ในศาลบรรพจารย์ของยอดเขาจี้เซ่อ
เริ่มปิดประตูและทำการประชุมกันอีกครั้ง
เก้าอี้ที่เกินความจำเป็นล้วนถูกยกออกไป
มีเพียงเก้าอี้ว่างสองตัวของเจิ้งต้าเฟิงคนเฝ้าประตู และกวอจู๋จิ่วผู้สืบทอดของเจ้าขุนเขาเท่านั้น
ตำแหน่งอื่นล้วนมีคนทยอยกันนั่งลง
เฉินผิงอันเจ้าขุนเขาของสำนักอักษรจง
ผู้คุมกฎฉางมิ่ง ขอบเขตหยกดิบ
เหวยเหวินหลงนักบัญชีเฉวียนฝู่ ขอบเขตโอสถทอง
ชุยตงซาน เซียนเหริน
เผยเฉียน ผู้ฝึกยุทธขอบเขตยอดเขาขั้นสูงสุด
เฉาฉิงหล่าง ผู้ฝึกตนขอบเขตประตูมังกร
โจวหมี่ลี่ผู้ถวายงานปกป้องภูเขา ขอบเขตถ้ำสถิต
จูเหลี่ยนผู้ดูแลใหญ่ ผู้ฝึกยุทธขอบเขตยอดเขา
สุยโย่วเปียน ผู้ฝึกกระบี่คอขวดโอสถทอง
หลูป๋ายเซี่ยง ผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกล
เว่ยเซี่ยน ผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกล
จ้งชิว ผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกล ขณะเดียวกันก็เป็นเซียนดินโอสถทอง ผู้ฝึกลมปราณลัทธิขงจื๊อ
เฉินหลิงจวิน ขอบเขตก่อกำเนิดที่เดินลงน้ำกลายเป็นเจียว
เฉินหน่วนซู่ที่อยู่พื้นที่มงคลดอกบัวได้หลอมโชคชะตาบุ๋นจนเป็นขอบเขตประตูมังกร
‘โจวเฝย’ ขอบเขตเซียนเหริน ผู้ฝึกกระบี่
หมี่อวี้ ผู้ฝึกกระบี่คอขวดขอบเขตหยกดิบ
ชุยเหวย ผู้ฝึกกระบี่ก่อกำเนิด
เพ่ยเซียง ภูตจิ้งจอกขอบเขตก่อกำเนิด
หงเซี่ย เจียวน้ำก่อกำเนิด
ในศาลบรรพจารย์ยอดเขาจี้เซ่อ มีคนรวมทั้งหมดสิบเก้าคน
ผู้ฝึกลมปราณห้าขอบเขตบน ห้าคน เฉินผิงอัน ฉางมิ่ง ชุยตงซาน เจียงซ่างเจิน หมี่อวี้
ผู้ฝึกยุทธที่ขอบเขตสูงกว่าเดินทางไกล หกคน เฉินผิงอัน เผยเฉียน จูเหลี่ยน หลูป๋ายเซี่ยง เว่ยเซี่ยน จ้งชิว
ผู้ฝึกตนขอบเขตก่อกำเนิด สี่คน เฉินหลิงจวิน ชุยเหวย เพ่ยเซียง หงเซี่ย
นี่ยังไม่นับรวมเจิ้งต้าเฟิงและกวอจู๋จิ่ว
สำนักที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่แค่บุคคลยิ่งใหญ่ตามความหมายทั่วไปแล้ว
ประหนึ่งเจียวหลงที่ขดตัวอยู่ในบ่อโบราณลึกมืดดำ กำลังค่อยๆ ชูหัวขึ้นมา
นอกจากขาดขอบเขตบินทะยานท่านหนึ่งที่นั่งเฝ้าพิทักษ์ภูเขา อันที่จริงภูเขาลั่วพั่วก็ไม่มีช่องโหว่ใดๆ ให้เอ่ยถึงแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผู้ฝึกตนทำเนียบวงศ์ตระกูลของภูเขาลั่วพั่วล้วนอ่อนเยาว์กันอย่างมาก อายุน้อยแต่ขอบเขตกลับสูงจนน่าเหลือเชื่อ
มือหนึ่งของเฉินผิงอันใช้สองนิ้วดันถ้วยชาหมุนเบาๆ แล้วเริ่มหลับตาทำสมาธิ
แบ่งสมาธิออกไปนับไม่ถ้วน ความคิดแยกย้ายไปทั่ว ไร้พันธนาการใดๆ
เพ่ยเซียงและหงเซี่ยที่เป็นคนหน้าใหม่สองคนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง อันที่จริงชุยเหวยเองก็ไม่ได้ผ่อนคลายนัก ถึงอย่างไรเจ้าขุนเขาท่านนี้ก็คือใต้เท้าอิ่นกวานที่เฝ้าพิทักษ์กำแพงเมืองปราณกระบี่เพียงลำพังมานานหลายปี แล้วยังเป็นหนึ่งในสิบคนรุ่นเยาว์ของหลายใต้หล้า ทุกวันนี้ก็ยิ่งเป็นเจ้าขุนเขาของหนึ่งสำนักแห่งใต้หล้าไพศาล
เฉินผิงอันหลับตาลงช้าๆ ยิ้มเอ่ยว่า “ข้ารู้สึกโชคดีอย่างมากที่ได้รู้จักทุกท่าน อีกทั้งยังได้กลายเป็นคนบนเส้นทางเดียวกัน รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านซึ่งนั่งอยู่ ณ ที่นี่ได้มาปรากฏตัวในศาลบรรพจารย์ยอดเขาจี้เซ่อในเวลานี้”
ในศาลบรรพจารย์เงียบสงัดจนถึงขั้นหากเข็มตกก็คงได้ยินกันทั่ว
มีเพียงหมี่ลี่น้อยที่ปรบมืออย่างไร้เสียง
เฉินผิงอันสายตาอ่อนโยน รอกระทั่งหมี่ลี่น้อยหยุดการกระทำ เขาถึงได้พูดต่อไปว่า “ช่วงนี้ภูเขาลั่วพั่วของพวกเรายังคงอย่าเอะอะให้มากเกินไปจะดีกว่า คำกล่าวที่กล่าวต่อภายนอกก็คือเซียนกระบี่ใหญ่หมี่ออกจากทำเนียบขุนเขาสายน้ำของภูเขาพีอวิ๋นแล้วหันมาให้การสนับสนุนภูเขาลั่วพั่วของพวกเราอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงทำให้พวกเราเลื่อนขั้นเป็นสำนักได้ในคราวเดียว ส่วนข้อที่ว่าโลกภายนอกจะเชื่อหรือไม่ พวกเราไม่อาจไปควบคุมได้ และทำไมถึงต้องปิดบังอำพรางเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า อีกเดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ทุกท่านฟังอย่างละเอียด”
หมี่อวี้สีหน้าอึ้งค้าง
เจียงซ่างเจินเอ่ยชื่นชม “ต้องขอบคุณเซียนกระบี่หมี่ที่ปิดฟ้าข้ามมหาสมุทรจนน้ำมาคลองสำเร็จ ไม่เปิดเผยร่องรอยได้เช่นนี้”
ชุยตงซานพยักหน้าอย่างแรง “นั่นสิๆ เซียนกระบี่ใหญ่หมี่ไม่เป็นผู้ถวายงานลำดับรอง ตามเหตุตามผลแล้วล้วนอธิบายไม่ขึ้นเลย”
เจียงซ่างเจินอึ้งตะลึง ตัวสั่นเยือก หมายความว่าอะไร? แล้วก่อนหน้านั้นที่บอกไว้ในจดหมายลับว่าต้องได้เป็นผู้ถวายงานลำดับหนึ่งแน่นอนล่ะ? บอกไว้ไม่ใช่หรือว่าจะต้องร้องไห้พลางโวยวายว่าจะผูกคอตายให้อาจารย์ของเจ้าดู?
เฉินผิงอันยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “ดังนั้นการประชุมในวันนี้ เรื่องใหญ่อันดับหนึ่งก็คือต้องปรึกษากันว่าผู้ถวายงานอันดับหนึ่งของภูเขาลั่วพั่วควรจะให้ใครมารับหน้าที่กันแน่”
เผยเฉียนกล่าว “อาจารย์พ่อ ใครจะมาเป็นผู้ถวายงานอันดับหนึ่ง ข้าไม่มีความเห็น เพียงแค่ฟังตามคำของอาจารย์พ่อและผู้คุมกฎเท่านั้น เอาเป็นว่าข้าแนะนำให้โจวเฝยมารับหน้าที่เป็นผู้ถวายงานอันดับรอง หลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นการเปิดเผยสถานะเจ้าสำนักผู้เฒ่าเจียงแห่งสำนักกุยหยก”
เจ้าสำนักผู้เฒ่าเจียงแห่งสำนักกุยหยก? ก็คือเจียงซ่างเจินที่เป็นคนของใบถงทวีป แต่กลับดันไปสร้างชื่อเสียงระบือไกลอยู่ในอุตรกุรุทวีปคนนั้นน่ะหรือ? เซียนกระบี่ใหญ่ที่สุดท้ายแทบจะถือได้ว่าอาศัยกำลังของตัวเองคนเดียวปกป้องยอดเขาเสินจ้วนเอาไว้ได้ผู้นั้น?
หนังตาเฉินหลิงจวินกระตุกยิกๆ เริ่มดีดลูกคิดอย่างระมัดระวังทันใด เมื่อก่อนพี่น้องโจวเฝยเคยมาเป็นแขกที่ภูเขาลั่วพั่วอยู่หลายครั้ง ตนได้มีการกระทำหรือคำพูดที่ล่วงเกินเขาบ้างหรือไม่นะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!