เรือนชุนฟาน
สำหรับเรื่องการตรวจสอบบัญชี หมี่อวี้ระมัดระวังรอบคอบ ตั้งใจมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่ง
อันที่จริงนี่ไม่ใช่เรื่องที่หมี่อวี้ถนัด พูดประโยคที่ไม่น่าฟังหน่อย บัญชีที่ผ่านมือของเยี่ยนหมิง น่าหลันไฉ่ฮ่วนมาก่อน หากพวกเขาสองคนคิดจะเบียดบังผลประโยชน์ส่วนรวมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนจริง หมี่อวี้สามารถหาข้อผิดพลาดได้ก็มีเพียงความเป็นไปได้เดียว นั่นคืออิ่นกวานหนุ่มอ่านดูแล้ว จากนั้นก็ให้หมี่อวี้ที่ต้องท่องจำคำพูดของเขานำความมาบอก ดังนั้นน่าหลันไฉ่ฮ่วนกับเยี่ยนหมิงถึงได้เหมาะที่จะร่วมมือกัน แล้วก็ทั้งงัดข้อกันเอง หมี่อวี้ก็เป็นแค่ตะปูที่อิ่นกวานหนุ่มตอกไว้ในเรือนชุนฟานให้พอเป็นพิธีเท่านั้น น่าหลันไฉ่ฮ่วนมองหมี่อวี้ไม่ต่างจากเขาเป็นเซียนกระบี่เกาขุยที่แสร้งทำท่าดื่มเหล้าถ้ำสวรรค์จู๋ไห่คนที่สอง ขอแค่เป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับอิ่นกวานหนุ่ม ล้วนไม่มีใครที่หวังดีต่อนาง
เพียงแต่ว่าหมี่อวี้มักจะเจอปมข้อสงสัยที่ต้องมาขอเคล็ดลับจากเยี่ยนหมิงอยู่เสมอ
ความประทับใจที่เยี่ยนหมิงมีต่อหมี่อวี้นั้นย่ำแย่มาก รู้อะไรเขาก็แค่บอกไปอย่างนั้น สีหน้าดีๆ ย่อมไม่มีให้เห็นอย่างแน่นอน
คนของกำแพงเมืองปราณกระบี่ ขอแค่เป็นคนที่พอจะมีปณิธานสักหน่อย ไม่ว่าขอบเขตนั้นจะพอให้เป็นเซียนกระบี่หรือไม่ ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อย ต่างก็ไม่มีใครที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อเซียนกระบี่หมี่ที่ชอบนอนเมาอยู่บนเมฆเรืองรองผู้นี้ไปได้
หมี่อวี้ถึงขั้นตั้งท่าว่าถามไปแล้วสามครั้ง แล้ววันหน้ายังจะมาถามอีกสามสิบครั้ง
นี่ทำให้น่าหลันไฉ่ฮ่วนยิ่งรู้สึกไม่คุ้นเคยกับหมี่อวี้ตรงหน้าผู้นี้ขึ้นทุกที
และน่าหลันไฉ่ฮ่วนก็คร้านจะปิดบังอะไรต่อหมี่อวี้ นางจึงถามตรงๆ ว่า “หมี่อวี้ เส้นประสาทในสมองเจ้าหายไปหรือไร?”
ผลคือหมี่อวี้ตอบกลับด้วยประโยคว่า “ก็ไม่ใช่เพิ่งจะวันสองวันนี้เสียหน่อย”
น่าหลันไฉ่ฮ่วนเองก็ไม่เกรงใจ เอ่ยว่า “หมี่อวี้ เจ้าไม่เหมาะจะคำนวณบัญชีจริงๆ เช่นนั้นก็อย่ามาถ่วงเวลาการทำธุระสำคัญของเจ้าประมุขเยี่ยนอยู่เลย เรื่องการรับรองแขกนั้น อย่าว่าแต่ตอนนี้เส้าอวิ๋นเหยียนไม่อยู่ในภูเขาห้อยหัวเลย ต่อให้เขาอยู่ในเรือนชุนฟาน ถึงอย่างไรเส้าอวิ๋นเหยียนก็เป็นเซียนกระบี่ต่างถิ่น หากฝั่งของพวกเราไม่มีใครปรากฎตัวเสียแต่เนิ่นๆ จะให้เซียนกระบี่ของเรือนชุนฟานปรากฎตัวอยู่คนเดียวก็คงไม่เหมาะ อันที่จริงคำพูดชวนให้สะอิดสะเอียนที่เจ้าพูดอย่างไม่ใส่ใจก่อนหน้านี้ กลับพอจะมีเหตุผลอยู่บ้าง”
หมี่อวี้ถามอย่างใคร่รู้ “ประโยคไหนรึ?”
เยี่ยนหมิงเอ่ย “ฟ้าร้องมีต้นกำเนิดจากฟ้าแลบ ออกรบต้องสำแดงบารมีอันน่าเกรงขามก่อน”
หมี่อวี้หัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”
คำพูดประโยคนี้เป็นตัวอักษรบนหน้าพัดอันหนึ่งในร้านของตระกูลเยี่ยน การที่หมี่อวี้ยกขึ้นมาพูดก็เป็นแค่คำที่ติดมาเท่านั้น เพราะหลักๆ แล้วยังคงเป็นประโยคอีกฝั่งของพัดที่ว่า ‘คนงามยังไม่มาถึงข้างกายข้า แต่กลิ่นหอมบนร่างนางกลับลอยโชยมาก่อนแล้ว’ ที่ทำให้หมี่อวี้ชอบใจตั้งแต่แรกเห็นมากกว่า ตัวอักษรบนหน้าพัดอันนี้ฝั่งหนึ่งจริงจัง อีกฝั่งหนึ่งใช้ถ้อยคำละมุนละม่อม ทำให้หมี่อวี้รู้สึกว่ามันสร้างมาเพื่อตนโดยเฉพาะ น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่าแม่นางน้อยคนใดใช้ช่องทางลัดซื้อไปได้ก่อน โชคดีที่ทางฝั่งร้านค้าตระกูลเยี่ยนขายสมุดตราประทับตัวอักษรบนหน้าพัดด้วย แถมราคายังไม่ใช่ถูกๆ
ในห้องยังมีคนนอกอีกคนหนึ่งที่กำลังตามองจมูก จมูกมองใจ
ลูกศิษย์ผู้สืบทอดของเส้าอวิ๋นเหยียนแห่งเรือนชุนฟาน เหวยเหวินหลง ผู้มีพรสวรรค์ด้านการคำนวณคนหนึ่ง
เมื่อเทียบกับคนนอกอีกสามคนในห้อง เหวยเหวินหลงระมัดระวังตัวอย่างมาก
เขานั่งอยู่ในห้องบัญชีเพียงลำพัง มีเพียงเผชิญหน้ากับสมุดบัญชีที่น่าเบื่อหน่ายไร้รสชาติในสายตาคนอื่นเท่านั้น เขาถึงจะเป็นเหมือนปลาได้น้ำ
จะว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเพราะเหวยเหวินหลงไม่ค่อยถนัดเรื่องการคบค้าสมาคมกับผู้อื่น สหายสนิทของเขาในชีวิตนี้ถูกกำหนดมาแล้วว่ามีเพียงสองสิ่งอย่างตัวเลขและเงินเทพเซียนเท่านั้น
เรื่องของค่าภาษีที่นา การบริหารการเงิน นับแต่โบราณมาก็ถูกมองเป็นหน้าที่ที่ต่ำต้อย ขุนนางในกรมครัวเรือนยังถึงขั้นถูกดูถูกว่าเป็น ‘ขุนนางน้ำขุ่น’ (ขุนนางที่มีตำแหน่งต่ำ แต่งานหนัก งานยิบย่อย) อันที่จริงทั้งบนและล่างภูเขาต่างก็เป็นเช่นนี้ ยกตัวอย่างเช่นผู้ดูแลเรือข้ามฟากของแปดทวีป มีใครบ้างที่ไม่ใช่คนน่าสงสารที่ไร้ความหวังบนมหามรรคา มิอาจเปิดคอขวดของตัวเองออกได้
นอกจากนี้เหวยเหวินหลงก็เป็นแค่ผู้ฝึกตนโอสถทอง เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าประมุขตระกูลสองท่านที่เป็นผู้ฝึกกระบี่ซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือมานาน กับเซียนกระบี่หมี่ที่หากแค่ฟังยามเขาพูดคุยก็เหมือนคนที่เพิ่งจะเป็นห้าขอบเขตล่าง
เขาก็ไม่ค่อยกล้าหายใจแรงเท่าไรจริงๆ
ผู้ฝึกลมปราณที่เกิดและเติบโตมาในภูเขาห้อยหัว อันที่จริงกำแพงเมืองปราณกระบี่ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับพวกเขา แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยเช่นกัน
กลับกลายเป็นว่าสู้คนต่างถิ่นที่จงใจมาหาประสบการณ์ในภูเขาห้อยหัวไม่ได้ เพราะฝ่ายหลังมักจะตรงดิ่งไปที่กำแพงเมืองปราณกระบี่เสมอ
คนของภูเขาห้อยหัวที่ชั่วชีวิตที่ผ่านมายังไม่เคยไปเยือนกำแพงเมืองปราณกระบี่เหมือนอย่างเขาเหวยเหวินหลงนี้ กลับกลายเป็นว่ามีเยอะมาก
คนที่เหวยเหวินหลงกลัวที่สุด แท้จริงแล้วคือเซียนกระบี่หมี่อวี้ที่ชื่อเสียงระบือไกล
บุรุษเสเพล มักจะแล้งน้ำใจมากที่สุด
แล้วนับประสาอะไรกับที่อีกฝ่ายยังเป็นเซียนกระบี่ท่านหนึ่ง
หมี่อวี้รู้สึกว่าสตรีอย่างน่าหลันไฉ่ฮ่วนพูดจามีเหตุผล ก็เลยยอมรับคำชี้แนะอย่างคนถ่อมตัว ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง
ก่อนที่หมี่อวี้จะออกไป เขาพูดกับเหวยเหวินหลงด้วยสีหน้าเมตตา ถ้อยคำจริงใจว่า “เหวินหลงอ่า เจ้าคือบุคคลมากความสามารถควรค่าแก่การปลูกฝังที่แม้แต่ใต้เท้าอิ่นกวานของพวกเราก็ยังให้ความสำคัญ อย่าได้ดูถูกตัวเองเกินไป ตั้งใจทำงานให้ดี ย่อมมีความหวังบนมหามรรคา วันหน้าพวกเราก็คือสหายกันแล้ว”
เหวยเหวินหลงรีบลุกขึ้นยืน เพียงแต่ว่าท่าทางระมัดระวังสำรวม มองดูแล้วกล้าๆ กลัวๆ อยู่มาก แล้วก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว หมี่อวี้ยิ่งรู้สึกว่าเด็กคนนี้ช่างถูกชะตาจริงๆ เขาจึงบอกให้เหวยเหวินหลงนั่งลงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้
หมี่อวี้เดินไปถึงห้องโถงใหญ่ที่ไร้ผู้คน ก่อนหน้านี้ตำแหน่งที่นั่งของเจ้าของเรือซึ่งเป็นผู้ฝึกตนหญิงหลายคน หมี่อวี้ได้ชำเลืองตามองอยู่หลายครั้งแล้ว
สุดท้ายหมี่อวี้นั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง หยิบเอาแผ่นหยกชิ้นหนึ่งที่เตรียมไว้มอบให้คนอื่นออกมา เรื่องนี้ค่อนข้างจะแปลกประหลาดอยู่สักหน่อย
ป้ายสงบสุขในมือของหมี่อวี้ชิ้นนี้แกะสลักจำนวนเลขเก้าสิบเก้า ก่อนที่ใต้เท้าอิ่นกวานจะจากไปได้กำชับเขาว่า จะต้องมอบมันให้แก่เกาะกุ้ยฮวาเรือข้ามทวีปของนครมังกรเฒ่า
อย่าว่าแต่เจียงเกาไถเจ้าของเรือหนันจีแห่งธวัลทวีปเลย แม้แต่หน้าตาของเซียนกระบี่เส้าก็ยังไม่มีการไว้หน้ากัน
แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ดูแลตัวเล็กๆ ของเรือข้ามฟากตระกูลติงได้เคยมาหาใต้เท้าอิ่นกวานเป็นการส่วนตัวอย่างระมัดระวัง แล้วตั้งราคา ‘ยุติธรรม’ ที่แม้แต่หมี่อวี้ก็ยังประหลาดใจ
แต่ตระกูลติงก็คาดหวังจากใจจริงว่าในอนาคตเรื่องของการเขียนรายการลงบนบัญชี คงต้องรบกวนให้ใต้เท้าอิ่นกวานเปลืองแรงใจสักหน่อย หลีกเลี่ยงไม่ให้ตระกูลติงกลายเป็นเป้าโจมตีของทุกคน ถูกทุกคนเคียดแค้น
อิ่นกวานหนุ่มพยักหน้าตกลงด้วยรอยยิ้ม บอกว่าเรือนชุนฟานจะต้องมอบผลท้อตอบแทนผลหลีอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!