ตรงลำคอของจวินทานค่อยๆ มีหยดเลือดหลั่งออกมาติดกันเป็นสาย
กระบี่บินใต้ฝ่าเท้าของเด็กหนุ่มเริ่มสั่นสะเทือนราวกับถูกมหามรรคาของฟ้าดินสยบกำราบ
กายธรมร่างทองของเทพหญิงที่ปกป้องเด็กหนุ่มเอาไว้ก็เริ่มเกิดลางว่าจะหลุดลอกออกไปทีละชุ่น เรือนกายสีทองพร่างพราวที่เดิมทีไร้ตำหนิถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว
จวินทานบังคับกระบี่เข้ามาอยู่ในมือ อีกมือหนึ่งปาดเลือดบนลำคอออกเบาๆ
เห็นได้ชัดว่าเป็น ‘สถานที่ไร้กฎเกณฑ์’ แห่งหนึ่งที่มีไว้เล่นงานผู้ฝึกลมปราณทุกคนบนโลก
แล้วยังเกือบจะถูกไอ้หมอนั่นตัดหัวไปได้
ในที่สุดเด็กหนุ่มก็เข้าใจความรู้สึกของพวกคนที่ต้องรับมือกับอิ่นกวานหนุ่มแล้ว
จริงๆ เท็จๆ ภาพมายาหรือสิ่งที่จับต้องได้จริง ล้วนเป็นการถามใจ ล้วนเป็นแผนการทั้งสิ้น
บนหัวกำแพงเมืองของกำแพงเมืองปราณกระบี่ เว่ยจิ้นเอ่ยถามเซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโส “ไม่ต้องให้ข้าไปช่วยเขาฝ่าวงล้อมจริงๆ หรือ?”
เฉินชิงตูยิ้มกล่าว “ฝ่าวงล้อม? ฝ่าวงล้อมของใคร? เฉินผิงอันหรือเจ้าเว่ยจิ้นกันแน่? เจ้าคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่มีทางหนีทีไล่รออยู่หรือ? พูดถึงแค่ตัวอ่อนเซียนกระบี่ที่ดีเยี่ยมอย่างถึงที่สุดห้าคนนั้น ใครเป็นคนรับผิดชอบพาพวกเขาออกไปจากที่นี่? หากใครคนใดคนหนึ่งตายไป กระโจมเจี่ยจื่อย่อมต้องเจ็บปวดรวดร้าวทั้งนั้น”
เว่ยจิ้นเอ่ย “มีลู่จือช่วยคุมหลังให้ ข้าก็สามารถลองดูได้”
เฉินชิงตูส่ายหน้า “รอไปก่อนเถอะ ใครลงมือทีหลัง คนนั้นก็ได้เปรียบ”
เฉินชิงตูทอดสายตามองไปยังกระโจมทัพเผ่าปีศาจที่ตั้งเรียงรายทางทิศใต้ ปีศาจใหญ่บนบัลลังก์สิบสี่ตน ต่อให้เป็นโจวมี่ที่ลงมือก็ยังพูดได้ง่าย มีเพียงหลิวชาผู้นั้นที่หากเขามีเหตุผลให้ออกกระบี่ ทางฝ่ายของกำแพงเมืองปราณกระบี่นี้ก็จะยุ่งยากแล้ว
ยกตัวอย่างเช่นลูกศิษย์ผู้สืบทอดที่หลิวชาฝากความหวังไว้มากตายไป
ถึงเวลานั้นเขาเฉิงชิงตูย่อมไม่สะดวกจะออกกระบี่
ถ้าอย่างนั้นใครจะเป็นคนขัดขวาง? ต่งซานเกิงถูกลากตัวไปอยู่ที่แม่น้ำเส้นยาวสีทอง ลู่จือ? อยู่ไกลเกินกว่าจะพอ ต่อให้บวกกับคนคุกเฒ่าหูหนวกที่มีเหตุผลให้ออกกระบี่ตามกัน ก็ยังไม่พออยู่ดี
……
ตีนเขาของภูเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากจวินทานไปไกลมาก เฉินผิงอันที่ไปและกลับเพียงแค่เสี้ยววินาที เวลานี้ยืนอยู่บน ‘เส้นสายภูเขาเส้นหนึ่ง’ ที่ค่อนข้างจะเล็กบาง
ใต้ฝ่าเท้าของเฉินผิงอันก็คือศพของโหวขุยเหมินที่พอตายไปแล้วก็เผยร่างจริงของเผ่าปีศาจ ส่วนเสื้อเกราะ กวานม่วงทองและขนนกสองชิ้น ก่อนหน้านี้พอพุ่งชนพื้นดิน แม้จะเสียหายแต่ยังไม่แหลกสลาย ตามหลักแล้วป่านนี้ย่อมต้องถูกใต้เท้าอิ่นกวานเก็บเอามาใส่ไว้ในกระเป๋าหมดแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้เฉินผิงอันกลับไม่เก็บเอามาทั้งหมด เอาแค่ขนนกมาเก็บใส่ไว้ในวัตถุจื่อชื่อที่เยี่ยนหมิงใช้การแลกเปลี่ยนมาให้เขา ‘ยืมใช้ชั่วคราว’ เท่านั้น ไม่เพียงเท่านี้ ข้าวของทั้งหมดที่เก็บไว้ในวัตถุจื่อชื่อก่อนหน้านี้ก็ล้วนถูกขนย้ายออกไปจนหมด
ส่วนเสื้อเกราะและกวานม่วงทองของโหวขุยเหมินนั้นได้ถูกเฉินผิงอันใช้เวทย้ายขุนเขานำไปวางไว้ยังตำแหน่งที่ห่างไกลจากศพของโหวขุยเหมิน
เวลานี้เฉินผิงอันบาดเจ็บสาหัสมาก สีหน้าของเขาซีดขาว เป็นเหตุให้แขนขวาทั้งแขนไม่อยู่ในการควบคุม มันสั่นเบาๆ อยู่ตลอดเวลา สำหรับเฉินผิงอันแล้วนี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากอย่างถึงที่สุด
การลงมือของโหวขุยเหมินก่อนหน้านี้อำมหิตอย่างยิ่ง นั่นเท่ากับว่าเฉินผิงอันต้องรับหมัดเต็มกำลังของผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบอย่างจัง หากไม่เป็นเพราะขยับเบี่ยงหลบมาได้เล็กน้อย ป่านนี้ก็คงถูกหมัดนั้นของโหวขุยเหมินต่อยทะลุหัวใจไปแล้ว
หากเกิดบนสนามประลองยุทธ โดนหมัดขอบเขตสิบขั้นสูงสุดแล้วไม่ตาย รสชาตินั้นย่อมดีเยี่ยมอย่างถึงที่สุด แต่เวลานี้มองดูเหมือนเขากำลังปั่นหัวเด็กหนุ่มผู้ฝึกกระบี่อยู่ในกำมือ แต่แท้จริงแล้วเฉินผิงอันก็ยังยากจะหนีพ้นจากสถานการณ์ล้อมสังหารครั้งนี้ไปได้ ถ้าอย่างนั้นรสชาติย่อมแย่อย่างถึงที่สุดแล้ว
เมื่อครู่นี้โจมตีเด็กหนุ่มผู้ฝึกกระบี่ไม่สำเร็จ เฉินผิงอันเองก็จนใจมากเหมือนกัน หากเป็นช่วงที่ร่างกายของตนอยู่ในสภาวะพร้อมอย่างเต็มที่ ป่านนี้หัวของผู้ฝึกกระบี่ผู้มีพรสวรรค์คนนั้นคงมาอยู่ในวัตถุฟางชุ่นของเขาแล้ว
แต่ยิ่งเด็กหนุ่มถูกพันธนาการอยู่ที่นี่ ไม่อาจฝ่าฟ้าดินขนาดเล็กแห่งนี้ออกไปได้นานเท่าไร เฉินผิงอันก็ยิ่งฟื้นตัวได้มากเท่านั้น
เฉินผิงอันมองท่วงท่าที่เด็กหนุ่มถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องกันเอาไว้เป็นนานก็ยังไม่ยอมถอนสายตากลับ
จวินทานไม่มองกายธรรมบนยอดเขาที่แสร้งทำท่าหลับตาคล้ายทำสมาธินั่นอีก
เด็กหนุ่มจ้องเขม็งไปยังจุดห่างไกลที่ยังมีลมปราณเสี้ยวหนึ่งหลงเหลืออยู่ แม้จะมองเห็นภาพเหตุการณ์ตรงตีนเขานั่นได้ไม่ชัดเจน แต่เด็กหนุ่มก็มั่นใจเลยว่าร่างจริงของอิ่นกวานหนุ่มต้องซ่อนตัวอยู่ที่นั่น
กายธรรมบนยอดเขาลืมตาขึ้น สองนิ้วทำมุทรากระบี่ กระบี่ยักษ์หลายเล่มที่อยู่ในกล่องกระบี่ด้านหลังพากันแหวกอากาศพุ่งเข้าหาจวินทาน
กายธรรมของนักดนตรีที่ใช้สองมือปกป้องเรือนกายของเด็กหนุ่มหมุนตัวหันหลังให้กระบี่บินที่ใหญ่ราวกับเรือข้ามฟากตระกูลเซียน
จวินทานกัดฟัน กระอักเลือดสดออกมาคำหนึ่ง
กระบี่พกที่มีแสงสายฟ้าตัดสลับกันพลันลอยอยู่ระหว่างฟ้าดิน ระหว่างปลายกระบี่และหางของด้ามกระบี่มีแสงกระบี่เส้นหนึ่งเปล่งประกายขึ้นมา ก่อนจะแยกตัวสาดยิงไปยังม่านฟ้าและพื้นดิน
เฉินผิงอันจึงใช้วิชาอภินิหารพับขุนเขาสายน้ำที่ทำได้ตามใจปรารถนา พยายามเปลี่ยนแปลงวิถีการโคจรของแสงกระบี่ทั้งสองเส้น หากเปลี่ยนเส้นทางสักเล็กน้อย แสงกระบี่ไม่พุ่งออกมาเป็นเส้นตรง เฉินผิงอันก็จะสามารถทำให้ผู้ฝึกกระบี่เด็กหนุ่มคนนั้นมิอาจสำรวจตรวจสอบเส้นอาณาเขตของฟ้าดินแห่งนี้ได้
คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มจะระเบิดกระบี่พกเล่มนั้นของตัวเองทิ้งโดยตรง แสงกระบี่จึงพลันขยายใหญ่ ค้ำยันอยู่ระหว่างฟ้าดินคล้ายเสาต้นหนึ่ง
อันที่จริงกระบี่พกเล่มนั้นคือกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มที่สองของจวินทาน
ขณะเดียวกันกระบี่บินแห่งชะตาชีวิต ‘เจี่ยฉี’ ก็เปลี่ยนจากกองทัพม้าเหล็กมารวมตัวกันเป็นหนึ่งกระบี่ หวนกลับเข้ามาในช่องโพรงลมปราณแห่งหนึ่งของจวินทาน
กายธรรมของเทพธิดาประกบสองมือปกป้องจวินทานผู้เป็นเจ้านายที่ยอมทำลายกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มหนึ่งอย่างไม่เสียดายเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าแสงกระบี่ที่พุ่งเร็วราวสายฟ้าแลบคิดจะเปิดทางเพื่อให้เขาได้หนีไป
กายธรรมบนยอดเขายกมือข้างหนึ่งขึ้น ฝ่ามือที่หงายขึ้นฟ้าถูกแสงกระบี่ของเด็กหนุ่มจวินทานทะลวงจนเป็นรู ฝ่ามือของมืออีกข้างหนึ่งวางแนบติดยอดเขา ซ่อมแซมหลุมใหญ่บนพื้นดินห่างไปไกลที่ถูกเด็กหนุ่มเจาะเอาไว้
ฝ่ามือสองข้างของร่างกายธรรมเฉินผิงอันที่แม้จะไม่โดนแสงกระบี่อย่างแท้จริง แต่กลับถูกกัดกร่อนให้สลายหายไปอย่างต่อเนื่อง
ฟ้าดินขนาดเล็กถูกเฉินผิงอันแบ่งออกเป็นสามชั้น จากในไปนอกแบ่งออกเป็นชั้นที่ใช้ปกป้องเรือนกายที่แท้จริง จากนั้นก็เป็นพันธนาการเปิดประตูใหญ่ ใช้กายธรรมครึ่งๆ กลางๆ มารับมือกับเด็กหนุ่มผู้ฝึกกระบี่ที่ตกมาอยู่ในกับดักเป็นคนแรก ชั้นสุดท้ายเป็นชั้นที่เบาบางที่สุด เป็นเวทอำพรางตาที่ช่วยบดบังสายตาของผู้ฝึกกระบี่ที่มีพรสวรรค์อีกสี่คนที่เหลือ
สิ่งที่เขาต้องการก็คือพยายามจะช่วงชิงเวลาพักฟื้นบาดแผลมาให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็โจมตีแต่ละฝ่ายไปด้วย หากทำให้บาดเจ็บได้ก็ทำให้บาดเจ็บ ฆ่าได้ก็ฆ่าเลย สรุปก็คือหากเขาฆ่าใครได้สักคนก็ถือว่าได้กำไรแล้ว
เพียงแต่ดูจากตอนนี้ ลำพังเพียงแค่สังหารเด็กหนุ่มคนนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว มีความเป็นไปได้มากด้วยว่าต้องเก็บฟ้าดินชั้นที่สามที่อยู่ด้านนอกสุดมาสร้างความมั่นคงให้กับฟ้าดินชั้นที่สอง ถึงจะมีโอกาสสังหารเด็กหนุ่มได้
เฉินผิงอันยังไม่ยินดีจะแสดงวิชาอภินิหารแห่งชะตาชีวิตทั้งหมดของกระบี่บินสองเล่มออกมาเร็วเกินไปนัก
ทว่าสถานการณ์แตกต่างก็ต้องใช้แผนการรับมือที่ต่างกันไป การเลือกของเด็กหนุ่มทำให้เขาประหลาดใจ ในเมื่อผลลัพธ์เลวร้ายทั้งสองอย่าง เฉินผิงอันจึงต้องเลือกอย่างที่ให้โทษน้อยสุด ฆ่าให้ได้คนหนึ่งก่อนค่อยว่ากัน
เมื่อจวินทานใช้การทำลายกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มหนึ่งเป็นค่าตอบแทนหมายจะฝ่าออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้
แสงกระบี่เส้นนั้นก็ได้แหวกม่านฟ้าชั้นที่สองของฟ้าดินขนาดเล็กได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!