หลังกินดื่มอย่างอิ่มหนำแล้ว เจียงซ่างเจินก็ส่งเสียงเรอดังเอิ้ก ตบหน้าท้องเบาๆ หันหน้าไปมอง
ตรงประตูมีสาวงามโตเต็มวัยคนหนึ่งยืมร่มกระดาษน้ำมันจากเมืองหูเอ๋อร์วิ่งเหยาะๆ กลับมาตลอดทาง นางสวมเสื้อสาบคู่พื้นสีเหลืองตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้ บนเท้าสวมรองเท้าผ้าปักลาย กำลังขูดดินที่ติดพื้นรองเท้าเข้ากับธรณีประตู
เจียงซ่างเจินกวักมือเอ่ย “จิ่วเหนียง จิ่วเหนียง มานั่งนี่สิ”
สตรีกล่าวอย่างกังขา “พวกเรารู้จักกันหรือ? ลูกค้าที่เคยมาดื่มเหล้า หากเป็นคนที่หน้าตาดีเช่นเจ้า ข้าต้องจำได้สิ”
เจียงซ่างเจินยิ้มตาหยี “เจ้าไม่รู้จักข้า แต่ข้ากลับรู้จักเจ้าจิ่วเหนียง ข้าเป็นพี่น้องคนสนิทของเฉินผิงอัน ชื่อโจวเฝย”
สตรีคลี่ยิ้มหวาน ดวงตาฉ่ำประกายน้ำคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน เอ่ยเรียกคำหนึ่งว่าพี่ใหญ่โจว นางก้าวเร็วๆ ข้ามธรณีประตูเข้ามา โยนร่มกระดาษน้ำมันให้กับลูกจ้างร้านที่อยู่ห่างออกไป ตัวเองนั่งลงข้างโต๊ะ รินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งถ้วยแล้วกระดกดื่มจดหมด “พี่ใหญ่โจวทำตัวห่างเหินยิ่งนัก ควรจะเรียกข้าว่าน้องสะใภ้ถึงจะถูก”
เรื่องที่ไม่เป็นจริง สามารถพูดเหลวไหลได้ส่งเดช แต่หากเป็นเรื่องจริง ส่วนใหญ่มักจะเก็บซ่อนไว้ในใจ แม้แต่ตัวเองก็ไม่ยินดีจะไปแตะต้อง
เจียงซ่างเจินยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “อย่างไรก็ไม่ ‘ห่างเหิน’ เท่าจิ่วเหนียงหรอก”
สตรีรู้สึกคลางแคลงใจไม่น้อย
เจียงซ่างเจินถอนหายใจหนึ่งที “อีกชื่อหนึ่งของข้าคือเจียงซ่างเจิน จิ่วเหนียงตัดหางตัวเองไปหางหนึ่ง ดังนั้นต่อให้จะอยู่ที่เมืองหูเอ๋อร์ก็ยังไม่อาจสัมผัสได้ถึงร่องรอยของเซียนเหรินอย่างข้า”
เจียงซ่างเจินยิ้มตาหยี “ฮ่วนซาฮูหยิน (ตอนก่อนหน้านี้ผู้แต่งใช้ฮ่วนซี แต่หลังจากตอนนี้ใช้ฮ่วนซา) เรียกแล้วไม่ดูสนิทสนมเท่าจิ่วเหนียงนะ”
วินาทีนั้น
ฟ้าดินพลันเงียบสงัด
หางแปดหางด้านหลังสตรีแกว่งไกว สายตาเยียบเย็น ไม่เหลือท่วงท่าเย้ายวนชวนให้คนลุ่มหลงอีกแม้แต่น้อย “ไม่รู้ว่าเจ้าสำนักเจียงเดินทางมาไกลขนาดนี้เพื่อมาฆ่าปีศาจ หรือจะมาจับปีศาจกันแน่ล่ะ?”
เจียงซ่างเจินยกถ้วยเหล้าขึ้นชนกับถ้วยเหล้าตรงหน้าจิ่วเหนียงเบาๆ จิบเหล้าหนึ่งคำ “หากตาเฒ่าสวินของบ้านข้ามาเยือนเพียงลำพัง จิ่วเหนียงถามอย่างนี้ย่อมถูกต้องแล้ว”
สตรีขมวดคิ้ว “เจ้าประมุขเจียงมีอะไรก็พูดมาตามตรง”
เจียงซางเจินวางถ้วยเหล้าลง เอ่ยว่า “ความหมายของตาเฒ่าสวินก็คือต้องการให้เจ้าตอบตกลงเป็นผู้ถวายงานของสำนักกุยหยกข้าแล้วเขาถึงจะยอมเลิกราแต่โดยดี แต่ข้าว่าช่างเถิด ไม่ควรจะทำตัวหยาบคายต่อสาวงามเช่นนี้ จิ่วเหนียงก็ไปเป็นแขกที่สำนักกุยหยกของข้าแล้วกัน เมื่อไหร่ที่ใต้หล้าสงบสุข เหมาะให้เจ้าบ้านขายเหล้าแขกซื้อเหล้าดื่มแล้ว จิ่วเหนียงค่อยกลับมาทำการค้าที่นี่ก็ได้ ข้าสามารถรับรองว่าถึงเวลานั้นหากจิ่วเหนียงต้องการออกมาจากสำนักกุยหยก จะไม่มีใครขัดขวางเจ้าแน่นอน แต่หากยินดีอยู่ต่อ ตั้งใจฝึกตนเพื่อกลับคืนเป็นจิ้งจอกฟ้าอีกครั้ง แน่นอนว่าย่อมดียิ่งกว่า”
จิ้งจอกฟ้าเก้าหางตนนี้ หรือควรจะเรียกว่าฮ่วนซาฮูหยินหัวเราะเสียงเย็น “หากข้าไม่ตอบตกลงเล่า?”
เจียงซ่างเจินตอบ “ตาย”
ใบหน้าของนางพลันพร่าเลือน แต่จากนั้นก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง ทว่าไม่ใช่ใบหน้าของจิ่วเหนียง
เจียงซ่างเจินไม่ได้เคลื่อนย้ายสายตามองไปทางอื่น ยังคงจับจ้องใบหน้าของนางอยู่อย่างนั้น ก่อนจะส่ายหน้ายิ้มเอ่ยว่า “วิชาอภินิหารประเภทนี้ของภูตจิ้งจอกอย่างเจ้า สำหรับข้าและสำหรับเฉินผิงอันแล้ว ล้วนใช้ไม่ค่อยได้ผล”
นางกลับคืนมามีรูปโฉมเป็น ‘จิ่วเหนียง’ ดังเดิม เอ่ยว่า “เจียงซ่างเจิน ข้าสามารถตามเจ้าไปที่สำนักกุยหยกได้ แต่เจ้าต้องรับปากข้าสามเรื่อง”
“เรื่องแรก ปิดบังตัวตนของข้า นอกจากเจ้ากับสวินยวนแล้ว คนทั้งสำนักกุยหยก ห้ามให้มีคนรู้รากฐานของข้าเป็นคนที่สาม”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“ข้อสอง ท่านปู่สามกับเจ้าเป๋น้อยก็ต้องจัดการหาที่ทางดีๆ ให้พวกเขา แต่ไม่ได้ไปอยู่ที่สำนักกุยหยก”
“ได้ สำนักเจินจิ้งสำนักเบื้องล่างของสำนักกุยหยกอยู่ที่แจกันสมบัติทวีป มีขุนเขาสายน้ำให้ออกเดินทางไกลไปเที่ยวเล่น ส่วนเมืองหลวงต้าเฉวียนนั้นก็อย่าไปเลยจะดีกว่า”
“สุดท้าย ข้าต้องการไปที่เมืองหลวงต้าเฉวียนสักครั้ง”
“ยินดีอย่างยิ่ง ข้ามีคนรู้จักสนิทคุ้นเคยอยู่ที่นั่นพอดี”
คนลับดาบ หลิวจง
นางเอ่ยถาม “ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”
เจียงซ่างเจินกล่าวอย่างเต็มไปด้วยเหตุผล “ข้าคือเพื่อนของเฉินผิงอันไงล่ะ”
วันนี้จิ่วเหนียงปิดโรงเตี๊ยม เดินทางไปเมืองหลวงต้าเฉวียนพร้อมกับเจียงซ่างเจิน
ราชวงศ์ต้าเฉวียน ในพระราชวังของเมืองหลวงมีสตรีคนหนึ่งยืนพิงเสาระเบียง หลั่งน้ำตาอย่างเศร้าสลด
นางไม่เคยก่อเรื่องล่อลวงใคร ไม่ใช่สาวงามจิ้งจอกที่พฤติกรรมออกนอกรีตนอกรอย
เพียงแต่ว่าปัญญาชนวงการฝ่ายบุ๋นของราชวงศ์ต้าเฉวียนกลับไม่ยินยอมจะปล่อยนางไป หนังสือนิยายรักประโลมโลกที่จัดพิมพ์เป็นการส่วนตัวอย่างต่อเนื่องไม่ขาดก็ยิ่งหยาบโลนจนทนอ่านมิได้
บัณฑิตที่อ่านตำราอริยะปราชญ์มาจนเต็มท้องพวกนี้รู้จักแต่จะรังแกสตรีคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ?
……
ในช่วงเวลาเดียวกับที่อิ่นกวานหนุ่มเพิ่งจะถูกโยนเข้าไปในคุก และได้เจอกับเหนี่ยนซินคนเย็บผ้าเป็นครั้งแรก
เผยเฉียนก็ต้องออกเดินทางไกลแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!