจที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก

แต่ในเมื่อมานั่งอยู่ตรงตำแหน่งนี้ เดิมทีนี่ก็หมายความว่าในเรื่องของการฝึกตน เส้นทางในอนาคตเลือนราง ตกอยู่ในสภาพการณ์น่ากระอักกระอ่วนไม่ต่างจากผู้ดูแลเรือข้ามฟากในโลกมนุษย์ส่วนใหญ่

อู่ชวินไม่อยากจะพูดอะไรให้มากความ

ผู้ฝึกตนนั้น มองเรื่องราว ยิ่งต้องทบทวนจิตใจ

หากคุยเรื่องที่เกี่ยวพันกับรากฐานการฝึกตนกับเด็กรุ่นหลังผู้นี้ จะเป็นการทิ่มแทงใจนางเสียเปล่าๆ

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็รับรองแขกจากหลายๆ ฝ่ายได้รัดกุมรอบคอบพอสมควร อีกทั้งยังไม่เคยวาดงูเติมขาโดยพลการ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!