ถังสี่ไม่ได้ทะยานลมเดินทางไกล แต่โดยสารเรือยันต์ลำหนึ่งของสวนน้ำค้างวสันต์มายังหน้าผาอวี้อิ๋ง
ก่อนจะเก็บเรือยันต์ ถังสี่ก็สังเกตเห็นแต่ไกลแล้วว่าเซียนกระบี่หนุ่มชุดเขียวกับเด็กหนุ่มชุดขาวผู้นั้นกำลังเก็บหินในลำธารกันอยู่ ช่างผ่อนคลายสบายอารมณ์กันเสียจริง
เฉินผิงอันได้ยินว่าเรือข้ามฟากของซ่งหลันเฉียวจะมาถึงท่าเรือฝูสุ่ยวันพรุ่งนี้ก็บอกกับชุยตงซานว่าถ้าอย่างนั้นก็รอกันต่อไป จากนั้นก็กลับมาที่ลำธารเลือกเฟ้นหาก้อนหินต่ออีกครั้ง พลางรับฟังชุยตงซานเล่าถึงประสบการณ์จากการเดินทางไกลข้ามทวีปของตัวเองในครั้งนี้ไปด้วย
พอพูดถึงชายหาดโครงกระดูกและนครจิงกวาน เฉินผิงอันก็ถามคำถามข้อหนึ่ง เมืองเล็กที่จู๋เฉวียนเจ้าสำนักพีหมาปักหลักพิทักษ์อยู่ ด้วยตบะของเกาเฉิงและกองกำลังในนครจิงกวานกับกลุ่มอิทธิพลใต้บังคับบัญชา จะสามารถถอนตะปูที่ตำตาดอกนี้ได้ในรวดเดียวหรือไม่
ชุยตงซานตอบอย่างไม่ลังเลว่าง่ายมาก หากจู๋เฉวียนยินดี แน่นอนว่าสามารถจากไป ย้อนกลับไปอยู่ที่ภูเขามู่อีอีกครั้งได้ แต่ด้วยนิสัยของจู๋เฉวียนแล้ว ย่อมต้องเลือกที่จะรบตายอยู่ในหุบเขาผีร้าย ยอมทุ่มสุดชีวิตของตัวเองและละทิ้งค่ายกลของเมืองชิงหลูได้ แต่ก็ต้องให้นครจิงกวานเสียหายไปถึงเส้นเอ็นและกระดูก เพื่อให้คนรุ่นถัดไปของภูเขามู่อีสามารถเติบโตได้ ยกตัวอย่างเช่นตู้เหวินซือผู้ฝึกตนคอขวดโอสถทองที่เฝ้าพิทักษ์เมืองชิงหลูมานานหลายปี หรือผู้สืบทอดสายตรงของศาลบรรพจารย์อย่างเด็กหนุ่มผังหลันซี
แต่ชุยตงซานเองก็บอกแล้วว่า เกาเฉิงค่อนข้างจะชื่นชมจู๋เฉวียน จึงไม่ยินดีจะฉีกหน้าให้แตกหักกัน
เฉินผิงอันยิ้มถาม “เจ้าเพิ่งจะไปอยู่ชายหาดโครงกระดูกได้นานเท่าไรเอง กลับรู้เรื่องมากขนาดนี้แล้วหรือ?”
ชุยตงซานยิ้มกล่าว “เห็นเพียงน้อยนิดก็เข้าใจไปไกล ก็คือความสามารถที่มีไม่มากของศิษย์”
จากนั้นชุยตงซานก็เอ่ยเสียงเบาว่า “ประวัติความเป็นมาตอนที่เกาเฉิงยังมีชีวิตอยู่ ศิษย์เดินทางมาเยือนอุตรกุรุทวีปครั้งนี้ก็พอจะได้ผลเก็บเกี่ยวมาบ้าง บวกกับการลงแรงของสำนักพีหมา ตอนนี้อักษรยามเกิดแปดตัวที่แน่ชัดของเกาเฉิง สำมะโนครัวบ้านเกิด ฮวงจุ้ยสุสานล้วนมาอยู่ในมือของศิษย์หมดแล้ว เดิมทีสิ่งเหล่านี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไร หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนเหรินของอุตรกุรุทวีปก็ยังไม่สามารถอาศัยเรื่องพวกนี้มาสร้างความลำบากใจให้นครจิงกวานได้ อย่างมากสุดก็แค่ทำให้เขาเจ็บๆ คันๆ เท่านั้น น่าเสียดายที่เกาเฉิงมาเจอลูกศิษย์อย่างข้า เขาก็จนปัญญาแล้ว”
เฉินผิงอันหยิบหินไข่ห่านสีขาวหิมะก้อนหนึ่งขึ้นมาวางใส่ไว้ในห่อผ้าที่ม้วนขึ้นจากเสื้อสีเขียวของตัวเอง แล้วเอ่ยว่า “เล่นตุกติกบนร่างของโจวหมี่ลี่ เรื่องนี้เกาเฉิงไม่มีคุณธรรมอย่างยิ่ง”
ชุยตงซานพยักหน้ารับ “ไม่สมควรเป็นคนเลย”
แล้วชุยตงซานก็พูดต่อทันทีว่า “เดิมทีพี่น้องเกาก็ไม่ใช่คนอยู่แล้ว”
เฉินผิงอันชำเลืองตามองชุยตงซาน
ชุยตงซานกะพริบตาปริบๆ “ตอนนี้พี่เกามีน้องเกาอยู่คนหนึ่ง น่าเสียดายที่การเดินทางมาเยือนทิศเหนือของศิษย์ในครั้งนี้ไม่ได้พาเขามาอยู่ข้างกายด้วย วันหน้าอาจารย์มีโอกาสก็จะได้พบกับน้องเกาคนนั้น เจ้าเด็กน้อยนั่นนับว่าหน้าตาหล่อเหลา แค่ทึ่มทื่อไปหน่อย สติปัญญายังไม่เปิดกว้าง”
เฉินผิงอันถาม “พอๆ กับเด็กหนุ่มรับใช้ที่อยู่ข้างกายอาจารย์หลี่หรือ?”
ชุยตงซานพยักหน้ารับ “คนหนึ่งเอามาฝึกปรือฝีมือ อีกคนหนึ่งแกะสลักขึ้นด้วยความตั้งใจ ไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไร”
เฉินผิงอันลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังเอ่ยว่า “หากเป็นไปได้ ทางที่ดีที่สุดสักวันหนึ่งพวกเราควรจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนจริงๆ แต่การชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียระหว่างนี้ยังคงต้องให้เจ้าคิดพิจารณาเอาเอง ข้าแค่บอกความคิดบางอย่างของตัวข้าเองเท่านั้น ไม่แน่เสมอไปว่าเจ้าจะต้องทำตาม”
สายตาของชุยตงซานฉายประกายเจิดจ้า ดูเป็นเด็กหนุ่มยิ่งกว่าเด็กหนุ่มเสียอีก เขายิ้มเอ่ยว่า “ในเมื่ออาจารย์บอกว่าทำได้ แล้วจะมีอะไรที่ศิษย์ทำไม่ได้”
คนทั้งสองทยอยกันสัมผัสได้ถึงถังสี่และเรือยันต์ จึงไม่คุยอะไรกันอีก
ถังสี่เดินมาที่ริมลำธารช้าๆ แล้วประสานมือคารวะ “ถังสี่แห่งเรือนจ้าวเย่ฉ่าวคารวะท่านเฉิน”
เฉินผิงอันเดินขึ้นฝั่งโดยเอามือหนึ่งอุ้มประคองหินไข่ห่านที่อยู่ในม้วนผ้า ยิ้มเอ่ยทักทายกับถังสี่
ชุยตงซานที่อยู่ด้านหลังเก็บหินไข่ห่านใส่ห่อผ้าตัวเองได้มากกว่าและก้อนใหญ่กว่า เขาใช้สองมือโอบประคองเอาไว้จึงมองดูน่าขันอย่างเห็นได้ชัด
เฉินผิงอันยืนเคียงบ่าอยู่กับถังสี่ ฝ่ายหลังพูดเข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านเฉิน ทางฝั่งของสวนน้ำค้างวสันต์เป็นกังวลกันเล็กน้อย ข้าก็เลยบังอาจขอมาสร้างคุณความชอบ เป็นฝ่ายมารบกวนความสงบของท่านเฉินถึงที่นี่”
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ถังเซียนซือ ท่านบอกให้ถานฮูหยินวางใจได้เลย อีกไม่นานข้ากับลูกศิษย์ก็จะโดยสารเรือข้ามฟากของผู้อาวุโสซ่งจากไป เพราะรีบไปเยือนชายหาดโครงกระดูก พวกเราสองคนไม่มีทางสร้างปัญหาให้กับสวนน้ำค้างวสันต์อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น นับตั้งแต่หน้าผาอวี้อิ๋งแห่งนี้ ไปจนถึงร้านผีฝูถนนเหล่าไหว แล้วก็มาถึงถังเซียนซือกับผู้อาวุโสหลิน พวกเราได้รับน้ำใจมากมายจากสวนน้ำค้างวสันต์ เมื่อไปถึงภูเขามู่อีของสำนักพีหมา ข้าจะพยายามพูดถึงสวนน้ำค้างวสันต์ในแง่ดีกับคนสนิทของที่นั่น แล้วก็หวังว่าการค้าของสำนักพีหมากับสวนน้ำค้างวสันต์ที่เดิมทีก็มีมิตรภาพต่อกันอยู่แล้วจะสามารถพัฒนาไปอีกขั้น เพียงแต่ว่าข้าเป็นคนต่ำต้อยคำพูดย่อมไม่มีน้ำหนัก คำพูดของข้าจะมีประโยชน์หรือไม่ ข้าก็ไม่กล้ารับรอง หากคำพูดไพเราะเหล่านี้ของข้าเป็นดั่งก้อนหินกระดอนน้ำที่หายไปอย่างเงียบเชียบ ก็หวังว่าวันหน้าได้มาเยี่ยมเยือนสวนน้ำค้างวสันต์อีกครั้ง ประตูใหญ่เรือนจ้าวเย่ฉ่าวของถังเซียนซือจะไม่ปิดใส่ จะดีจะชั่วก็ให้ข้าได้เข้าไปดื่มน้ำชาสักถ้วย”
ถังซี่โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก และยังรู้สึกซาบซึ้งจากใจจริงอยู่อีกหลายส่วน เขาประสานมือคารวะอีกครั้ง “พระคุณยิ่งใหญ่ของท่านเฉิน ถังสี่จดจำไว้ขึ้นใจ!”
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ที่ร้านผีฝู เถ้าแก่หวังถิงฟางดูแลจัดการได้เหมาะสมยิ่ง วันหน้าถังเซียนซือก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจมากแล้ว ไม่อย่างนั้นหากข้าได้ยินก็คงละอายใจ เถ้าแก่หวังเองก็คงอดเคร่งเครียดไม่ได้”
ถังสี่พยักหน้ารับ “ในเมื่อท่านเฉินพูดแล้ว ข้าก็จะปล่อยให้หวังถิงฟางจัดการเอาเอง แต่ท่านเฉินก็วางใจได้เลย สวนน้ำค้างวสันต์จะบอกว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะบอกว่าเล็กก็เล็ก หากมีช่องโหว่เกิดขึ้นจริงๆ แม้จะเล็กน้อยแค่ไหน แต่ข้าก็จะคอยตบคอยตีเจ้าเด็กหวังถิงฟางให้เข้ารูปเข้ารอยเอง หาเงินสบายขนาดนี้ หากยังกล้าเกียจคร้านอีกก็แสดงว่ามโนธรรมในใจมีปัญหาจริงๆ แล้ว เป็นเรือนจ้าวเย่ฉ่าวของพวกเราที่อบรมสั่งสอนได้ไม่ดีพอ ถึงได้ทำผิดต่อน้ำใจของท่านเฉิน หากเป็นเช่นนี้จริง คราวหน้าที่ท่านเฉินมาดื่มชาที่เรือนจ้าวเย่ฉ่าวของข้า ข้าถังสี่จะดื่มเหล้าลงโทษตัวเองก่อนสามจอก แล้วถึงจะกล้าร่วมดื่มชากับท่านเฉิน”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
ถังสี่ทำอะไรรวดเร็วฉับไวปานสายฟ้าฟาด เขาขอตัวลาจากไป โดยบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองต้องกลับไปรายงานผลที่ศาลบรรพจารย์
คราวนี้เขาไม่ได้โดยสารเรือยันต์ที่เชื่องช้า แต่ทะยานลมจากไปโดยตรง
ตั้งแต่ต้นจนจบ ชุยตงซานไม่เอ่ยอะไรสักคำ
เฉินผิงอันหันหน้ามามองชุยตงซาน “มีเจ้าอยู่ด้วย ข้าถึงได้ทำตัวเป็นจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือกับเขาสักครั้ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!