บรรยากาศในศาลบรรพจารย์สวนน้ำค้างวสันต์ค่อนข้างจะแปลกประหลาด บางคนอารมณ์หนักอึ้ง ซึ่งก็คือพวกผู้เฒ่าบางคนของสวนน้ำค้างวสันต์ที่เก็บตัวอย่างสันโดษ และยังมีพวกผู้ถวายงาน เค่อชิงของสวนน้ำค้างวสันต์อีกบางส่วน
บางคนมาร่วมวงความครึกครื้น อารมณ์จึงนับว่าไม่เลว ยกตัวอย่างเช่นถังสี่เจ้าของเรือนจ้าวเย่ฉ่าวที่นั่งอยู่ในตำแหน่งรั้งท้ายสุด หญิงชราอาจารย์ผู้มีพระคุณของซ่งหลันเฉียวผู้ดูแลเรือข้ามฟาก เวลานี้นางกำลังมองสบตากับถังสี่ที่ในอดีตมีความสัมพันธ์ที่ชืดชาต่อกัน แล้วสองฝ่ายก็พยักหน้าให้กันเบาๆ ในดวงตาต่างก็ซ่อนอำพรางรอยยิ้ม
บางคนอารมณ์ซับซ้อน ยกตัวอย่างเช่นถานหลิงที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน
เพราะซ่งหลันเฉียวส่งกระบี่บินมาแจ้งแก่ศาลบรรพจารย์ติดต่อกันถึงสองครั้ง จดหมายลับฉบับแรกบอกว่ามีผู้ฝึกตนต่างถิ่นที่ขอบเขตลึกล้ำยากจะคาดเดาคนหนึ่ง คือเทพเซียนที่อยู่ในรูปลักษณ์ของเด็กหนุ่มชุดขาวพลิ้วไสว หลังจากโดยสารเรือข้ามทวีปของสำนักพีหมามาถึงชายหาดโครงกระดูกก็ไปโยนสมบัติอาคมใส่นครจิงกวานดุจห่าฝน ทั้งเกาเฉิงและหุบเขาผีร้ายต่างก็ไร้ความเคลื่อนไหว ราวกับว่ากริ่งเกรงคนผู้นี้มาก จดหมายลับฉบับที่สองกลับบอกว่าคนผู้นี้บอกว่าตัวเองคือลูกศิษย์ของเซียนกระบี่หนุ่ม เรียกคนหนุ่มแซ่เฉินว่าอาจารย์ทุกคำ มีนิสัยประหลาดยากจะคาดเดา เขาซ่งหลันเฉียวคิดว่าหากต้องเข่นฆ่ากับอีกฝ่ายขึ้นมา ตนย่อมไม่เหลือเรี่ยวแรงให้เอาคืนอย่างแน่นอน
ถานหลิงส่งจดหมายลับสองฉบับให้ทุกคนอ่าน รอจนจดหมายลับกลับมาถึงมือก็เก็บใส่ในชายแขนเสื้อเบาๆ แล้วเปิดปากเอ่ยว่า “ข้าได้ส่งกระบี่บินไปยังภูเขามู่อีสำนักพีหมาเพื่อสอบถามประวัติความเป็นมาของคนผู้นี้แล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้รับจดหมายตอบกลับ ทุกท่าน เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าสวนน้ำค้างวสันต์ของพวกเราควรจะรับมืออย่างไร มีใครมีกลยุทธที่ดีบ้างหรือไม่? พวกเราไม่สามารถฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่สำนักพีหมาได้ เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับภูเขามู่อี อีกอย่างก็คือ ข้าเดาว่าท่านเฉินก็คือผู้ฝึกกระบี่ที่เมื่อปีก่อนร่วมเซ่นกระบี่กับเซียนกระบี่หลิวสำนักกระบี่ไท่ฮุยที่แถบแคว้นฝูฉวี”
ในห้องโถงศาลบรรพจารย์เงียบสงัด หากเข็มหล่นก็คงได้ยินกันทั่ว
สวนน้ำค้างวสันต์ก็ถือว่าเป็นภูเขาระดับบนสุดของกลุ่มอิทธิพลตระกูลเซียนระดับสองของอุตรกุรุทวีป คล้ายคลึงกับเรือนเทพสายฟ้าของภูเขาอิงเอ๋อร์และยอดเขาสิงโตที่ต่างก็มีชื่อเสียง มีมิตรสหายกว้างขวาง อีกทั้งรากฐานยังลึกล้ำ อยู่ห่างจากอักษรตัวจงก็เพียงแค่ว่าขาดผู้ฝึกตนใหญ่ขอบเขตหยกดิบที่จะกลายมาเป็นเสาหลักได้เท่านั้น สถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วนของสวนน้ำค้างวสันต์ก็อยู่ที่ว่าชีวิตนี้ถานหลิงไม่อาจฝ่าทะลุคอขวดก่อกำเนิดได้ ถูกกำหนดมาแล้วว่าไร้ความหวังจะกลายเป็นห้าขอบเขตบน
ตอนนี้พอเผชิญหน้ากับอาจารย์และศิษย์คู่นั้นจึงตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกอย่างเห็นได้ชัด
ถานหลิงถามอีกว่า “ถังสี่ เจ้าคิดว่าอาจารย์…เฉินคนนั้นมีนิสัยเป็นอย่างไร?”
คำเรียกขานนี้ทำให้สีหน้าของถานหลิงดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก
ถังสี่ที่นั่งอยู่ติดกับประตูใหญ่ของศาลบรรพจารย์เอาฝ่ามือลูบที่เท้าแขนเก้าอี้เบาๆ ใคร่ครวญหาถ้อยคำที่เหมาะสมอย่างระมัดระวังแล้วเอ่ยเนิบช้าว่า “ตบะสูงหรือต่ำ มองออกได้ไม่ชัดเจน ประวัติความเป็นมาก็ยิ่งเหมือนมีเมฆหมอกบดบัง แต่หากพูดถึงแค่เรื่องของการทำการค้า ท่านเฉินก็พิถีพิถันในเรื่องของความยุติธรรมอย่างมาก”
การปรึกษาหารือกันในศาลบรรพจารย์ของสวนน้ำค้างวสันต์วันนี้ เป็นครั้งแรกที่ถานหลิงสอบถามความเห็นของถังสี่อย่างจริงจัง
หญิงชรายิ้มตาหยีเอ่ยว่า “คุณชายเฉินปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างมีมารยาท เป็นคนหนุ่มที่เคารพกฎเกณฑ์อย่างถึงที่สุด บางทีพวกเจ้าอาจไม่เคยไปมาหาสู่กับเขาจึงไม่รู้ เอาเป็นว่าหญิงแก่อย่างข้าชื่นชอบเขามาก สองครั้งที่คุณชายเฉินมาเยี่ยมเยือนข้าด้วยตัวเอง หญิงแก่อย่างข้าก็ได้รับวัตถุวิเศษชิ้นหนึ่งกับก้อนชากำแพงดำน้อยจากคนเขามาเปล่าๆ ถึงสองครั้ง ตอนนี้ก็ยังกลัดกลุ้มอยู่ว่าครั้งหน้าที่คุณชายเฉินมาเยือน ควรจะเอาของขวัญอะไรตอบแทนเขาดี จะให้คนเขาที่มาเยือนสามครั้งต้องกลับไปมือเปล่าเสียทุกครั้งก็คงไม่ได้ คุณชายเฉินเองก็บอกแล้วว่า ‘เรื่องเดิมไม่ทำซ้ำสาม สะสมเอาไว้’ น่าเสียดายที่หญิงแก่อย่างข้ากำลังทรัพย์น้อย ถึงเวลานั้นยังไม่รู้ว่าจะเดือดร้อนมาถึงสวนน้ำค้างวสันต์หรือไม่ หากของขวัญที่มอบกลับคืนแร้นแค้นเกินไป ก็อาจทำให้สวนน้ำค้างวสันต์เป็นที่ขบขันของผู้คนเอาได้”
คำพูดประโยคนี้ของหญิงชรามีความนัยแอบแฝง ทุกถ้อยคำล้วนเต็มไปด้วยความลี้ลับ
บนใบหน้าของถานหลิงมีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน “ศิษย์น้องหลินไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ วันนี้ศิษย์น้องหลินสามารถเลือกของขวัญชิ้นหนึ่งไปจากศาลบรรพจารย์สวนน้ำค้างวสันต์ได้เลย”
หญิงชราคลี่ยิ้มไม่จริงใจ “ศิษย์พี่ถาน นี่ไม่เท่ากับว่าทำให้สวนน้ำค้างวสันต์ของเราสิ้นเปลืองหรอกหรือ? ไม่ค่อยเหมาะกระมัง? อันที่จริงหากหญิงแก่อย่างข้ายอมทุบหม้อขายเหล็ก แล้วไปยืมเงินเทพเซียนอีกส่วนหนึ่งมาจากลูกศิษย์ที่ไม่ได้ความอย่างซ่งหลันเฉียว ก็ยังพอจะรวบรวมเงินซื้อสมบัติอาคมชิ้นหนึ่งได้”
ถานหลิงยิ้มบางๆ ด้วยสีหน้าเป็นปกติ “ไม่ต้องรบกวนซ่งหลันเฉียว ตลอดหลายปีมานี้ซ่งหลันเฉียวทำการค้าดูแลเรือข้ามฟากแทนสวนน้ำค้างวสันต์อย่างระมัดระวังรอบคอบก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว”
หญิงชราแสร้งทำท่ากระจ่างแจ้ง “ถึงอย่างไรศิษย์พี่ก็เป็นผู้ฝึกตนใหญ่ก่อกำเนิด ความจำดีกว่าศิษย์น้องโอสถทองที่ไม่ได้ความอย่างข้ามาก หญิงแก่อย่างข้าเกือบลืมไปแล้วว่าที่แท้ตัวเองก็ยังมีลูกศิษย์โอสถทองที่คอยวิ่งวุ่นอยู่ด้านนอกตลอดทั้งปีอย่างซ่งหลันเฉียวอยู่ด้วย”
พวกจิ้งจอกเฒ่าในศาลบรรพจารย์ทั้งหลายเริ่มกระปรี้กระเปร่ากันขึ้นมาแล้ว ฟังจากน้ำเสียงนี้ หญิงชราผู้นี้คิดจะดึงลูกศิษย์ของตนเข้ามาในศาลบรรพจารย์?
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย
“อย่าพูดถึงลูกศิษย์ที่มีชะตาต้องเหนื่อยยากของข้าคนนั้นเลย เจ้าเด็กนี่เกิดมาก็ไม่มีชะตาจะได้เสวยสุข”
คิดไม่ถึงว่าหญิงชราจะเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว ไม่ได้พูดถึงเรื่องเพิ่มเก้าอี้ในศาลบรรพจารย์สักคำเดียว หญิงชราเพียงแค่หันหน้าไปมองถังสี่แล้วเอ่ยเนิบช้าว่า “ผู้ถวายงานถังของเราต่างหากที่ลำบากยิ่งกว่าซ่งหลันเฉียว ไม่เพียงแต่มีคุณความเหนื่อยยาก คุณความชอบก็ใหญ่หลวง เหตุใดถึงยังได้นั่งตำแหน่งที่ใกล้กับประตูที่สุดอีก? กิจการครึ่งหนึ่งของสวนน้ำค้างวสันต์ล้วนมีเรือนจ้าวเย่ฉ่าวเป็นผู้ดูแล หากจำไม่ผิด เก้าอี้ในศาลบรรพจารย์ก็เป็นเรือนจ้าวเย่ฉ่าวที่ออกเงินสร้างขึ้นมาไม่ใช่หรือ คนแก่ๆ ที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่นพวกเราควรต้องมีมโนธรรมในใจกันบ้างนะ ตามความเห็นข้า ไม่สู้ให้ข้าเปลี่ยนตำแหน่งกับถังสี่ ย้ายเก้าอี้ของข้าไปตรงหน้าประตู จะได้ไม่ต้องทำให้ศิษย์พี่ถานและทุกคนลำบากใจ”
ถังสี่รีบลุกขึ้นยืนทันที กุมหมัดค้อมเอวเอ่ยเสียงทุ้มหนัก “ไม่ได้เด็ดขาด ข้าผู้แซ่ถังเป็นคนทำการค้า พรสวรรค์ในการฝึกตนย่ำแย่เกินจะกล่าว แม้ว่ากิจการในมือจะไม่เล็ก แต่นั่นก็ต้องอาศัยสวนน้ำค้างวสันต์ถึงจะทำสำเร็จได้ ข้าผู้แซ่ถังรู้ดีว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน การที่ได้มาปรึกษากับทุกท่านอยู่ในศาลบรรพจารย์ก็ถือว่ายึดเอาคุณความชอบของสวรรค์มาเป็นของตนแล้ว ไหนเลยจะมีความคิดไม่สมควรเช่นนั้นได้”
หญิงชราบ่นพึมพำ “ถังสี่เจ้ามีลูกสาวอยู่แค่คนเดียว ตอนนี้นางใกล้จะออกเรือนแล้ว สกุลเว่ยจวนเถี่ยชางของราชวงศ์ต้ากวานที่จะดองเป็นญาติกับเจ้า และยังมีฮ่องเต้พระองค์นั้น ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่เจ้าถังสี่ยังมีที่มีทางอยู่ในศาลบรรพจารย์สวนน้ำค้างวสันต์หรอกหรือ? คำซุบซิบนินทาพวกนั้น เจ้าถังสี่ใจกว้าง ให้อภัยได้ ยอมรับได้ แต่หญิงแก่ที่เป็นคนนอกอย่างข้าฟังแล้วยังรู้สึกไม่ดี รู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ หญิงแก่อย่างข้าไม่มีของขวัญอวยพรอะไรจะมอบให้ ได้แต่สับเปลี่ยนตำแหน่งเก้าอี้กับเจ้าถังสี่เท่านั้น นี่ก็ถือว่าได้ทุ่มเทสุดกำลังน้อยนิดที่มีแล้ว”
อันที่จริงสวนน้ำค้างวสันต์มีบรรพจารย์ที่ดูแลการเงินอยู่ แต่ถังสี่กลับเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกันของสวนน้ำค้างวสันต์ เมื่อเทียบกับชื่อเสียงของฝ่ายแรกแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะบนล่างหรือในนอกสวนน้ำค้างวสันต์ ถังสี่ก็ล้วนได้ใจผู้คนมากกว่า
หญิงชราเรียกคำก็ถังสี่ สองคำก็ถังสี่
นี่ไม่ใช่ความไม่เคารพอะไร แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!