กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 570

สรุปบท บทที่ 570.1 เจ้าขุนเขาต้องออกเดินทางไกลอีกแล้ว: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

อ่านสรุป บทที่ 570.1 เจ้าขุนเขาต้องออกเดินทางไกลอีกแล้ว จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บทที่ บทที่ 570.1 เจ้าขุนเขาต้องออกเดินทางไกลอีกแล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เมื่อศาลบรรพจารย์ของภูเขาลั่วพั่วสร้างเสร็จ สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ บนยอดเขาจี้เซ่อก็ก่อสร้างตามมา นี่ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลดีแล้ว

สำหรับเรื่องนี้จูเหลี่ยนวางแผนคร่าวๆ มาไว้ก่อนแล้ว นับตั้งแต่ซุ้มป้ายที่ตีนเขายอดเขาจี้เซ่อไล่ขึ้นมาเป็นลำดับเรื่อยๆ บนเส้นแกนกลางเส้นนี้จะมีสิ่งปลูกสร้างน้อยใหญ่อยู่ประมาณสามสิบกว่าหลัง มีทั้งตำหนักใหญ่โตโอ่อ่า มีทั้งสวนต้นไม้ดอกไม้ แม้แต่เรื่องที่ว่ากรอบป้าย กลอนคู่จะเขียนคำว่าอะไรก็ยังมีการบรรยายไว้อย่างละเอียด เรือนอื่นๆ นอกจากตำหนักหลักห้องโถงใหญ่จะแสดงให้เห็นทักษะในการก่อสร้างได้มากเป็นพิเศษ เจิ้งต้าเฟิงและเว่ยป้อก็ช่วยวางแผนให้ แต่สุดท้ายแล้วควรจะทำอย่างไร แน่นอนว่ายังต้องให้เจ้าขุนเขาภูเขาลั่วพั่วอย่างเฉินผิงอันเป็นผู้ตัดสินใจเอาเอง

‘รูปแบบมาตรฐานสถาปัตยกรรม’ เล่มที่เฉินผิงอันเอามาจากพื้นที่มงคลดอกบัวตอนนั้นได้มาจากคลังของกรมโยธาธิการเมืองหลวงแคว้นหนันเยวี่ยน เฉินผิงอันเลื่อมใสมันอย่างมาก จึงมอบให้กับจูเหลี่ยนไปพร้อมกับกระดาษวาดภาพร่างของซากปรักจวนเซียนในอาณาเขตแคว้นเป่ยถิงปึกใหญ่ เกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่เสริมมากับศาลบรรพจารย์ เฉินผิงอันมีแค่ข้อเรียกร้องเล็กๆ เพียงอย่างเดียว นั่นคือสามารถสร้างศาลาริมน้ำหลังหนึ่งเลียนแบบศาลาในหมู่บ้านของผู้อาวุโสซ่งอวี่เซาเอาไว้ได้ ตั้งชื่อว่าศาลาจือชุนหรือไม่ก็ศาลามังกร นอกจากนี้แล้วเฉินผิงอันก็ไม่มีความคาดหวังอะไรที่มากเกินไปนัก

ผลคือพอจูเหลี่ยนได้ ‘รูปแบบมาตรฐานสถาปัตยกรรม’ เล่มนั้นไป ก็คลี่ยิ้มด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย เฉินผิงอันถึงเพิ่งนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ นึกถึงตำราตัวอย่างที่ราชสำนักของแคว้นหนึ่งในประวัติศาสตร์พื้นที่มงคลดอกบัวเป็นผู้แจกจ่าย จูเหลี่ยนหัวเราะฮ่าๆ บอกว่าการเรียบเรียงตำราเล่มนี้ ปีนั้นเขาเคยลงแรงอยู่หลายส่วนจริงๆ กฎเกณฑ์การสร้างสิ่งปลูกสร้าง ฝ้าเพดาน โต่วก่ง (รูปแบบการปลูกสร้างอย่างหนึ่งของจีน คือชายคาที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ) ฯลฯ สองสามในสิบส่วนของตำราเล่มนี้ อันที่จริงล้วนมาจากการเขียนของเขาทั้งสิ้น

เฉินผิงอันจึงถามว่าเหตุใดเรือนที่สร้างอยู่กึ่งกลางยอดเขาหลักของภูเขาลั่วพั่วถึงได้เรียบง่ายมากจนมองร่องรอยของ ‘รูปแบบมาตรฐาน’ ไม่ออกแม้แต่น้อย จูเหลี่ยนตอบอย่างมีเหตุมีผล บอกว่าตอนนั้นรากฐานของตระกูลบางเบา หากไม่มีวัตถุดิบ ต่อให้สตรีที่มีฝีมือแค่ไหนก็ปรุงอาหารรสเลิศออกมาไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับที่นายน้อยพักอยู่บนเรือนไม้ไผ่ คนอื่นๆ แค่มีที่ให้ซุกหัวนอนก็ควรจะซาบซึ้งในบุญคุณมากพอแล้ว ไม่อย่างนั้นหากให้เขาจูเหลี่ยนลงมือจัดการด้วยตัวเอง แล้วจะให้สร้างเรือนใหญ่โตมโหฬารที่ต้องกินเงินจำนวนมาก คงไม่มีความจำเป็น

กลุ่มสิ่งปลูกสร้างที่ตอนนี้มีศาลบรรพจารย์ถูกสร้างนำไปก่อนคือหน้าตาของภูเขาลั่วพั่ว แน่นอนว่าย่อมไม่อยู่ในกรณีนี้ ต้องให้เขาจูเหลี่ยนเป็นคนจัดการเอง ไม่มีทางมอบให้ช่างที่ถูกจ้างมามาย่ำยีทัศนียภาพของยอดเขาจี้เซ่อเด็ดขาด

หากพูดตามคำกล่าวของจูเหลี่ยนก็คือ ตอนที่ไม่มีเงินก็ควรคิดว่าจะหาเงินอย่างไร ไม่มีเงินเดิมทีก็เป็นเรื่องน่าอาย แล้วยังทำตัวโอ้อวดคนอื่นว่าตัวเองมีเงินอีก นั่นก็มีแต่จะยิ่งทำให้คนอื่นดูแคลน แต่หากมีเงินแล้ว ควรจะใช้จ่ายเงินอย่างไร ก็ยิ่งต้องพิถีพิถันสักหน่อย

เฉินผิงอันรู้สึกว่ามีเหตุผลอย่างถึงที่สุด แต่ก็ยังตีหน้าเคร่งกลั้นยิ้ม ปากบอกว่าวันหน้าอย่าตัดสินใจเองโดยพลการอีก จะทำให้คนกันเองต้องน้อยเนื้อต่ำใจได้อย่างไร นี่จะไม่ทำให้ผู้คนเสียกำลังใจหรอกหรือ

แม้แต่เผยเฉียนก็ยังรู้สึกว่าสีหน้าและคำพูดของอาจารย์ในเวลานั้นไม่ใกล้เคียงกับคำว่าจริงใจเลยแม้แต่น้อย

เผยเฉียนยังรู้สึกอีกว่าท่าทางที่แทบอยากจะใช้ความตายมาแสดงคำขอบคุณที่ไม่ถูกลงโทษของพ่อครัวเฒ่า อยู่ไกลเกินกว่าความเป็นธรรมชาติดุจน้ำมาคลองสำเร็จของตนไกลโขนัก

คำพูดคือเสียงจากในใจ ต้องออกมาจากจิตใจสิถึงจะถูก เผยเฉียนรู้สึกว่าพ่อครัวเฒ่าก็ดี โจวเฝยก็ช่าง ยามที่พูดคุยกับอาจารย์ พวกเขาล้วนไม่มีฝีมือสักเท่าไร

พวกแขกที่มาร่วมงานพิธีและนำของขวัญมาร่วมอวยพรพากันออกไปจากภูเขาลั่วพั่วแล้ว ตู้เหวินซือและผังหลันซีแห่งสำนักพีหมาที่เป็นผู้ถวายงานได้รับการบันทึกชื่อของภูเขาลั่วพั่วก็พากันโดยสารเรือข้ามฟากบ้านตัวเองกลับชายหาดโครงกระดูกไปแล้ว

เฉินผิงอันมอบเทียบตัวอักษรแบบหวัดสองเทียบให้กับผังหลันซี คือเทียบที่ในอดีตเขาใช้เหล้าหมักตระกูลเซียนหลายไหซื้อมาจากเซี่ยนเหว่ยหนุ่มคนหนึ่งของอำเภอเล็กๆ ในแคว้นเหมยโย่ว ให้ผังหลันซีนำไปมอบต่อให้ท่านปู่ทวดของเขา

คิดไม่ถึงว่าตู้เหวินซือที่เห็นแล้วจะรู้สึกชื่นชอบ จึงขอไปเทียบหนึ่ง

เฉินผิงอันตะลึงค้างอยู่กับที่ จากนั้นก็ส่งสายตาให้ผังหลันซี เด็กหนุ่มแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น เฉินผิงอันจึงได้แต่ไปเอาเทียบตัวอักษรมาอีกแผ่น ตู้เหวินซือกระชากเทียบตัวอักษรออกไปจากมือของเจ้าขุนเขาหนุ่มภูเขาลั่วพั่วอย่างแรง ยิ้มบางๆ เอ่ยประโยคหนึ่งว่า เจ้าขุนเขาช่างใจกว้าง

เฉินผิงอันยิ้มบางๆ ตอบรับ ไม่เอ่ยอะไร

หลูป๋ายเซี่ยงเองก็พาคู่พี่น้องหยวนไหลหยวนเป่ากลับไปที่ชายแดนราชวงศ์จูอิ๋งเดิมแล้ว

เฉินผิงอันมอบเสื้อเกราะสำนักการทหารที่ศาลซานหลางของอุตรกุรุทวีปสร้างขึ้นอย่างประณีตให้กับลูกศิษย์ผู้สืบทอดศาลบรรพจารย์สองคนนี้ไปคนละตัว

จ้งชิวเริ่มพาเฉาฉิงหล่างออกเดินทางไปทั่วทิศอยู่ในพื้นที่มงคลรากบัว หลังจากเดินทางเสร็จก็จะหวนกลับมาที่ภูเขาลั่วพั่ว แล้วค่อยออกท่องแจกันสมบัติทวีปต่อ

ตอนที่มาส่งเฉาฉิงหล่างออกเดินทาง นอกจากจะมอบชุดคลุมอาคมหญ้าเขียวที่เผาผลาญเงินเทพเซียนจำนวนมากจนสามารถซ่อมแซมกลับคืนมาได้เป็นเหมือนเดิมให้เขาแล้ว เฉินผิงอันยังมอบแผ่นไม้ไผ่จำนวนมากที่ตัวเองแกะสลักมาตลอดทาง รวมถึงประโยคหนึ่งแก่เฉาฉิงหล่างด้วย

“เรียนรู้หลักการเหตุผลจากในตำรา เรียนรู้การวางตัวอยู่ในสังคมจากนอกตำรา”

นอกเรือนไม้ไผ่ ศิษย์ประสานมือคารวะบอกลาอาจารย์ อาจารย์ประสานมือตอบกลับลูกศิษย์

สุยโย่วเปียนลงจากเขาไปมุ่งหน้าไปยังสำนักเจินจิ้งทะเลสาบซูเจี่ยนแล้ว ต่อให้เจียงซ่างเจินเจ้าสำนักที่ใช้สถานะของผู้ฝึกตนอิสระโจวเฝยจะอยู่ที่ภูเขาลั่วพั่ว ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบสุยโย่วเปียนกลับไม่เคยคุยอะไรกับเขา เกี่ยวกับบุญคุณความแค้นเป็นตายกับสำนักกุยหยก สุยโย่วเปียนไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ก่อนหน้านี้ที่อยู่บนภูเขาลั่วพั่ว ทุกวันนางจะเก็บตัวเงียบ มีเพียงครั้งเดียวที่ออกมาข้างนอกก็คือออกมาเดินเล่นไปรอบๆ ภูเขาใต้อาณัติของภูเขาลั่วพั่วอย่างภูเขาฮุยเหมิง ภูเขาหวงหู อารมณ์ถึงได้ดีขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่านางได้เลือกสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งและมีแผนการบางอย่างแล้ว

เดิมทีเฉินผิงอันยังอยากถามว่ากระบี่ชือซินเล่มนั้นอยู่ที่ไหน ถูกทำลายไปโดยไม่ทันระวังระหว่างที่เข่นฆ่ากับผู้อื่น หรือว่าถูกแย่งชิงไปแล้ว จะดีจะชั่วก็ควรจะบอกกล่าวแก่เขาสักหน่อยไม่ใช่หรือ?

น่าเสียดายที่ตัวสุยโย่วเปียนเองไม่เปิดปาก เฉินผิงอันเองจึงไม่กล้าถาม

เว่ยเซี่ยนพาเผยเฉียนไปที่พื้นที่มงคลรากบัว บอกว่าต้องการให้เผยเฉียนรู้ว่า ในบ้านของเขาเว่ยเซี่ยนมีไม้คานทองจริงหรือไม่

เผยเฉียนจึงถามฮ่องเต้บุกเบิกแคว้นหนันเยวี่ยนผู้นี้ว่า หากไปถึงวังหลวงแล้ว ในบ้านเจ้าไม่มีไม้คานทองจะทำอย่างไร เว่ยเซี่ยนจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็จะมอบให้เจ้าต้นหนึ่ง ตอนนั้นเผยเฉียนเบิกตากว้าง ยกมือสองข้างขึ้นชูนิ้วโป้ง เยี่ยมไปเลย เหล่าเว่ยไม่เสียแรงที่ทุกวันนี้เจ้าคือขุนนางใหญ่ตำแหน่งอู่ซวนหลางแล้ว ใจป้ำยิ่งนัก ไม่สู้เอาอย่างนี้ดีไหม ไม่ว่าจะเดิมพันแพ้หรือชนะ เจ้าก็มอบไม้คานทองให้ข้าต้นหนึ่งเป็นอย่างไร เว่ยเซี่ยนเอาแต่หัวเราะหึหึ

ก็เหมือนกับสมบัติเงินทองที่เจียงซ่างเจินมอบให้กับภูเขาลั่วพั่ว จูเหลี่ยนเองก็รับไว้อย่างมือไม้ไม่อ่อนเลยแม้แต่น้อย

ดีมาก็ดีกลับแล้วกัน

แรกเริ่มสุดเจียงซ่างเจินเปิดปากบอกกับภูเขาลั่วพั่วว่าต้องการส่วนแบ่งจากพื้นที่มงคลสองส่วนไปตลอดกาล สำนักเจินจิ้งยินดีจะให้ภูเขาลั่วพั่วยืมเงินสามก้อน ก้อนแรกคือเงินฝนธัญพืชหนึ่งพันเหรียญ เอาไว้ใช้ช่วยให้พื้นที่มงคลรากบัวเลื่อนขั้นเป็นพื้นที่มงคลระดับกลาง หลังจากนั้นยังจะเอาเงินออกมาอีกสองพันเหรียญ เพื่อใช้สร้างความมั่นคงให้กับโชคชะตาภูเขาสายน้ำของพื้นที่มงคลรากบัว เพิ่มการไหลเวียนของปราณวิญญาณให้มากขึ้น หลังจากกลายเป็นพื้นที่มงคลระดับสูงแล้ว เจียงซ่างเจินยังจะมอบเงินฝนธัญพืชให้อีกสามพันเหรียญ เงินเทพเซียนสามก้อนล้วนไม่มีดอกเบี้ย ภูเขาลั่วพั่วจะต้องชำระหนี้ภายในระยะเวลาหนึ่งร้อยปี ห้าร้อยปีและหนึ่งพันปี ไม่อย่างนั้นสำนักเจินจิ้งก็จะคิดดอกเบี้ยสูงแล้ว ภูเขาลั่วพั่วสามารถเอาภูเขามาขายแทนเงินให้สำนักเจินจิ้งได้ หากไม่ยินดีจะยกพื้นที่ให้ เอาตัวคนมาใช้หนี้แทนก็ได้เหมือนกัน

นี่ก็คือการพูดจาภาษาการค้าของแท้แน่นอน

สำหรับเจียงซ่างเจินแล้ว ข้าเงินเยอะ มอบเงินทองทรัพย์สินให้คนอื่นคือเรื่องหนึ่ง แต่ควรจะหาเงินอย่างไรกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องมีกฎเกณฑ์

ระหว่างนี้นอกจากเจียงซ่างเจินจะยกเกาะหกแห่งของทะเลสาบซูเจี่ยนให้ภูเขาลั่วพั่วแล้ว ยังจะดึงกำลังคนจากพื้นที่มงคลถ้ำเมฆาที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งทวีปให้เข้ามาในพื้นที่มงคลรากบัว รับผิดชอบจัดการดูแลงานที่เป็นรูปธรรม ส่วนข้อที่ว่าลูกหลานสกุลเจียงที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่มงคลระดับกลางซึ่งเพิ่งจะเติบโตขึ้นมาใหม่แห่งนี้จะมีอำนาจมากเท่าไร ก็ต้องดูที่ว่าภูเขาลั่วพั่วยินดีให้หน้าพวกเขากี่มากน้อยแล้ว

แต่ตอนนั้นจูเหลี่ยนยังยืนกรานว่าภูเขาลั่วพั่วมอบส่วนแบ่งให้สำนักเจินจิ้งได้แค่ส่วนเดียวเท่านั้น

เว่ยป้อซานจวินแห่งขุนเขาเหนือของแจกันสมบัติทวีปผู้ยิ่งใหญ่ ออกทั้งเงินออกทั้งแรง แล้วยังออกทั้งกำลังคน ยอมเป็นวัวเป็นม้า ก็ยังได้ส่วนแบ่งแค่ส่วนเดียว สำนักเจินจิ้งคิดจะเป็นสิงโตอ้าปากกว้าง ต่อให้เขาจูเหลี่ยนพยักหน้าตอบตกลง แต่นั่นก็จะเป็นการหมิ่นเกียรติซานจวินใหญ่เว่ย ใครบ้างที่ไม่รู้นิสัยที่ต่อให้ตายก็ต้องรักษาหน้าตาเอาไว้ก่อนของเว่ยป้อบ้าง หากเว่ยป้อต้องห่างเหินกับภูเขาลั่วพั่วเพราะสาเหตุนี้ ภูเขาลั่วพั่วก็จะได้ไม่คุ้มเสีย

เดิมทีเจียงซ่างเจินก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าจะได้สองส่วน เส้นบรรทัดฐานของเขาก็คือการปันผลหนึ่งจุดห้าส่วนตลอดกาล หากจูเหลี่ยนยืนกรานว่าจะให้ผลตอบแทนแค่ส่วนเดียว นั่นก็น้อยเกินไปจริงๆ

อีกอย่างจูเหลี่ยนก็เอ่ยประโยคหนึ่งที่จี้ใจเจียงซ่างเจิน อาณาเขตของพื้นที่มงคลรากบัวไม่ใหญ่ คนยี่สิบล้านคนที่จิตวิญญาณครบถ้วนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในแคว้นหนันเยวี่ยน บวกกับอีกสามพื้นที่อย่างแคว้นซงไล่ แคว้นเป่ยจิ้นและทุ่งหญ้ากว้างนอกด่าน แม้จะบอกว่าต่อให้รวมกับจิตวิญญาณของคนไว้แล้ว หมื่นเรื่องราวหมื่นสรรพสิ่งก็คล้ายว่าจะอยู่ในสภาวะที่เลื่อนลอยว่างเปล่า ถูกแบ่งออกเป็นคร่าวๆ ได้สี่ส่วน แต่เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ ขอแค่ภูเขาลั่วพั่วจัดการได้อย่างเหมาะสม หากจำนวนประชากรของพื้นที่มงคลทะลุห้าสิบล้านคน นั่นก็จะเป็นพื้นที่มงคลระดับกลางหายากที่มีความพิเศษในด้านประชากร ในฐานะพื้นที่มงคลระดับสูงที่มีอยู่ไม่มาก สกุลเจียงสำนักกุยหยกคอยบริหารดูแลประชากรของพื้นที่มงคลถ้ำเมฆามาหลายรุ่นหลายสมัย แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจฝ่าทะลุคอขวดเก้าสิบล้านคนไปได้ แน่นอนว่าสาเหตุหนึ่งในนั้นก็เป็นเพราะ ‘ความกำเริบเสิบสาน ระดมพลครั้งใหญ่’ ของเจียงซ่างเจินด้วย ในประวัติศาสตร์บอกว่ามีกลียุคเกิดขึ้นห้าครั้ง สรรพชีวิตที่มอดม้วยด้วยน้ำมือของเจียงซ่างเจินก็มีมากถึงสามครั้งแล้ว คนทั้งบนและล่างภูเขาที่ติดร่างแหเดือดร้อนไปด้วยไม่มีใครที่โชคดีรอดพ้นหายนะไปได้

และนี่ก็เป็นจุดที่น่าสนุกและน่าสนใจที่สุดของจูเหลี่ยน

พูดจาคล่องแคล่วน่าสนใจแต่ไร้แก่นสาร คำพูดเหลวไหลเรื่อยเปื่อยหาสาระไม่ได้

แต่มักจะชอบซ่อนแฝงประโยคสองประโยคที่มีน้ำหนักอย่างถึงที่สุดไว้ในถ้อยคำเป็นกระบุงโกยเหล่านั้นเสมอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!