กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 599

ฉีจิ่งหลงลุกขึ้นยืน ยิ้มกล่าวว่า “หลิวจิ่งหลงแห่งสำนักกระบี่ไท่ฮุยคารวะแม่นางหนิง”

หนิงเหยายิ้มกล่าว “ดีใจมากที่ได้พบกับอาจารย์หลิว”

ป๋ายโส่วยื่นมือมาปัดนิ้วทั้งห้าของเฉินผิงอันที่วางไว้บนศีรษะตัวเองออก เขารู้สึกมึนงงสับสน คำเรียกขานเช่นนี้ ชวนให้ขบคิดแหะ

เฉินผิงอันสอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ ยิ้มตามไปด้วย

ส่วนกาเหล้าที่วางไว้บนม้านั่งตัวยาวนั้น ก่อนที่เขาจะเอาสองมือสอดกันก็แอบยื่นนิ้วข้างหนึ่งผลักมันไปไว้ข้างกายป๋ายโส่วก่อนแล้ว อาจารย์และศิษย์คู่นี้ เป็นคู่ผีขี้เหล้าน้อยใหญ่ ไม่ค่อยดีเท่าไรเลย ต้องเกลี้ยกล่อมสักหน่อยแล้ว

หนิงเหยานั่งลงข้างกายเฉินผิงอัน

ป๋ายโส่วขยับไปนั่งข้างกายฉีจิ่งหลง ตอนที่ลุกขึ้นยังไม่ลืมหยิบเหล้ากานั้นมาด้วย

หนิงเหยาเป็นฝ่ายเปิดปากชวนคุยว่า “ในอดีตข้าเคยไปท่องเที่ยวอุตรกุรุทวีปมาก่อน เพียงแต่ว่าไม่เคยไปเยือนสำนักกระบี่ไท่ฮุย ส่วนใหญ่ล้วนท่องอยู่ด้านล่างภูเขา”

ฉีจิ่งหลงพยักหน้ารับ “วันหน้าสามารถหวนกลับไปยังอุตรกุรุทวีปพร้อมกับเฉินผิงอันได้ ทัศนียภาพบนยอดเขาเพียนหรานไม่เลวเลยจริงๆ”

หนิงเหยาส่ายหน้า “ช่วงนี้คงจะยาก”

ฉีจิ่งหลงตอบ “ก็จริง”

หนิงเหยาเงียบไปครู่หนึ่งก็หันหน้าไปมองเด็กหนุ่มป๋ายโส่ว

ป๋ายโส่วรีบขยับตัวนั่งตรงอย่างสำรวมทันที

หนิงเหยาเอ่ย “ในเมื่อเป็นลูกศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของอาจารย์หลิว เหตุใดไม่ตั้งใจฝึกกระบี่ให้ดี”

แม้ว่าในประโยคจะมีคำว่า ‘ทำไม’ แต่น้ำเสียงกลับไม่ได้แสดงการซักไซ้

ป๋ายโส่วตอบอย่างระมัดระวังราวกับกำลังตอบคำถามของอาจารย์ที่สอนหนังสืออยู่ในโรงเรียน “พี่หญิงหนิง ข้าจะตั้งใจ!”

หนิงเหยาเอ่ย “ฝึกกระบี่เรียนกระบี่ จำเป็นต้องถามเจตนาเดิมของตัวเอง ถามกระบี่ ถามกระบี่ คือการที่ตนคิดร้อยพันตลบแล้วก็ยังไม่เข้าใจ จึงต้องใช้กระบี่ถามฟ้าดินโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใด ต้องสอนให้ฟ้าดินรู้ว่า ไม่อยากตอบก็ต้องตอบ”

เด็กหนุ่มน้อยใจแต่ไม่กล้าแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า ได้แต่พยักหน้ารับรัวๆ ราวไก่จิกเมล็ดข้าวเปลือก

แต่คำพูดของพี่หญิงหนิงก็ช่างเต็มไปด้วยความองอาจกล้าหาญจริงๆ เวลานี้ฟังคำสอนของพี่หญิงหนิง เขาก็ถึงขั้นอยากดื่มเหล้าแล้ว จะต้องตั้งใจฝึกกระบี่ให้ดีๆ แน่นอน

ฉีจิ่งหลงไม่คิดว่าคำพูดของหนิงเหยามีอะไรไม่เหมาะสม

หากเปลี่ยนมาเป็นคนอื่นที่พูดประโยคนี้ บางทีอาจไม่ถูกกาลเทศะ แต่อยู่ในกำแพงเมืองปราณกระบี่ หนิงเหยาชี้แนะวิชากระบี่ให้แก่ผู้อื่น ก็ไม่ต่างจากเซียนกระบี่ถ่ายทอดความรู้ให้ แล้วนับประสาอะไรกับที่หนิงเหยายังยินดีจะเอ่ยเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าหนิงเหยาต้องการจะพิสูจน์ข่าวลือ แต่เป็นเพราะคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนางคือเพื่อนของเฉินผิงอัน และลูกศิษย์ของเพื่อน ขณะเดียวกันก็เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเป็นผู้ฝึกกระบี่

หนิงเหยาลุกขึ้นเอ่ยขอตัว “ข้าไปปิดด่านต่อแล้ว”

ฉีจิ่งหลงลุกขึ้นตาม “รบกวนการปิดด่านของแม่นางหนิงแล้ว”

หนิงเหยาหันมาพูดกับเฉินผิงอันว่า “ในบ้านยังมีเหล้าที่เก็บเอาไว้เป็นอย่างดีอยู่อีก ไปขอจากท่านปู่น่าหลันได้เลย”

ฉีจิ่งหลงอึ้งตะลึง ก่อนจะอธิบายว่า “แม่นางหนิง ข้าไม่ดื่มเหล้า”

หนิงเหยายิ้มกล่าว “อาจารย์หลิวไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ต่อให้สุราในจวนหนิงมีไม่มากพอ กำแพงเมืองปราณกระบี่นอกจากผู้ฝึกกระบี่แล้วก็สุรานี่แหละที่มีเยอะ”

เฉินผิงอันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง พยักหน้ารับ “นั่นสิๆ”

แล้วแอบยกนิ้วโป้งให้หนิงเหยา

อันที่จริงในบันทึกภูเขาสายน้ำที่เฉินผิงอันเขียนด้วยตัวเองเล่มนั้น สรุปว่าฉีจิ่งหลงชอบดื่มเหล้าหรือไม่ เขาเขียนบอกไว้นานแล้ว แน่นอนว่าหนิงเหยาย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ

พอหนิงเหยาจากไป

ป๋ายโส่วก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เอนตัวพิงพังพาบอยู่กับราวรั้วของศาลา พูดด้วยสายตาที่มีแววตำหนิ “เฉินผิงอัน เจ้าไม่กลัวพี่หญิงหนิงเลยหรือ? ข้ากลัวจะตายอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้พบกับเจ้าสำนักยังไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนเลย”

เฉินผิงอันหัวเราะหึหึ “กลัวอะไรกัน บุรุษตัวโตๆ จะกลัวภรรยาของตัวเองได้อย่างไร”

ฉีจิ่งหลงพลันหันหน้ามองไปยังจุดเชื่อมต่อระหว่างระเบียงทางเดินกับหน้าผาสังหารมังกร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!