สตรีผู้นั้นเผยกายท่ามกลางลมหิมะขาวโพลน เรือนกายของนางค่อนข้างผอมบาง ฟ้าดินที่เป็นสีขาวหิมะจึงยิ่งขับให้ผิวที่คล้ำของนางดำเกรียมมากกว่าเดิม
นางมวยผมทรงกลมสูง (หรือทรงดังโงะ) น่ารักน่าเอ็นดูไว้บนศีรษะ เผยให้เห็นหน้าผากนูนสูง ไม่มีไข่มุกเครื่องประดับผมใดๆ
หญิงสาวที่มองดูแล้วอายุไม่มากหยุดยืนนิ่ง อยู่ห่างจากกลุ่มนักล่าที่ยังอกสั่นขวัญผวาไม่คลายประมาณสิบกว่าจั้ง นางควักแผนที่ทางทิศเหนือของอุตรกุรุทวีปที่ยอดเขาสิงโตเก็บไว้ในคลังออกมา มองประเมินอยู่สองสามที ตระกูลเซียนบนภูเขาที่ใกล้กับที่ราบน้ำแข็งมากที่สุดคือภูเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ในอาณาเขตทิศเหนือของธวัลทวีป มีชื่อว่าฉวงฟานเต้าฉ่าง ไม่ใช่ตระกูลเซียนอักษรจง แล้วก็ไม่แก่งแย่งชิงดีกับโลกภายนอก นครด้านล่างภูเขาคือนครโถวหนีของจวนหลินทานแคว้นอวี่กง นางเก็บแผนที่ไว้ในชายแขนเสื้อดังเดิม หันไปกุมหมัดคารวะทุกคนก่อน จากนั้นก็เปิดปากถามด้วยภาษากลางของธวัลทวีปที่สำเนียงชัดเจนถูกต้อง “ไม่ทราบว่าที่นี่อยู่ห่างจากนครโถวหนีอีกไกลแค่ไหน?”
ผู้ฝึกตนเฒ่าคนหนึ่งลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง ถามหยั่งเชิงว่า “ผู้อาวุโสใช่ปรมาจารย์ใหญ่หลิ่วหรือไม่?”
นี่คือสถานการณ์ที่ดีที่สุด สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือแท้จริงแล้วอีกฝ่ายคือปีศาจใหญ่ที่จำแลงร่างเป็นมนุษย์ จงใจมาหยอกเย้าว่าที่อาหารในจานอย่างพวกเขา
บนที่ราบน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาลมีปีศาจใหญ่สี่ตน แต่ละตนต่างยึดครองพื้นที่แห่งหนึ่ง ปีศาจใหญ่ที่อยู่ทางทิศใต้สุดมีนามว่าซี่หลิ่ว บางครั้งจะขี่สิงโตสีขาวหิมะออกลาดตระเวนไปทั่วพื้นที่ปกครองของตน เล่าลือกันว่าชอบปรากฎตัวบนโลกด้วยรูปโฉมของบุรุษรูปงาม เมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยเปิดฉากเข่นฆ่าเอาชีวิตกับปรมาจารย์ใหญ่หลิ่วที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็มาที่นี่เพื่อ ‘หาเงินค่าเครื่องประทินโฉม เก็บสะสมเงินสินเดิมสักเล็กน้อยให้กับตัวเอง’ ตอนนั้นขนาดนครโถวหนีแคว้นอวี่กงที่อยู่ห่างไปไกลก็ยังสัมผัสได้ถึงภาพบรรยากาศผิดปกติของสนามรบที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินทางแถบนี้ หลังจากนั้นมาแม้ปรมาจารย์ใหญ่หลิ่วจะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ได้รับโชคหลังเคราะห์ร้าย ใช้ขอบเขตเดินทางไกลที่แข็งแกร่งที่สุดฝ่าทะลุขอบเขตกลายเป็นขอบเขตเก้าได้สำเร็จ ดูเหมือนว่าปีศาจใหญ่ซี่หลิ่วก็จะบาดเจ็บไม่เบาเหมือนกัน จึงเริ่มปิดด่านไม่ออกมา ดังนั้นหลายปีมานี้ผู้ฝึกตนของธวัลทวีปที่ออกมาล่าปีศาจยังที่แห่งนี้จึงฉวยโอกาสที่ปีศาจที่ราบน้ำแข็งของอาณาเขตทิศใต้สูญเสียที่พึ่งไปชั่วคราว จับกลุ่มกันมาล่าปีศาจน้อยใหญ่ในที่ราบน้ำแข็งทิศใต้ กวาดเอาสมบัติวิเศษของฟ้าดินไปอย่างกำเริบเสิบสานไม่ขาดสาย
แต่ปีศาจใหญ่ซี่หลิ่วมีแม่ทัพคนสนิทสองคนคอยช่วยเฝ้าพิทักษ์อาณาเขตของบ้านตัวเอง คนหนึ่งคือผู้ฝึกตนวิถีมารที่หนีมาอยู่ทางทิศเหนือ เรียกตัวเองว่านักพรตชิวสุ่ย และยังมีปีศาจใหญ่อีกตนที่มีรูปโฉมแก่ชรา สะพายถุงผ้าป่านใบใหญ่ เจอผู้ฝึกตนคนใดก็ยิ้มให้ คำพูดติดปากก็คือ ‘นายน้อยซี่หลิ่วของพวกเรามีอาหารเรียกน้ำย่อยให้กินอีกแล้ว ต้องขอบคุณทุกท่านอย่างมาก’
เพียงแต่ว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ธรรมดา หากเจอเข้าโดยไม่ทันระวัง ถ้าอย่างนั้นก็ได้แต่หวังว่าชาติหน้าจะได้ไปเกิดใหม่ในครรภ์ที่ดีแล้ว
อันที่จริงเดิมทีที่ราบน้ำแข็งทางใต้ยังมีปีศาจใหญ่ที่ออกอาละวาดไปทั่วอีกตนหนึ่ง เพียงแต่ว่าถูกปรมาจารย์ใหญ่หลิ่วที่ผู้ฝึกตนเฒ่าเอ่ยถึงถลกหนังไปแล้ว
เผยเฉียนส่ายหน้า “ไม่ใช่”
อีกฝ่ายเรียกขานนางว่าผู้อาวุโส ทำให้นางรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่บ้าง แต่มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง พบเจอกันเพียงผิวเผิน ใจคนยากจะคาดเดา เผยเฉียนจึงไม่คิดจะบอกชื่อแซ่ของตัวเอง
แต่เผยเฉียนกลับรู้จักปรมาจารย์ใหญ่หลิ่วที่อีกฝ่ายพูดถึงว่าเป็นเทพเซียนจากฝ่ายใด คือผู้ฝึกยุทธขอบเขตเก้า เป็นสตรี นามว่าหลิ่วซุ่ยอวี๋ เป็นผู้ถวายงานที่ได้รับการบันทึกชื่อของสกุลหลิวเทพเจ้าแห่งโชคลาภของธวัลทวีป คือผู้แข็งแกร่งขอบเขตยอดเขาของธวัลทวีปที่มีความหวังว่าจะได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบคนที่สองมากที่สุด ก่อนหน้านี้ตอนที่ฝึกวิชาหมัดอยู่บนยอดเขาสิงโต ระหว่างที่อยู่ว่างผู้อาวุโสหลี่เอ้อก็ได้เล่าถึงสถานการณ์ของวิถีวรยุทธและชื่อของปรมาจารย์ในธวัลทวีปให้ฟังคร่าวๆ ผู้ฝึกยุทธอันดับหนึ่งในธวัลทวีปคือเพ่ยอาเซียง แซ่ประหลาด ชื่อกลับประหลาดยิ่งกว่า ฉายาคือ ‘เหลยกง’ (เทพเจ้าแห่งฟ้าร้อง) วิชาหมัดดุดัน สถานที่พักพิงคือศาลเหลยกงธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือแห่งหนึ่ง
และหลิ่วซุ่ยอวี๋ก็คือหนึ่งในสามลูกศิษย์ผู้สืบทอดของเขา ผู้ฝึกยุทธเฒ่าที่ไม่ว่าจะด้านการฝึกหมัดหรือการรับลูกศิษย์ล้วนเป็นอันดับหนึ่งผู้นี้ บนเส้นทางของการเดินสู่ที่สูงในการเรียนวรยุทธ ลำพังเพียงแค่ชื่อ ‘อาเซียง’ นี้ก็ไม่รู้ว่าเคยต่อยตีกับคนอื่นมาแล้วกี่ครั้ง หนึ่งในนั้นก็เคยต่อสู้กับหวังฟู่ซู่ผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบที่อายุมากที่สุดของอุตรกุรุทวีป ทั้งสองฝ่ายเคยนัดรบกันบนมหาสมุทร สาเหตุก็มาจากฝ่ายหลังชอบเรียกเขาว่าน้องอาเซียง (เซียงแปลว่าหอม อาเซียงเป็นชื่อที่ใช้กับผู้หญิงมากกว่า) เวลาเจอใครก็มักจะพูดว่าน้องอาเซียงของธวัลทวีปผู้นั้นหมัดและเท้าแข็งแกร่งดั่งบุรุษ
เล่าลือกันว่าหลังจากที่หวังฟู่ซู่กลับจากทะเลไปยังอุตรกุรุทวีป แม้ทั่วร่างจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่กลับยังคงห้าวเหิมอยู่ดังเดิม บนภูเขาก็มีสหายที่ถามถึงผลลัพธ์ หวังฟู่ซู่หลุดหัวเราะพรืด ทิ้งไว้แค่ประโยคเดียวว่า หมัดที่เหมือนดีดปุยนุ่นของสตรีจากธวัลทวีปคนหนึ่งจะมีน้ำหนักได้มากสักเท่าไรกันเชียว? ผลแพ้ชนะระหว่างผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบครั้งนั้นจึงได้ชัดเจนดีอยู่แล้ว ในความเป็นจริงแล้วหลังจากครั้งนั้น เพ่ยอาเซียงก็ปิดประตูไม่ต้อนรับแขกอยู่ที่ศาลเหลยกงจริงๆ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเก็บตัวเงียบไม่ออกมาข้างนอกเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว
ภายหลังกู้โย่วถามหมัดต่อจีเยว่เซียนกระบี่แห่งภูเขาวานรคำราม ทั้งสองฝ่ายล้วนตายดับ อุตรกุรุทวีปสูญเสียผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบไปคนหนึ่ง รายงานขุนเขาสายน้ำของธวัลทวีปเขียนยาวกว่าของอุตรกุรุทวีปเสียอีก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคำบรรยายด้วยอารมณ์มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
ผู้ฝึกตนกลุ่มนั้นแต่ละคนกระวนกระวายไม่เป็นสุข ยังไม่กล้าเข้าใกล้หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูผู้นั้น
ปีศาจใหญ่แห่งที่ราบน้ำแข็ง แต่ละตนนิสัยประหลาดไม่แพ้กัน ลำพังเพียงแค่สตรีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้จะเพียงแค่บังเอิญผ่านทางมาจริงๆ จากนั้นก็จะช่วยเหลือพวกเขาไว้อย่างนั้นหรือ? จะไม่ใช้วิธีอำมหิตโหดร้ายเหมือนแมวไล่จับหนูจริงๆ หรือไร?
มาล่าปีศาจบนที่ราบน้ำแข็งของธวัลทวีป เดิมทีก็เป็นการหาเงินที่เอาหัวมาผูกไว้บนเข็มขัดอยู่แล้ว แล้วยังเป็นการผูกแบบไม่แน่นหนาด้วย ดังนั้นจึงได้แต่เน้นมากคนมากอำนาจ นักล่าที่เดินทางมายังที่ราบน้ำแข็งทุกคน ก่อนจะออกเดินทางต้องลงนามสัญญาเป็นตายของพันธมิตรขุนเขาเหนือเสียก่อน แล้วยังจะได้รับเงินชดเชยด้วย แน่นอนว่าหากกลับมามือเปล่า หรือตายกันยกขบวน ทุกเรื่องก็ไม่ต้องคาดหวังอีกแล้ว
โดยทั่วไปแล้วอย่างน้อยต้องจับกลุ่มกันกลุ่มละสามคน อาจารย์ค่ายกลคนหนึ่งรับหน้าที่จัดวางกับดัก คนผู้นี้สำคัญอย่างถึงที่สุด ผู้ฝึกยุทธเต็มตัวหรือผู้ฝึกตนสำนักการทหารคนหนึ่ง ทางที่ดีที่สุดก็คือมีอาวุธหนักที่ใช้ในการป้องกันและสมบัติหนักที่ใช้ในการโจมตีติดตัวมาด้วย รับผิดชอบคอยล่อให้ปีศาจเข้ามายังพื้นที่ที่มีตราผนึกค่ายกล เพราะเมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนอื่นๆ แล้ว พวกเขามีเรือนกายที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งสามารถปกป้องตัวเองได้ แล้วยังสามารถลากปีศาจที่หนังหนามาได้ด้วย ไม่ถึงขั้นที่ว่าแค่พบเจอกับเผ่าปีศาจแล้วต้องทัพแตกแพ้พ่ายในทันที สถานที่แห่งนี้ยังจำเป็นต้องมีผู้ฝึกลมปราณที่เชี่ยวชาญเวทน้ำอีกคนหนึ่งที่สามารถยึดครองฟ้าอำนวยดินอวยพรเอาไว้ได้ ใช้เวทคาถาร่วมมือกับฝ่ายแรกสังหารปีศาจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!