ค่ำคืนวันขึ้นสิบห้าค่ำ แสงจันทร์เหมือนสายน้ำ ยามค่ำคืนจึงสว่างราวกับกลางวัน หาดหินหวงเฮ้อหนึ่งในสิบแปดทัศนียภาพของพื้นที่มงคลถ้ำเมฆา ทิวทัศน์งามเลิศล้ำ ค่ำคืนนี้ก็ยิ่งชวนให้จิตใจคนหวั่นไหว ศาลาชมทัศนียภาพแห่งหนึ่งสร้างขึ้นบนหน้าผาหิน เด็กหนุ่มชุดขาวที่อยู่ในศาลากระดกก้นขึ้น ฟุบตัวลงบนราวกั้นหลุบตาลงต่ำมองสายน้ำไหล พื้นผิวแม่น้ำกว้างขวาง คลื่นลมสงบนิ่ง
ด้านนอกหาดหินหวงเฮ้อคือแม่น้ำแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าหลิวเซียนคู เกิดจากการรวมตัวกันของสามลำคลองสิบแปดลำธารที่มาบรรจบกันซึ่งมีลำคลองโหยวโอ่วฉือ และลำธารกู่เยี่ยนเป็นหนึ่งในนั้น หลังจากไหลผ่านวัดจินซานที่ตั้งอยู่ตอนบนของหาดหินฮวงเฮ้อ กระแสน้ำก็พลันเปลี่ยนเป็นไหลช้าเรียบนิ่ง สงบสบายตา พอมาเจอกับหาดหินหวงเฮ้อก็เหมือนหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นคนชนบทได้แต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลสูงศักดิ์ นิสัยของนางจึงต้องเปลี่ยนมาเป็นเพียบพร้อมมีคุณธรรม
เคยมีเซียนกระบี่ยุคโบราณคนหนึ่งมาเมามายอยู่ในศาลาแห่งนี้ และมีเรื่องเล่าของการพิฆาตยุงเหนือแม่น้ำเล่าลือออกไป
เด็กหนุ่มชุดขาวก้มหน้าพึมพำ “เพราะใจคนเหมือนน้ำไหล ดวงจันทร์ในน้ำจึงเป็นดั่งเรือ”
เจียงซ่างเจินถอดรองเท้านั่งเอนหลังพิงเสาศาลา ในมือถือจอกเหล้า เหล้าหมักตระกูลเซียนที่อยู่ในจอกมีชื่อว่าเหล้าแสงจันทร์ จอกเหล้าทำมาจากกระเบื้องขาว สุราสีเหมือนหิมะขาวโพลน เจียงซ่างเจินแกว่งจอกเหล้าเบาๆ ยิ้มเอ่ย “ประโยคนี้ของตงซานเรียกว่าถ้อยคำแห่งเทพเซียนได้เลยนะ”
เด็กหนุ่มชุดขาวก็คือชุยตงซาน เพราะสัมผัสได้ถึงเหตุการณ์ผิดปกติที่ภูเขาไท่ผิง เขาจึงรีบเดินทางจากที่ตั้งเก่าของขุนเขาใต้ ทุ่มสุดชีวิตเพื่อเดินทางไกลข้ามทวีปมา เซียนเหรินคนหนึ่งที่เพื่อเร่งเดินทางแล้วถึงกับยอมให้ตัวเองมีจุดจบที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ปราณวิญญาณถูกผลาญหมดสิ้น ทอดสายตามองไปทั่วทั้งใต้หล้าไพศาลก็ยังพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก
และในฐานะเจ้าของพื้นที่มงคลถ้ำเมฆา เจียงซ่างเจินเดินทางมาเยือนพื้นที่มงคลบ้านของตน แต่กลับยังร่ายเวทอำพรางตา สวมกวานหยวนโหยวหยกขาวใสแวววาว สวมชุดสีเขียวรัดเข็มขัดเหลือง สวมรองเท้าปักลายเมฆ เป็นการแต่งตัวที่แตกต่างจากบัณฑิตชุดเขียวยากจนที่ปีนั้นไปเยือนโรงเตี๊ยมนอกเมืองหูเอ๋อร์ริมชายแดนของต้าเฉวียนอย่างสิ้นเชิง
เฉินผิงอันนอนหลับอยู่ในเรือนพักส่วนตัวของสกุลเจียงบนยอดเขาอวิ๋นจี๋ที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวดเกือบสิบวันแล้ว เขาหลับลึก หลับสนิทอย่างมาก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ตื่น ชุยตงซานนั่งเฝ้าอยู่บนธรณีหน้าประตูห้องคนเดียวถึงสามวันสามคืนเต็มๆ เจียงซ่างเจินทนดูต่อไปไม่ไหวเลยมอบปิ่นหยกขาวให้กับชุยตงซาน ชุยตงซานมองเห็นพวกเด็กๆ ที่มาจากกำแพงเมืองปราณกระบี่ถึงได้พอจะคืนสติกลับมาได้บ้าง กลับมามีมาดอย่างในอดีตทีละน้อย ยามสนธยาของวันนี้ เจียงซ่างเจินเสนอว่าไม่สู้ไปดื่มสุราชมจันทร์ที่หาดหินหวงเฮ้อ ชุยตงซานจึงพาพวกเด็กๆ ที่ยินดีออกจากบ้านไปเดินเล่นมาผ่อนคลายจิตใจที่นี่ด้วยกัน
เจียงซ่างเจินใจกว้างใช้เงินมือเติบ อีกทั้งน้ำยังเข้าสมอง จึงถึงขั้นทุ่มทองพันชั่งให้วันนี้หาดหินหวงเฮ้อปิดประตูไม่ต้อนรับแขก ลูกหลานสกุลเจียงที่ทำหน้าที่ดูแลหาดหินหวงเฮ้อได้เงินฝนธัญพืชก้อนนั้นไปแล้วก็ร่วมมือกับเค่อชิงผู้ถวายงานของทางตระกูลปิดเส้นทางขุนเขาสายน้ำจากสำนักกุยหยกจนมาถึงหาดหินหวงเฮ้อแห่งนี้ แล้วยังต้องขัดขวางเจ๋อเซียนของพื้นที่มงคลทุกคนที่ตั้งใจจะมาชมทัศนียภาพที่หาดหินหวงเฮ้อเอาไว้ด้วย
ทัศนียภาพสิบแปดแห่งของพื้นที่มงคลถ้ำเมฆาตั้งอยู่แถบริมอาณาเขตขุนเขาสายน้ำ สกุลเจียงต้องทุ่มเงินเทพเซียนจำนวนมากเชื้อเชิญนักสำรวจชัยภูมิและอาจารย์ค่ายกลสำนักโม่ ให้มาร่วมมือกันสร้างค่ายกลขุนเขาสายน้ำย่อพื้นที่แห่งหนึ่งที่เชื่อมโยงอยู่ด้วยกัน เพื่อสะดวกให้พวกเจ๋อเซียนท่องเที่ยวไปได้ตลอดทาง ยกตัวอย่างเช่นหาดหินหวงเฮ้อนี้ก็คือศูนย์กลางที่เชื่อมโยงยอดเขาอวิ๋นจี๋และภูเขาเหล่าจวินไว้ด้วยกัน นี่เป็นเหตุให้เซียนซือทำเนียบวงศ์ตระกูลที่มาท่องเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จึงมักจะไปเยือนสิบแปดทัศนียภาพให้ครบหมดในรวดเดียว อีกทั้งสิบแปดทัศนียภาพของถ้ำเมฆายังขึ้นชื่อว่าเป็นถ้ำละลายทอง ขอแค่มีเงินอยู่ในกระเป๋าก็ไม่ต้องกลัดกลุ้มว่าจะไม่มีที่ให้ใช้จ่าย
ก่อนหน้านี้เจียงซ่างเจินถือโอกาสมอบแผ่นหยกถือศีลที่เท่ากับเป็นเอกสารผ่านด่านชิ้นหนึ่งให้กับเด็กๆ สี่คนคนละแผ่น ไม่เพียงแต่ไปเที่ยวภูเขาเหล่าจวินได้ตามใจปรารถนา ในมือของพวกเด็กๆ ที่ถือครองป้ายถือศีลลำดับหนึ่งของพื้นที่มงคลยังสามารถเก็บหินฝนหมึกที่ภูเขาเยี่ยนซานมาได้อีกด้วย เป็นหินที่มีเอกลักษณ์ซึ่งนำไปสร้างเป็นแท่นฝนหมึกมังกรน้ำหนึ่งในสิบแท่นฝนหมึกที่มีชื่อเสียงของตระกูลเซียน ขอแค่ผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนไม่ใช้วิชาอภินิหารจักรวาลในชายแขนเสื้อ อย่างอื่นๆ อย่าว่าแต่สะพายตะกร้าไม้ไผ่ แบกถุงป่านขึ้นเขาเลย ต่อให้ใช้วัตถุฟางชุ่นหรือวัตถุจื่อชื่อก็ล้วนไม่ถูกห้ามปราม ภูเขาเยี่ยนซานนั้นใหญ่มาก สกุลเจียงขุดค้นมานานหลายพันปีก็ยังไม่มีลางว่าจะถูกเผาผลาญจนหมดสิ้น น่าหลันอวี้เตี๋ยหนึ่งในเด็กสี่คน พอแม่นางน้อยได้ยินเรื่องนี้ก็มีสีหน้าสดใสทันใด เพียงแต่ว่าไม่กล้าเปิดปากขอยืมวัตถุจื่อชื่อจากชุยตงซานและ ‘โจวเฝย’ เพียงแค่ให้เหยาเสี่ยวเหยียนกับเฉาเฉิงลู่เตรียมสมบัติของบ้านตัวเองไว้ให้ดี พอไปถึงภูเขาเยี่ยนซานแล้วจะต้องขุดกวาดหน้าดินให้หนักสักรอบ จะต้องกลับมาพร้อมของเต็มไม้เต็มมืออย่างแน่นอน ส่วนป๋ายเสวียนนั้นก็ช่างเถิด นางเกลี้ยกล่อมไปเขาก็ไม่ฟัง
ดังนั้นพอออกจากยอดเขาอวิ๋นจี๋มาถึงหาดหินหวงเฮ้อ น่าหลันอวี้เตี๋ยก็ไม่มีอารมณ์จะเดินเล่นแม้แต่น้อย นางถามจากโจวเฝยตามตรงว่าประตูใหญ่ค่ายกลของภูเขาเหล่าจวินอยู่ที่ใด จากนั้นก็พาสหายชักเท้าออกวิ่งจากไปอย่างรีบร้อน
ตอนนั้นชุยตงซานที่มองดูอยู่รู้สึกสะท้อนใจยิ่งนัก แม่นางน้อยที่ในสายตามีแต่เงินผู้นี้ ถูกชะตากับภูเขาลั่วพั่วอย่างมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะปรับตัวไม่ได้แล้ว
เจียงซ่างเจินหันมายกจอกเหล้าให้ชุยตงซาน ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ขุนเขาสายน้ำหมื่นลี้แตกสลาย ดวงจันทร์กลับยังกลมโต โชคดีได้เชิญท่านมาชมจันทร์ร่วมกัน มาดื่มเหล้าร่วมกันที่นี่”
ชุยตงซานกลับมานั่งบนม้านั่งยาว หยิบกาเหล้าและจอกเหล้ากระเบื้องขาวใบหนึ่งขึ้นมา พึมพำประโยคหนึ่งว่ารินเหล้าเต็มจอกเพื่อท่าน ตะวันจันทราล่องลอยอยู่ในจอกของท่าน จากนั้นก็ชูจอกเหล้าขึ้นสูง ยิ้มดื่มร่วมกับเจียงซ่างเจินหมดจอก
ชุยตงซานส่งเสียงซูดหนึ่งที แล้วทำท่าทางเหมือนคนถูกฟ้าผ่า ตาเหลือกขึ้นบน ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไม่หยุด ปากก็ร้องครวญอืออาไปด้วย เจียงซ่างเจินเกือบจะเข้าผิดคิดว่าถูกใครวางยาพิษในเหล้าเสียแล้ว
แล้วชุยตงซานก็ส่งเสียงเรอออกมา ก่อนจะชวนคุยว่า “เหวยอิ๋งเหมือนเจ้าเกินไปแล้ว หลายสิบปีร้อยปีแรกยังพูดได้ง่าย สำหรับสำนักพวกเจ้าถือเป็นเรื่องดี ด้วยนิสัยและฝีมือของเขา สามารถรับประกันได้ว่าสำนักกุยหยกจะต้องเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ วัน แต่ในนี้ก็มีปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือหากวันหน้าเหวยอิ๋งคิดจะเป็นตัวเองก็ได้แต่เลือกสังหารเจียงซ่างเจินแล้ว”
ไม่เพียงแต่พูดจายุแยง ยังตกเป็นที่ต้องสงสัยว่าคิดจะเสี้ยมเขาควายให้ชนกันระหว่างเจ้าสำนักสองคนของสำนักกุยหยก
แต่เจียงซ่างเจินกลับฟังเข้าใจความหมายของชุยตงซาน ถึงอย่างไรสำนักกุยหยกก็เป็นสำนักกุยหยกของเหวยอิ๋งแล้ว เหวยอิ๋งเป็นคนทะเยอทะยาน ปณิธานสูงส่งยาวไกล ไม่มีทางยอมกลายเป็นเจียงซ่างเจินคนที่สองอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!