เฉินผิงอันไม่ได้ไปที่ห้องโถงใหญ่ แต่ไปหาเหวยเหวินหลงที่ห้องบัญชี
โฉวเหมียวไม่อยากจะไปเผชิญหน้ากับสมุดบัญชีกองโตอีกแล้ว ตอนอยู่ในคฤหาสน์หลบร้อน โฉวเหมียวก็ต้องเปิดสมุดบัญชีไม่น้อยเหมือนกัน หากพูดตามคำกล่าวของเฉากุ่นก็คือ ขอแค่ข้าผู้อาวุโสออกไปจากคฤหาสน์หลบร้อนได้ ชีวิตนี้ก็ไม่อยากอ่านบัญชีอีกแม้แต่หน้าเดียวแล้ว
แต่เฉินผิงอันกลับลากเอาโฉวเหมียวไปที่นั่นด้วย
เหวยเหวินหลงเห็นใต้เท้าอิ่นกวานหนุ่มกับเซียนกระบี่โฉวเหมียวก็ยิ่งหวาดหวั่นกริ่งเกรง
เหวยเหวินหลงย้ายหนังสือเบ็ดเตล็ดส่วนหนึ่งมาไว้ทางด้านนี้ เฉินผิงอันหยิบขึ้นมาหนึ่งเล่ม พลิกเปิดอ่านดูก็ต้องตกตะลึงระคนดีใจ ผู้เชี่ยวชาญแค่ยื่นมือออกไปก็รู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ร้ายกาจแค่ไหน หากเหวยเหวินหลงผู้นี้เป็นชั้นวางดอกไม้ชั้นหนึ่ง เฉินผิงอันก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถกินสมุดที่ถืออยู่ในมือเล่มนี้ลงไปได้แล้ว
เพราะ ‘หนังสือเบ็ดเตล็ด’ ที่เหวยเหวินหลงเขียนขึ้นเพื่อฆ่าเวลาพวกนี้กลับเป็นเอกสารคดีลับของกรมครัวเรือนอดีตราชวงศ์สกุลหลูของแจกันสมบัติทวีป นี่ก็น่าจะเป็นคุณความชอบของเรือข้ามทวีปแห่งนครมังกรเฒ่า
เหวยเหวินหลงกระวนกระวายเล็กน้อย เขาแข็งใจอธิบายเสียงเบาว่า “ใต้เท้าอิ่นกวาน ก็แค่อยู่ว่างไม่มีอะไรทำ ไม่จำเป็นต้องคิดบัญชี ข้าก็เลยอ่านบันทึกของกรมครัวเรือนของราชวงศ์ที่ล่มสลายไปแล้วของทวีปใหญ่แต่ละแห่ง ราคาไม่แพง ล้วนซื้อมาเป็นกระสอบ เมื่อเทียบกับของที่ค่อนข้างล้ำค่าพวกนั้นแล้วก็จ่ายเงินไปแค่ไม่กี่เหรียญเงินเกล็ดหิมะเท่านั้น อีกอย่างอาศัยหน้าตาของอาจารย์ข้า เรือข้ามทวีปหกลำของนครมังกรเฒ่าต่างก็เกรงใจกันมาก จึงเหมือนซื้อครึ่งแถมครึ่ง”
เฉินผิงอันตบไหล่เหวยเหวินหลง ยิ้มกว้างเอ่ยว่า “ได้เจอยอดฝีมือแล้ว!”
เหวยเหวินหลงตัวเซ แต่อันที่จริงเป็นเพราะตกใจซะมากกว่า
เหวยเหวินหลงยิ้มอย่างฝืนเฝื่อน ในใจกระวนกระวาย ไม่เสียแรงที่เป็นใต้เท้าอิ่นกวานเซียนกระบี่ใหญ่ แรงมือช่างน่ากลัวนัก
เฉินผิงอันยกเก้าอี้ขยับมานั่งใกล้เหวยเหวินหลง แล้วเริ่มสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์การเก็บภาษีในแต่ละปีของราชวงศ์ต้าหลี
เหวยเหวินหลงตอบได้อย่างลื่นไหล ยังพูดถึงอุบายเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างของขุนนางกรมครัวเรือนในอดีตด้วย แต่เขาก็บอกว่าช่วงเกือบร้อยปีที่ผ่านมาภาษีของกรมครัวเรือนราชวงศ์ต้าหลี แต่ละปีเหมือนมีเมฆหมอกบดบังหนาขึ้นเรื่อยๆ แล้วนับประสาอะไรกับที่สำหรับราชวงศ์ใหญ่เช่นนี้แล้ว การเคลื่อนที่ของตัวเลขบนสมุดบัญชีล้วนเป็นเรื่องเลื่อนลอยจับต้องไม่ได้ ประเด็นสำคัญคือยังต้องดูที่สมุดบัญชีขุนเขาสายน้ำที่เป็นเอกสารลับซึ่งจะเก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิดมากกว่า ไม่อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงป๋ายอวี้จิงจำลองในเมืองหลวงต้าหลี ลำพังเพียงแค่เรือข้ามทวีปขุนเขากับเรือกระบี่ที่อาจารย์กลไกสำนักโม่สร้างขึ้นให้ต้าหลี นั่นจำเป็นต้องผลาญเงินเทพเซียนไปกี่มากน้อย? เหวยเหวินหลงเดาว่านอกจากสำนักโม่แล้ว จะต้องยังมีสำนักการค้าที่ช่วยประคับประคองการหมุนเวียนด้านทรัพย์สินเงินทองให้กับต้าหลีอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่เงินเทพเซียนบนภูเขาไปจนถึงเงินทองเหรียญทองแดงล่างภูเขา ป่านนี้ก็ควรแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดีไปนานแล้ว
เห็นได้ชัดว่าเหวยเหวินหลงสามารถจัดการเรื่องภาษีได้อย่างแท้จริง นี่ก็แสดงว่าเขาจะต้องเข้าใจกฎเกณฑ์ชุดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับมัน
เฉินผิงอันโยนคำถามเปิดประเด็นที่เล็กมาก ก็เพื่อให้เหวยเหวินหลงได้พูดออกมาอย่างเต็มที่
พอพูดถึงเรื่องเงินทอง เหวยเหวินหลงก็กลายเป็นเหวยเหวินหลงอีกคนไปเลย
เข้าใจระเบียบขั้นตอน คุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ ชำนาญการคิดคำนวณ
เฉินผิงอันตั้งใจฟังอย่างยิ่ง
ความรู้วิชานี้ช่างล้ำค่าจริงๆ
เป็นครั้งแรกที่เซียนกระบี่โฉวเหมียวได้เห็นอิ่นกวานหนุ่มมีสีหน้าสดชื่นชนาดนี้
เฉินผิงอันพลันเอ่ยว่า “คุณธรรมของคนทำการค้าต้องมีสูงส่งมีคุณภาพ ทุนทรัพย์ของคนทำการค้าต้องไหลคล่องดุจสายน้ำ”
เหวยเหวินหลงอึ้งตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยเบาๆ ว่า “ไยจึงต้องมีวิถีแห่งการปกครองบ้านเมือง?”
เฉินผิงอันยิ้มบางๆ “ราคาธัญพืชสูงเกินพ่อค้าย่อมไม่ได้กำไร ราคาธัญพืชมั่นคง สามารถนำของอย่างอื่นมาแลกเปลี่ยนได้ ภาษีของการซื้อขายในตลาดจึงจะรุ่งโรจน์ไม่ซบเซา”
เหวยเหวินหลงถามอีก “วัตถุประสงค์คืออะไร?”
เฉินผิงอันตอบ “เงินทองจะได้ไหลสะพัดดุจสายน้ำ!”
เหวยเหวินหลงยิ้มกล่าวอย่างอดไม่อยู่ สองมือกดลงบนโต๊ะ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “สหายบนเส้นทางการฝึกตน สมกับเป็นสหายบนเส้นทางการฝึกตนจริงๆ!”
จากนั้นเหวยเหวินหลงก็พลันรู้สึกกระอักกระอ่วน ดึงมือกลับมาอย่างขลาดๆ พยายามเก็บสีหน้าให้ตัวเองดูสำรวม เอ่ยเบาๆ ว่า “ใต้เท้าอิ่นกวาน ล่วงเกินท่านแล้ว”
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “เป็นคนบนเส้นทางเดียวกัน ล่วงเกินกับท่านปู่เจ้าน่ะสิ วันหน้าก็เรียกข้าว่าสหายเฉินนั่นแหละ! จะเรียกว่าพี่ชายคนดีก็ได้”
โฉวเหมียวอดไม่ไหวถามว่า “พวกเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องความรู้ของวิชาสำนักการค้ากันอยู่หรือ?”
เฉินผิงอันโบกมือ “เกี่ยวข้องอยู่มาก แต่จะเอามาพูดรวมกันไม่ได้เด็ดขาด”
เหวยเหวินหลงชำเลืองตามองเซียนกระบี่โฉวเหมียวที่นั่งเฉยราวกับหุ่นไม้ แล้วเกือบอดไม่ไหวกลอกตามองบนใส่อีกฝ่าย แค่เปิดปากพูดก็รู้แล้วว่าเป็นคนนอกสาขาวิชา ไม่เชี่ยวชาญจนเข้าขั้นเลอะเลือน เหอะ เป็นเซียนกระบี่เสียเปล่า
มิน่าเล่าถึงเป็นใต้เท้าอิ่นกวานของกำแพงเมืองปราณกระบี่ไม่ได้
เฉินผิงอันมองสีท้องฟ้านอกหน้าต่างแวบหนึ่ง ทิ้งเหล้าหมักกุ้ยฮวากาหนึ่งไว้บนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกล่าว่า “ยินดีต้อนรับเจ้าไปเป็นแขกที่คฤหาสน์หลบร้อนของพวกเราในวันหน้า หากยินดีไปอยู่ยาวก็ยิ่งดี ข้าจะช่วยหาเรือนว่างหลังหนึ่งให้เจ้า แต่อันดับแรกก็ต้องรอให้เรื่องของการค้ากับเรือแปดทวีปเริ่มเข้ารูปเข้ารอยเสียก่อน ไม่อย่างนั้นอาจถ่วงงานสำคัญ ไม่รีบร้อนๆ ข้ากลับคฤหาสน์หลบร้อนไปแล้วจะช่วยทำความสะอาดเรือนเดี่ยวให้เจ้าเอาไว้ก่อน”
เหวยเหวินหลงลุกขึ้นยืน “ใต้เท้าอิ่นกวาน อย่าลำบากท่านเลย อย่าเลย”
เฉินผิงอันโบกมือ “ตกลงตามนี้”
แล้วก็ออกจากห้องไป เวลานี้เป็นช่วงปลายฤดูหนาว เฉินผิงอันจึงถูมือเข้าหากันให้อบอุ่นด้วยความเคยชิน
เซียนกระบี่โฉวเหมียวยิ้มกล่าว “อารมณ์ไม่เลวหรือ?”
เฉินผิงอันยิ้มตอบ “อารมณ์ดีมากเลยล่ะ”
หากมีโอกาส ในอนาคตจะต้องหลอกเอาตัวเหวยเหวินหลงไปอยู่ที่ภูเขาลั่วพั่วให้ได้
สามารถมอบพื้นที่มงคลรากบัวแห่งนั้นให้เหวยเหวินหลงได้ซ้อมมือ
เซียนกระบี่โฉวเหมียวมองอิ่นกวานหนุ่มที่หัวเราะอย่างโง่งม แล้วยิ้มถามว่า “เหวยเหวินหลงผู้นี้ร้ายกาจมากขนาดนั้นจริงๆ หรือ?”
เฉินผิงอันพยักหน้า “เอาเรือนชุนฟานทั้งหลังมาแลกกับข้า ข้ายังไม่แลกด้วยเลย”
โฉวเหมียวถาม “แล้วถ้าบวกกับสวนดอกเหมยเข้าไปด้วยล่ะ?”
เฉินผิงอันบ่น “เซียนกระบี่ใหญ่โฉวเหมียว พูดคุยกันแบบนี้มันน่าเบื่อมากเลยนะ”
โฉวเหมียวพลันใช้เสียงในใจเอ่ยว่า “สายอิ่นกวานวางแผนมากมายขนาดนี้ ประสิทธิผลนั้นมีอยู่ และสามารถยืดเวลาไปได้อีกครึ่งปี หากเรื่องของการค้าเรือข้ามฟากแปดทวีปไม่มีเรื่องไม่คาดฝันใหญ่ใดๆ เกิดขึ้น ก็น่าจะมีเวลาเพิ่มมาอีกหนึ่งปี เพราะฉะนั้นยังขาดอีกหนึ่งปีครึ่ง”
โฉวเหมียวสามารถถูกมองเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหรือหนึ่งในตัวเลือกของผู้รับตำแหน่งใต้เท้าอิ่นกวานคนถัดไปได้ ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
เฉินผิงอันสบถด่ามารดาไปคำหนึ่ง
โฉวเหมียวยิ้มถาม “ด่าใครน่ะ?”
เฉินผิงอันตอบ “ไม่ได้ด่าเซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโสก็แล้วกัน”
โฉวเหมียวยิ้มบางๆ “แนะนำใต้เท้าอิ่นกวานว่าอย่ามองข้าเป็นเซียนกระบี่ใหญ่หมี่อวี้ดีกว่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!