กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 652

ท่าเรือหนิวเจี่ยว ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เรือข้ามฟากของกองทัพต้าหลีที่มาเยือนเท่านั้น ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีเรือพ่อค้ามาจอดเทียบท่ามากขึ้นเรื่อยๆ

ทำเอาเผยเฉียนที่ได้เห็นดวงตาเป็นประกาย นั่นคือเงินเทพเซียนที่ไหลพรวดๆ เข้าสู่กระเป๋าเงินของอาจารย์พ่อทั้งนั้นเลยนะ

‘ออกจากบ้านเดินทางไกล’ ครั้งนี้ เพราะว่าอยู่ในถิ่นของบ้านตัวเอง ดังนั้นแม่นางน้อยชุดดำที่อยู่ข้างกายเผยเฉียนที่แบกคานหาบเล็กๆ ไว้บนไหล่ ในมือถือไม้เท้าเดินป่าจึงรู้สึกว่าตนเองจะมีหน้ามีตา มีอำนาจบารมีไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

โจวหมี่ลี่ยังมีความเสียดายอยู่นิดๆ ที่ตนไม่อาจแปะยันต์สองแผ่นไว้บนหน้าผากได้ ยันต์แผ่นหนึ่งเขียนคำว่าผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาแห่งภูเขาลั่วพั่ว อีกแผ่นหนึ่งเขียนว่าภูตน้ำใหญ่แห่งทะเลสาบคนใบ้

เฉินหน่วนซู่อยู่ห่างไปไม่ไกล กำลังพูดเรื่องยิบย่อยให้เฉินหลิงจวินที่กำลังจะเดินทางไปอุตรกุรุทวีปฟัง ทำเอาเฉินหลิงจวินที่ฟังอยู่อ้าปากหาวตลอด

เผยเฉียนยกสองมือกอดอด กวาดตามองไปรอบด้าน มองขุนเขาสายน้ำอันยิ่งใหญ่งดงามของอาจารย์พ่อแล้วพยักหน้าเบาๆ อย่างพึงพอใจ

โจวหมี่ลี่ถามเสียงเบา “เฉินหลิงจวินกำลังจะจากไปแล้ว พวกเราไม่ควรเอ่ยอะไรสักคำสองคำหรือ? จากนั้นก็บีบน้ำตาออกมานิดๆ แบบนั้นน่าจะดูจริงใจกว่านะ”

เผยเฉียนกลอกตามองบน “วัตถุประสงค์หลายข้อของภูเขาลั่วพั่วล้วนถูกเจ้ากินไปหมดเหมือนข้าวในถ้วยแล้วหรือ?”

เผยเฉียนเอามือออกมาลูบศีรษะของเจ้าฟักแคระ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังดี “อาจารย์พ่อของข้าเคยบอกว่า หลักการเหตุผลก็คือถ้วยขาวใบใหญ่ วัตถุนอกกายอย่างอื่นจึงจะเป็นกับข้าวที่ใส่ไว้ในถ้วย ขอแค่ถ้วยไม่หายไป จะอย่างไรก็ยังได้กินข้าว ถ้าอย่างนั้นหลักการเหตุผลคืออะไร ข้าคิดไม่ออก หมี่อวี้เจ้าที่หัวสมองเลอะเลือนก็ยิ่งไม่ได้ความ ดังนั้นพวกเราแค่ต้องจำกฎของภูเขาลั่วพั่วเอาไว้ก็พอ ไม่มีทางทำผิดเป็นแน่”

โจวหมี่ลี่ขมวดคิ้ว แต่ไม่นานหัวคิ้วก็คลายออก นางเข้าใจแล้ว จึงเอ่ยเสียงเบา “พูดกับเฉินหลิงจวินประโยคหนึ่ง พวกเราก็ต้องมอบของขวัญก่อนจากลาให้ งั้นก็อย่าทำ! ถึงอย่างไรพวกเราก็สนิทกันมากขนาดนี้ ก็อย่าทำเรื่องที่ไร้สาระแบบนั้นเลย!”

เผยเฉียนดึงแก้มของหมี่ลี่น้อย หัวเราะฮ่าๆ “อะไรกับอะไรของเจ้าเนี่ย”

โจวหมี่ลี่หัวเราะคิกคักตามไปด้วย

เผยเฉียนยืนอยู่ที่เดิม สูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งเฮือก จากนั้นก็ออกหมัดในระยะที่สั้นมากและช้ามาก พลางพูดกับตัวเองไปด้วยว่า “ขยุ้มนิ้วเข็มหนึ่งเล่ม หมัดกวาดไปแถบใหญ่ ออกหมัดเหมือนยิงธนู เก็บหมัดเหมือนกระบี่บิน…”

โจวหมี่ลี่ถาม “อะไรน่ะ?”

เผยเฉียนยังคงออกหมัดเชื่องช้า พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “หลังจากวิชากระบี่มารคลั่งแล้ว ข้ายังสร้างวิชาหมัดล้ำโลกขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง คาถาเป็นข้าที่แต่งขึ้นมาเอง ร้ายกาจสุดๆ ไปเลย”

จากนั้นเผยเฉียนก็เริ่มพูดจาเหลวไหลส่งเดช “วิชาหมัดบนโลกใบนี้ นอกจากวิชาหมัดของอาจารย์พ่อข้าที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว ก็ยังมีอีกสองชนิดที่ร้ายกาจมากเหมือนกัน หนึ่งคือวิชาหมัดหวังปาที่เรียนสำเร็จได้ด้วยตัวเอง อีกหนึ่งคือพรรคสะพานสวรรค์ที่เรียนรู้วิชามาจากผู้อื่น”

โจวหมี่ลี่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โง่สักหน่อย แต่ก็ยังอดกึ่งเชื่อกึ่งกังขาไม่ได้ “วิชาหมัดนี้ของเจ้าเป็นวิชาที่ร้ายกาจแค่ไหน? ฝึกวิชาหมัดแล้วสามารถบินไปบินมาได้หรือไม่?”

เผยเฉียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “นั่นก็ต้องเป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกลก่อนถึงจะทำได้ ข้ายังเร็วไปนัก หากไม่มีเวลาอีกสักหลายๆ ปีก็ทำไม่ได้เด็ดขาด”

โจวหมี่ลี่กระทืบเท้า พูดอย่างขุ่นเคือง “นานขนาดนี้เชียว! จะต้องแทะเมล็ดแตงกี่มากน้อยถึงจะทำสำเร็จ!”

เผยเฉียนกล่าวอย่างจนใจ “เจ้าคิดว่าเป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตแปดเป็นเรื่องง่ายนักหรือ”

โจวหมี่ลี่อึ้งตะลึง กอดไม้เท้าไว้ในอ้อมอก อีกมือหนึ่งยกขึ้นเกาแก้ม “แต่เจ้าคือเผยเฉียนนะ”

เผยเฉียนยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง เก็บหมัดกลับคืน กดศีรษะของหมี่ลี่น้อยโยกไปโยกมา “หัวเล็กๆ นี้ของเจ้า มองดูแล้วก็ไม่ใหญ่ เหตุใดถึงได้ฉลาดหลักแหลมแบบนี้นะ”

โจวหมี่ลี่ปล่อยศีรษะโยกไปตามมืออีกฝ่ายอยู่นาน แล้วจู่ๆ ก็ถอนหายใจ “เหตุใดเจ้าขุนเขาไม่กลับมาบ้านสักทีนะ”

เผยเฉียนหัวเราะ “ก็บอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือว่า อยู่ที่กำแพงเมืองปราณกระบี่ แล้วก็เพราะอาจารย์พ่อของข้าช่วยป่าวประกาศแทนเจ้า ตอนนี้เรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับภูตใหญ่ของทะเลสาบคนใบ้ล้วนแพร่สะพัดไปทั่วแล้ว นั่นคือใต้หล้าอีกแห่งหนึ่งเชียวนะ! เจ้าน่ะ จงยินดีเถอะ”

โจวหมี่ลี่เริ่มเกาแก้มอีกครั้ง “แต่ข้ายอมไม่ให้เขาเล่าเรื่องนะ อยากให้เขากลับมาบ้านเร็วๆ มากกว่า”

เผยเฉียนทำหน้าทะเล้นใส่ “อาจารย์พ่อของข้ากลับมาบ้านแล้ว เจ้าจะเลี้ยงปลาผักดองเขาหรือไร?”

โจวหมี่ลี่ยู่หน้า พูดอย่างขลาดๆ “ไม่กินจานใหญ่ กินจานเล็กแทนได้ไหม?”

เผยเฉียนอารมณ์ดีทันใด แต่ก็อดเสียใจนิดๆ ไม่ได้

นับแต่ที่เติบใหญ่ ก็ยากที่จะเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความกลัดกลุ้มน้อยหรือใหญ่ ก็ล้วนเป็นเหมือนแขกที่มาเยือนประตูหัวใจ มาเร็วก็จากไปเร็วเช่นกัน

เมื่อก่อนเผยเฉียนไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์พ่อถึงไม่อยากให้ตนกับพี่หญิงเป่าผิงเติบโตเร็วเกินไปนัก

ตอนนี้มองหมี่ลี่น้อย เผยเฉียนก็เริ่มเข้าใจแล้ว

เฉินหลิงจวินกำลังจะขึ้นเรือข้ามฟากลำนั้นแล้ว เผยเฉียนจึงตบศีรษะโจวหมี่ลี่เบาๆ “ไป ไปบอกลากัน จำไว้ล่ะว่า อาจารย์พ่อเคยบอกว่า หากมีสหายต้องโดยสารเรือข้ามฟากตระกูลเซียนเดินทางไกล พวกเราห้ามพูดว่าเดินทางตามลมเด็ดขาด” (มาจากประโยค 一路顺风 แปลว่าเดินทางปลอดภัย เดินทางโดยสวัสดิภาพ แต่หากแปลตรงตัวจะแปลได้ว่าไปตามลม โดยทั่วไปหากมีคนที่ต้องเดินทางโดยเครื่องบิน คนจีนจะไม่นิยมใช้คำนี้อวยพรเวลาเดินทาง เพราะหากไปตามลม ลมมีขึ้นมีลง จึงอาจเป็นลางหมายถึงเครื่องตก)

โจวหมี่ลี่พยักหน้ารับแรงๆ “ทราบแล้วๆ!”

เด็กโง่หน่วนซู่คนหนึ่ง บวกกับเผยเฉียนและหมี่ลี่น้อย ต่างก็มาบอกลาเขา

เฉินหลิงจวินรู้สึกปรับตัวไม่ทันอยู่บ้าง แต่แม้จะอึดอัดเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ยังดีใจมากด้วย เพียงแต่ว่าไม่ยินดีจะแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้าเท่านั้น

หลังจากที่เฉินหลิงจวินจากไปแล้ว

เผยเฉียนสามคนก็รอกระทั่งเรือข้ามฟากทะลุทะเลเมฆไป ถึงจะเดินทางกลับภูเขาลั่วพั่วกัน

เฉินหน่วนซู่หันไปมองทะเลเมฆแวบหนึ่ง

เผยเฉียนเอ่ยเสียงเบาว่า “วางใจเถอะ ไม่เป็นไรหรอก อย่าเห็นว่าเวลาปกติเฉินหลิงจวินทำตัวไม่เป็นการเป็นงาน อันที่จริงเขาฉลาดมากเลยล่ะ”

เฉินหน่วนซู่คลี่ยิ้ม เผยเฉียนยกมือข้างหนึ่งมาจับจูงมือของแม่นางน้อย

ตอนนี้ส่วนสูงของเผยเฉียนเกินพวกนางไปมากแล้ว

ในที่สุดก็คล้ายเด็กสาวคนหนึ่งแล้ว

เฉินหลิงจวินที่อยู่ในห้องพักบนเรือข้ามฟากไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ จึงนั่งฟุบตัวเหม่อลอยอยู่บนโต๊ะ

อันที่จริงตอนที่อยู่บนท่าเรือหนิวเจี่ยว นาทีที่เดินขึ้นมาบนเรือข้ามฟากของสำนักพีหมา เฉินหลิงจวินก็รู้สึกเสียใจภายหลังแล้ว เขานึกอยากจะกระโดลงจากเรือ แอบดอดกลับไป ถึงอย่างไรกิจการของภูเขาลั่วพั่วในทุกวันนี้ก็ยิ่งใหญ่ พื้นที่อาณาเขตก็มีมากมาย จะหาสถานที่สักแห่งหลบซ่อนตัว คาดว่าที่เว่ยป้อเห็นเขาแล้วหงุดหงิดก็คงไม่แน่เสมอไปว่าจะเอาเรื่องนี้ไปพูดให้พวกพ่อครัวเฒ่า พวกเผยเฉียนฟัง ผ่านไปสักพักค่อยโผล่หน้าไปที่ภูเขาลั่วพั่ว หาเหตุผลสักข้อหลอกให้พวกเขาลืมๆ ไป อย่างเช่นว่าลืมเลือกวันฤกษ์ดีจากปฏิทิน เป็นห่วงภูเขาหวงหู จำได้ว่าต้องไปบอกลาพวกสหายที่แม่น้ำอวี้เจียงกับแม่น้ำสายอื่นๆ ก่อน อันที่จริงตั้งใจฝึกตนอยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดี…

บนโต๊ะวางหีบไม้ไผ่ใบใหญ่ไว้ใบหนึ่ง อันที่จริงคราวนี้ซานจวินใหญ่เว่ยทำตัวใจกว้างอย่างที่หาได้ยาก ยังให้เขายืมวัตถุจื่อชื่อมาด้วยชิ้นหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!