กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 772

เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “อีกสี่วันเปลี่ยนสถานที่ ไม่แน่ว่าพวกเราอาจได้กินเต้าหู้เหม็น”

เผยเฉียนยิ้มอย่างรู้กัน รู้สึกรอคอยเล็กน้อย ใช้เครื่องประทินโฉมอะไรนั่น เป็นภาระเหน็ดเหนื่อยเกินไป เผยเฉียนมีแต่จะรู้สึกว่ามันขัดขวางการออกหมัดของตน ดังนั้นนางจึงไม่สนใจจริงๆ แต่พี่หญิงสือโหรวที่ตรอกฉีหลงกลับชอบเรื่องพวกนี้มาก ไม่รู้ว่าภายในสามวันจะมีโอกาสเอาเครื่องประทินโฉมสองสามอย่างไปจากนครเถียวมู่แห่งนี้หรือไม่

หมี่ลี่น้อยยืนอยู่ในตะกร้าไม้ไผ่ ได้ยินว่าเต้าหู้เหม็นก็น้ำลายไหลขึ้นมาทันที ต้องรีบยกมือเช็ดปาก ไม่ว่าอะไรก็ฟังไม่เข้าใจ ไม่ว่าอะไรก็จำไม่ได้ มีเพียงเต้าหู้เหม็นที่ทำให้แม่นางน้อยชุดดำอยากกิน พะวงหาอย่างติดใจ

เฉินผิงอันขยับเท้าเล็กน้อย มาหยุดอยู่ด้านข้างแผงลอยที่ปูด้วยผ้าฝ้าย ทรุดตัวลงนั่งยอง สายตาขยับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่อง เลือกของที่ถูกใจ สุดท้ายเลือกธนูคันเล็กจิ๋วขนาดเท่าฝ่ามือมาคันหนึ่ง ถามคนหนวดหยิกที่ได้ครอบครองกองทัพชุดเกราะสิบหมื่นว่า “ธนูคันนี้ขายอย่างไร?”

โถใส่น้ำชุบทองใบเล็กบนแผงก่อนหน้านี้ เส้าเป่าเจวี้ยนที่ตอบคำถามของนักพรตวัวดำได้ไปครองแล้ว

บนผืนผ้าเวลานี้จึงยังเหลือกิ่งเหมยเหี่ยวที่มัดรวมกันมัดเล็กหนึ่งมัด และอ่างกระเบื้องเซียนน้ำใบเล็กหนึ่งใบ

ม้วนภาพหนึ่งม้วน ด้านนอกแปะกระดาษแผ่นเล็กๆ เขียนตัวอักษรงดงามว่า ‘สอนสตรีในใต้หล้าหวีผมประทินโฉม’

กระถางปลูกดอกไม้สามลิงงมจันทร์หลอมจากเหล็กหนึ่งชิ้น ที่ทับกระดาษไม้อูมู่หนึ่งชิ้น แกะสลักคำว่า ‘ไม่ยอมตามลม เงียบสงัดไร้สำเนียง ใต้เท้าเที่ยงตรง ทับเพื่อความสงบ’ ลงท้ายสองคำว่า ‘ซูเย่’

สุดท้ายคือธนูคันเล็กที่วางไว้ตรงมุมชิ้นนั้น รูปแบบโบราณเรียบง่าย ขนาดเล็กกะทัดรัด ราวกับเป็นของเด็กเล่น ตัวอักษรที่แกะสลักเล็กมากจนแทบจะมองไม่เห็น ‘อวิ๋นเมิ่งฉางซง’

บุรุษเคราหยิกเห็นคนผู้นี้เลือกไปเลือกมา สุดท้ายกลับเลือกเพียงธนูเล็กคันนี้ก็ส่ายหน้าพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ขายก็ขาย เพียงแค่ลูกค้าเจ้าซื้อได้ไม่ง่าย ต้องรวบรวมหนังสือหลายเล่มให้ครบถ้วนเสียก่อน อย่างน้อยที่สุดคือสามเล่ม หลังจากเอามาให้ข้าดูแล้ว คุณชายค่อยใช้หนังสือเล่มหนึ่งในนั้นมาแลก ส่วนเรื่องอื่นๆ ข้าคงไม่พูดมากแล้ว”

เฉินผิงอันพยักหน้า ในใจมีความคิดบางอย่างแล้ว จึงหันไปมองม้วนภาพ ถามว่า “ภาพนี้ขายอย่างไร? ยังคงใช้สิ่งของแลกสิ่งของเหมือนเดิมหรือ?”

บุรุษเคราดกพยักหน้ายิ้มเอ่ย “คุณชายฉลาด การค้าขายของร้านข้าต้องใช้สิ่งของแลกเปลี่ยนสิ่งของจริง เพียงแต่ของที่ต้องการไม่ได้อยู่ในนครเถียวมู่ ไม่เพียงแต่ระยะทางยาวไกล อีกทั้งยังมีการป้องกันอย่างเข้มงวด หากคุณชายยังคงไม่ถอดใจก็ลองไปหาสถานที่แห่งหนึ่งดู อยู่ที่ตีนเขาทิศเหนือของภูเขาหลีซาน ตรงหน้าผามีร่องรอยของสมบัติแห่งสวรรค์แกะสลักอยู่ หากคุณชายสามารถเข้าไปในโลกที่สงบร่มเย็นแห่งนั้นได้ เมื่อไปถึงริมสระหยกมรกตก็ให้เอาเทวรูปสาวงามชิ้นหนึ่งกลับมา ก็จะสามารถแลกเปลี่ยนเอาม้วนภาพไปได้ ถึงเวลานั้นย่อมต้องมีโชควาสนาอย่างหนึ่งเป็นฝ่ายมาพบคุณชายเอง”

เฉินผิงอันถาม “พูดเช่นนี้ก็แสดงว่าม้วนภาพและโลกสงบร่มเย็นที่เป็นร่องรอยของสมบัติสวรรค์นั่นต่างก็เป็นภาพมายา โชควาสนาถัดมาต่างหากจึงจะเป็นของจริง?”

นอกจากเส้าเป่าเจวี้ยนและเสิ่นเจี้ยวคานแล้ว แม้ว่าสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินในนครเถียวมู่วันนี้ล้วนเป็นเทพเซียนมีชีวิต แต่กระนั้นก็ยังมีการแบ่งระดับขั้น ต้องดูที่ระดับความสูงต่ำของการ ‘รู้แจ้งเข้าใจตัวเอง’ เหมือนชายฉกรรจ์เคราดกที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ นักพรตวัวดำก่อนหน้านั้น และยังมีในร้านขายอาวุธที่อยู่ใกล้เคียง ตู้ซิ่วไฉที่คิดถึงขิงถงหลิงบ้านเกิดตัวเองและน้ำบ๊วยของฉูโจว เห็นได้ชัดว่า ‘มีชีวิตชีวา’ มากกว่า ทำอะไรก็ ‘ตามแต่ใจ’ มากกว่า

ชายฉกรรจ์หนวดงอยิ้มกว้าง ตอบไม่ตรงคำถาม “หากคุณชายใจเด็ดสักหน่อย และความสามารถในการไปเยี่ยมเยือนเซียนสำรวจค้นหามีมากพอ ก็สามารถขนเทวรูปหยกขาวของสนมนางกำนัลมากมายเหล่านั้นออกมาจากโลกสงบร่มเย็นได้ทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นโชคด้านความรักก็จะไม่เล็กแล้ว”

เผยเฉียนพลันรวมเสียงให้เป็นเส้นเอ่ยว่า “อาจารย์พ่อ ดูเหมือนว่าข้าเคยอ่านเจอเรื่องนี้ในหนังสือ หากบันทึกนั้นเป็นความจริง ตีนเขาทางทิศเหนือของภูเขาหลีซานก็หาเจอได้ง่ายแล้ว แต่หน้าผาสมบัติสวรรค์กลับหาได้ยาก แต่พวกเราก็แค่ต้องหานายพรานหรือเด็กเลี้ยงวัวในพื้นที่คนหนึ่งให้เจอ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถนำทางเราได้ เมื่อมีคนเขียนอักษรสองคำว่า ‘หลบร้อน’ ประตูหินของถ้ำสวรรค์ก็จะสามารถเปิดออกด้วยตัวเอง ว่ากันว่าด้านในมีสระน้ำอยู่แห่งหนึ่ง ใช้หยกมรกตแกะสลักเป็นบ่อน้ำ แสงคลื่นส่องประกายระยิบระยับประหนึ่งน้ำมีชีวิต เพียงแต่ว่าทัศนียภาพของคนหยกในถ้ำออกจะ…งดงามบรรเจิดเกินไปสักหน่อย ถึงเวลานั้นอาจารย์พ่อเข้าไปข้างในคนเดียว ข้ากับหมี่ลี่น้อยจะรออยู่ข้างนอกก็แล้วกัน”

เฉินผิงอันหัวเราะอย่างฉุนๆ “แม้แต่เรื่องนี้ก็รู้ด้วยหรือ? เจ้าไปอ่านเจอเรื่องลับๆ พวกนี้จากตำราเบ็ดเตล็ดเล่มไหนกันแน่?”

เผยเฉียนกะพริบตาปริบๆ “เป็นพี่หญิงไจ้ซีที่เล่าให้ฟัง ปีนั้นตอนที่อยู่เกราะทองทวีป ทุกครั้งที่สงครามปิดฉากลง นางชอบเล่าเรื่องมหัศจรรย์พันลึกพวกนี้ให้ข้าฟังมากที่สุด ข้าก็แค่ฟังไปอย่างนั้นเอง ตอนนั้นข้าถามพี่หญิงไจ้ซีว่าสระน้ำใหญ่แค่ไหน หยกมรกตมีมากขนาดนั้นเอามาขายเป็นเงินเทพเซียนได้เท่าไร พี่หญิงไจ้ซียังด่าว่าข้าโลภมากอยู่เลย”

ชายฉกรรจ์เห็นเฉินผิงอันจับตามองที่ทับกระดาษไม้อูมู่อีกก็เป็นฝ่ายเอ่ยว่า “คุณชายเอาตำราพิณฉบับสมบูรณ์เล่มหนึ่งมาแลก”

เฉินผิงอันกระจ่างแจ้งอยู่ในใจ ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าต้องเป็น ‘กว่างหลิงหยุดหายใจ’ เล่มนั้น จึงกุมหมัดเอ่ย “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ก่อนหน้านี้พูดคุยกับเฟิงจวิน ผู้น้อยจะไปหาหนังสือในเมืองมาเดี๋ยวนี้”

ชายฉกรรจ์หนวดงอเพียงแค่ผงกศีรษะรับ ยิ้มเอ่ยว่า “คุณชายรับลูกศิษย์ที่ดีมา”

เฉินผิงอันพาเผยเฉียนกับหมี่ลี่น้อยออกมาจากแผงลอย ไปที่ร้านขายอาวุธแห่งนั้นก่อน เจ้าของร้านนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะคิดเงิน กำลังกัดกินรากบัวอ่อนพร้อมกับขิงขาว เห็นเฉินผิงอันที่จากไปแล้วย้อนกลับคืนมา ชายฉกรรจ์ก็ทั้งไม่ประหลาดใจแล้วก็ไม่ถามอะไร

เฉินผิงอันประสานมือคารวะ “คารวะอาจารย์อู่ซง”

ชายฉกรรจ์ถาม “เจ้ามียศตำแหน่งติดตัวหรือไม่?”

เฉินผิงอันลุกขึ้นตอบอย่างนอบน้อม “ผู้เยาว์ไม่มียศจากการสอบเคอจวี่ แต่มีลูกศิษย์เป็นปั้งเหยี่ยน”

ชายฉกรรจ์รู้สึกขำเล็กน้อย เป็นฝ่ายเอ่ยถาม “เจ้าต้องการเทียบกลิ่นบุปผาที่เจ้านครเส้าช่วยเสริมเนื้อหาให้ครบถ้วนก่อนหน้านี้หรือ?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “เทียบกลิ่นบุปผา อาจารย์อู่ซงเก็บไว้ต้องมีประโยชน์แน่นอน ผู้เยาว์แค่อยากจะทำหน้าหนาขอภาพควายจากอาจารย์อู่ซงมาภาพหนึ่ง”

ชายฉกรรจ์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ประทังชีพอยู่บนเรือข้ามฟาก กฎก็คือกฎ ไม่อาจมีข้อยกเว้น ในเมื่อรู้ว่าข้าคือตู้ซิ่วไฉแล้ว ยังรู้ว่าข้าวาดภาพเป็น ถ้าอย่างนั้นเกินครึ่งก็คงเข้าใจประโยคที่ว่าบทความของท่านอาจารย์ยอดเยี่ยมเลิศล้ำ ท่านแนะนำผลงานใหม่แก่ใต้หล้าที่ภูเขาอู่ซง อะไรคือ ‘ผลงานใหม่’ สินะ? ช่างเถิด เรื่องนี้อาจทำให้เจ้าลำบากใจอยู่บ้าง แต่ขอแค่เจ้าพูดถึงหัวข้อผลงานที่ข้าเคยเขียนมาในชีวิตสักบทหนึ่งได้ก็พอแล้ว ในเมื่อเจ้าได้ปลายกระบี่ท่อนหนึ่งของกระบี่เซียนไท่ป๋ายมาจากป๋ายเหย่ เชื่อว่าจะรู้เรื่องนี้ย่อมไม่ยาก”

เฉินผิงอันมีสีหน้ากระอักกระอ่วน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!