เซี่ยซงฮวาไม่ได้รีบร้อนกลับไปยังนครโถวหนี แต่พาเผยเฉียนเดินเท้าลงใต้ไปด้วยกัน
เมืองเล็กริมชายแดนแห่งหนึ่ง ต่อให้มีพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนอยู่มากแค่ไหนก็ยังต้องประเมินกระบี่บินของเซียนกระบี่หญิงคนหนึ่งให้ดี
ลูกศิษย์ผู้สืบทอดสองคนนั้นของนาง แม้ว่าจะยังไม่เลื่อนเป็นห้าขอบเขตกลาง แต่กลับเป็นผู้ฝึกกระบี่ อีกทั้งยังเป็นตัวอ่อนเซียนกระบี่ของกำแพงเมืองปราณกระบี่อีกด้วย ต่อให้จะมีเรื่องไม่คาดฝันเล็กๆ เกิดขึ้น กระบี่บินของเซี่ยซงฮวาก็สามารถไปถึงได้ในเสี้ยววินาที
แล้วนับประสาอะไรกับที่ก่อนจะเข้าไปยังนครโถวหนี เซี่ยซงฮวาได้พาเฉามู่กับจวี่สิงไปท่องเที่ยวบนภูเขาของขุนเขาเหนือแคว้นอวี่กงก่อนแล้ว ซานจวินแห่งขุนเขาเหนือผู้นั้นต้องให้การดูแลเด็กทั้งสองอย่างระมัดระวัง หากปล่อยให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันใดๆ กับลูกศิษย์ผู้สืบทอดของเซียนกระบี่ในอาณาเขตของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นลูกศิษย์ของเซี่ยซงฮวาด้วยแล้ว หากถ่วงเวลาการฝึกตนบนมหามรรคาของพวกเขา ซานจวินแคว้นเล็กๆ แห่งหนึ่งยอมไม่อาจแบกรับได้ไหว บางทีอาจยังเดือดร้อนให้ตลอดทั้งแคว้นอวี่กงถูกเซียนกระบี่เซี่ยจดจำแค้นไว้ด้วย
เพราะนิสัยของเซี่ยซงฮวาเป็นที่ยอมรับในธวัลทวีปว่าไม่ค่อยดีเท่าใดนัก
หลังจากที่ได้พูดคุยกับเผยเฉียนอยู่พักหนึ่ง เซี่ยซงฮวาก็ต้องทอดถอนใจอย่างปลงอนิจจัง คิดไม่ถึงว่าแม้ตนก็ยังมองตื้นลึกในการเรียนวรยุทธของเผยเฉียนไม่ออก
ที่แท้แม่นางน้อยเพิ่งจะอายุยี่สิบต้นๆ แต่กลับเป็นผู้ฝึกยุทธเต็มตัวขอบเขตเดินทางไกลแล้ว
นี่เป็นดั่งขนหงส์เขากิเลนถึงเพียงไหน หากเอาไปวางไว้บนภูเขา อายุประมาณยี่สิบกว่าๆ ก็คงเป็นผู้ฝึกกระบี่ก่อกำเนิดได้แล้ว
หากไม่เป็นเพราะก่อนหน้ามีเฉาสือ ภายหลังมีเฉินผิงอัน ไม่อย่างนั้นเซี่ยซงฮวาก็คงจะต้องกังขาในตัวตนของเผยเฉียนแล้ว
แต่ความรู้สึกที่มากกว่านั้นของเซี่ยซงฮวาคือความปลาบปลื้ม
อันที่จริงนางกับเผยเฉียนเพิ่งจะเคยเจอกัน ไม่ได้สนิทสนมกันแต่อย่างใด แต่พอได้เห็นเผยเฉียนที่สะพายหีบไม้ไผ่ออกเดินทางไกล เซี่ยซงฮวาก็รู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมด้วยทันที ส่วนจะใช่รักอีกาที่อยู่ในบ้านด้วยหรือไม่นั้น (มาจากสำนวนที่ว่ารักใครคนหนึ่งอย่างหัวปักหัวปำ จนแม้กระทั่งอีกาที่เกาะอยู่บนหลังบ้านเขาก็รักไปด้วย คล้ายสำนวน love me love my dog) ไม่สำคัญเลย ข้าเซี่ยซงฮวาเห็นใครถูกชะตา ฟ้าดินก็อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับข้า หากเห็นใครขวางหูขวางตา พวกเจ้าก็ลองมายุ่งกับกระบี่บินของข้าดูได้ แต่ต้องมีความกล้าหาญและมีความสามารถมากพอด้วย
ดังนั้นเซี่ยซงฮวาจึงยิ้มเอ่ยว่า “หากกังวลว่าน้าเซี่ยเวทกระบี่ไม่สูงพอ ไม่อาจได้เปรียบซี่หลิ่วผู้นั้น ดังนั้นก่อนหน้านี้เจ้าถึงได้พูดจาชวนสับสน ก็ไม่มีความจำเป็นเลย บอกตามตรง หากข้าคิดจะไปสับซี่หลิ่ว อย่างมากสุดแค่ครึ่งก้านธูปก็กลับมาได้แล้ว สังหารเผ่าปีศาจที่เป็นผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตหยกดิบคนหนึ่งไม่ง่ายนัก แต่หากไม่มีสองคำว่าผู้ฝึกกระบี่กลับไม่ยากแล้ว”
เผยเฉียนรีบส่ายหน้า “ท่านน้าเซี่ย ไม่ใช่อย่างนั้น หากซี่หลิ่วบีบบังคับ ใช้อำนาจกดดันคนอื่นมากเกินไป ตอนนั้นข้าย่อมต้องถามหมัดเขาไปแล้ว”
เซี่ยซงฮวาพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าซี่หลิ่วจุดธูปไหว้พระไว้มาก โชคจึงไม่เลว เดิมทีข้าคิดจะพาลูกศิษย์สองคนอย่างเฉามู่ จวี่สิงมาบำรุงปณิธานกระบี่ที่อาณาเขตใต้ของที่ราบน้ำแข็งแห่งนี้ ซี่หลิ่วต้องได้มาเจอกันแน่นอน เฉามู่มีกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตอยู่สองเล่ม เล่มหนึ่งคือ ‘หงหนี’ (ทุติยรุ้ง) เล่มหนึ่งคือ ‘พางถัว’ (ฝนตกหนัก) เล่มหนึ่งในนั้นอย่าง ‘หงหนี’ เหมาะแก่การบำรุงด้วยความอบอุ่นอยู่ที่นี่มากที่สุด ส่วน ‘เหลยเจ๋อ’ ของจวี่สิง หากมาอยู่บนที่ราบน้ำแข็งกลับไม่ได้มีประโยชน์มากนัก ดังนั้นวันหน้าจึงยังต้องไปเยี่ยมเยือนเพ่ยอาเซียงที่ศาลเหลยกงสักหน่อย ดูสิว่าจวี่สิงจะเจอโชควาสนาใหญ่ที่จวนหม่าหูหรือไม่”
ตอนนี้เผยเฉียนไม่ค่อยเข้าใจนักว่าคำว่า ‘เจอกับซี่หลิ่ว’ กับ ‘เยี่ยมเยือนจวนเหลยกง’ ของท่านน้าเซี่ยผู้นี้คือการ ‘พบเจอ’ อย่างไรกันแน่
แต่เซี่ยซงฮวายินดีจะเปิดเผยชื่อของกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตของลูกศิษย์ผู้สืบทอดสองคนให้เผยเฉียนฟัง ก็เห็นได้ชัดว่านางรู้สึกสนิทใจกับเผยเฉียนแค่ไหน เรียกได้ว่ามองนางเป็นคนบ้านเดียวกันแล้ว
แต่ไหนแต่ไรมาทัศนคติที่เซี่ยซงฮวามีต่อธวัลทวีปที่เป็นบ้านเกิดล้วนไม่ดีมาโดยตลอด หลังจากเลื่อนขั้นเป็นเซียนดินนางก็มักจะไปหาประสบการณ์ระหว่างหลิวเสียทวีปกับเกราะทองทวีปอยู่บ่อยๆ ก่อนที่จะรับลูกศิษย์ผู้สืบทอดมา ทุกครั้งที่มีธุระให้ต้องกลับบ้านเกิด นางไม่ใคร่จะยินดีเปิดเผยร่องรอยของตัวเองมากนัก ยิ่งคร้านจะโอ้อวดสถานะเซียนกระบี่ของตน ดังนั้นจึงเคยมีความขัดแย้งเกิดขึ้นหลายครั้ง อีกทั้งยังไม่ใช่เรื่องเล็ก เซี่ยซงฮวาไม่คิดว่าตัวเองคือคนที่มีเหตุผลอะไร เพราะฉะนั้นทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นเด็กนางก็ตีด้วย ผู้ใหญ่นางก็ตีด้วย หากยังมีบรรพจารย์บุกเบิกภูเขาอยู่ด้วย แบบนั้นก็ยิ่งดี ดังนั้นผู้ฝึกตนของธวัลทวีปจึงทั้งเคารพยำเกรงและทั้งปวดหัวต่อเซียนกระบี่ทวีปเดียวกันผู้นี้
ทุกวันนี้ชื่อเสียงบารมีของเซี่ยซงฮวาในธวัลทวีปเรียกได้ว่าดั่งตะวันที่อยู่กลางฟ้า
ใช้สถานะของเซียนกระบี่หญิงไปหาประสบการณ์ที่กำแพงเมืองปราณกระบี่ สร้างผลงานทางการสู้รบอันเลื่องลือ ใช้กระบี่สังหารปีศาจใหญ่เซียนกระบี่ขอบเขตหยกดิบ อีกทั้งประเด็นสำคัญคือเซี่ยซงฮวายังมีชีวิตรอดกลับมาที่ใต้หลาไพศาลด้วย
สำหรับบนภูเขาของธวัลทวีปแล้ว เซียนกระบี่หญิงคนหนึ่งที่ตายไปแล้วก็มีเพียงเท่านั้น เพราะธวัลทวีปไม่มีประเพณีนิยมชูกระบี่เซ่นไหว้
ข่าวหนึ่งที่สั่นสะเทือนจิตใจของคนธวัลทวีปมากที่สุดก็คือ เล่าลือกันว่ามีความเป็นไปได้อย่างถึงที่สุดที่เซี่ยซงฮวาจะฝ่าทะลุคอขวดขอบเขตหยกดิบเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตเซียนเหรินภายในเวลาแค่ไม่กี่สิบปี กลายเป็นเซียนกระบี่ใหญ่คนแรกที่เลื่อนขั้นสู่ขอบเขตนี้ได้สำเร็จในรอบพันปีของธวัลทวีป
เวลาหลายสิบปีของผู้ฝึกตนก็เป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ ที่เทพเซียนบนภูเขางีบหลับเล็กๆ แค่ไม่กี่รอบเท่านั้น
เซี่ยซงฮวายิ้มถาม “เป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตแปดแล้ว ทำไมถึงไม่ทะยานลมเดินทางไกลเล่า?”
เผยเฉียนเขินอายเล็กน้อย ตอบเสียงเบาว่า “อาจารย์พ่อเคยบอกว่าท่องอยู่ล่างภูเขาให้ลดขอบเขตลงสองขอบเขต อย่าได้เลียนแบบใครบางคนที่ยอมให้ก่อนหนึ่งกระบวนท่ายามประลองฝีมือกันในยุทธภพ”
เผยเฉียนเอ่ย “ท่านน้าเซี่ย ท่านขี่กระบี่ข้าทะยานลมก็ได้นะ กฎเกณฑ์ก็คือคนตายที่ยังมีชีวิตอยู่ อยู่ข้างกายท่านน้าเซี่ยก็ไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันเรื่องพวกนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!